บทที่ 28-1
ช่วงปลายฤดูร้อนต้นฤดูใบไม้ร่วง ดินฟ้าอากาศยิ่งร้อนจนทำให้คนยิ่งใจร้อนตาม
เฉาจิงเดินเร็วดุจมีสายลมใต้ฝ่าเท้า ผ่านประตูจั่วเยีย ตรงไปยังฝ่ายทัดทาน
ข้างในนั้นเอะอะโวยวายกันไม่หยุดนานแล้ว เสียงพูดอันดุเดือดดังออกมาจากกำแพงสีชาดต้นหลิวสีเขียว ดังก้องจนทำให้เขายิ่งร้อนใจขึ้นมา ขาดก็แต่ยังไม่ยกชายเสื้อคลุมขึ้นซอยเท้าวิ่ง
พอเข้าประตูใหญ่ฝ่ายทัดทาน คนที่อยู่ข้างในเห็นเขาก็หยุดปากเก็บเสียงไปทันที เพียงพากันบอกว่า
“ใต้เท้าเฉา!”
“ใต้เท้าเฉา ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว!”
เฉาจิงไม่อาจปิดบังหัวคิ้วนัยน์ตาที่เคร่งขรึมจริงจัง ตรงไปจับตัวคนผู้หนึ่งไว้แล้วเอ่ยถาม “ฝ่าบาทมีราชโองการลงมาแล้วหรือ”
คนผู้นั้นรีบพยักหน้า “ใต้เท้า ท่านดู!” พูดพลางก็มีคนจากอีกด้านหนึ่งรีบยื่นประกาศแผ่นบางที่คัดลอกอย่างหวัดๆ แผ่นหนึ่งมาให้
เฉาจิงรีบคว้ามา แทบจะดึงกระดาษแผ่นนั้นขาด เขาก้มหน้าลงอ่าน
ทุกคนต่างกลั้นหายใจรอเขา ต่างมีสีหน้าไม่สบายใจ
เฉาจิงอ่านจบ มุมปากก็กระตุกน้อยๆ หลายครั้ง สีหน้านับไม่ได้ว่าชวนมอง เขาขยำขยี้กระดาษแผ่นนั้นทันที แล้วถามคนบอก “นี่ออกมาจากที่ทำการสำนักการปกครองจริงหรือ”
ทุกคนต่างพยักหน้า
เขาหลุบตาลง มือขยำกระดาษแผ่นนั้นแน่นขึ้น
‘ปลดสวีถิงจากตำแหน่งรองเสนาบดีสำนักการปกครองฝ่ายซ้ายและรองเสนาบดีสำนักที่ปรึกษา แต่งตั้งสวีถิงเป็นราชบัณฑิตสำนักศึกษาหลวงเทียนรุ่ย พร้อมรับตำแหน่งซื่อจง*’
เฉาจิงยืนตัวแข็งทื่ออยู่เป็นนาน แล้วลดมือลง ถอนหายใจลึกๆ
ช่างเป็นฮ่องเต้ที่ดีพระองค์หนึ่ง เป็นฮ่องเต้ที่ดีอย่างแท้จริง!
นับแต่รัชศกเฉียนเต๋อปีที่เก้าเสิ่นอู๋เฉินรับตำแหน่งไท่ฟู่ขององค์รัชทายาท ราชบัณฑิตสำนักศึกษาหลวงจี๋เสียนเตี้ยน และรับตำแหน่งราชเลขาธิการเป็นต้นมา สวีถิงนับเป็นคนที่สองในราชสำนักต้าผิงที่ได้รับการแต่งตั้งจากฮ่องเต้ให้ดำรงตำแหน่งทรงเกียรติขั้นนี้ ซื่อจง ราชเลขาธิการ เสนาบดีสำนักการปกครอง สามตำแหน่งนี้แม้ลำดับขั้นจะสูง แต่กลับมีเพียงตำแหน่งไม่มีหน้าที่ ถึงตำแหน่งจะเทียบได้กับเสนาบดี แต่กลับไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับกิจการของราชสำนัก ดังนั้นแม้ขุนนางฝ่ายพลเรือนในราชสำนักจะปรารถนาที่จะได้รับตำแหน่งนี้ก่อนจะเกษียณจากราชการ คุณงามความดี ความผิดพลาด ความรุ่งโรจน์ ความอัปยศทั้งชีวิตล้วนได้รับการยืนยันด้วยลำดับขั้นของตำแหน่งที่ทรงเกียรตินี้ ทว่ากลับไม่มีผู้ใดยินดีจะถูกกันออกจากศูนย์กลางของอำนาจในขณะที่เส้นทางการเป็นขุนนางของตนกำลังเจริญรุ่งเรือง
เวลานี้แม้สวีถิงจะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ทรงเกียรติเช่นเดียวกับเสิ่นอู๋เฉิน แต่สาเหตุที่ได้รับการแต่งตั้งของคนทั้งสองกลับพูดได้ว่าแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน…