ทดลองอ่าน ผมมันไอดอลตัวท็อปของยมโลก เล่ม 1 บทที่ 7-8 #นิยายวาย – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน ผมมันไอดอลตัวท็อปของยมโลก เล่ม 1 บทที่ 7-8 #นิยายวาย

2 of 2หน้าถัดไป

บทที่ 8

 

หากเป็นห้านาทีก่อน ฉยงเหรินไม่มีวันเดาถูกแน่ๆ ว่าแชมป์หน้าแตกของวันนี้จะเป็นคนอื่น

สุดท้ายเขาก็รีบจ้ำอ้าวกลับ ให้พื้นที่เพื่อนร่วมป่วยได้เก็บเศษหน้าดีกว่า เพราะยังไงพระราชวังโปตาลา* ก็ใหญ่ไม่น้อย มีที่ให้เก็บเศษหน้าเพียบ

ฉยงเหรินเผ่นออกจากตรงนี้อย่างไว วิ่งเร็วเสียยิ่งกว่าตอนเจอผี

สามผีสาวเกาะประตูบ้านผีสิง มองแผ่นหลังฉยงเหรินจากไปตาปริบๆ น้ำตาไหลเป็นสาย

ผีสาวเดรสขาวมองท่านพญายมที่ยังคงอยู่ในสถานะห่อเหี่ยว ถองศอกใส่เพื่อนข้างๆ เป็นเชิงให้พวกเธอดูโทรศัพท์

 

รู้สึกอะไรไหม’

‘รู้สึก โคตรเหมาะ อร่อยเป็นบ้าเลย’

‘ถึงฉยงเหรินจะเป็นผัวฉัน แต่ยอมให้เขาแต่งกับต้าหวังก็ใช่ว่าจะไม่ได้’

‘เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมต้าหวังถึงดูห่อเหี่ยวอย่างนั้นล่ะ’

‘อาจจะเป็นเพราะเมียจ๋ากลับไปแล้วก็ได้ ผู้ชายที่คิดถึงเมียก็เป็นงี้แหละ สุดจะเศร้า’

‘อร่อยมาก ขอบคุณ’

 

เหล่าผีสาวเม้าท์กันในกลุ่มอย่างเร่าร้อน ฉับพลันเงามืดหนึ่งก็ทอดตกลงมาหน้าประตู

พวกเธอสัมผัสได้ก็พากันยืนตัวตรงท่าทางเรียบร้อยขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง ยืนเรียงแถวหน้ากระดาน สองมือประกบที่หน้าท้องอย่างเรียบร้อย

ขาดแค่ค้อมหัวลงแล้วพูดว่า ‘สายัณห์สวัสดิ์แขกผู้มาเยือนทุกท่าน’ แล้ว

“ขอถามหน่อยสิ” ท่านพญายมถามขึ้น “อัลบั้มของเขาซื้อได้ที่ไหนงั้นเหรอ”

สาวน้อยเดรสขาวอยากจะถวายไอเทมสะสมของตัวเองให้เดี๋ยวนั้น แต่ก๊วนเพื่อนก็รีบส่งสายตาห้ามเธอไว้ก่อน

กิจการของภรรยา คนเป็นสามีก็ต้องสนับสนุนด้วยตัวเองสิ จะให้คนอื่นทำแทนได้ไง!

เธอปัดผมไปด้านหลังขวาน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกล่าวอย่างกระตือรือร้น “เชิญดูเลยค่ะต้าหวัง นี่คือเว็บไซต์ออฟฟิเชียลของค่ายเจินเฉิงคัลเจอร์ค่ะ ท่านสามารถเลือกซื้ออัลบั้มกับกู๊ดส์ได้ที่เว็บนี้ แต่ว่าเว็บออฟฟิเชียลส่งของค่อนข้างช้า แล้วก็บนแอพฯ เถิงอวิ๋นมิวสิกสามารถฟังเพลงถูกลิขสิทธิ์ได้ ฟรีด้วยนะค้า แต่ถ้าท่านสมัคร VIP ก็จะสามารถดาวน์โหลดเพลงคุณภาพสมบูรณ์ได้เลยค่า”

 

ชานเมืองหลงเฉิง ณ ลานเรือนแสนงดงามซึ่งมีทางเข้าสี่ทางแห่งหนึ่ง

ทันทีที่ชิงเหิงเข้าประตูมา เขาก็บังเอิญชนกับเมิ่งเซิน…พี่ชายลำดับสามผู้เกิดในรุ่นเดียวกับเมิ่งชิงเหิง

บรรพบุรุษตระกูลเมิ่งสร้างตระกูลขึ้นมาด้วยการหากินกับโลกหลังความตาย ทุกๆ รุ่นจะต้องมีผู้สืบทอดตำแหน่งยมทูตคนเป็น หรือก็คือผู้รับวิญญาณแทนยมโลกด้วยวิญญาณของร่างคนเป็น

และผู้ที่ถูกโลกหลังความตายเลือกให้เป็นยมทูตคนเป็นของรุ่นนี้ก็คือเมิ่งเซิน

ชิงเหิงเจออีกฝ่ายก็หัวหดทันที เขากระถดถอยหลังไปด้วยความกลัว “พี่สาม”

เมิ่งเซิน “ได้ยินว่านายไปเป็นไอดอลแล้วเหรอ นายร้องเต้นไม่เป็น แค่เดินยังกระง่อนกระแง่นจะสะดุดล้ม จะทำไหวเหรอ”

ชิงเหิงถูกค่อนแคะให้เจ็บใจ แต่ก็ไม่กล้าโต้ตอบ ได้แต่พูดเสียงเบาๆ ว่า “ก็พอได้”

เขากวักมือเรียกชิงเหิง “มาใกล้ๆ สิ ฉันมีเรื่องจะบอกนาย”

ชิงเหิงเกลียดท่าทางแบบนี้มาก ทุกครั้งที่เมิ่งเซินเรียกเขาแบบนี้ เขาก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหมาที่ถูกเรียกเสมอ

แต่เขาก็ไม่กล้าพอที่จะปฏิเสธ

ชิงเหิงเดินไปข้างๆ เมิ่งเซิน เมิ่งเซินพูดเข้าเรื่องทันที “ได้ยินว่านายคบกับฟู่จยาเจ๋ออยู่ใช่ไหม รีบตัดความสัมพันธ์กับเขาซะ”

ดวงตาสองข้างของชิงเหิงน้ำตาคลอหน่วยทันที เมิ่งเซินเห็นก็รำคาญใจ “ต่อให้นายไม่รู้ใจคน แต่ก็ไม่ใช่ว่านายจะมองโหงวเฮ้งคนไม่เป็นนี่ ดูหน้าก็รู้แล้วว่าเขาใจคด สมองน้อยๆ อย่างนายตามอะไรเขาไม่ทันหรอก”

ชิงเหิงกำหมัดแน่น ใบหน้าเล็กๆ ที่ขาวผ่องเริ่มแดง

เขาอยากพูดว่ามันไม่จริง ถึงเขาจะเรียนไม่เก่ง แต่ก็ไม่ถึงกับดูโหงวเฮ้งคนไม่เป็นเลย ใบหน้าของฟู่จยาเจ๋อไม่ได้มีปัญหาอะไรสักหน่อย

แต่เมื่อเห็นสีหน้าเหลืออดของเมิ่งเซิน เขาก็พูดอะไรไม่ออกสักคำเดียว

เมิ่งเซินสั่งสอนเขาเสร็จก็ล้วงทิชชูออกมาจากกระเป๋าเสื้อ “ร้องทำไม ฉันดุด่านายหรือยัง เช็ดซะ”

ชิงเหิงรับมาด้วยความอัปยศอย่างที่สุด แล้วก็เห็นว่ากระดาษทิชชูยับเป็นขุยหมดแล้ว เมิ่งเซินกำลังหยามเขาอยู่จริงๆ ด้วย

เมิ่งเซินรอจนเขาเช็ดน้ำตาเสร็จ กระแอมแห้งๆ หนึ่งทีก่อนเอ่ย “คือว่า…นายก็นับว่าเป็นบุคลากรภายในเจินเฉิงคัลเจอร์คนหนึ่ง นายช่วยซื้อกู๊ดส์ของฉยงเหรินมาให้ฉันหน่อยได้หรือเปล่า”

ชิงเหิงเงยหน้าขวับ สลัดน้ำตาสองหยดใหญ่กระเด็น “นี่พี่ก็ชอบเขาด้วยเหรอ”

เมิ่งเซินหมดคำจะพูด เช็ดมืออย่างรังเกียจ ลูกพี่ลูกน้องคนนี้ของเขาเอาแต่ฟูมฟาย แล้วยังเป็นพวกสมองมีแต่เรื่องรักๆ ใคร่ๆ อีก

“ฉันก็ชอบเขาด้วยหมายความว่าไง ฉันไม่ได้สนเขาหรอก แต่นายเหนือหัวฉันเป็นแฟนคลับเดนตายของเขา ฉันก็ต้องรู้จักตบตูดม้า* บ้างไม่ใช่เหรอ”

นายเหนือหัวที่ว่านั่นไม่ใช่เจ้าพ่อหลักเมืองของเมืองหลงเฉิงเหรอ

“ยังไงก็เถอะ บริษัทพวกนายมีอะไรตุนอยู่บ้างก็ค้นมาให้ฉันทั้งหมด ฉันเหมาหมดนั่น”

“แต่…” ราวกับมีไฟสุมในอกของชิงเหิง ฉยงเหรินมีดีอะไร ทำไมท่านเจ้าพ่อหลักเมืองถึงชอบเขา “เจ้าพ่อหลักเมืองจะเอากู๊ดส์ของฉยงเหรินไปทำไม”

เมิ่งเซินมองเขาด้วยสายตาแหม่งๆ “นายไม่ดูเวยป๋อเลยเหรอ ฉยงเหรินจะจัดงานแฟนไซน์ในยมโลก วิญญาณทั้งหลายพากันเข้าฝันมาบอกให้ญาติสนิทซื้อพวกสินค้าออฟฟิเชียลของเขาให้ เรื่องนี้ถึงกับขึ้นฮอตเสิร์ชเวยป๋อเลยนะ”

แล้วเขาก็ถือโอกาสเปิดตารางอันดับฮอตเสิร์ชของเวยป๋อขึ้นมา กวาดมองชั่วครู่ แล้วส่งมือถือให้ชิงเหิง

ชิงเหิงรับมาดู…

 

[เพื่อน ดูสิว่าฉันไปเจออะไรดีๆ มา คลิปตอนฉยงเหรินเป็นเทรนนี ฉันโหลดมาจากเว็บออฟฟิเชียลของเจินเฉิงคัลเจอร์ เบ้าหน้าโคตรฟ้าประทาน บอกคำเดียวเลยว่าที่สุดของวงการจีน คงไม่มีใครเห็นต่างหรอกนะ]

[เชี่ยยย…]

[เชี่ย!]

[ตอนแรกอยากคอมเมนต์ว่าชาวเน็ตไร้อารยะมาก ทำไมถึงได้เอาแต่พูดคำว่าเชี่ยกับหนุ่มหล่อ แต่พอฉันเปิดเข้าไปดูเท่านั้นแหละ เชี่ย!]

[เบ้าหน้าโคตรสุด เบ้าหน้าแบบเจ้าแม่หนี่ว์วา** บรรจงปั้นขึ้นมาเองกับมือ ส่วนฉันเจ้าแม่หนี่ว์วาน่าจะแค่เขี่ยๆ แตะๆ ปั้นมาส่งเดชสินะ QAQ]

[ชาวเน็ตอย่าเอาแต่พูดเรื่องหน้าสิ หุ่นเขาก็สุดยอดเหมือนกัน ขาจะยาวเกินไปแล้ว ขนาดข้อเท้ายังสวย ไม่สมเหตุสมผลเลย ยังไงก็เหอะ ข้าขอเลียหน้าจอให้เกลี้ยงเพื่อคารวะ]

[ตอนนี้ฉันก็เลียขาอยู่ พวกคลั่งข้อเท้าอย่างพวกเราในที่สุดก็ยืนหยัดได้ (น้ำลายไหล.jpg)]

[เทียบกับฟู่จยาเจ๋อแล้วคิดว่าไงกันบ้าง ฟู่จยาเจ๋อขึ้นชื่อว่าตัวท็อปวงการ แต่หน้ายังไงก็สู้พวกนูกูไม่ได้เลย]

[พวกแฟนคลับไอดอลนูกูกรุณาอย่าเอาตัวท็อปอันดับหนึ่งของวงการจีนมาเทียบชั้นกัน เราห่างชั้นกันมาก อย่าลากมาเกี่ยวกันได้ปะ]

[เจินเฉิงคัลเจอร์เป็นบ้าเหรอ หน้าตาดีขนาดนี้ไม่ดัน แต่กลับไปดันนักพรตปลอมแต่แอ๊บใสซื่ออย่างชิงเหิงอะนะ ค่ายโง่ๆ แบบนี้เดี๋ยวก็ล่มจมเข้าสักวัน]

[ฟู่จยาเจ๋อกับฉยงเหรินเทียบหน้ากันแล้วก็ห่างชั้นกันจริงๆ นั่นแหละ ดูยังไงฉยงเหรินก็ดูดีกว่าฟู่จยาเจ๋อสองพันกว่าเท่า เจินเฉิงเอ๋ย แนะนำให้พาคุณพรี่ชายของคุณกลับไปซ่อมที่โรงงานใหม่นะ ซิลิโคนเบี้ยวอย่างนั้นยังจะโม้ว่าหล่อที่สุดแห่งยุคอีก]

 

ถึงตรงนี้ คอมเมนต์ตอบกลับใต้เวยป๋อโพสต์นี้ก็ควบคุมไม่ได้อีกต่อไป ชิงเหิงเองก็หัวเสียจนอ่านต่อไปไม่ไหว และสิ่งที่ทำให้เขาหงุดหงิดยิ่งกว่านั้นคือยอดแฟนคลับของฉยงเหรินตอนนี้ทะลุหกหลักไปเรียบร้อยแล้ว

เขาไปออกรายการเซอร์ไววัลเฟ้นหาไอดอลมาแล้ว แต่ก็ยังมียอดแฟนคลับแค่หนึ่งจุดเจ็ดล้านเอง ฉยงเหรินขึ้นฮอตเสิร์ชครั้งเดียว ยอดแฟนคลับก็พุ่งขึ้นมาถึงครึ่งหนึ่งของเขาแล้ว ฉยงเหรินมีดีอะไร

เมิ่งเซินไถโพสต์เวยป๋อพลางบ่นอุบ “ฝูงชนทะเลาะกันเพื่อไอ้หน้าละอ่อนคนเดียว ว่างกันจังนะ”

ชิงเหิงพลันรู้สึกว่าแม้พี่สามของเขาจะน่ากลัวทั้งยังน่ารังเกียจ แต่ว่าอีกฝ่ายก็ตาแหลม

เขาพยักหน้ากล่าว “ใช่ ฉยงเหรินก็แค่ไอ้หน้าอ่อนที่หน้าตาพอไปวัดไปวาได้เท่านั้นแหละ เขาจะไปเทียบชั้นกับฟู่จยาเจ๋อได้ไง”

เมิ่งเซินปรายตามอง หน้าตางุนงงว่าแกพูดไร้สาระอะไรอยู่ “ถ้าฉยงเหรินหน้าตาแค่พอไปวัดไปวาได้ งั้นฟู่จยาเจ๋อก็เป็นได้แค่ไอ้หน้าปลาจวด นี่ขนาดฉันด่าใครอยู่นายยังแยกไม่ออกอีกเหรอ”

ชิงเหิงอุตส่าห์รู้สึกว่าตนมีศัตรูร่วมกันกับเขาแล้วเชียว ผ่านไปแค่สิบวินาทีความรู้สึกพวกนั้นก็โดนตบกลับมาหมด ที่แท้ไอ้ความรู้สึกร่วมกันเหมือนได้เจอกับตัวก็ไม่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้

เขาโกรธแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่ก้มหน้าหุบปากฉับ

เมิ่งเซิน “ฉันต้องรีบไปทำงานยมทูตแล้ว เดี๋ยวจะโอนเงินเข้าบัญชีนาย แล้วอย่าลืมซื้อกู๊ดส์มาให้ฉันด้วย”

เมิ่งเซินกล่าวจบก็หายแวบไปทำโอทีที่ศาลหลักเมืองแล้ว

ในตอนที่ชิงเหิงกำลังเหม่อ เสียงแจ้งเตือนข้อความก็ดังขึ้น

 

ผู้ช่วย ได้ยินว่าฉยงเหรินดวงชะตาพลิกกลับมาดีเพราะพี่หยางไปไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยะให้เขา เราไปบูชามาสักการะสักองค์บ้างดีไหม

 

ชิงเหิงเบิกตากว้างทันที

ฉยงเหรินดวงพลิกเป็นดีเพราะหยางเฟิงไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยะงั้นเหรอ

เรื่องแบบนี้มันจะเป็นไปได้ยังไง

เขารู้ว่าหยางเฟิงบูชาเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยะมาสักการะ และเพื่อไม่ให้ฉยงเหรินมีโอกาสพลิกดวงได้ เขาก็เลยไปสลับเทวรูปที่เจ้าอ้วนนั่นบูชามาเป็นพญายมราชที่แอบจิ๊กมาจากเมิ่งเซินไปตั้งนานแล้วนี่!

 

ฉยงเหรินกดปีกหมวกต่ำ มือซ้ายจับราวจับบนรถไฟ มือขวาไถเวยป๋อ

ตอนนี้ยังไม่นับว่าเป็นช่วงชั่วโมงเร่งด่วน แต่ที่นั่งบนรถไฟก็ไม่เหลือที่ว่างอย่างเคย

ไม่รู้ทำไมอกซ้ายถึงรู้สึกปวดแสบนิดๆ ตอนผ้าแฉลบผ่านก็รู้สึกได้ชัดเป็นพิเศษ เขาจึงต้องเปลี่ยนมืออีกข้างไปจับราวจับแทน

เพียงเวลาสิบนาทีสั้นๆ ฮอตเสิร์ชของเขาก็วิ่งขึ้นไปยี่สิบกว่าอันดับแล้ว แฮชแท็กมีไอคอนสีส้มประดับแสดงความนิยมด้านหลังว่า ‘ฮอต’

ฉยงเหรินกดเข้าไปดูรูปแคปหน้าจอจากเพจดังของเวยป๋อโดยตรง จะได้รู้ที่มาที่ไปของฮอตเสิร์ชนี้ได้ทันที

 

[เมื่อคืนปู่มาเข้าฝัน บอกให้ฉันเผากู๊ดส์ของฉยงเหรินไปให้เขา ตื่นเช้ามาฉันก็เลยเสิร์ชชื่อดู ไม่นึกว่าจะมีไอดอลหน้าใหม่แบบนี้อยู่จริงๆ จมมิดแบบดึงไม่ขึ้นเลย…ยังไงก็เถอะ ฉันแค่อยากถามว่าฉันจะซื้อพวกออฟฟิเชียลของเขาได้ที่ไหนบ้าง]

[ไม่ใช่แค่นาย อาเจ๊ฉันก็บอกให้ฉันเผาสโลแกน* ไปให้ เห็นบอกว่าจะไปงานแฟนไซน์! เพราะเขาโปรโมตงานแต่ในโลกหลังความตายหรือเปล่าก็เลยไม่ดังในโลกคนเป็น (ช็อก.jpg)]

[ไปค้นรูปมา หล่อลากเลยอะ นับแต่นี้ไปฉันจะเป็นแฟนคลับหน้าตาที่รอยัลที่สุดของเขา แผล็บๆๆ]

[หล่อมากแม่! หล่อขนาดนี้ไม่ดังได้ไง]

[อาจจะเป็นเพราะรับงานแต่ในโลกหลังความตายเป็นหลักก็ได้ ฮ่าๆๆ]

[เอ๊ะ? ทำไมของฉันถึงเข้าฝันมาบอกให้ฉันเขียนฟิคฉยงเหรินกับท่านพญายมราชล่ะ]

 

ฉยงเหรินXพญายมราชจะไม่เร้าใจไปหน่อยเหรอ…สมองของแฟนคลับในยมโลกช่างกว้างใหญ่ไพศาลจริงๆ

ฉยงเหรินจมจ่อมกับความคิดอย่างช้าๆ

มิน่าล่ะอยู่ดีๆ ทำไมถึงขึ้นฮอตเสิร์ชได้ ต้นเหตุมาจากงานแฟนไซน์ในนรกนี่เอง

แฟนๆ ในยมโลกอยากพกกู๊ดส์ศิลปินไปงานด้วย แต่ไม่มีช่องทางการซื้อในนรก พวกเขาก็เลยมาเข้าฝันญาติคนสนิท ผลกลายเป็นว่าจุดประเด็นให้ฉยงเหรินขึ้นฮอตเสิร์ชได้อย่างเกินคาด

คนอื่นขึ้นฮอตเสิร์ชได้อาจเพราะความพยายามของตัวเอง แต่เขาขึ้นฮอตเสิร์ชได้เป็นผลพวงมาจากความพยายามของแฟนคลับเขาล้วนๆ นี่ไม่ใช่ผลตอบรับที่มีเฉพาะคนดังระดับแถวหน้าเท่านั้นที่จะได้สัมผัสหรอกเหรอ ศิลปินไร้แถวอย่างเขาก็ไม่นึกว่าจะเป็นไปได้ด้วย

นี่แหละแฟนคลับของเขา ถึงจะน้อยแต่ก็คุณภาพล้วนๆ ฉยงเหรินอดสงสัยไม่ได้ว่าเขามีแฟนคลับในยมโลกเท่าไหร่

จะถึงสามร้อยหรือเปล่า

ถ้าขอมั่นหน้าหน่อย ไม่แน่อาจจะห้าร้อย!

เดี๋ยวเย็นนี้ลองติดต่อไปถามเลขาฯ จินดีกว่า ดูซิว่าจะมีคนมางานแฟนไซน์เขาเท่าไหร่ เขาอยากจะเตรียมของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้พวกเขาด้วย

แฟนๆ ในยมโลกพยายามกันเหลือเกินเพื่อให้มีกู๊ดส์สำหรับเชียร์ไปหาเขา ไม่นึกเลยว่าจะคิดวิธีเข้าฝันคนสนิทแบบนี้ได้ พอคิดถึงตรงนี้ ฉยงเหรินก็รู้สึกละอายกับสภาพตัวเองตอนอยู่ที่บ้านผีสิงเหลือเกิน

ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าคืนนี้จะดูเรื่อง ‘เดอะริง คำสาปมรณะ’ แต่คิดๆ ดูแล้ว เอาเป็นว่าดู ‘โปเยโปโลเย’ ก่อนดีกว่า

ยังไงเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนก็น่ากลัวกว่าผีซาดาโกะเยอะ

เขาต้องพยายามมากกว่านี้ถึงจะคู่ควรกับความรักและการสนับสนุนจากแฟนคลับ

ทำงานครั้งแรก มีงานแฟนไซน์ครั้งแรก ขึ้นฮอตเสิร์ชครั้งแรก ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปาฏิหาริย์ที่แฟนๆ ในยมโลกบันดาลให้ เทียบกับปาฏิหาริย์เหล่านี้แล้ว สิ่งที่เขามอบให้แฟนๆ ได้ช่างน้อยนิดเหลือเกิน

เขาอยากทำเพื่อแฟนๆ มากกว่านี้

พูดถึงแฟนๆ แล้ว…

ไม่นึกว่าพนักงานในบ้านผีสิงจะเคยฟังเพลงของเขากันด้วย หนึ่งในสามคนนั้นยังซื้ออัลบั้มของเขาอีก บอกไว้ก่อน ยอดขายอัลบั้มของเขาทั้งหมดขายได้แค่ 49 อัลบั้มเท่านั้น

เมื่อดูจากด้านนอก บ้านผีสิงก็ไม่ได้มีพื้นที่มากขนาดนั้นแท้ๆ แต่เขากลับใช้เวลาสิบนาทีกว่าจะหลุดพ้นออกมาจากในนั้นได้

มาคิดดูตอนนี้ ชื่อเต็มของสถานทูตประจำแดนหยางที่ว่านั่นคงไม่ใช่ว่าเป็น ‘สถานเอกอัครราชทูตยมโลกประจำแดนหยาง’ หรอกนะ…

งั้นเพื่อนผู้ป่วยของเขาเป็นใครกันแน่

ทำไมรู้สึกว่าเพื่อนผู้ป่วยของเขาไม่ค่อยจะเหมือนผีเลย

 

* พระราชวังโปตาลา เดิมถูกใช้เป็นพระราชวังฤดูหนาวขององค์ดาไลลามะ ตั้งอยู่ที่เมืองลาซาของทิเบต

* ตบตูดม้า หมายถึงประจบสอพลอเอาใจเจ้านาย

** เจ้าแม่หนี่ว์วา คือเทพผู้สร้างมนุษย์ เป็นเทพมารดรแห่งชนชาวจีน

* สโลแกน คือผ้าเชียร์หรือป้ายเชียร์

 

  

โปรดติดตามตอนต่อไป

2 of 2หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 5-6

บทที่ 5 สังหารภูต   หลี่เจาเกอกลั้นหายใจเพ่งสมาธิ นิ้วมือวางบนด้ามกระบี่ ท่ามกลางหมู่ใบไม้แว่วเสียงความเคลื่อนไหวดังแซกซ...

community.jamsai.com