บทที่ 1 จูบของบอส
ของขวัญวันเกิดที่มาลินีอยากได้ที่สุดในทุกๆ ปีคือ…จูบของบอส!
คิดๆ ไปแล้วก็เป็นความเพ้อฝันที่มองไม่เห็นความเป็นไปได้ ขณะที่กัลยาเปลี่ยนแฟนไปแล้วสองคน มาลินีก็อยู่กับความโสดมาแปดปีแล้ว
ส่วนบอสสุดที่เลิฟถึงจะยังคงโสดอย่างเฉิดฉายแต่ก็ควงสาวสวยคนแล้วคนเล่าออกงานสังคมให้เธอช้ำใจเล่นไม่หยุด
วันนี้เป็นวันเกิดของมาลินี เธออยากชวนเขาไปงานเลี้ยงฉลองวันเกิดตอนเย็นด้วยกัน แต่รู้ดีว่าเขาหลีกเลี่ยงที่จะสุงสิงกับลูกน้อง โดยเฉพาะกับสาวๆ เพราะไม่อยากเป็นที่ครหาในทางชู้สาว เขาเลยให้งบมาสองหมื่นหลังจากธิดาเข้าไปแจ้งว่าเย็นนี้จะมีงานเลี้ยงตอนเย็นที่ร้านอาหารเจ้าประจำ
“มะลิควรเข้าไปชวนบอสไหมคะ”
“พี่กลัวจะหมดสนุกกันน่ะสิ”
มาลินียิ้มแหยยามเห็นทีมงานคนอื่นล้วนพากันส่ายหน้าเมื่อได้ยินว่าเธอจะชวนบอสไปด้วย ทว่าความรู้สึกผิดผสมกับความห่วงใยทำให้เธออ้างว่าลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ที่โต๊ะทำงาน ให้พวกเขาลงไปคอยข้างล่าง แล้วรีบย้อนกลับเข้ามาในออฟฟิศ ก่อนจะพบบอสทูนหัวของเธอเดินออกจากห้องทำงานมาเติมกาแฟ
“บอสจะรับกาแฟเหรอคะ เดี๋ยวมะลิทำให้นะคะ”
เธอไม่รอให้เขาตอบก็คว้าถ้วยกาแฟจากมือหนาไปกดเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติให้ โดยมีเจ้านายเดินตามเข้ามาในครัวขนาดเล็กซึ่งอยู่ทางปีกขวาของออฟฟิศ
ไม่รู้ว่าเพราะครัวเล็กเกินไปหรือเป็นเพราะความฟุ้งซ่านของเธอที่กำลังแผลงฤทธิ์กันแน่ เธอจึงรู้สึกว่าแผ่นหลังของตนร้อนวูบวาบเมื่อร่างสูงใหญ่ยืนพิงสะโพกกับขอบตู้พลางจับจ้องเธอไม่วางตา
ยิ่งอยู่ด้วยกันตามลำพังในห้องครัวเล็กๆ แบบนี้ยิ่งทำให้บรรยากาศรอบตัวชวนสยิวกิ้วขึ้นเป็นกอง
“เอ่อ บอสจะรับอาหารเย็นด้วยไหมคะ มะลิจะสั่งไว้ให้”
มาลินีถามทั้งที่ไม่ได้หันกลับไปมอง ทว่ากลับรับรู้ได้ถึงไอร้อนผ่าวที่แผ่ซ่านออกมาจากเรือนกายล่ำสัน ส่งผลให้หัวใจของเธอเต้นตึกตัก ได้แต่เพ่งสมาธิอยู่ที่แก้วกาแฟตรงหน้า
ปกติช่วงเย็นเธอจะมีหน้าที่คอยจัดหาแครกเกอร์หรืออาหารเบาๆ กับกาแฟไปให้เขาที่ห้องทำงานเป็นประจำ เขาไม่ใช่คนทานเก่ง ผิดกับเธอที่ชอบทานเป็นกิจวัตร หากไม่มีคนจัดอะไรให้เขาก็ไม่ทาน มีแค่กาแฟเข้มๆ แก้วเดียวก็อยู่ได้ทั้งคืน
แต่วันนี้เธอจะไม่อยู่จึงอดห่วงไม่ได้ “เห็นธิดาบอกว่าวันนี้วันเกิดเหรอ”
“ค่ะ”
มาลินีหันกลับมายิ้มแก้มปริ ตากลมโตเปล่งประกายระยิบระยับด้วยความหวังริบหรี่ รอคอยคำอวยพรหวานชื่นใจ ทว่าเจตต์ก็คือเจตต์ เขายังคงเป็นเจ้านายทูนหัวที่ทื่อมะลื่อ เย็นชาและไร้หัวใจเช่นเดิม
“ไปสนุกกับทีมงานเถอะ เดี๋ยวผมจัดการเอง”
เขาคว้าแก้วกาแฟออกจากเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติเมื่อมันส่งสัญญาณว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก่อนหันหลังเดินออกจากครัว แต่ความห่วงใยตามประสาหญิงสาวที่แอบหลงรักเจ้านายทำให้มาลินีค้านไล่หลัง
“ให้มะลิโทรสั่งดีกว่าค่ะ บอสจะได้มีเวลาทำงาน เย็นๆ แบบนี้เอาเป็นสลัดผักกับปลาย่างไหมคะ มะลิจะกำชับที่ร้านว่าขอน้ำสลัดบัลซามิก ทานหน่อยนะคะจะได้อิ่มท้อง”
เขาหยุดยืนที่กรอบประตูพลางส่ายศีรษะ “ไม่เป็นไร”
“หรือจะเอาข้าวต้มเครื่องไหมคะ มะลิจะย้ำกับที่ร้านว่าให้เลาะก้างปลาออกให้หมด”
“ไม่ต้องหรอก”
“แต่ว่า…”
เขาย่นคิ้วพลางสาวเท้ากลับเข้ามาในครัวจนมาลินีถอยกรูดจนแผ่นหลังพิงเข้ากับขอบตู้
“ห่วงผมมากเหรอ”
ร่างสูงใหญ่กำยำของเขาบดบังจนผู้หญิงหุ่นอวบอัดอย่างเธอรู้สึกตัวเล็กลงไปถนัดใจ ดวงหน้าหล่อคมสันโน้มลงมาควานหาคำตอบจากดวงตาใสแจ๋ว แต่เพียงครู่เดียวมาลินีก็รีบเบี่ยงหน้าหลบแววตาร้อนแรง
เรายืนนิ่งกันอยู่แบบนั้นโดยไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา เป็นความเงียบงันที่มีเพียงเสียงหัวใจของเธอเต้นกระหน่ำคับอยู่ในทรวงอก ครู่หนึ่งเขาถึงถอยไปพิงสะโพกกับขอบตู้ เว้นระยะระหว่างเราพอสมควรพลางยกแก้วกาแฟขึ้นจิบด้วยท่าทีสบายๆ ตรงข้ามกับมาลินีที่ใจเต้นโครมคราม ในสมองเริ่มจินตนาการถึงฉากเร่าร้อน
…ลำแขนบอบบางคล้องรอบลำคอแกร่ง ดึงดวงหน้าหล่อเหลาลงมาบดจูบ ก่อนที่เขาจะอุ้มเธอขึ้นไปวางพาดบนขอบตู้ แยกเรียวขาของเธอออกเพื่อเปิดทางให้เขาขยับเข้ามา ขณะที่ฝ่ามือหนาได้รูปเลื่อนขึ้นกอบกุมทรวงอกอิ่มซึ่งดุนดันผ่านเสื้อเชิ้ตสีฟ้าของเธอออกมาเรียกร้องความสนใจจากเขา
“เป็นอะไรไป เรียกก็ไม่ตอบ”
มาลินีสะดุ้งเฮือก รีบใช้ฝ่ามือสองข้างประกบหน้าตัวเองดังเพียะให้ตื่นจากฉากพิศวาส ทว่าเขากลับคว้าข้อมือเธอมาบีบไว้ ประกายความไม่พอใจผุดวาบขึ้นในดวงตาคมกริบคู่นั้น
ปลายนิ้วแข็งแรงยกขึ้นไล้เบาๆ ที่พวงแก้มใส ทำเอามาลินีเบิกตาโพลง ไม่รู้จะเก็บความตื่นเต้นระคนวาบหวามนี้อย่างไร
“เจ็บรึเปล่า”
หญิงสาวส่ายหน้าหวือ ถ้อยคำทั้งหลายทั้งปวงไม่อาจล่วงพ้นออกจากริมฝีปากราวกับถูกเขาสะกดไว้ด้วยนัยน์ตาร้อนแรง
แต่เพียงครู่เดียวเขาก็ทิ้งมือลงเหมือนเพิ่งระลึกได้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ แล้วหันไปคว้าแก้วกาแฟก่อนจะรีบจ้ำออกจากครัว ทิ้งให้มาลินีมองตามด้วยรอยยิ้มเบ่งบานอยู่เต็มหัวใจ
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 22 พ.ย. 62
Comments
comments
No tags for this post.