ทดลองอ่าน เรื่อง ฉันชอบแฟนนายมานานแล้ว
ผู้เขียน : 酱子贝 (Jiang Zi Bei)
แปลโดย : qMondae
ผลงานเรื่อง : 我喜欢你男朋友很久了 (Wo Xi Huan Ni Nan Peng You Hen jiu Le)
ถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์เอเวอร์วายในการเผยแพร่ผลงาน
จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว
หากผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
– – – – – – – – – – – – – – – – –
** หมายเหตุ: ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **
– – – – – – – – – – – – – – – – –
บทที่ 07
ใกล้จะถึงเวลาเลิกคาบแล้ว เผยหรานปิดหนังสือเรียน ล้วงหน้ากากอนามัยออกจากกระเป๋า
“จะออกก่อนอีกแล้วเหรอ” รูมเมตถามเขา
เผยหรานพยักหน้า
รูมเมตเอ่ย “นายออกก่อนเลิกหลายวันแล้วนะ ถ้าไม่รู้คงนึกว่ามีคนมาดักรอนายหลังเลิก…”
เผยหรานยกยิ้มทว่าไม่เอ่ยอะไร รอจังหวะที่อาจารย์หันหน้าไปแล้วกอดกระเป๋าลอบออกไปทางประตูหลังห้อง
กระทั่งเดินออกห่างจากอาคารเรียนมาระยะหนึ่งแล้ว เผยหรานถึงผ่อนคลายลงได้
เขาพ่นลมหายใจ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เห็นข้อความเข้าหลายข้อความจริงๆ อย่างที่คิดไว้ ทั้งหมดนั้นล้วนส่งมาจากหลัวชิงซาน
เผยหรานเลื่อนอ่านประวัติการสนทนาช่วงหลายวันมานี้ของพวกเขาอย่างรวดเร็ว ขณะเหม่อลอยก็รู้สึกเหมือนกลับไปสมัยมัธยมปลายอีกครั้ง
หลัวชิงซาน เผยหราน ไปกินข้าวด้วยกันไหม
เผยหราน ไม่ล่ะ ฉันสั่งข้าวไว้แล้ว
หลัวชิงซาน โอเค นายสั่งร้านไหน ฉันจะสั่งแบบเดียวกับนาย
หลัวชิงซาน [ผู้ใช้ได้โทรวิดีโอ ไม่ได้รับสาย]
หลัวชิงซาน ที่รัก คิดถึงแล้ว
หลัวชิงซาน วันนี้ทั้งวันฟังอาจารย์สอนไม่รู้เรื่องเลย
หลัวชิงซาน ฉันลบซูเนี่ยนแล้ว นายมาค้นได้เลยทุกเวลา
หลัวชิงซาน กินมื้อเย็นด้วยกันไหม ฉันจะไปหานายที่ห้องเรียน
ตอนมัธยมปลาย หลัวชิงซานก็จีบเผยหรานแบบนี้เช่นกัน เขาขออาจารย์ย้ายที่มานั่งข้างเผยหราน ย้ายหอไปนอนเตียงข้างบนเผยหราน แม้แต่มื้อเที่ยงก็ยังต้องเกาะติดเผยหรานตลอด…อะไรทำนองนี้ จะไล่ยังไงก็ไล่ไม่ไป
เผยหรานปิดแชตพร้อมถือโอกาสนี้ยกเลิกการปักหมุดไว้ด้านบนสุดที่หลัวชิงซานเป็นคนเอาโทรศัพท์เขาไปตั้งค่าไว้
ตกดึก เมื่อหลัวชิงซานผลักประตูหอเข้าไป เหยียนจุ่นกำลังดูถ่ายทอดสดการแข่ง PUBG ระดับโลกอยู่
เขาสวมหูฟังแค่ฝั่งเดียว นั่งอ้าขาสองข้างอย่างสบายใจเฉิบ ดูใจลอยเล็กน้อย เสียงเปิดประตูไม่มีผลอะไรต่อเขาเลยสักนิด
เสียงตุบดังขึ้น หลัวชิงซานวางเบียร์กระป๋องแพ็กหนึ่งลงบนโต๊ะของเขาแล้วถามเหยียนจุ่น “ดื่มด้วยกันมั้ย”
กระป๋องเบียร์มีไอน้ำเกาะชื้นแฉะ ดูเหมือนเพิ่งออกมาจากตู้เย็นไม่นาน เหยียนจุ่นมองโต๊ะที่เปียกน้ำ ขมวดคิ้วเบาๆ หนึ่งที จากนั้นส่ายหน้า “ไม่ล่ะ”
ด้วยเหตุนี้หลัวชิงซานจึงได้แต่ซื้อเบียร์มอมตัวเองตามลำพัง
ดื่มได้ครึ่งทาง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหมายจะเรียกคนคนหนึ่งมาอยู่เป็นเพื่อนโดยไม่รู้ตัว พอโทรออกไปแล้วถึงรู้ตัวว่ามันไม่ถูกต้องจึงรีบตัดสายทิ้งทันที
กลางดึกในเวลาตีสอง เหยียนจุ่นถูกปลุกด้วยเสียงของรูมเมต
เขายกเปลือกตาขึ้นช้าๆ ในดวงตาดำขลับมีทั้งความง่วงและความหงุดหงิด
หลัวชิงซานเอ่ย “เผยหราน นายจะใจร้ายกับฉันแบบนี้จริงๆ เหรอ…”
เหยียนจุ่นตื่นเต็มตาทันที
ห้องนอนปิดไฟไปตั้งนานแล้ว หน้าจอโทรศัพท์ของหลัวชิงซานกลายเป็นแหล่งกำเนิดแสงเดียวที่มี
หลัวชิงซานพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าซึม “สามปี…เราคบกันมาสามปี นายต้องยอมทนรับความผิดของฉันสิ เผยหราน”
หลัวชิงซานพึมพำกับตัวเองคนเดียวหลายนาที เหยียนจุ่นฟังจนชักรำคาญ หยิบจุกอุดหูใต้หมอนขึ้นมาหมายจะอุดหูไว้ แต่แล้วก็ได้ยินเสียงซ่าๆ สองหน
“…หลัวชิงซาน ดึกมากแล้ว”
ไม่นึกว่าหลัวชิงซานจะเปิดลำโพงอยู่ด้วย
เสียงของเผยหรานแหบพร่าแฝงความเหนื่อยล้าไว้อย่างเด่นชัด “มีเรื่องอะไรพรุ่งนี้ค่อยว่ากันโอเคมั้ย”
“ถ้ารอพรุ่งนี้นายก็ไม่สนใจฉันแล้ว” หลัวชิงซานกล่าว
เผยหรานขยุ้มผม ตื่นเต็มตาในที่สุด
หลัวชิงซานพูดไม่ปะติดปะต่อกันทั้งยังพูดติดอ่างนิดๆ ด้วย คงเมาอีกแล้ว
เผยหรานรู้สึกคอแห้ง เขาดื่มน้ำอึกหนึ่งก่อนพูดต่อ “หลัวชิงซาน ที่ฉันเลิกกับนาย…ไม่ได้เป็นเพราะเรื่องนี้ทั้งหมด”
ปลายสายเงียบกริบ ไม่ตอบคำ
เผยหรานเอ่ยต่อ “ตอนนั้นพวกเราคุยกันแล้วว่าจะลองดู”
ในตอนนั้นหลัวชิงซานนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ผ้าพันแผลพันเต็มมือและแขน ทั้งคู่เพิ่งอายุสิบเจ็ดสิบแปด ต่างคนต่างก็ทนความเจ็บปวดไม่ได้
หลัวชิงซานเจ็บจนนิ่วหน้าเหยเกแต่ก็ยังหัวเราะร่าเย้าแหย่เขา ถามว่าเขาซาบซึ้งใจหรือเปล่า ให้เขามอบหัวใจให้ด้วยได้ไหม
เผยหรานนิ่งเงียบเนิ่นนาน จากนั้นกล่าวออกมา ‘งั้นเรามาลองดูก็ได้ หลัวชิงซาน’
เผยหรานใช้เวลาสามปี ถึงได้เข้าใจแล้วว่าการคบกันไปเดี๋ยวก็รักเองไม่ได้เกิดกับคนทุกคน
อย่างน้อยก็ในตอนนี้ ความรู้สึกของเขาที่มีต่อหลัวชิงซานก็ยังไม่ได้ยิ่งใหญ่ถึงขั้นสามารถให้อภัยทุกอย่างได้
หลัวชิงซานยังคงเงียบ เผยหรานหลุบตาลง “ขอโทษ…”
“เขาหลับแล้ว” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากปลายสาย
เผยหรานชะงัก “อ่า”
เหยียนจุ่นโยนกระป๋องเบียร์เปล่าๆ บนโต๊ะลงถังขยะ “เขาดื่มไปนิดหน่อย ตอนนี้หลับแล้ว ฉันเหยียนจุ่น”
“…”
หมายความว่าที่เขาพูดเมื่อกี้ และคำพูดที่หลัวชิงซานพูดกับเขาเมื่อกี้ เหยียนจุ่นก็ได้ยินหมดเลยงั้นเหรอ
ความกระอักกระอ่วนอันน่าประหลาดแผ่ขยายขึ้นมาจากปลายเท้า เผยหรานกลืนน้ำลาย ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงเอ่ยว่า “เสียงดังรบกวนนายเหรอ”
“เปล่า” เหยียนจุ่นเอ่ยหน้าไม่เปลี่ยนสี “ฉันโต้รุ่ง”
เผยหรานร้อง “อ๋อ” เสียงเบาหวิว
จากนั้นก็ตกสู่ความเงียบงันเป็นเวลาสั้นๆ
“นอนเถอะ” เหยียนจุ่นพูดขึ้น “ครั้งหน้านอนแล้วก็อย่าลืมเปิดโหมดเงียบไว้”
“…โอเค”
หนึ่งวินาทีก่อนเผยหรานจะวางสาย เหยียนจุ่นรีบเอ่ยทิ้งท้าย “ฝันดี”
หลังจากวางสายคอลล์วีแชต เหยียนจุ่นหลุบตาลงก็เห็นรายการแชตโดยไม่ได้ตั้งใจ
แชตแรกคือเผยหราน แชตที่สองคือซูเนี่ยน
ซูเนี่ยน โทรหาฉันเหรอ สะดวกหรือเปล่า ฉันโทรกลับ…
เขามองไม่เห็นข้อความต่อจากนั้นแล้ว
เหยียนจุ่นฉุกนึกถึงคำพูดงึมงำของหลัวชิงซานเมื่อกี้ขึ้นได้ มีประโยคหนึ่งที่พูดว่า ‘ฉันบล็อกเขาแล้ว นายจะให้ฉันทำยังไงอีก’
ทันใดนั้นหลัวชิงซานที่นอนหน้าฟุบโต๊ะพลันพลิกหัวไปอีกฝั่ง ปากส่งเสียงเรียกงึมงำ “ที่รัก…”
เหยียนจุ่นคว้าเสื้อโค้ตสักตัวของหลัวชิงซานมาคลุมให้เขา “อย่าเรียกไปทั่ว”
หลัวชิงซานยังคงหลับตาพึมพำออกมาโดยไม่รู้ตัว “หา?”
“พวกนายเลิกกันแล้ว” เหยียนจุ่นหมดความอดทนอย่างที่ไม่ค่อยเป็นนัก เอ่ยเตือนเขา “เขาไม่ใช่ที่รักของนาย”
อีกด้านหนึ่งเผยหรานนั่งอยู่บนเตียง จ้องหน้าจอโทรศัพท์แน่นิ่ง
เขาตัดสายไวเกินไปหรือเปล่า ดูเหมือนเหยียนจุ่นจะยังพูดไม่จบ
พอเจอเรื่องวุ่นวายพวกนี้เผยหรานก็หายง่วงไปตั้งนานแล้ว โชคดีที่สองสามวันนี้รูมเมตของเขาออกไปอยู่ข้างนอกหมด ในหอมีแค่เขาคนเดียว ไม่อย่างนั้นพอรับสายแล้วคงต้องวิ่งออกไปคุยที่ระเบียง
เขานั่งหน้าคอมพิวเตอร์ มองภาพร่างที่ยังไม่เสร็จและลังเลว่าควรจะวาดให้เสร็จเลยดีไหม
สุดท้ายความขี้เกียจก็สยบทุกอย่าง เผยหรานหยิบโทรศัพท์ปีนกลับขึ้นไปบนเตียง
เผยหรานนอนตะแคงเล่นโทรศัพท์ เลื่อนหน้าจอไปเรื่อยเปื่อย แล้วก็เลื่อนเจอโมเมนต์ที่เพิ่งโพสต์เมื่อหนึ่งนาทีก่อน
‘เหยียนจุ่น รับจ้างเป็นเพื่อนเล่นเกม เล่นได้ทุกเกม พร้อมออนทุกเวลา’
เผยหรานแตะเข้าไปในโมเมนต์ของเหยียนจุ่น แต่กลับพบว่าเนื้อหาของโพสต์นี้ถูกลบไปในเสี้ยววินาที
พูดให้ถูกคือเหยียนจุ่นลบแล้วโพสต์ใหม่อีกรอบ…
‘เหยียนจุ่น รับจ้างเป็นเพื่อนเล่นเกม เล่นได้ทุกเกม พร้อมออนทุกเวลา อ้อนเป็น ทำเป็นทุกอย่าง เจ้านายคนไหนต้องการทักแชตส่วนตัวได้เลย จะไม่มีเงินกินข้าวแล้ว [ลิงก์เว็บไซต์]’
เผยหรานใช้เวลาสิบนาทีไถหน้าฟีดโมเมนต์ของวันนี้จนหมด สุดท้ายก็อดจิ้มเข้าไปในลิงก์นั้นไม่ได้
มันเป็นเว็บหาเพื่อนเล่นที่ได้มาตรฐาน ไอดีของเหยียนจุ่นเหมือนจะเป็นไอดีใหม่ จำนวนงานที่รับเป็นศูนย์ ชั่วโมงละยี่สิบไคว่* เป็นราคาต่ำที่สุดของเว็บไซต์
เผยหรานอ่านซ้ำไปซ้ำมาสองสามครั้ง สุดท้ายก็กดออเดอร์ไปสิบชั่วโมง จ่ายเงินเสร็จก็กดปิดหน้าเว็บทันที
เขากำลังเตรียมเปิดโหมดเงียบแล้วเข้านอน แต่ข้อความก็เด้งขึ้นมาก่อน
เหยียนจุ่น เจ้านาย
เหยียนจุ่น จะเล่นเมื่อไหร่
เผยหรานเบิกตากว้าง ใช้เวลาตอบสนองหลายวินาทีกว่าจะพิมพ์ตัวอักษรส่งไป
เผยหราน นายพูดถึงอะไร
เหยียนจุ่น นายออเดอร์ให้ฉันเล่นเป็นเพื่อน สิบชั่วโมง
เผยหราน …นายรู้ได้ไงว่าเป็นฉัน
เหยียนจุ่น โพรไฟล์เป็นรูปเดียวกับวีแชตนาย
เผยหรานกุมขมับ เขาลืมเรื่องนี้ไปเลย
งั้นปัญหาก็เกิดแล้ว ถ้าหากสารภาพไปตามตรงว่าเขาแค่อยากสนับสนุนค่าข้าวเล็กๆ น้อยๆ ให้เหยียนจุ่น จะเป็นการไม่เคารพงานเขาหรือเปล่า
เหยียนจุ่น ?
เผยหราน อ่า วันนี้ดึกมากแล้ว เอาไว้ก่อนแล้วกันนะ
เหยียนจุ่น งั้นพรุ่งนี้?
เผยหราน ช่วงนี้…ต้องทำพาร์ตไทม์
เหยียนจุ่น อาทิตย์หน้ามอหยุดเจ็ดวัน เอาไว้ตอนนั้นฉันเล่นเป็นเพื่อนนายแล้วกัน
เหยียนจุ่น ติดค้างแล้วไม่ค่อยสบายใจ
พูดมาถึงขนาดนี้แล้ว
เผยหราน โอเค
เผยหราน เมื่อกี้ฉันตัดสายเร็วไปหน่อย ไม่ทันฟังที่นายพูดตอนสุดท้าย ขอโทษด้วย
เหยียนจุ่น ไม่เป็นไร ไม่ได้พูดอะไร
เผยหราน โอเค จริงสิ รบกวนนายรินน้ำวางไว้ข้างหลัวชิงซานสักแก้วได้ไหม
เหยียนจุ่น ตอนนี้นายเป็นเจ้านายของฉัน
เผยหราน ?
เหยียนจุ่น นายจะให้ฉันจับเขาแหกปากแล้วกรอกน้ำให้ก็ยังได้
เผยหราน …
บทที่ 08
เรื่องที่พวกเขาเลิกกันผ่านไปได้ระยะหนึ่งแล้วคนรอบข้างถึงรู้เรื่อง
เผยหรานไม่ได้เป็นคนพูดออกไป เขาไม่ชอบพูดเรื่องความสัมพันธ์ของตัวเองกับใครมาแต่ไหนแต่ไร
และยิ่งไม่ใช่หลัวชิงซาน เพราะในสายตาของเจ้าตัว นี่เป็นเพียงหลุมอุปสรรคหลุมหนึ่งในความสัมพันธ์ของพวกเขาเท่านั้น ไม่ใช่ว่าจะข้ามไปไม่ได้
วันนี้เผยหรานเจอหลินคังระหว่างเดินอยู่ในมหาวิทยาลัย
“ช่วงนี้กินข้าวกับหลัวชิงซานไม่เห็นพานายมาด้วย รู้เลยว่ามีปัญหาแหงๆ พวกเราดูออกกันตั้งนานแล้ว” หลินคังกล่าว “เมื่อคืนมีคนพูดล้อ แค่อยากจะหยอกเฉยๆ แต่หลัวชิงซานได้ยินแล้วเลือดขึ้นหน้าเลย ถ้าไม่ห้ามไว้ก็คงทะเลาะกันแล้วล่ะ”
เผยหรานไม่รู้ว่าควรจะทำหน้ายังไง จึงตอบเสียงอ้อมแอ้มไปประโยค “งั้นเหรอ…”
หลินคังมองเขาอย่างแปลกใจ “ว่าแต่ทำไมพวกนายสองคนถึงเลิกกันล่ะ”
เผยหรานคิดข้ออ้างไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว “เข้ากันไม่ได้”
“คบกันมาสามปีแล้ว ตอนนี้เพิ่งมาบอกว่าเข้ากันไม่ได้?” หลินคังหัวเราะ “ได้ ไม่อยากพูดฉันก็ไม่ถามแล้ว จริงสิ ตอนเย็นนายกลับบ้านยังไง ไปขึ้นรถด้วยกันมั้ย”
ตั้งแต่พรุ่งนี้มหาวิทยาลัยก็จะหยุดยาวเจ็ดวัน หลินคังและเผยหรานบ้านอยู่ใกล้กัน นั่งรถบัสไปลงที่เดียวกันได้
“คนที่บ้านมารับ” เผยหรานเอ่ย “ให้แวะไปส่งนายด้วยมั้ยล่ะ”
หลินคังได้รับสิ่งที่ต้องการโดยไม่คาดฝัน รถบัสขับส่ายเกินไป เขานั่งแต่ละทีก็อยากอ้วกทุกครั้ง “เราจะออกเดินทางกี่โมง ฉันจะออกมาตามเวลานัดแน่นอน…ฉันออกมาก่อนเวลาเลิกเรียนแล้วกัน เหมือนว่าฉันจะเลิกช้ากว่านายสิบนาที”
“ออกมาเวลาปกตินั่นแหละ ไม่เป็นไร ไม่ต้องรีบหรอก ฉันรอได้”
หลินคังเอ่ยขอบคุณแล้วก็รู้สึกเหมือนโทรศัพท์ในกระเป๋ากำลังสั่นครืดๆ เขาหยิบขึ้นมาดูทันที พบว่าในแชตกลุ่มกำลังเอะอะกันอยู่ เอาแต่แท็กหาเขาตลอด
“เจ้าบ้าพวกนี้ วันหยุดไม่กลับบ้านกลับช่องแล้วยังจับกลุ่มกันหานู่นนี่ทำอีก” หลินคังพึมพำ “วันๆ ไม่มีอะไรทำ ซูเนี่ยนบอกว่าจะไปเที่ยวอีก วันหยุดก็มีอยู่แค่เจ็ดวันจะไปพออะไร…นายจะไปหรือเปล่า”
เผยหรานมองเขาอย่างงุนงง “ไปไหน”
“ไปเที่ยวไง นายไม่ได้อ่านในกลุ่มเหรอ”
เผยหรานกล่าว “ฉันไม่ได้อยู่ในกลุ่ม”
หลินคังชะงักก่อนกดเข้าไปเช็กในรายชื่อสมาชิกให้แน่ใจ
เผยหรานไม่ได้อยู่ในกลุ่มจริงๆ
ซูเนี่ยนเป็นคนดึงเข้ากลุ่มเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เขาชอบทำเรื่องอะไรแบบนี้อยู่เสมอ ในกลุ่มมียี่สิบกว่าคน ตอนนั้นหลินคังยังไม่รู้ว่าสองคนนี้เลิกกันแล้วจึงเผลอนับเผยหรานรวมไปด้วย
เขากับเผยหรานอยู่กลุ่มแชตเดียวกันเยอะมาก เผยหรานพูดน้อย ปกติจะโผล่มาก็เมื่อมีคนเมนชั่นหาเขาเท่านั้น ดังนั้นหลายวันมานี้เขาจึงไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรแปลกตรงไหนที่ไม่เห็นเผยหรานในกลุ่มเลย
“ฉันนึกว่านายอยู่ด้วยก็เลย…ซูเนี่ยนบอกว่าจะไปเที่ยวต้าหลี่*” หลินคังเอ่ยอย่างกระอักกระอ่วน
ซูเนี่ยนไม่รอบคอบเอาซะเลย เผยหรานเป็นเพื่อนไปเที่ยวเล่นกับทุกคนมาตั้งนานขนาดนี้ กลุ่มแบบนี้ยังลืมดึงเขาเข้าไปได้
เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ หลินคังก็ไม่กล้าชวนเขาเข้ากลุ่ม เพราะตอนคุยกันในกลุ่มนี้หลัวชิงซานก็ดูร่าเริงดี
“ไม่เป็นไร” เผยหรานยิ้ม
หลินคังรีบหาเรื่องอื่นคุย หวังจะทำให้เรื่องนี้ผ่านไปเร็วๆ แต่ยังนึกไม่ออกว่าจะพูดอะไรก็บังเอิญเดินไปเจอคนคุ้นเคยอีกคนก่อน
เหยียนจุ่นสวมเสื้อยืดสีดำเรียบๆ ใช้แขนหนีบลูกบาสไว้ข้างเอว เรียวนิ้วปล่อยทิ้งอย่างเกียจคร้านขณะเดินคุยกับคนข้างๆ
หลินคังรีบเรียกเขา “เหยียนจุ่น!”
เหยียนจุ่นชำเลืองมองด้วยสายตาเรียบนิ่ง หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงเบาๆ เหงื่อยังเกาะอยู่ที่คาง
หลินคังแค่อยากทำลายความกระอักกระอ่วน เขาหัวเราะแหะๆ สองเสียง เอ่ยคำถามไร้สาระออกไป “เพิ่งเล่นบาสเสร็จเหรอ”
เหยียนจุ่นไม่ตอบ เพียงหันกลับไปคุยกับคนข้างๆ ต่อ หลินคังจึงกระอักกระอ่วนยิ่งกว่าเดิม
เขาหัวเราะแห้ง กำลังคิดจะด่าเหยียนจุ่นก็เห็นอีกฝ่ายพยักหน้าให้เพื่อนสนิท แล้วหมุนตัวเดินมาหาพวกเขา
“นาย” เหยียนจุ่นชะงัก “พวกนายทำไมมาอยู่ที่นี่”
“เพิ่งเรียนเสร็จไง” หลินคังกล่าว “หรือคิดว่าฉันมาเดินเล่นเหรอ”
เหยียนจุ่นมองไปที่เผยหราน หลินคังชะงักก่อนจะหันมองตามเช่นกัน
เผยหรานพูดด้วยน้ำเสียงปกติ “ฉันมาช่วยอาจารย์ขนอุปกรณ์วาดรูป”
หลินคังถอนหายใจโล่งอกที่เรื่องกลุ่มบ้านั่นผ่านไปได้สักที “เหยียนจุ่น เห็นในแชตกลุ่มหรือยัง พวกเขาจะจัดทริปเที่ยวต้าหลี่กัน นายไปเปล่า”
เหยียนจุ่นตอบว่า “ไม่ได้อ่านในกลุ่ม ไม่ไป”
หลินคังพยักหน้า เขาเดาไว้อยู่แล้ว “แล้วนายจะไปยืนไกลๆ ทำไม”
“เพิ่งเล่นบาสเสร็จ ตัวเหม็น”
หลินคังหัวเราะ “ขนาดนั้นเลยเหรอ”
เผยหรานไม่ได้สนใจฟังบทสนทนาของพวกเขา เขาหลุบตาลงและมองไปเห็นมือของเหยียนจุ่นพอดี
นิ้วของเหยียนจุ่นนั้นเรียวยาว ตัดเล็บสะอาดสะอ้าน เนื้อตัวเลอะคราบฝุ่นจากตอนเล่นบาส เขานึกถึงตอนที่เหยียนจุ่นกุมเม้าส์ ข้อนิ้วของเขาที่นูนออกมาสวยน่ามองมากๆ
“คืนนี้มามั้ย”
เผยหรานมองโดยไม่กะพริบตา คิดในใจว่ามือแบบเหยียนจุ่นไปเป็นนายแบบมือได้เลยด้วยซ้ำ
จากนั้นเขาก็เห็นเหยียนจุ่นงอนิ้วชี้เคาะที่ลูกบาสเบาๆ สองที
“คืนนี้จะมามั้ย” เหยียนจุ่นกล่าว “เผยหราน”
ได้ยินชื่อของตัวเองเผยหรานก็เงยหน้าขึ้นอย่างมึนงง ผ่านไปครู่ใหญ่กว่าจะมีปฏิกิริยากับความหมายในคำพูดของเหยียนจุ่น
อีกฝ่ายกำลังถามเขาว่าคืนนี้ตนจะได้เริ่ม ‘ทำงาน’ หรือยัง
เมื่อฉุกนึกได้ว่าเหยียนจุ่นเป็นพวกติดค้างแล้วจะไม่สบายใจ เผยหรานก็ไม่ลังเล “ได้”
เหยียนจุ่นพยักหน้า เส้นผมที่จับกันเป็นกลุ่มเพราะเหงื่อบนหน้าผากไหวไปด้วย “งั้นฉันจะรอ”
หลังจากเหยียนจุ่นแยกไปกับเพื่อนสนิท หลินคังก็จ้องแผ่นหลังเขาหลายวินาที แล้วหันหน้ามามองคนข้างๆ ตนเอง
?
คืนนี้จะมามั้ย
นี่มันคำพูดที่เขาพูดกับแฟนบ่อยๆ ไม่ใช่เหรอ
หลินคังตบหน้าตัวเองในใจหนึ่งที กลางวันแสกๆ สมองฉันคิดเรื่องอะไรอยู่เนี่ย…
“มองไม่ออกเลย” หลินคังเก็บความคิดเชื่อมโยงเละเทะพวกนั้นกลับมา “ว่านายจะสนิทกับเหยียนจุ่นขนาดนี้”
เผยหรานกล่าว “ก็ไม่ได้สนิทกันมาก”
“ไม่สนิทแล้วคืนนี้เขาจะมารอนายทำไม” หลินคังหัวเราะ “ว่าแต่พวกนายสองคนจะไปทำอะไรกัน”
“เล่นเกม”
“…” หลินคังหมดคำจะพูด “โอเค แค่มีโอกาสได้เล่นเกมกับเขาก็ฟินมากแล้ว ฉันรู้เรื่องหนึ่งมา นายอย่าเอาไปพูดที่ไหนล่ะ ตอน ม.ปลาย เขาเคยถูกสโมสร TZG ทุ่มเงินก้อนใหญ่ดึงเขามาร่วมทีมด้วย ทีมนั้นน่ะหลายปีมานี้ก็เหมาแชมป์มาทั้งประเทศเลยนะ ปีที่แล้วยังได้แชมป์ระดับประเทศด้วย แต่ตอนนั้นเขาไม่ไป”
“…”
“เพราะงี้นี่แหละ หลัวชิงซานอยู่หอกับเขามาตั้งนาน แต่กว่าจะได้เล่นเกมกับเขาสักตาน่ะยากสุดๆ ฮ่าๆ”
เผยหรานรู้สึกเหนือความคาดหมายเล็กน้อย “เขาเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ”
งั้นเขา…ให้ค่าจ้างน้อยไปหรือเปล่า
หลังจากนั้นเขายังกลับมาค้นข้อมูล แล้วพบว่าราคายี่สิบไคว่ต่อชั่วโมงนั้นพวกเพื่อนเล่นเกมมือสมัครเล่นระดับกลางหรือระดับสูงตั้งราคาสูงกว่านี้
จู่ๆ เผยหรานก็รู้สึกเหมือนตนเอาเปรียบอีกฝ่ายนิดหน่อย
“ล้อเล่นๆ เก่งมากๆ แหละ แต่ก็ไม่ได้เว่อร์ขนาดนั้นหรอก” หลินคังตบไหล่เขาพลางเอ่ยแกมหัวเราะ “อาจจะเพราะเขารังเกียจที่หลัวชิงซานเอะอะเลยไม่ชอบเล่นกับเขาก็ได้”
ตกเย็น สุดท้ายหลินคังก็โดดออกมาก่อนเวลาเลิกแล้วมายืนรอรถอยู่หน้ามอด้วยกันกับเผยหราน
รถมายบัคสองสีคันหนึ่งจอดลงตรงหน้าพวกเขา ทำเอาหลินคังจ้องตาแทบถลน
เขาหันไปพึมพำพลางนับนิ้วเบาๆ “เชี่ย…เชี่ยยย รถนี่โคตรสุด ราคาอย่างน้อยเท่านี่!”
ประตูฝั่งคนขับเปิดออก ชายวัยกลางคนคนหนึ่งในเชิ้ตสีขาวกางเกงสีดำลงมาจากรถ “เสี่ยวหราน ลุงไม่ได้มาช้าไปใช่มั้ย สัมภาระอยู่ไหน ลุงเอาไปไว้ท้ายรถให้”
เผยหรานกล่าว “ไม่ต้องหรอก หยุดแค่ไม่กี่วัน ผมไม่ได้เอาสัมภาระอะไรมา”
“…” หลินคังสีหน้าซับซ้อนแต่ไม่กระอักกระอ่วนแล้ว “มิน่าล่ะฉันถึงโดนพ่อฟาดตอนบอกว่าจะเรียนวาดรูป เพราะไม่มีปัจจัยนี้นี่เอง”
เผยหรานฟังแล้วก็หัวเราะ “ไม่ได้เว่อร์ขนาดนั้น”
หลินคังกำลังขึ้นไปนั่งบนรถ จู่ๆ ก็มีคนกระชากเสื้อเขาอย่างแรงจนเกือบจะล้มลงพื้นอยู่แล้ว
หลินคังตกใจ หันไปอ้าปากด่า “แม่ง…”
หลัวชิงซานเม้มปาก มือยังคงกำเสื้อแจ็กเก็ตของหลินคังแน่น ตามองสลับไปมาระหว่างหลินคังกับเผยหราน
เมื่อเห็นว่าเป็นเขา หลินคังยิ่งรู้สึกพิลึกพิลั่นกว่าเดิม ก่อนจะปัดมืออีกฝ่ายออก “นายเป็นบ้าเหรอวะ เดี๋ยวนี้ทักทายกันแบบนี้เหรอ”
สุดท้ายสายตาของหลัวชิงซานก็หยุดลงที่เผยหราน
แววตาเผยหรานนิ่งสงบ สบตาเขาสองสามวินาทีโดยไร้ซึ่งระลอกคลื่นใดๆ จากนั้นตวัดสายตาออก
“บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” เผยหรานถาม
“ไม่ แค่กระแทกนิดหน่อย” หลินคังมองตัวรถด้วยความตึงเครียด “ไม่ได้ทำรถนายถลอกใช่มั้ยเนี่ย”
“ถลอกก็ไม่เป็นไร” เผยหรานกล่าว “ขึ้นรถเถอะ ตรงนี้จอดนานไม่ได้”
สิ้นเสียงนี้เสื้อของหลินคังก็ถูกกระชากอีกครั้ง
หลินคังเอ่ยอย่างอัดอั้น “มีอะไรก็ว่ามา เอาแต่กระชากฉันเพื่อ?”
หลัวชิงซานกัดฟันกรอด กว่าจะข่มใจพูดออกมาได้หนึ่งประโยค “พวกนายจะไปทำอะไรกัน”
หลินคังกล่าว “กลับบ้านไง”
“กลับบ้านด้วยกัน?”
หลินคังกำลังจะตอบ แต่แล้วก็ได้กลิ่นทะแม่งๆ บางอย่าง
“เดี๋ยวนะ…” หลินคังขมวดคิ้ว “หลัวชิงซาน นายหมายความว่าไง”
หลัวชิงซานเอ่ย “งั้นเมื่อเช้าทำไมพวกนายถึงเดินด้วยกัน นายโอบไหล่เขาทำไม อ้อ กินข้าวด้วยกันมาใช่มั้ย”
หลินคังโมโหจนหลุดหัวเราะออกมา เขากดเสียงต่ำพูดว่า “หลัวชิงซาน นายเป็นบ้าเหรอ ฉันมีแฟนสาวอยู่แล้วโว้ย!”
“มีแฟนแล้วทำไมมาเดินชิดกับเขาขนาดนี้”
“ไอ้เวร ฉลาดล้ำจริงๆ นายคิดว่าทุกคนบนโลกนี้เป็นเกย์หรือไง แล้วฉันกับเผยหรานมีปัญหาอะไร เราแค่เดินด้วยกันกลับทางเดียวกัน กลับบ้านด้วยกัน” หลินคังไม่เข้าใจสถานการณ์เลยแม้แต่นิดจึงพูดออกไปโดยไม่คิดอะไร “ไม่ตัวติดกันเท่านายกับซูเนี่ยนด้วยซ้ำ มาเป็นบ้าอะไรแถวนี้”
หลัวชิงซานหน้าขาวซีดในพริบตา ท่าทางโอหังเมื่อครู่ก็หดหายไปกว่าครึ่ง
ตอนเที่ยงเขาเห็นทุกอย่างจากบนตึก เผยหรานไม่ตอบข้อความเขา ไม่รับสายเขา แต่กลับพูดคุยเฮฮาเดินไหล่ชิดกับหลินคังตลอดทาง ตอนท้ายหลินคังยังโอบไหล่เผยหรานด้วย
“หลัวชิงซาน” ในที่สุดเผยหรานก็เอ่ยปากขึ้น “ปล่อยมือ”
เผยหรานกลับถึงบ้านฟ้าก็มืดแล้ว วิลล่าหลังเล็กที่เรียงรายล้วนเปิดไฟสว่าง มีเพียงบ้านเขาที่มืดสนิท
เมื่อบอกลาคนขับรถแล้ว เขาก็หันหลังเดินเข้าบ้านไป ภายในบ้านสะอาดสะอ้าน มองออกว่ามีคนเข้ามาทำความสะอาดทุกวันโดยเฉพาะ น่าเสียดายที่ปกติไม่ค่อยจะมีคนมาพักอาศัย
เขาอาบน้ำ เปลี่ยนมาสวมชุดนอนผ้าแพร แสงทอดส่องลงบนร่างขับให้ทั้งตัวเขาดูนุ่มนวลมาก แต่เผยหรานในตอนนี้ไม่ใกล้เคียงกับคำว่านุ่มนวลเลยสักนิด
เขารู้สึกโกรธนิดๆ ด้วยซ้ำ
เผยหรานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา หน้าจอเป็นข้อความจากหลัวชิงซานแทบจะทั้งหมด
หลัวชิงซาน ขอโทษ
หลัวชิงซาน ขอโทษนะที่รัก อย่าโกรธฉันเลย
หลัวชิงซาน ตอนนั้นฉันสมองเพี้ยน ไม่ได้จะสงสัยที่รักจริงๆ นะ
เผยหรานไม่อยากอ่านต่อ เขากดเคลียร์หน้าจอทันที
หลังจากเขาเป่าผมจนแห้งก็เดินตรงดิ่งไปที่ห้องเก็บเสื้อผ้า เริ่มตรวจเช็กสิ่งของที่หลัวชิงซานเคยให้เขา
รองเท้าและกระเป๋าส่วนใหญ่เขาเคยใช้ไปแล้ว หากส่งคืนก็คงไม่ดี เขาจึงเสิร์ชหาราคาบนอินเตอร์เน็ตเพื่อแปลงมูลค่าของทั้งหมดให้เป็นเงินสด มีรองเท้าบางรุ่นที่เลิกผลิตไปแล้ว อีกทั้งเวลาผ่านไปนานราคาจึงพุ่งสูงขึ้นไม่น้อย เพราะแบบนั้นเขาจึงค่อนข้างเหนื่อยกับการเสิร์ชข้อมูลนิดหน่อย
เมื่อจัดการออกมาเป็นตัวเลขจำนวนหนึ่งได้ เวลาก็ล่วงเลยไปจนเข้าวันใหม่แล้ว
เขาโอนเงินให้หลัวชิงซานผ่านอาลีเพย์* จากนั้นเปิดวีแชตส่งไปหนึ่งข้อความว่า ‘โอนเงินแล้ว’
ในตอนที่กดออกจากช่องแชต เขาเหลือบไปเห็นภาพโพรไฟล์ของใครบางคนโดยไม่ได้ตั้งใจ
ที่ภาพโพรไฟล์นี้ดึงดูดความสนใจของเขาได้เพราะว่าบนรูปนั้นเป็นกระต่ายตัวหนึ่ง
กระต่ายบนโลโก้ลูกอมกระต่ายขาว
ถัดจากกระต่ายน้อยมีอักษรตัวเบ้อเร่อสองตัวนอนอยู่เงียบๆ…เหยียนจุ่น
เผยหรานจ้องภาพนี้อยู่นานราวกับสมองหยุดทำงานแล้วถึงกลับมาตั้งสติได้
เผยหราน ขอโทษ!
เผยหราน มีธุระด่วนนิดหน่อย ลืมไปเลย…
เผยหราน ขอโทษนะ
เหยียนจุ่น ไม่เป็นไร
เผยหราน นายนอนเถอะ ไม่รบกวนแล้ว
เหยียนจุ่น ยังไม่นอน
เหยียนจุ่น รอนายอยู่
เผยหรานล็อกอินเข้าเกม คำเชิญของเหยียนจุ่นก็เด้งขึ้นมาทันที
เผยหรานรีบกดเข้าร่วมทีม จากนั้นเปิดไมค์ “เมื่อกี้ฉันกำลังเก็บกวาดของอยู่ ยุ่งจนลืมเลย ขอโทษนะ”
เหยียนจุ่นตอบว่า “ไม่เป็นไร ไม่ต้องขอโทษ”
เผยหรานเพิ่งถอนหายใจโล่งอกก็เห็นไอคอนไมค์ด้านหน้าไอดี ‘111GOD’ กะพริบขึ้นมาอีกครั้ง
ฝั่งนั้นเงียบไปสองวินาที เสียงของเหยียนจุ่นเบามาก เขาเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ “นึกว่าจะไม่มาแล้ว”
บทที่ 09
เผยหรานไม่เคยจ้างเพื่อนเล่นเกมมาก่อน แต่รูมเมตของเขาเคย
ตอนนั้นรูมเมตจ้างเพื่อนเล่นเกมผู้หญิง พูดเสียงอ่อนเสียงหวานเรียกพี่ชายทุกประโยค เผยหรานเคยได้ยินจากลำโพงเต็มสองหู
เพื่อนเล่นเกมหญิงคนนั้นเล่นเป็นแต่ตำแหน่งซัพพอร์ต ตลอดทั้งเกมตั้งแต่ต้นจนจบล้วนตามติดอยู่ข้างหลังรูมเมต เอาแต่พูด ‘ช่วยฉันด้วยพี่ชาย’ หรือ ‘พี่ชายอย่าตายนะ’ และ ‘พี่ชายเก่งจัง’ ไม่หยุดหย่อน เผยหรานฟังจนวันนั้นในสมองมีแต่คำว่าพี่ชายลอยวนอยู่อย่างนั้นทั้งวัน
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เหยียนจุ่นก็กระโดดเข้ามาจากหน้าต่างข้างๆ เขาพอดี ตามด้วยเสียงดังตุบ บนพื้นปรากฏปืนหนึ่งกระบอกและชุดปฐมพยาบาลสองกล่อง
“เก็บสิ”
เผยหรานถาม “งั้นนายจะใช้อะไรล่ะ”
“ของนาย เอาอะไรก็ได้มากระบอกหนึ่ง”
จากนั้นเหยียนจุ่นก็ถือปืนกลมือ Vector* ที่เผยหรานเพิ่งปลดออกไป แล้วกระโดดออกหน้าต่างอีกครั้ง
เหยียนจุ่นพาเผยหรานกระโดดลงโซนป่า เขาใช้ไอดีหลักที่แรงก์สูง เพื่อนร่วมทีมที่สุ่มได้ในตานี้ต่างก็เก่งกาจกันทั้งนั้น ตอนรออยู่หน้าล็อบบี้ก็พากันโวยวายจะโดดไปลุยที่ Shipping Dock***
เหยียนจุ่นยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน เมื่อเครื่องบินใกล้บินจนสุดทางแล้ว เขาถึงมาร์กจุดบนแผนที่อย่างเชื่องช้าพลางกล่าว “กระโดด”
เนื่องจากเวลานี้จำนวนคนในทีมอยู่ด้วยกันไม่ครบ เพื่อนร่วมทีมลงพื้นได้ไม่กี่นาทีก็รู้สึกสิ้นหวัง ตอนกลางคืนสภาพจิตใจของผู้คนส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยจะดีอยู่แล้ว แม้ว่าอีกสองคนในทีมจะท้อใจแต่ก็ไม่ได้กดออกจากเกม เลือกที่จะเปิดไมค์พูดจาบั่นทอนอยู่ในทีมต่อไป
“นี่ฉันมาเจอพวกเล่นไอดีหลักใช่ป้ะ ทำไมแรงก์นี้แล้วถึงยังไม่กระโดดร่มตามเพื่อนในทีมวะ”
“ราชาโซนป่าไง กะอยู่รอดรอขโมยไก่กินคนเดียวตอนสุดท้าย”
“รำคาญจริงๆ ตาหน้าเล่นด้วยกันมั้ยเพื่อน”
“ได้ ฉันจะรอดูสองคนนี้กลายเป็นกล่องก่อนแล้วค่อยออก”
ต่อมาบทก็ไม่ต่างจากที่พวกเขาคิดไว้เลย เพื่อนร่วมทีมของพวกเขาเป็นราชาโซนป่าจริงดังว่า จำนวนคิลล์ก็เป็น 0 จนถึงวงรอบรองสุดท้ายจริงๆ
แต่ก็ไม่ได้เหมือนที่พวกเขาคิดทุกอย่าง
เพราะพวกเขามีเพื่อนร่วมทีมที่ชื่อไอดี ‘111GOD’ ตอนวงบีบรอบรองสุดท้ายไอดีนี้อย่างกับเป็นเทพแห่งสงคราม แบกปืนกลมือ Vector หนึ่งกระบอกคิลล์เรียบทั่วทิศ เขาเริ่มด้วยการจัดการทีมที่มีคนครบทั้งทีมอย่างเด็ดขาดว่องไว เสร็จแล้วยังปาระเบิดมือเก็บหมาป่าเดียวดายที่บ้านหลังข้างๆ อีกหนึ่งคนอย่างแม่นยำ
หลังจากเจ้าคนเถื่อนไร้อารยธรรมปาระเบิดมือฆ่าเสร็จก็กระโดดออกมา ขณะที่เพื่อนร่วมทีมของคนเถื่อน* ผู้นี้ได้แต่พ่นคำว่า ‘เชรดเข้’
“พี่ชายๆ กระเป๋าคนนี้มี M416 พี่ชายทิ้ง Vector นั่นไปเถอะ” กระทั่งน้ำเสียงของเพื่อนร่วมทีมก็ยังสนิทสนมขึ้นมาก
เผยหรานหมอบคลานไปข้างหน้าอย่างระมัดระวังเพื่อเข้าไปเก็บกล่องของศัตรู ด้านในมีปืนไรเฟิลอัตโนมัติ M416 อยู่จริงๆ แถมยังแต่งอุปกรณ์ไว้ครบครันอีกด้วย “จะเปลี่ยนปืนหรือเปล่า”
“ไม่” เหยียนจุ่นเอ่ย “ใช้ Vector นี่แหละ”
เพื่อนร่วมทีมเบอร์หนึ่งกล่าว “โอเค มือโปรเขาก็เล่นแบบนี้กันทั้งนั้นแหละเนอะ”
เพื่อนร่วมทีมเบอร์สองเสริม “นายพูดถูก สู้ๆ นะพี่ชาย”
วงรอบตัดสินตานี้จะกินไก่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ในตอนที่เหลือศัตรูเพียงทีมเดียว เพื่อนร่วมทีมทั้งสองคนก็ถามเหยียนจุ่นว่าจะเล่นด้วยกันอีกไหม
เหยียนจุ่นกล่าว “พวกนายถามเบอร์สามสิ”
เผยหรานมองมุมซ้ายล่าง…ใช่แล้ว เขาก็คือเบอร์สาม
“พวกนายเล่นคู่กันเหรอ” เพื่อนร่วมทีมถาม “เบอร์สาม เล่นด้วยกันมั้ย”
เผยหรานตอบว่า “ไม่ล่ะ”
หลังจากจัดการผู้เล่นคนสุดท้ายในสนามได้แล้ว เหยียนจุ่นก็หยุดค้างไว้ที่หน้ารายงานผลสรุปการกินไก่ชั่วคราว เขาหลุบตาลงหยิบซองบุหรี่ข้างคีย์บอร์ดขึ้นมา
“เบอร์สี่เป็นเพื่อนเล่นเกม” เผยหรานพูด “อยากให้เขาพาพวกนายเล่นก็ต้องจ่ายเงิน”
เหยียนจุ่นบีบซองบุหรี่ อดหัวเราะออกมาเบาๆ ไม่ได้
น้ำเสียงของเผยหรานเรียบนิ่งไม่เปลี่ยนโทน เขากำลังช่วยเหยียนจุ่นโปรโมตอย่างจริงจัง “ในแอพฯ XX ไม่แพง มีโปรโมชั่นเปิดร้านใหม่นะ ถ้าช้ากว่านี้ก็จะขึ้นราคาแล้ว ชื่อไอดีว่า…”
เพื่อนร่วมทีมฟังแล้วก็ชะงัก ก่อนจะตอบอืมๆ อาๆ ไปหลายคำ
เหยียนจุ่นเพิ่งกดกลับไปหน้าล็อบบี้ หน้าจอโทรศัพท์ก็สว่างวาบ เขาปลดล็อกเพื่ออ่านแจ้งเตือน มีคนออเดอร์เข้ามาแล้ว คงจะเป็นเพื่อนร่วมทีมเมื่อกี้นี้
เขาวางบุหรี่กลับไปที่เดิมแล้วกดปฏิเสธออเดอร์
เผยหรานไปชงกาแฟแก้วหนึ่งกลับมานั่งหน้าโต๊ะ เขาใส่นมเพิ่มในกาแฟ สีของกาแฟก็ค่อยๆ จางลงตามการคนของเขา
“พวกเขามาจ้างหรือเปล่า”
เหยียนจุ่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเสียดาย “ไม่เลย”
พวกเขาเริ่มเกมอีกรอบ เผยหรานยังไม่ทันสลับไปดูแผนที่ก็ได้ยินเสียงของชายแปลกหน้าดังอยู่ในหูฟัง…
“111 บังเอิญจัง”
“พวกนายไม่รู้จัก 111 เหรอ เป็นคนที่อันดับแรงก์ฝั่งเอเชียพุ่งขึ้นมาแบบแรงแซงโค้งเมื่อครั้งก่อนนั่นไง”
“111 อยู่หรือเปล่า จำฉันได้ป้ะ พวกเราเคยแอดเพื่อนกันแล้วไง”
เหยียนจุ่นเหลือบมองไอดีของเขา ‘xktv197’ ดูจากชื่อแล้วน่าจะเป็นสตรีมเมอร์คนหนึ่ง เพียงแต่สตรีมเมอร์ที่เขาแอดเพื่อนด้วยมีเยอะเหลือเกิน จำไม่ได้แล้วว่าใครเป็นใคร
เหยียนจุ่นอืมรับคำนับเป็นการตอบกลับ
เห็นได้ชัดว่า 197 คนนี้กำลังสตรีมอยู่ เขาพูดคุยกับผู้ชมอยู่ตลอด เมื่อขึ้นเครื่องบิน 197 ก็ถาม “111 โดดไหน ฉันจะตามนาย”
เพิ่งพูดจบ ที่ป่าเล็กๆ ในแผนที่ฝั่งขวาก็ปรากฏจุดมาร์กสีเหลืองเด่น
“…?” 197 เอ่ยถาม “มือลั่นเหรอ”
เหยียนจุ่นกล่าว “ฉันมาคู่”
197 เหลือบมองไอดีของเพื่อนในทีมก็เข้าใจทันที “เบอร์สามนี่เหรอ หรานเป่าเป้ย*? อ๋อ…พาสาวมาเล่นด้วย?”
หลัวชิงซานเป็นคนสร้างแอ็กเคานต์ให้เผยหราน และก็เป็นหลัวชิงซานที่ตั้งชื่อไอดีให้ เป็นไอดีคู่กับอีกฝ่าย
ตอนแรกเผยหรานก็คิดว่าชื่อนี้มันดูสาวน้อยไปหน่อย แต่จะเปลี่ยนแอ็กเคานต์ก็ยุ่งยากเกิน เขาจึงไม่ได้สนใจอีก กระทั่งวันนี้มีคนอ่านออกเสียงขึ้นมาเขาถึงรู้สึกว่าน่าอายนิดหน่อย
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องสนใจฉัน” เผยหรานเปิดไมค์ “นายเล่นของนายไปก็พอ”
พอได้ยินว่าเป็นเสียงผู้ชาย 197 คนนั้นก็อึ้งเล็กน้อย จากนั้นถึงเอ่ย “มือใหม่เหรอ โอเค งั้นก็โดดป่า ยังไงแมปก็มีแค่นี้อยู่แล้ว แป๊บๆ เดี๋ยวก็เจอคน”
ครั้งนี้เหยียนจุ่นเลือกโหมดสุ่มแผนที่ ตานี้พวกเขาได้เล่น SANHOK
ผ่านไปไม่นาน เหยียนจุ่นก็ถือปืนไรเฟิลอัตโนมัติ M416 แต่งของเต็มมาให้เขาอีกครั้ง
เผยหรานเหลือบมองปืนบนพื้นแล้วพูด “ไม่ต้องหรอก แมปนี้ปืนเยอะ บนตัวฉันก็มี M4 อยู่แล้วกระบอกนึง”
เหยียนจุ่นไม่พูดอะไร เขายืนนิ่งอยู่อย่างนั้นนานมากก็ยังไม่ไปไหน และปืนก็อยู่ที่พื้นตลอดด้วยเช่นกัน
สุดท้ายเผยหรานก็ย่อตัวลง โยนปืนไรเฟิลอัตโนมัติ M416 ของตัวเองที่ไม่ได้แต่งอะไรเลยลงพื้น แล้วเหยียนจุ่นก็รีบเก็บขึ้นมาอย่างรวดเร็วก่อนจะเปิดประตูออกไป
เผยหราน “…”
197 เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เขาเอ่ยหยอกล้อ “111 ทำอะไรของนายน่ะ ปืนของหรานเป่าเป้ยเพิ่มบัฟ** เหรอ”
เหยียนจุ่นส่งเสียงอืมรับคำ “พกปืนเจ้านายแล้วมีแรงสู้เท่าตัว”
197 เข้าใจทันที “นายก็ลงทะเล* ไปเป็นเพื่อนเล่นเกมด้วยเหรอ”
เหยียนจุ่นตอบว่า “ประมาณนั้น”
197 พูดไม่ผิด แผนที่นี้มีคนอยู่ทั่วทุกที่ พวกเขาเพิ่งจะฟาร์มของเสร็จสองโซนป่าเล็กๆ ก็ได้ยินเสียงปืนดังอยู่ใกล้ๆ
“ทิศ E” 197 ปราดมองแผนที่ “เชี่ย 111 จะไปไหน”
เผยหรานมองใครบางคนที่ตามหลังตนมาติดๆ “…พวกเราจะตามไปเดี๋ยวนี้แหละ”
เมื่อพวกเขารีบรุดมาถึง เพื่อนร่วมทีมก็เริ่มต่อสู้กับอีกทีมหนึ่งแล้ว สี่คนรุมสองเสียเปรียบไม่น้อย เพื่อนร่วมทีมที่เป็นคนเถื่อนอีกคนหนึ่งก็กลายเป็นกล่องไปแล้ว 197 ที่มีเลือดเพียงน้อยนิดหลบอยู่หลังหินกดใช้ยาไม่หยุดด้วยความร้อนรนไปหมด
หางตาเผยหรานปราดมองไปเห็นศัตรูคนหนึ่งกำลังจ่อปืนคนอื่นและหันหลังให้ตนอยู่ เขาลั่นไกปืนทันทีโดยไม่รู้ตัว โชคดีที่ปืนนิ่งทำให้เขาน็อกดาวน์ศัตรูได้สำเร็จ
เผยหรานเล่นเกมนี้ฆ่าคนได้น้อยมากตลอด ตาหนึ่งฆ่าได้หนึ่งคนก็นับว่าเยอะแล้ว กระทั่งอีกฝ่ายล้มลง เขาถึงรู้ตัวว่าหัวใจของตนเต้นเร็วแค่ไหน
“เก่งมาก” เสียงของเหยียนจุ่นแทรกขึ้นมาท่ามกลางเสียงห่ากระสุน
อย่างกับเด็กประถมถูกครูชมเลย พวงแก้มเผยหรานเริ่มเห่อร้อนระหว่างรีโหลดกระสุนตัวเองหลังต้นไม้
197 ใช้ยาเพิ่มเลือดเสร็จก็รายงานตำแหน่งของศัตรูด้วยความรวดเร็ว เหยียนจุ่นใช้ยาแก้ปวด “ฉันจะปาระเบิด นายย่องไปทางซ้าย ฉันจัดการตรงหน้า”
ทั้งสองวิ่งถือปืนบุกเข้าชาร์จ เหยียนจุ่นใช้กระสุนสองนัดล้มไปสองราย ฝั่ง 197 ขโมยไปได้อีกหนึ่งราย
“ตายหมดแล้ว ตรงนี้ตายแล้วจริงๆ มาฟาร์มของได้” 197 นอนหมอบอยู่บนพื้นหญ้า “เจ๋งมากเพื่อน”
เหยียนจุ่นไม่พูดจา มีเสียงสไนเปอร์แผ่วๆ ฟังไม่ชัดดังมาจากที่ไกลๆ เขาย่องไปทางขวาแล้วส่องกล้องดู
ใครจะรู้ว่ายังไม่ทันหาตัวเจอ ด้านหลังก็มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด
197 ร้องว่า “เชี่ยเอ๊ย! มีคนลูบก้น** พวกเรา แม่งมาอีกทีมแล้ว…”
สิ้นเสียงนี้คิลล์ฟีดมุมขวาบนก็เด้งแจ้งเตือนขึ้นมาสองข้อความทันที 197 และเผยหรานต่างก็ถูกยิงล้มทั้งคู่
เหยียนจุ่นตอบสนองไวว่อง หันกลับไปส่องสโคป*** กวาดไปได้หนึ่งคิลล์ ก่อนศัตรูจะล้มก็ยิงมาทางเขาสองนัด หลอดเลือดของเหยียนจุ่นกลายเป็นสีชมพูในพริบตา
ตำแหน่งที่เหยียนจุ่นอยู่นั้นดีมาก 197 ใจเต้นจนจะขึ้นมาถึงคอหอย “ยังมีอีกคน อย่าใจร้อนๆ กินยาก่อน คนนั้นเหมือนจะไปซ้ำหรานเป่าเป้ยแล้…”
เขายังไม่ทันพูดจบคำก็เห็นเหยียนจุ่นยกเลิกการใช้ยาแล้วถือปืนพุ่งออกไป
197 “…???”
คำว่า ‘อย่า’ ของเผยหรานเพิ่งมาถึงริมฝีปาก เหยียนจุ่นก็พุ่งมาอยู่ในลานสายตาของเขาแล้ว
ในไม่กี่วินาทีที่เหยียนจุ่นดวลปืนกับศัตรู เผยหรานก็รู้สึกเหมือนทรวงอกตัวเองจะระเบิด
เมื่อเหยียนจุ่นฆ่าศัตรูสำเร็จด้วยเลือดน้อยนิด เผยหรานก็ถอนหายใจโล่งอกหนักหน่วง อดเอนหลังพิงเบาะไม่ได้ พอปล่อยเม้าส์ถึงพบว่าฝ่ามือของตนชื้นไปด้วยเหงื่อ
…เร้าใจเกินไปแล้ว
“เชี่ย! แม่งเอ๊ย! พี่ชาย คนอื่นเขามาเล่นเกม แต่นายมาเล่นกับใจคนชัดๆ” 197 คลานมาอยู่ข้างๆ เหยียนจุ่นอย่างยากลำบาก พอเขาล้มแล้วยังได้กินกระสุนอีกสองนัด ตอนนี้หลอดเลือดใกล้จะหมดหลอดอยู่รอมร่อ “พี่ชาย มาดึงฉันหน่อย”
เพิ่งสิ้นเสียง 197 ก็มองเหยียนจุ่นวิ่งจากไปตาปริบๆ เขาตรงดิ่งไปหาหรานเป่าเป้ยที่เลือดยังเหลือมากกว่าครึ่งหลอดตรงด้านหลังเนิน
“มียาหรือเปล่า” เหยียนจุ่นถาม
เผยหรานดึงสติกลับมา “มี”
“ดี ไปฟาร์มกล่องเถอะ ข้างบนมีเพียบ”
197 โอดครวญ “จบแล้วๆๆ ฉันตายแน่ๆๆ…”
โชคดีที่เหยียนจุ่นไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำเสียทีเดียว ในตอนที่ 197 เลือดเหลือแค่เสี้ยวสุดท้ายเขาก็ช่วยไว้ได้พอดี
“พี่ชาย ฉันจะหัวใจวายตายอยู่แล้ว” 197 ได้รับความไม่เป็นธรรมสุดๆ “ฉันคลานไปข้างนายแล้วแท้ๆ แต่นายไม่ดึงฉันเลย คิดอะไรอยู่เนี่ยพี่ชาย”
เหยียนจุ่นกล่าว “คิดถึงเจ้านายของฉัน”
เผยหราน “…”
197 พูดว่า “เจ้านายของนายเลือดเหลือมากกว่าครึ่งอีก!”
“คนนั้นยังมีเพื่อนร่วมทีมอยู่ ถ้ามันมาซ้ำเขาขึ้นมาจะทำยังไง” เหยียนจุ่นรีโหลดกระสุนให้ปืนสไนเปอร์ Kar98k ของตนเอง “ถึงนายตายไป ฉันก็ยังพยายามพานายนอนกินไก่ได้”
197 “…?”
“แต่ถ้าเขาตาย ฉันก็ต้องระเบิดตัวเองตายตามไป”
197 เงียบไปครู่หนึ่ง “ก็ได้…ถ้ารู้คงบอกว่านายเป็นเพื่อนเล่นเกมระดับสุดยอด แต่ถ้าไม่รู้ก็นึกว่านายสองคนเป็นเกย์ไปแล้ว”
เหยียนจุ่นมองคนตรงหน้าหยุดค้างอย่างแข็งทื่ออยู่ที่เดิม
ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น หรานเป่าเป้ยก็วิ่งไปข้างหน้าต่อ ไอคอนไมค์หน้าไอดีก็กะพริบไปด้วย “อืม เพื่อนเล่นเกมดีๆ แบบนี้หนึ่งชั่วโมงแค่ยี่สิบหยวน อยู่บนแพลตฟอร์ม XX…”
เหยียนจุ่นหลุดหัวเราะ เขาคุมตัวเองไม่ให้กดคลิกเม้าส์หนึ่งทีไม่ได้ ตัวละครที่กำลังวิ่งอยู่จึงหวดหมัดใส่อากาศหนักๆ ครั้งหนึ่ง
ทั้งสองเล่นด้วยกันจนถึงตีสี่
เผยหรานเล่นเกมจนลืมตัว ไม่ได้สังเกตเวลาเลย กระทั่งเหยียนจุ่นพูดเตือนว่าให้ไปพักผ่อน เขาถึงรู้ตัวว่ามันดึกขนาดนี้แล้ว
เผยหรานเพิ่งเอนนอนบนเตียง โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เหยียนจุ่น ฉันบริการดีไหม
เผยหราน ดีมาก
เผยหรานรู้สึกเหมือนตอบชุ่ยๆ ไปจึงเสริมอีกประโยค
เผยหราน จริงๆ นะ
เหยียนจุ่น อืม เพิ่งเป็นเพื่อนเล่นเกมครั้งแรก ไม่มีประสบการณ์
เผยหราน ได้ออเดอร์ใหม่บ้างหรือเปล่า
เผยหรานส่งข้อความนี้มาเวลาเดียวกับที่เหยียนจุ่นเพิ่งเปิดเข้าไปดูหลังบ้านของแอพฯ เพื่อนเล่นเกมพอดี
ตลอดทั้งคืนนี้ เขาได้รับออเดอร์เพื่อนเล่นเกมสี่สิบกว่าออเดอร์
เมื่อนึกถึงน้ำเสียงจริงจังของเผยหรานตอนช่วยเขาโฆษณา เหยียนจุ่นก็ยกมือขึ้นกุมหน้า หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้
เหยียนจุ่น ไม่เลย สภาพการค้าขายของฉันเหมือนจะไม่ค่อยดี
เผยหรานกุมโทรศัพท์ครุ่นคิดครู่หนึ่ง พิมพ์ออกไปแบบเจื่อนๆ ว่า ‘สู้ๆ’
ยังไม่ทันกดส่งก็ได้รับข้อความใหม่อีกหนึ่งข้อความ
เหยียนจุ่น คิดว่าฉันเล่นดีจริงๆ เหรอ
เผยหราน จริงๆ
เหยียนจุ่น งั้นอยากอุดหนุนเพิ่มสักหน่อยไหม
เผยหรานชะงักงัน
เหยียนจุ่น โปรโมชั่นเปิดร้านใหม่ ถ้านายซื้อเยอะๆ วันหยุดทุกวันของฉันจะเป็นของนาย
เหยียนจุ่น ได้หรือเปล่า
เหยียนจุ่น เจ้านายเผยครับ
* ไคว่ เป็นภาษาพูดที่คนจีนทั่วไปใช้กัน หมายถึงหยวนซึ่งเป็นค่าเงินของจีน
* ต้าหลี่ เป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดังของมณฑลยูนนาน
* อาลีเพย์ (Alipay) เป็นแอพพลิเคชั่นช่องทางการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ เพื่อใช้ในการซื้อขายสินค้าหรือทำธุรกรรมซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับบัญชีธนาคารได้ ผลิตโดยกลุ่มบริษัทอาลีบาบา
* ปืนกลมือ Vector เป็นปืนที่ต้องใช้อุปกรณ์เสริม เหมาะกับการยิงระยะประชิด
*** Shipping Dock หรือท่าเรือสินค้าบนแผนที่ ERANGEL เป็นพื้นที่เปิดซึ่งเต็มไปด้วยตู้คอนเทนเนอร์และคลังสินค้า มีโอกาสเจอแรร์ไอเทมสูง
* คนเถื่อน หมายถึงคนที่แยกตัวไม่สุงสิงกับใคร
* หรานเป่าเป้ย (ranbaobei) แปลว่าหรานที่รัก
** บัฟ คือการเพิ่มความสามารถหรือสถานะให้กับบางสิ่งบางอย่าง
* ลงทะเล หมายถึงเลิกอาชีพที่ทำอยู่แล้วหันมาประกอบกิจการส่วนตัว
** ลูบก้น หมายถึงลอบโจมตี
*** สโคป คือกล้องติดปืน เป็นของแต่งปืนอย่างหนึ่งสำหรับช่วยเล็งระยะไกล ช่วยเพิ่มกำลังขยายตั้งแต่ x2 x3 x4 x6 และ x8
ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ใน ฉันชอบแฟนนายมานานแล้ว
วางจำหน่ายแบบรูปเล่มที่เว็บไซต์ Jamsai Store, ร้าน Jamclub
และร้านหนังสือทั่วไป
รวมถึงในรูปแบบอีบุ๊กที่
Meb / OOKBEE / Fictionlog / Naiin App / SE-ED / Hytexts / comico และ ARN
Comments
comments
No tags for this post.