X
    Categories: ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืนทดลองอ่านมากกว่ารัก

ทดลองอ่าน ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน บทที่ 6

หน้าที่แล้ว1 of 3

บทที่ 6 ระบบ

สกุลอวี๋ ณ เมืองเกาผิง เหยี่ยนโจว

สาวใช้สวมชุดสีครามแขนเสื้ออยู่เหนือศอกเลิกผ้าม่านขึ้นแล้วทำความเคารพอย่างนอบน้อม “คุณหนูสี่เจ้าคะ”

“เหล่าจวินหลับแล้วหรือ”

“เหล่าจวินเพิ่งหลับไปเจ้าค่ะ” เพิ่งจะสิ้นเสียงกล่าวของสาวใช้ ก็มีเสียงชราดังมาจากข้างใน “นางหนูสี่หรือ”

อวี๋ชิงหย่าพลันยิ้มอย่างอ่อนโยนพร้อมกับเดินเข้าไปข้างในโดยไม่รอให้สาวใช้ถ่ายทอดคำพูด “เหล่าจวิน ข้าเองเจ้าค่ะ”

อวี๋เหล่าจวินก็เห็นเหลนสาวอายุสิบสี่สิบห้าปีเดินเข้ามา

ที่นี่คนสกุลอวี๋สี่รุ่นอาศัยอยู่ร่วมกัน อายุของอวี๋เหล่าจวินไม่น้อยแล้วจริงๆ บางคนแก่ตัวลงกลายเป็นดั่งพระพุทธองค์ จิตใจเมตตา สงสารคนจน เห็นใจคนอ่อนแอ แต่คนส่วนใหญ่มักเผยนิสัยช่วงวัยเยาว์ของตนเองออกมาอย่างไร้ขอบเขต กลายเป็นคนเผด็จการไม่ฟังใคร ความปรารถนาที่จะบงการชีวิตผู้อื่นก็มากขึ้นเรื่อยๆ

เห็นได้ชัดว่าเหล่าจวินสกุลอวี๋ผู้สูงศักดิ์มาทั้งชีวิตก็เป็นเช่นคนส่วนใหญ่

อวี๋ชิงหย่าคุกเข่าหน้าตั่งอวี๋เหล่าจวิน รับถ้วยยาของอวี๋เหล่าจวินมาด้วยมือตนเอง หยิบช้อนเล็กมาลองชิมในชามน้ำแกงอีกใบ ก่อนจะมอบยาที่เหลือให้อวี๋เหล่าจวิน “เหล่าจวิน ความร้อนกำลังพอดีเจ้าค่ะ วันนี้ข้าตั้งใจกำชับให้พวกเขาเพิ่มหญ้าหวานโดยเฉพาะ จะได้ไม่ขมเจ้าค่ะ”

การเคลื่อนไหวนี้คล่องแคล่วและเหมาะสมราวกับผ่านการฝึกฝนมานับครั้งไม่ถ้วน อวี๋เหล่าจวินเห็นแล้วชอบใจอย่างยิ่ง นางรับยามาดื่มหนึ่งคำ แล้วเอ่ยด้วยความประหลาดใจ “ยาวันนี้ไฉนดื่มแล้วถึงดูไม่เหมือนเมื่อก่อน”

อวี๋ชิงหย่ายิ้มอย่างเขินอาย “เมื่อก่อนข้าเห็นว่าท่านดื่มยาลำบาก รู้สึกละอายใจ จึงเปิดตำราโบราณอ่าน พบตำรับยาที่มีฤทธิ์อ่อนๆ และบำรุงสุขภาพหลายตำรับ ข้าทำไปโดยพลการ เหล่าจวินโปรดลงโทษด้วยเจ้าค่ะ”

อวี๋เหล่าจวินตกตะลึงระคนดีใจ “เจ้ารู้วิชาแพทย์ด้วยหรือ”

“มิกล้าเจ้าค่ะ แค่ทำตามตำราแพทย์ มิกล้าโอ้อวด”

อวี๋เหล่าจวินตบหลังมือของอวี๋ชิงหย่าอย่างปลาบปลื้มพลางกล่าว “เหลนข้าเป็นเด็กฉลาดและเอาใจใส่จริงๆ เมื่อก่อนไม่เคยสังเกต จนกระทั่งไม่กี่วันมานี้ถึงได้เห็นว่าในจวนอวี๋ของพวกเรามีอัจฉริยะหญิงซ่อนอยู่คนหนึ่ง ไม่กี่วันก่อนเจ้ามาหาข้ารอบหนึ่ง ก็สังเกตเห็นว่าธูปที่ข้าใช้ไม่ดี ไฟพร่อง* ทำให้เป็นโรคปอดได้ง่ายที่สุด ตอนนี้คิดไม่ถึงว่าอาศัยตำราโบราณก็เชี่ยวชาญได้ด้วยตนเอง ปรับตำรับยาบำรุงร่างกายออกมาได้ มีสตรีเช่นนี้ช่างเป็นโชควาสนาของตระกูลจริงๆ นับว่าสวรรค์ต้องการให้สกุลอวี๋ของพวกเรารุ่งเรือง”

อวี๋ชิงหย่ากล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “มิกล้าเจ้าค่ะ”

รอยยิ้มเบิกบานบนใบหน้าของอวี๋ชิงหย่ายามนี้ เห็นได้ชัดว่าในใจนางก็รู้สึกเช่นนี้ด้วย นางได้ยินเสียงสังเคราะห์อันเย็นชาดังติ๊ดขึ้นมาในหัว

‘ความชื่นชอบของอวี๋เหล่าจวิน +10 ชื่อเสียงของสตรีผู้มีความสามารถรอบด้าน +10’

เมื่ออวี๋ชิงหย่าได้ยินคำพูดข้างหลัง รอยยิ้มบนใบหน้าก็ชัดเจนยิ่งขึ้น

เกิดมาฉลาดมีความสามารถรอบด้านอะไรกัน ไหนเลยจะมีคนที่เชี่ยวชาญวิชาแพทย์ได้เองโดยอาศัยเพียงตำราแพทย์ ตำรับยาที่นางอ้างว่าหาเจอจากตำราโบราณเป็นเพียงข้ออ้างส่งเดชเพื่อหลอกตบตาอวี๋เหล่าจวินเท่านั้น ที่จริงแล้วเป็นตำรับยาที่ระบบมอบให้นาง อวี๋ชิงหย่าไม่ต้องทำอะไรก็สามารถได้รับผลการฝึกแพทย์ของผู้อื่นที่ใช้เวลาสิบปีหรือยี่สิบปีมาอย่างง่ายดาย

ตั้งแต่ที่มีระบบคอยช่วยเหลือ อวี๋ชิงหย่าอยู่ในเรือนหลังก็มีอำนาจขึ้นมาราวกับเสือติดปีก วันนี้เปลี่ยนธูปสงบจิตใจให้เหล่าจวิน พรุ่งนี้มอบที่รองเข่าที่ผลิตโดยระบบให้ผู้อาวุโสที่เป็นโรคไขข้อ วันมะรืนนางสามารถเขียนบทกลอนคู่ขนาน ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ภายในระยะเวลาสั้นๆ เพียงสามเดือน ชื่อเสียงสตรีผู้มีพรสวรรค์ของอวี๋ชิงหย่าก็จะโด่งดังไปทั่วเหยี่ยนโจว

นางมั่นใจว่าหากเรื่องราวดำเนินไปตามเส้นทางนี้ แม้แต่เซียนบนสวรรค์ที่ไร้ซึ่งกิเลสตัณหาก็ต้องเกิดความเห็นใจนาง เส้นทางอันน่าเศร้าในชาติที่แล้วของนางก็จะไม่เกิดขึ้นอีก

อวี๋เหล่าจวินแสร้งทำเป็นตำหนิ “ช่วงเช้าให้เจ้ากลับไปพักผ่อนไม่ใช่หรือ เพิ่งจะผ่านไปแค่หนึ่งชั่วยาม เจ้าก็วิ่งออกมาอีกแล้ว แม้ข้าจะเป็นคนแก่ไร้ประโยชน์ แต่ก็ไม่ได้ร้ายกาจถึงขั้นต้องกักตัวเหลนสาวมาอยู่ตรงหน้าให้ได้ถึงจะพอใจ เจ้าอายุเพียงเท่านี้ควรออกไปข้างนอกให้มากๆ มาอยู่ข้างๆ ข้าตลอดประเดี๋ยวจะติดความหม่นหมองเอา”

“จะเป็นไปได้อย่างไรเจ้าคะ” อวี๋ชิงหย่ายิ้มกล่าว “เหล่าจวินความรู้กว้างขวาง เป็นสตรีที่ไม่ด้อยไปกว่าบุรุษ ข้าอยู่ข้างกายท่านหนึ่งวัน ได้เรียนรู้มากกว่าอ่านตำราสิบปีเสียอีก หากเหล่าจวินไม่รังเกียจข้า ข้าก็อยากจะเรียนกับท่านเป็นประจำเจ้าค่ะ”

อวี๋เหล่าจวินยิ้มแย้ม แต่แสร้งทำเป็นดุ “เจ้านี่นะ ช่างพูดช่างจา อุตส่าห์หลอกให้ยายแก่อย่างข้าดีใจ”

อวี๋ชิงหย่ายิ้มจางๆ นางเห็นบนโต๊ะเขียนหนังสือที่มีเชิงเทียนวางไว้คล้ายมีจดหมายอยู่ นางกลอกลูกตาครุ่นคิดก่อนเอ่ยขึ้นมา คล้ายคร่ำครวญโดยไม่ได้ตั้งใจ “ท่านพ่อไม่กลับมาตั้งสองปีแล้ว ช่วงนี้ทั้งลมแรงและฝนตก ไม่รู้ท่านพ่อยังสุขภาพดีอยู่หรือไม่ เขาตัวคนเดียวไประเหเร่ร่อนอยู่ข้างนอก ชิงโจวเป็นพื้นที่กันดาร ข้ากลัวจริงๆ ว่าท่านพ่อป่วยแล้วจะไม่มีใครดูแลเจ้าค่ะ”

เมื่อนึกถึงหลานชายที่ไม่เชื่อฟัง อารมณ์ของอวี๋เหล่าจวินก็เปลี่ยนเป็นคุกรุ่นอย่างเห็นได้ชัด นางแค่นเสียงทีหนึ่ง ยิ้มเย็นชา “ตอนนี้เขามีความคิดเป็นของตนเอง ปีกกล้าขาแข็งแล้ว ไม่ต้องการเส้นทางที่คนแก่อย่างพวกข้าปูให้เขาอีกต่อไป”

“เหตุใดเหล่าจวินถึงพูดเช่นนี้เจ้าคะ” อวี๋ชิงหย่าเม้มปากยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าว “ชิงโจวไม่มีตระกูลที่มีชื่อเสียง ที่ไปมาหาสู่ล้วนเป็นคนธรรมดาและคนยากจน ดินแดนอนารยชนที่ไร้อารยธรรมนี้จะเทียบกับเหยี่ยนโจวได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นก่วงหลิงเป็นแค่เมืองระดับกลาง ท่านพ่ออยู่ที่นั่นไม่มีชนชั้นขุนนางให้คบหา ไม่มีผู้เลื่องชื่อช่วยแนะนำ มีแต่เสียเวลาโดยสูญเปล่า หากท่านเรียกท่านพ่อกลับมา นั่นถึงจะดีต่อตัวท่านพ่อ ท่านพ่อต้องเข้าใจความหวังดีของท่านแน่เจ้าค่ะ”

อวี๋ชิงหย่าเข้าใจได้ในทันที จดหมายบนโต๊ะนั้นมีตราประทับของอวี๋เหวินจวิ้นอยู่ แต่ยังคงเห็นอวี๋เหล่าจวินมีท่าทางกลัดกลุ้ม คาดว่าอวี๋เหวินจวิ้นคงปฏิเสธการกลับบ้านอีกแล้ว ช่างมองข้ามความหวังดีของผู้อื่นจริงๆ เป้าหมายในการเกิดใหม่ของอวี๋ชิงหย่าคือเป็นชายาอ๋อง เป็นฮองเฮา หากบิดาของนางเป็นคนไม่เอาไหน นางก็คร้านจะสนับสนุน ขอแค่วันหน้าเขาอย่าเสียใจและมาขอร้องนางก็พอแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้อวี๋เหวินจวิ้นจะไม่สำคัญ แต่กับตัวอวี๋ชิงจยานั้นกลับสำคัญมาก

ถึงอย่างไรอวี๋ชิงจยาก็เป็นนางเอก ประกายแมรี่ซูแรงกล้า อีกฝ่ายจะได้พบพระเอกหลางหยาอ๋องเมื่อใดกัน อวี๋ชิงหย่าเรียกระบบในสมองเบาๆ ‘ระบบ พระเอกนางเอกจะได้เจอกันเมื่อไร’

ระบบเงียบอยู่ครู่หนึ่ง คลังข้อมูลของมันมาจากหนังสือประวัติศาสตร์ของจักรวาลต่างๆ ฉีเซียงฮ่องเต้กับหมิงซีฮองเฮาพบหน้ากันเมื่อใด เรื่องนี้ไม่ได้ปรากฏในหนังสือประวัติศาสตร์

ระบบจึงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ‘โฮสต์มีสิทธิ์ไม่เพียงพอ ไม่สามารถดูได้’

อวี๋ชิงหย่าถอนหายใจ เป็นดังคาด ตอนนี้คะแนนสะสมของนางยังไม่พอ จะทำอะไรก็ติดขัดไปหมด ชาติที่แล้วนางกับอวี๋ชิงจยาไม่ได้ใกล้ชิดสนิทสนม ยามพบหน้าก็เมินใส่กัน อวี๋ชิงหย่าไม่เคยสนใจการเคลื่อนไหวของอวี๋ชิงจยาจริงๆ ตามหลักแล้วอวี๋ชิงจยาไม่น่ามีโชคอะไร เป็นไปได้ว่าหลังจากที่หลางหยาอ๋องพบอวี๋ชิงจยาแล้ว เขาได้รับผลกระทบจากบทบาทของนางเอก จึงต้องแต่งงานกับอีกฝ่ายอย่างควบคุมตนเองไม่ได้

อวี๋ชิงหย่านึกดูถูก เป็นแมรี่ซูไร้สมองจริงๆ บุรุษทั่วหล้าต่างหลงรักนาง แม้แต่พระเอกก็ไม่ยกเว้น เห็นชัดๆ ว่าข้าดีเลิศกว่านางเอก แต่กลับเป็นแค่ตัวประกอบหญิงเสียได้ อวี๋ชิงหย่าแม้จะคาดเดาเช่นนี้ แต่นางก็ไม่กล้าก้าวเดินอย่างสุ่มเสี่ยง เพราะโครงเรื่องก็วนเวียนอยู่รอบๆ ตัวอวี๋ชิงจยา หากอวี๋ชิงจยาประสบโชคไม่คาดฝันบางอย่างที่นางไม่รู้ เช่นนั้นนางก็แย่แล้ว ดังนั้นควรให้นางเอกมาอยู่ตรงหน้าตนเอง นางถึงจะค่อนข้างปลอดภัย

ดังนั้นอวี๋ชิงหย่าต้องทำให้อวี๋เหวินจวิ้นกลับมาที่เมืองเกาผิงให้ได้ ก่อนหน้านี้อวี๋ชิงหย่าเคยเตือนอวี๋เหล่าจวินเป็นนัยๆ ตอนนี้ดูเหมือนความช่วยเหลือจากระบบจะล้มเหลว อวี๋ชิงหย่ารู้สึกไม่พอใจอยู่ลึกๆ ตั้งแต่ที่เกิดใหม่มา ภายใต้การช่วยเหลือของระบบ นางพบอุปสรรคน้อยมาก อวี๋ชิงหย่ายังอยากเกลี้ยกล่อมอวี๋เหล่าจวินอีกครั้ง ทว่าเพิ่งจะอ้าปาก จู่ๆ ในสมองก็เจ็บราวกับถูกเข็มทิ่มแทงเข้ามา ‘โฮสต์ ท่านละเมิดกฎแล้ว’

อวี๋ชิงหย่าทนต่ออาการปวดหัว ฝืนโต้แย้งในสมอง ‘แต่เหล่าจวินคล้อยตามแล้ว ขอแค่พวกเรากระตุ้นอีกสักหน่อย ให้เหล่าจวินเขียนจดหมายไปเร่งอีกครั้ง อวี๋เหวินจวิ้นช้าเร็วก็ต้องกลับมาอย่างทนไม่ไหว’

เสียงสังเคราะห์ของระบบคล้ายหัวเราะเยาะเบาๆ ในสมอง อวี๋ชิงหย่าตกตะลึงอย่างยิ่ง คิดว่าตนฟังผิดไป ระบบเป็นแค่ปัญญาประดิษฐ์ที่ไม่มีความรู้สึก มันจะแสดงการตอบสนองที่มีความเป็นมนุษย์เช่นนี้ได้อย่างไร

ระบบกลับคืนสู่เสียงเย็นชาอย่างรวดเร็ว ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ ‘โฮสต์ พฤติกรรมของท่านเมื่อครู่ละเมิดคำเตือนของระบบตัวประกอบหญิง ข้ามีหน้าที่ต้องเตือนท่านและจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่เกี่ยวข้อง’

อวี๋ชิงหย่าไม่ยอม เห็นชัดๆ ว่าเหลืออีกแค่ก้าวเดียว เหตุใดต้องล้มเลิกกลางคันด้วย นางอยากจะเร่งเร้าอวี๋เหล่าจวินอีก แต่ความเจ็บปวดคล้ายถูกเข็มทิ่มแทงก็แล่นเข้ามาในสมองอย่างฉับพลัน ทำให้รู้สึกราวกับกะโหลกถูกเจาะ อวี๋ชิงหย่ากรีดร้องอย่างทนไม่ไหว ถ้วยชาในมือตกลงบนพื้นเสียงดังเพล้ง น้ำชาสาดกระเซ็น

อวี๋เหล่าจวินตกใจกับการกระทำที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันของอวี๋ชิงหย่า นางเห็นอวี๋ชิงหย่ามีสีหน้าน่ากลัว จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “นางหนูสี่ เจ้าเป็นอะไร”

อวี๋ชิงหย่าต่อต้านความเจ็บปวดที่แผ่ขยายในสมอง พร้อมกับพยายามยิ้มตอบอวี๋เหล่าจวิน “ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ตอนเที่ยงหลับไม่สบาย ตอนนี้เลยเวียนหัวเล็กน้อยเจ้าค่ะ”

“นอนหลับไม่สบายหรือ” เห็นการแสดงออกของอวี๋ชิงหย่า ไม่ว่าอย่างไรอวี๋เหล่าจวินก็ไม่อาจเชื่อได้ว่านี่เป็นแค่อาการเวียนหัว แต่อวี๋ชิงหย่ายืนกรานว่าตนไม่เป็นไร รีบกล่าวขออภัยและออกไปทันที

จนกระทั่งออกจากเรือนของอวี๋เหล่าจวินมาแล้ว ระบบก็กล่าวด้วยเสียงสังเคราะห์อันราบเรียบเช่นเดิม แต่เพราะน้ำเสียงราบเรียบดูสงบ จึงทำให้คนฟังรู้สึกหวาดกลัว ‘โฮสต์ได้ทำการละเมิดกฎ ตามสัญญาเรามีสิทธิ์ตักเตือนโฮสต์อย่างเหมาะสมและกำหนดบทลงโทษหากจำเป็น วันนี้โฮสต์ละเมิดกฎระดับแรก จึงลงโทษเฉพาะระดับหนึ่ง’

‘นี่แค่ระดับแรกหรือ’ อวี๋ชิงหย่านึกถึงความเจ็บปวดราวกับถูกเฉือนเนื้อคว้านหัวใจ เหมือนถูกเจาะกะโหลกเมื่อครู่นี้แล้วยังหวาดผวาไม่คลาย อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงระดับต่ำสุดอย่างนั้นหรือ

ระบบยอมรับอย่างเย็นชา

อวี๋ชิงหย่ารู้สึกหนาวสันหลังขึ้นมาอย่างช้าๆ ‘เช่นนั้นระดับสูงสุดเป็นอย่างไร’

‘ลบล้าง’

เสียงของระบบฟังดูมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่อย่างถึงที่สุด แต่อวี๋ชิงหย่ากลับรู้สึกหนาวยะเยือก เห็นชัดๆ ว่าเวลานี้เป็นฤดูวสันต์ในเดือนสี่ แต่นางราวกับอยู่ในฤดูเหมันต์ของเดือนเก้า สายลมอันหนาวเหน็บกลายเป็นเข็มแหลมเจาะทะลุเข้ากระดูกของนางถี่ยิบ ‘คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะทำอันตรายข้าถึงชีวิต เรื่องสำคัญเช่นนี้เหตุใดเจ้าไม่บอกข้าก่อน’

‘ท่านไม่ได้ถาม’ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือไม่ เสียงของระบบราวกับแฝงไว้ซึ่งความเยาะเย้ย ‘โฮสต์ ท่านได้ลงชื่อในสัญญาวิญญาณกับพวกเราแล้ว หากเสียใจกลางคัน ก็จะถูกลบล้างตามสัญญา’

อวี๋ชิงหย่าพลันรู้สึกเสียใจภายหลังที่วันนั้นตนรีบลงชื่อในสัญญา หลายเดือนมานี้นางราบรื่นสมปรารถนาไปทุกเรื่อง ในความคิดนางเห็นระบบเป็นเครื่องมือที่มีไว้ให้นางใช้ แต่ไม่ได้คิดเลยว่าฐานะของนางกับระบบอาจจะตรงกันข้าม

อาจเป็นเพราะอ่านความคิดในใจอวี๋ชิงหย่าได้ ความเร็วในการพูดของระบบจึงช้าลง ท่าทีแทบจะเรียกได้ว่าใจดี ‘วางใจได้ ตราบใดที่ท่านทำตามเงื่อนไขที่พวกเราบอก ก็จะไม่ถูกลบล้าง’

อวี๋ชิงหย่าเรียกใช้บ่าวไพร่มาตั้งแต่เด็ก นึกดูถูกคนธรรมดา มีแต่นางที่สั่งผู้อื่น นางกลายเป็นคนที่ถูกผู้อื่นบังคับตั้งแต่เมื่อไรกัน ทว่านางไม่กล้าล่วงเกินระบบ ระบบสามารถลบล้างนางได้โดยง่าย นางทำอะไรระบบไม่ได้ ที่สำคัญกว่านั้นคือระบบอยู่ในสมองของนาง ความคิดส่วนใหญ่ปิดบังระบบไม่ได้ อวี๋ชิงหย่าตั้งแต่ที่ได้เกิดใหม่ก็พึ่งพาระบบทุกอย่าง นางจึงได้แต่โอนอ่อนกล่าวขออภัยกับระบบ ‘เมื่อครู่นี้ข้าทำไม่ถูก แต่จะปล่อยให้อวี๋ชิงจยาเป็นอิสระอยู่ต่างเมืองไม่ได้ ถึงอย่างไรนางก็คือนางเอก เจ้าไม่กลัวหรือ’

‘การกระทำของท่านโง่เขลาเกินไป ข้ามีวิธีบีบให้พวกเขากลับมา’

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 3 มิ.. 67 

หน้าที่แล้ว1 of 3

Comments

comments

No tags for this post.
Jamsai Editor: