X
    Categories: With Loveทดลองอ่านวายร้ายสายเปย์

ทดลองอ่าน วายร้ายสายเปย์ บทที่ 4

หน้าที่แล้ว1 of 6

บทที่ 4 ยักษ์ปักหลั่น

สงสัยชาติที่แล้วคงทำเวรทำกรรมกับตายักษ์ปักหลั่นไว้เยอะ ชาตินี้เขาถึงยั่วโมโหเธอแต่เช้า แทนที่จะลุกไปช่วยคุณยายหยิบโน่นจับนี่ในครัว หมอนี่กลับนั่งกระดิกเท้าอยู่บนโซฟา ส่งขนมเข้าปาก ดูทีวีสบายใจเฉิบ ไม่รู้สึกรู้สาว่าควรลุกมาทำตัวให้เป็นประโยชน์บ้างเลย

“ทำไมมานั่งตรงนี้”

“แล้วจะให้ผมไปนั่งที่ไหนล่ะ”

“ทำไมไม่ลุกไปช่วยคุณยายทำกับข้าว ที่นี่ไม่ใช่สถานสงเคราะห์นะ อยู่ด้วยกันก็ต้องช่วยกันสิ คุณจะมานั่งกินนอนกินไม่ได้”

คนตัวใหญ่ผุดลุกขึ้นยืนละม้ายจะข่มสาวร่างเล็กที่สูงเพียงต้นแขน ทำเอาสาวปากกล้าขาสั่นแหวใส่เสียงเขียว

“ยืนทำไม!”

“ก็จะใช้งานไม่ใช่รึไง”

เสียงเอะอะดังเข้าไปถึงในครัว ดึงหญิงชราให้ก้าวออกมาเป็นกรรมการ

“มีอะไรกัน ค่อยพูดค่อยจากันนะลูกนะ”

“ก็หมอนี่เอาแต่นั่งกินขนม ไม่ยอมไปช่วยคุณยายนี่คะ”

“ยายให้พี่เขานั่งเอง เนตรอย่าไปว่าพี่เขาเลย”

ชายหนุ่มยักคิ้วให้สาวร่างเล็กละม้ายจะเยาะเย้ยว่าศึกนี้เขาชนะ ทำเอาคนปราชัยหน้าแดงก่ำ

“ถึงยังงั้นก็เถอะค่ะ จะให้มานั่งกินนอนกินในบ้านเฉยๆ ไม่ได้นะคะคุณยาย งานการในบ้านมีให้ทำเยอะแยะ อยู่ฟรีกินฟรีก็ต้องทำงานให้สมกับค่ากินค่าอยู่สิ”

“งก!”

เจ้าบ้านสาวถลึงตาใส่ นัยน์ตาที่เคยหวานซึ้งแปรเปลี่ยนเป็นวาวโรจน์

“ว่าฉันเหรอ”

“พูดลอยๆ อยากรับก็รับไปสิ”

“คุณยายดูสิคะ เขาว่าเนตรนะคะ วันนี้คุณยายต้องไล่หมอนี่ออกจากบ้านเรานะคะ”

“แล้วจะให้พี่เขาไปอยู่ที่ไหนล่ะลูก ยังบาดเจ็บอยู่แท้ๆ”

“ไม่ใช่เรื่องที่เนตรต้องสนใจนี่คะ”

“แต่ยายสนใจ”

“คุณยาย!”

“ไหนๆ จะช่วยคนแล้วก็ช่วยให้ถึงที่สุดสิลูก ช่วยคนได้บุญใหญ่ ชีวิตเนตรจะได้ราบรื่น ไม่สะดุดไงลูก”

เนตรอัปสรกลอกตามองบน เธอไม่เชื่อเรื่องบุญทำกรรมแต่ง ทำดีได้ดีมีที่ไหน ไม่งั้นคนเลวจะร่ำรวยชูคออยู่ในสังคมเหรอ แต่พอเธอค้านทีไรก็โดนคุณยายเอ็ดทุกที เลยไม่อยากเถียงด้วย

“ยายทำข้าวต้มเสร็จแล้ว เนตรกินก่อนไปทำงานนะลูก ส่วนเรื่องงานบ้าน เดี๋ยวสักสายๆ ยายให้พ่อหนุ่มเขาช่วยเอง”

“ค่ะคุณยาย”

หญิงสาวรับปากเสียงอ่อย แต่ไม่วายยกสองนิ้วชี้มาที่ตาตนเองก่อนหันไปทางคนแปลกหน้าละม้ายบอกเป็นนัยว่าเธอจับตาดูเขาอยู่

ทว่าคนมั่นหน้ากลับไม่รู้สึกรู้สา นั่งแปะลงตรงข้ามหญิงสาวพลางหยิบช้อนขึ้นมารอข้าวต้มเครื่องที่หญิงชรากำลังตักให้

“ยายทำข้าวต้มหมูสับ พ่อหนุ่มกินขึ้นฉ่ายได้ใช่ไหมลูก”

“ได้ครับคุณยาย หอมมากเลยครับ”

“คุณยายไม่เห็นถามเนตรเลย”

เด็กขี้น้อยใจประท้วง ทำเอาผู้เป็นยายอดยิ้มอย่างอ่อนใจไม่ได้

“ยายรู้อยู่แล้วว่าเนตรชอบกินกุ้งแห้ง ชามของเนตรก็เลยโรยกุ้งแห้งให้ด้วยไงลูก”

“คุณยายรู้ใจเนตรที่สุดเลยค่ะ”

เนตรอัปสรยิ้มชื่นมื่นก่อนยักคิ้วใส่ตายักษ์ปักหลั่น ก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มอย่างมีความสุข ขณะที่ชายแปลกหน้ากลับมองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มมุมปาก

เด็กหนอเด็ก!

เขามัวมองสาวหน้าหวานเพลินจึงเผลอเติมพริกไทยเยอะไปหน่อย พอกินไปได้ไม่กี่คำก็ต้องรีบวางช้อน ดื่มน้ำตามเข้าไปหลายอึก

“เผ็ดเหรอลูก เหงื่อท่วมเลย”

“ครับคุณยาย”

“สม!”

“ยายเนตร”

เสียงปรามอย่างอ่อนใจของคุณยายทำให้หลานสาวถลึงตาใส่คนแปลกหน้า

“อย่าไปว่าเนตรเลยครับคุณยาย เขาไม่ได้ตั้งใจว่าผมหรอกครับ”

ทำมาบีบเสียงอ่อนเสียงหวานอ้อนคุณยาย เนตรอัปสรเห็นแล้วคันไม้คันมือ อยากลับเล็บใส่คนบวมๆ นักเชียว

“อย่ามาอ้อนคุณยายฉันนะ คุณยายอย่าไปเชื่อหมอนี่นะคะ”

“เรียกหมอนั่นหมอนี่อยู่ได้ ยายว่าหาชื่อให้พ่อหนุ่มดีไหมลูก”

“อยู่แค่ไม่กี่วันก็ไปแล้ว จะเสียเวลาตั้งชื่อทำไมคะคุณยาย”

“ไม่กี่วันอะไรกันลูก เจ็บขนาดนี้ ยายว่าสองสามอาทิตย์กว่าจะเดินเหินคล่อง”

“นานขนาดนั้นไม่ย้ายชื่อเข้ามาในสำมะโนครัวเลยล่ะคะ”

“อย่ามาประชดยายนะเนตร”

ลองเจอคุณยายปรามเสียงแข็ง หลานสาวถึงกับหน้าหมอง ตัดพ้อเสียงสั่น

“คุณยายไม่รักเนตรแล้ว”

“งอนเป็นเด็กเล็กๆ ไปได้นะลูก พี่เขาเดือดร้อนมาขอพึ่ง อะไรช่วยได้ก็ช่วยกันเถอะ” หลานสาวเม้มปาก อยากเถียงกลับใจจะขาด แต่ไม่อยากถูกคุณยายดุเลยต้องเงียบไว้ “ยายเรียกพ่อหนุ่มว่ายักษ์ดีไหมลูก”

เห็นหมอนี่ชักสีหน้า เนตรอัปสรเลยเดาว่าเขาน่าจะไม่ชอบชื่อนี้แหงเลย

“ดีสิคะคุณยาย เรียกง่ายด้วย ตกลงนะตายักษ์”

“ก็ดีครับคุณยาย ตายักษ์กับยายแคระ คล้องจองกันดี”

“ใครยายแคระ พูดให้มันดีๆ นะ”

“ผมยังยอมให้คุณเรียกว่าตายักษ์เลย ทำไมคุณจะชื่อยายแคระไม่ได้”

“เพราะว่าฉันมีชื่อ แล้วก็เพราะด้วย เรียกให้มันถูกๆ”

“ครับคุณเนตร…อัป…สร…”

ฟังเขาลากเสียงยานคางก็รู้ว่าอีกฝ่ายจงใจกวนประสาท ไม่ได้เคารพหรือเกรงอกเกรงใจตนสักนิด แต่ขืนต่อปากต่อคำวันนี้คงไม่ได้ไปทำงาน จึงเลิกสนใจแล้วหันไปยิ้มหวานให้ผู้เป็นยาย

“เนตรไปทำงานก่อนนะคะคุณยาย เดี๋ยวจะสาย”

“เดี๋ยวสิคุณ ทำแผลให้หน่อย”

“ทำไมฉันต้องทำด้วย”

“ก็ผมทำเองไม่ถนัด เมื่อวานผมพันเองก็เละเทะไปหมด”

หญิงสาวขบฟันกรอด ไม่รู้เป็นเวรเป็นกรรมอะไรของเธอถึงต้องมาคอยประคบประหงมดูแล ‘ภาระ’ มันใช่เรื่องของเธอรึไง

“ผมป่วยอยู่นะคุณ ขยับนิดหน่อยก็เจ็บแล้ว”

จะว่าไปผ้าพันแผลของเขาก็พันกันยุ่งเหยิงจริงๆ นั่นแหละ ถ้าไม่ดูแลรักษาให้ดี เกิดแผลติดเชื้อขึ้นมาเธอคงต้องหามหมอนี่ไปหาหมอ เสียเงินเสียทองอีก

“ไปนั่งที่โซฟาสิ เดี๋ยวทำแผลให้”

เนตรอัปสรลุกไปหยิบอุปกรณ์มาทำแผล แต่แทนที่เขาจะนั่งเฉยๆ กลับเอนหลังจ้องเธอไม่วางตา ทำเอาดวงหน้าหวานร้อนวูบ มือบางที่กำลังม้วนผ้าก๊อซให้กระตุกแน่นขึ้นจนชายหนุ่มสูดปาก

“เจ็บนะคุณ”

“นั่งนิ่งๆ แล้วก็หลับตาด้วย”

“หลับตาก็ไม่เห็นสิว่าคุณรังแกผมยังไง”

“งั้นก็พันเอง”

“ก็ได้ๆ สวยซะเปล่า ดุจริง”

“บ่นอะไร”

“ผมชมต่างหาก หูหาเรื่องนะเราน่ะ”

เจ้าบ้านสาวถลึงตาใส่พลางก้มหน้าก้มตาพันผ้าให้เรียบร้อยก่อนกำชับกำชา

“เสร็จแล้ว ทำตัวดีๆ ช่วยคุณยายทำงานบ้านด้วย เข้าใจไหม”

ทว่าชายหนุ่มกลับยกมือข้างที่ไม่ได้พันแผลขึ้นลูบคางไปมา

“ผมว่าหนวดเริ่มขึ้นแล้วนะ คุณโกนให้หน่อยสิ”

“มันจะมากไปแล้ว ฉันไม่ใช่คนรับใช้ของคุณนะ”

อารามหมั่นไส้ทำให้หญิงสาวคิดหาช่องทางเขี่ยหมอนี่ไปให้พ้นจากบ้านโดยเร็ว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นยามกวาดมองเสื้อยืดแถมฟรีตัวหลวมกับกางเกงเลห้าส่วนที่ให้เขายืมเมื่อคืน

“ถามจริง อยากกลับบ้านรึเปล่า”

“อยากสิ ถามแปลกๆ”

“งั้นไปเปลี่ยนชุดสูทหน่อยสิ”

“ร้อนจะตายชัก เห็นเทอร์โมมิเตอร์บนผนังโน่นไหม สามสิบเจ็ดองศานะคุณ”

“ฉันไม่ได้จะให้ใส่สูทอยู่บ้าน แค่ให้เปลี่ยนแป๊บนึง เสร็จธุระแล้วก็เปลี่ยนกลับ”

เขาเบะปากจำใจลุกขึ้นยืนพลางกวักมือ

“อะไรของคุณ”

“ช่วยเปลี่ยนหน่อย ผมเดี้ยงอยู่ ใส่เสื้อไม่ถนัด”

“ทะลึ่ง! ทีเสื้อยืดกับกางเกงเลยังใส่ได้เลย”

“มันใส่ยากกว่ากันตั้งเยอะ เสื้อเชิ้ตแขนก็ยาว กระดุมตั้งกี่เม็ด ไหนจะกางเกงอีก มีทั้งซิปทั้งตะขอ ยุ่งยากจะตาย”

“พอๆ ไม่ต้องบอกละเอียดขนาดนั้น”

“ผมกลัวคุณไม่เห็นภาพความยากลำบากของผมน่ะสิ”

“งั้นไม่ต้องเปลี่ยนกางเกง แค่ใส่เสื้อเชิ้ตกับสูทก็พอ”

แต่แทนที่หมอนี่จะเดินไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ กลับถอดเสื้อยืดตัวหลวมโพรกทิ้งต่อหน้า อวดบ่ากว้างและกล้ามเนื้อลอนสวยเหมือนนักกีฬาว่ายน้ำ ทำเอาเธอต้องรีบเสมองทางอื่น

“ใส่เสื้อให้หน่อยสิคุณ”

“มีมือก็ใส่เองสิ”

“ไม่ถนัด”

เนตรอัปสรเห็นความทุลักทุเลของอีกฝ่ายที่พยายามเอาแขนเข้าไปในเสื้อเชิ้ตแขนยาวแล้วก็ต้องลุกเข้าไปช่วยสวมเสื้อให้ก่อนติดกระดุมให้เรียบร้อย แต่ความช่วยเหลือดังกล่าวทำให้เธอต้องยืนชิดเขามาก…มากเกินไปจนได้กลิ่นกายของบุรุษเพศ สัญญาณอันตรายสั่งให้เธอถอยหนี แต่ช้าไปเมื่อจู่ๆ เขาก็วางลูกคางเหนือศีรษะเธอ ความใกล้ชิดนั้นทำให้ทั้งสองเหมือนคู่รักมากกว่าคนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักกันไม่กี่วัน

“ตายักษ์!”

“หืม ยายแคระ เราชื่อคล้องกันดีเนอะคุณ”

“คล้องกะผีน่ะสิ”

คนถูกแกล้งยกมือทุบอกอีกฝ่ายหนึ่งที รีบขยับตัวถอยออกมา อดคิดไม่ได้ว่าหากเขาไม่เดี้ยงแบบนี้เธอคงถูกโจรหื่นรวบเข้าไปกอดแนบอกกว้างแล้วรังแกเธออย่างเอาแต่ใจไปแล้ว

“ไปยืนตรงผนังโน่น”

“ยังไม่ได้ใส่สูทเลย”

“ไม่ต้องแล้ว เสื้อเชิ้ตตัวเดียวพอ”

เขาก้าวไปยืนแผ่นหลังชิดผนังพลางรับกระดาษเอสี่ระบุข้อความว่า ‘คนหาย’ ที่หญิงสาวยื่นมาให้เขาถือไว้

“อะไรน่ะคุณ”

“ยืนนิ่งๆ สิ”

ชายหนุ่มย่นคิ้วเมื่อเห็นหญิงสาวหยิบมือถือขึ้นมากดถ่ายรูป แต่เพราะเขารีบยกมือขึ้นมาจะบังหน้า รูปถ่ายจึงไม่ชัดมาก

“ทำอะไรน่ะ”

“ประกาศคนหายไงล่ะ ฉันจะโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ไม่แน่นักสืบโซเชียลอาจช่วยตามหาครอบครัวให้คุณก็ได้”

“แล้วถ้าคนร้ายเจอผมก่อนล่ะ อย่าลืมสิว่าผมถูกซ้อมนะคุณ เผลอๆ พวกมันอาจคิดว่าผมตายไปแล้ว แต่พอเห็นรูปผมก็เลยตามมาฆ่า”

“ยักษ์พูดมาก็มีเหตุผลนะเนตร”

คุณยายเข้ามาสมทบ สีหน้าเคร่งเครียด

“แล้วไม่งั้นจะตามหาครอบครัวเขายังไงล่ะคะคุณยาย รอให้เขาจำได้ ไม่ต้องรอไปจนแก่เหรอคะ”

“ยายว่าอีกไม่นานยักษ์คงเริ่มจำได้”

“แต่เนตรใจร้อนนี่คะคุณยาย ลงให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยดีกว่า”

“แล้วถ้าผมไม่รอดล่ะ”

“คุณก็ซวย โดนคนร้ายฆ่าหมกป่าหรือไม่ก็เผานั่งยางไงล่ะ”

“คุณยายดูเนตรพูดสิครับ ไม่สงสารผมบ้างเลย”

ยักษ์ร่างใหญ่หันไปอ้อนคุณยาย ทำเอาผู้เป็นหลานขึงตาใส่ ยิ่งได้ยินหญิงชราเข้าข้าง หลานสาวหน้าหวานยิ่งเดือดปุด

“เรื่องนี้ยายว่าใจเย็นๆ ดีไหมเนตร ยักษ์พูดมาก็น่าคิดนะลูก”

“ใช่ครับ ถ้าคนร้ายตามหาผม คุณคิดว่าคุณกับคุณยายจะไม่เจอลูกหลงเหรอ”

“งั้นก็ยิ่งให้เขาอยู่บ้านนี้ไม่ได้ใหญ่ค่ะคุณยาย ไปอยู่วัดไหมล่ะ ฉันจะลองไปคุยกับหลวงตาให้”

“เอาความเดือดร้อนไปให้พระ บาปกรรม”

“แล้วทำไมฉันต้องแบกความซวยไว้เองด้วยล่ะ”

“ผมอาจจะเป็นตัวนำโชคของคุณก็ได้ หน้าตาผิวพรรณผุดผ่อง ผู้ดีทุกกระเบียดนิ้วขนาดนี้ต้องเป็นลูกคนมีเงิน มีอำนาจล้นฟ้า เนรมิตอะไรให้คุณก็ได้ รับรองว่าผมจะใช้เงินคืนคุณสิบเท่ายี่สิบเท่าเลย”

เธอไม่ได้งกหรอกนะ แต่คนเราทำอะไรก็ต้องหวังผลนิดหน่อยไม่ใช่เหรอ เงินแต่ละบาทหาง่ายเสียที่ไหน กว่าเธอจะขายกระเป๋าได้สักใบต้องปากเปียกปากแฉะ ยกมือไหว้ปลกๆ แต่ขืนยอมรับโต้งๆ หมอนี่ต้องหาว่าเธองกแน่

“คิดว่าเงินแค่นี้ซื้อฉันได้รึไง”

“ได้!”

“เอ๊ะ!”

“ล้อเล่นน่า ขอผมอยู่ด้วยพักหนึ่งนะคุณ อย่าเพิ่งไล่เลย”

“จริงด้วยลูก ยักษ์หนีร้อนมาพึ่งเย็น จะรีบไล่เขาไปไหน เรื่องรูปนี่ก็เก็บไว้ก่อน ไม่แน่อีกสักวันสองวันยักษ์อาจจะจำได้ก็ได้นะลูก”

คุณยายถึงกับออกปากขอร้องแทน หลานสาวจะกล้าขัดได้อย่างไร

“เห็นแก่คุณยายหรอกนะ แต่ถ้าคุณยังพูดไม่เข้าหู ทำตัวน่าสงสัยล่ะก็ รับรอง…โลกรู้แน่!”

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 9 .. 64 เวลา 12.00 .

หน้าที่แล้ว1 of 6

Comments

comments

No tags for this post.
Jamsai Editor: