ทดลองอ่าน THE ARCHITECTURE OF LOVE ออกแบบร่างก่อสร้างรัก บทที่ 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

THE ARCHITECTURE OF LOVE ออกแบบร่างก่อสร้างรัก

ทดลองอ่าน THE ARCHITECTURE OF LOVE ออกแบบร่างก่อสร้างรัก บทที่ 5

หน้าที่แล้ว1 of 3

บทที่ 5

เสียงนั้นคือนิวยอร์ก

 

โรเบิร์ต เดอ นิโร เคยพูดไว้ว่า ‘ผมไปปารีส ผมไปลอนดอน ผมไปโรม แต่ผมมักจะพูดเสมอว่า ไม่มีเมืองไหนเหมือนกับนิวยอร์ก มันเป็นเมืองที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในโลกตอนนี้เลยล่ะ มันเป็นเมืองแบบนั้นเท่านั้นเลย’ นั่นอาจเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่รู้สึกเมื่อมาถึงนิวยอร์ก มันคือเมืองที่ผู้อพยพหลายพันคนเลือกมาอาศัย ยังไม่รวมถึงชาวอเมริกาแปดหมื่นคนที่มาตั้งรกรากที่นี่ทุกปี นิวยอร์กคล้ายจาการ์ตาในแง่นี้ มันเป็นจุดหมายปลายทางของผู้มาเยือนใหม่ที่มาเสาะหาเทพีแห่งโชคชะตา มีแบบสำรวจบอกว่าพลเมืองครึ่งหนึ่งของนิวยอร์กมาจากเมืองอื่นไม่ก็ประเทศอื่น อย่างที่กล่าวไว้ในหนังสือเรื่องมายเฟิร์สต์นิวยอร์กว่า ‘สิ่งที่บอกว่าคุณเป็นชาวนิวยอร์กที่แท้จริงคือการตัดสินใจในสำนึกของตนว่าจะเป็นคนนิวยอร์ก’

ทุกคนที่มาเมืองนิวยอร์กเพื่อตั้งรกรากหรือมาพักผ่อนล้วนมีเหตุผลภายใต้การตัดสินใจของตน หลายคนมองเมืองนี้ดุจดวงประทีปแห่งความหวัง เป็นสถานที่ที่พวกเขาวาดฝันว่าจะมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม อย่างเหล่าศิลปินสู้ชีวิตที่ควบงานสามสี่งานไปพร้อมๆ กับออดิชันไปด้วย เหล่าผู้อพยพที่เสี่ยงดวงด้วยการเริ่มธุรกิจขายขนมปัง ฟาลาเฟล* หรือฮอตดอกข้างถนน นักศึกษาจบใหม่ผู้เปี่ยมไปด้วยความทะเยอทะยานและความมุ่งมั่นที่หวังจะได้งานที่วอลล์สตรีต พร้อมความฝันที่จะหาเงินได้หลายแสนดอลลาร์ภายในเวลาไม่กี่ปี ขับรถสปอร์ตสัญชาติอิตาลี และซื้ออพาร์ตเมนต์ในเซ็นทรัลพาร์กเวสต์หรือไม่ก็พาร์กอเวนิว ชีวิตอย่างที่คุณเห็นในหนังนั่นแหละ ไหนจะพวกนางแบบนายแบบมือใหม่ที่ตัดสินใจย้ายมานิวยอร์ก ใช้ชีวิตในอพาร์ตเมนต์แคบๆ คอยออกไปออดิชันเพื่อที่จะได้งานเดินแบบเล็กๆ สักงาน ด้วยความหวังว่าสักวันหนึ่งพวกเขาจะได้ขึ้นปกนิตยสารโว้ก

สำหรับนักเดินทาง นิวยอร์กมีเสน่ห์อย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ทั้งผืนฟ้าจรดตึกเมือง บ้านที่สร้างด้วยหินแดงน้ำตาล พิพิธภัณฑ์ ผู้คน รวมถึงสวนสาธารณะและทางแยกมากมาย ทุกอย่างช่างเย้ายวนใจ ทุกสิ่งร้องหาความสนใจ รวมถึงการเชยชม และแน่นอน การได้เป็นพื้นหลังในรูปถ่ายช่วงวันหยุด ไม่แปลกใจเลยที่นิวยอร์กคือหนึ่งในเมืองที่มีคนถ่ายรูปมากที่สุดในโลก และอย่างที่นักข่าวและผู้เขียนเรื่องเดอะบอนไฟเออร์แอนด์เดอะแวนิตีส์อย่างทอม วูล์ฟได้เขียนไว้ว่า ‘เรากลายเป็นส่วนหนึ่งของนิวยอร์กในทันที เรากลายเป็นส่วนหนึ่งของเมืองนี้ห้านาทีก็เหมือนเป็นมาห้าปี’ ทุกคนที่มาเยือนที่นี่ต่างรู้สึกมัวเมา ถูกดึงดูดให้รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นส่วนหนึ่งของเมืองนี้ในทันที จนฝันว่าจะย้ายมาอยู่ที่นี่ในสักวัน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง การได้ใส่คำว่า ‘ชาวนิวยอร์ก’ ลงในเรซูเม่แห่งชีวิตเป็นอะไรที่เท่ที่สุดเท่าที่จะทำให้ตัวเองได้แล้ว

วันนี้เป็นวันครบรอบหนึ่งปีที่ริเวอร์ตัดสินใจหนีมาใช้ชีวิตอยู่ที่นิวยอร์ก การมาใช้ชีวิตที่นี่อาจไม่ใช่คำอธิบายที่ตรงกับสิ่งที่เขาทำในเมืองนี้เท่าใดนัก จะเรียกว่ามาหยุดพักผ่อนก็คงไม่ใช่คำที่ถูกเหมือนกัน มันไม่ใช่การหลบภัย ไม่ใช่การเนรเทศ อย่างหนึ่งที่ชัดเจนคือในวันนี้เมื่อปีที่แล้วริเวอร์ตัดสินใจหนีไปจากจาการ์ตาให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ และในตอนนั้นที่ที่ดูสมเหตุสมผลที่สุดคือนิวยอร์ก เขามีวีซ่าอเมริกาที่ใช้อยู่ที่นั่นได้สามปี แถมอากา น้องชายของเขายังอาศัยอยู่ที่นั่นตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยและตัดสินใจอยู่ต่อเพื่อทำงาน

ริเวอร์คุ้นเคยกับนิวยอร์กดีเพราะเขาเคยมาที่นี่บ่อยแล้ว ตั้งแต่ช่วงที่เรียนอยู่อีทากาซึ่งใช้เวลานั่งรถไปนิวยอร์กเพียงแค่สี่ชั่วโมง จนถึงช่วงที่เขาบินจากจาการ์ตามาที่นี่บ่อยครั้งหลังย้ายกลับอินโดนีเซีย ระหว่างทริปเหล่านี้เขาได้ค้นพบสิ่งหนึ่งที่ดูจะเป็นเหตุผลที่น่าเชื่อถือมากกว่าในการเลือกเมืองนี้เป็นหลุมหลบภัยที่เหมาะเหม็งสำหรับเขาที่ ‘หนีมาอยู่’ นั่นคือเมืองนี้ไม่เคยว่างเปล่า ไม่เคยหลับใหล ทุกๆ ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้า ตอนบ่าย หรือกลางดึก หรือแม้กระทั่งยามเช้าตรู่ จะมีเสียงดังอยู่เสมอ เป็นเสียงที่ประกาศตำแหน่งของตัวเองในฐานะเมืองที่ไม่เคยหลับใหล เสียงฝีเท้าไวๆ ของชาวนิวยอร์กที่ผสมไปกับเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะ เสียงแท็กซี่กับรถบัสเร่งความเร็วไปตามท้องถนนและบีบแตร เสียงไซเรนรถตำรวจ เสียงจากตึกอพาร์ตเมนต์ฝั่งตรงข้ามถนน เสียงประสานอึงอลไม่เสนาะหูของนักดนตรีข้างถนน เสียงอึกทึกครึกโครมจากไซต์ก่อสร้างที่ยังสร้างไม่เสร็จ และเสียงดังวุ่นวายจากพนักงานเก็บขยะที่ทำงานอย่างลวกๆ และเร่งรีบอยู่เสมอ ความชุลมุนวุ่นวายของเมืองนี้คือสิ่งเดียวที่จะช่วยกลบเสียงของช่วงเวลาสามปีที่ผ่านมาที่คอยตามหลอกหลอนเขา และในเมื่อริเวอร์หาวิธีจัดการกับเสียงเหล่านั้นไม่ได้แม้เวลาจะผ่านมาหลายปี เขาจึงทำได้แค่หาเสียงที่ดังกว่ามากลบมันไว้เท่านั้น

เวลาที่เสียงในหัวทำให้คุณนอนไม่หลับและคุณทำให้มันเงียบลงไม่ได้ คุณต้องหาเสียงที่ดังกว่ามาช่วยให้คุณหลับ และสำหรับริเวอร์ เสียงนั้นคือนิวยอร์ก กระนั้นกว่าเขาจะหลับได้ก็เป็นเวลาตีสองตีสาม ก่อนจะตื่นขึ้นในอีกสี่ชั่วโมงต่อมา เป็นแบบนั้นทุกคืน เช่นเดียวกับคืนนี้ ตีสองแล้ว แต่ริเวอร์ยังคงตื่นอยู่ เขานั่งอยู่ข้างเตียงและอ่านข้อความล่าสุดจากแม่ หลังแยกกับไรยาเขาก็โทรกลับหาแม่เพื่อให้เธอใจเย็นลง รู้ดีว่าแม่ผู้เป็นที่รักกระวนกระวายใจอยู่ที่บ้าน ริเวอร์ตระหนักได้ว่าการหายไปหนึ่งปีเป็นระยะเวลาที่นาน แถมตอนแรกเขายังคิดว่าเวลาหนึ่งปีนั้นน่าจะเพียงพอแล้ว แต่ดูเขาตอนนี้สิ บางทีเส้นแบ่งระหว่างอดีตกับอนาคตของเราก็ไม่อาจจำกัดความได้ด้วยการเดินไปของเวลา ความเชื่อเรื่องเวลาจะเยียวยาทุกแผลใจใช้ไม่ได้กับความเจ็บปวดทุกรูปแบบ มันไม่แน่นอนว่าเราต้องใช้เวลานานแค่ไหนหรือต้องเดินไปอีกไกลเพียงใดถึงจะทำใจยอมรับอดีตได้ ต่อให้มันจะดูเหมือนเราได้ก้าวไปยังอนาคตแล้วก็ตาม

เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วแม่เขาส่งข้อความมาอีกรอบ ไม่นานหลังจากที่เพิ่งโทรคุยกันไป ตั้งแต่ยังเด็ก แม่จะเรียกเขาว่าอาบัง ซึ่งเป็นคำที่เรียกพี่ชายในภาษาอินโดนีเซียด้วยความรักใคร่ เขาอ่านข้อความนั้นอีกครั้ง

หน้าที่แล้ว1 of 3

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in THE ARCHITECTURE OF LOVE ออกแบบร่างก่อสร้างรัก

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 1-2

บทที่ 1 อาจเป็นเพราะสภาพอากาศขมุกขมัวหนาวเย็นยาวนานถึงครึ่งปี ทำให้เครื่องหอมเป็นที่โปรดปรานของชาวต้าเว่ย ได้เติมเครื่อง...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ม่านฝันคืนวสันต์รัญจวน บทที่ 1-2

บทที่ 1 แม่น้ำฉินไหว นกขมิ้นและดอกไม้ในเดือนสองทำให้ฤดูใบไม้ผลิแลดูงดงาม แม่น้ำฉินไหวในเมืองจินหลิงเป็นสถานที่ซึ่งมีทิวท...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 5-7

บทที่ 5 หลังจากเซ่นไหว้บรรพบุรุษที่เรือนหลังเก่าและบรรยากาศวันปีใหม่เพิ่งผ่านพ้นไป เหล่าเจ้านายสกุลซูก็เตรียมเดินทางกลับ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 3-4

บทที่ 3 คนที่เพิ่งเดินเข้ามาผู้นี้คือซูลั่วอวิ๋น บุตรสาวคนโตที่ถูกขับไล่ไสส่งกลับบ้านเดิมนั่นเอง นิ้วชี้ของซูหงเหมิงยื่น...

community.jamsai.com