‘ทะลุมิติย้อนเวลา’ กระแสฮิตไม่มีซาของนิยายแนวจีนโบราณ

ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ว่าตลาดนิยายบ้านเราตอนนี้ นิยายแปลแนวจีนโบราณกำลังฮิตฮอตกระแสแรงเว่อร์ แม้แต่นักเขียนชาวไทยก็หันมาเขียนเรื่องที่พระเอกนางเอกเป็นฮ่องเต้นางสนมกันมากมาย และธีมที่ได้รับความนิยมอย่างที่สุดก็หนีไม่พ้นการทะลุมิติย้อนเวลาของเหล่าพระนาง ที่ต้องอาศัยสกิลจากโลกสมัยใหม่มาใช้เอาตัวรอดในโลกอดีตนั่นเอง

จะว่าไปแล้วแนวทะลุมิติย้อนเวลา หรือที่เรียกกันเล่นๆ ว่า ‘แนวสิงร่าง’ นั้นได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์ของจีนมาตั้งแต่ยุค 90 ถึงขั้นจัดเป็นหมวดนิยายทะลุมิติย้อนเวลาให้นักอ่านนักเขียนกดเลือกโดยเฉพาะ หากจะลองวิเคราะห์แจกแจงนิยายแนวนี้ ก็ยังแยกย่อยได้อีก 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ

1. ย้อนกลับไปเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์จริง หรือจะเรียกว่าเป็นแนวอิงประวัติศาสตร์ก็ไม่ผิดนัก

นักเขียนจะให้ตัวเอกทะลุมิติไปสู่ยุคสมัยหนึ่งในประวัติศาสตร์ อาศัยช่องโหว่ของบันทึกประวัติศาสตร์ที่อาจกล่าวถึงบุคคลใดหรือเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งอย่างคร่าวๆ เพิ่มเติมรายละเอียดตามจินตนาการของตนเองโดยไม่ให้ขัดแย้งกับเหตุการณ์จริง ตัวอย่างผลงานที่ประสบความสำเร็จ เช่น

‘ฝันคืนสู่ต้าชิง’ นางเอกหลุดทะลุห้วงมิติในเขตพระราชวังกู้กง ย้อนไปเป็นนางในสมัยจักรพรรดิคังซี ช่วงเวลาที่เหล่าองค์ชายแบ่งฝักแบ่งฝ่ายแย่งชิงบัลลังก์กัน

‘ชายาสะท้านแผ่นดิน’ นางเอกเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่หน่วยพิเศษทะลุมิติ ไปเป็นเด็กน้อยที่มีพลังแตกต่างจากคนในโลกที่ใช้สัตว์วิเศษเป็นอาวุธคู่กาย

‘นิยายรักอลเวง’ นางเอกเป็นนักอ่านออนไลน์ ทะลุไปเป็นนางเอกนิยายที่ตนเองบ่นว่าเป็น 'แนว SM' สุดหื่นเกินรับได้

‘ฉู่หวังเฟย ชายาสองวิญญาณ’ นางเอกเป็นตำรวจปราบปรามถูกยิงเสียชีวิตแล้ววิญญาณหลอมรวมเข้าไปอยู่ในร่างหญิงสาวยุคโบราณที่แสนอ่อนแอไร้คนเหลียวแล

3. สลับวิญญาณไปอยู่ในร่างของคนอื่นในยุคสมัยเดียวกัน

หรือย้อนเหตุการณ์กลับไปในช่วงชีวิตของตนเองเพื่อแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดในอดีต เช่น

‘เพียงหนึ่งใจ’ จักรพรรดิของแผ่นดินวิญญาณไปอยู่ในร่างสุนัข ทำให้ได้รู้ธาตุแท้และความจริงใจของสนมชายาและบริวารใกล้ชิด