ทดลองอ่าน Don’t Do That! คุณครับ อย่าเปิดไมค์ง่ายๆ เล่ม 1
ผู้เขียน : 柚子冰 (You Zi Bing)
แปลโดย : ซิ่งหลัน
ผลงานเรื่อง : 不要轻易开麦 (Bu Yao Qing Yi Kai Mai)
ถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์เอเวอร์วายในการเผยแพร่ผลงาน
จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว
หากผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
– – – – – – – – – – – – – – – – –
บทที่ 7
มีประเด็นร้อนเกิดขึ้นแล้ว แต่ใครอยากได้ประเด็นร้อนกัน ตกลงแล้วใครเป็นคนหยิบเรื่องนี้ขึ้นมา ลู่เหยาจือนั่งครุ่นคิดอยู่หน้ากระจกแต่งหน้า นิ้วมือของเขาเลื่อนผ่านรายชื่อผู้ติดต่อของวีแชต กำลังจัดระเบียบความคิด
ความรู้สึกแรกของเขาที่สงสัยว่าแจ็คกับทีมงานกำลังแอบวางแผนทำอะไรก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล อย่างแรกคือแจ็คมีประวัติมาเยอะ การทำเรื่องนู้นเรื่องนี้โดยที่ปิดบังลู่เหยาจือแบบนี้เมื่อก่อนใช่ว่าไม่เคยมี
อย่างที่สองหลังจากลู่เหยาจือเข้ากองถ่าย ‘กลียุคฉางอัน’ ได้ไม่นานมาก แจ็คเคยบอกเขาว่าแฮมเมอร์อินเตอร์แอ็กทีฟเอ็นเตอร์เทนเมนต์ บริษัทเกมระดับท็อปของโลกซึ่งเป็นผู้พัฒนาและจัดจำหน่าย Summon Spirits กำลังเตรียมโครงการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ โดยเริ่มต้นจาก Summon Spirits ซึ่งเขากำลังพยายามช่วงชิงอย่างสุดกำลัง
นี่เป็นโอกาสที่จะได้ร่วมงานเชิงลึกกับแฮมเมอร์อินเตอร์แอ็กทีฟเอ็นเตอร์เทนเมนต์ การเป็นพรีเซ็นเตอร์ของ Summon Spirits เป็นเพียงการเริ่มต้น เกมนี้ดังมากในยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลี การแข่งขันออฟไลน์เกมของแต่ละที่ทั่วโลกก็จัดกันอย่างคึกคัก ปีที่แล้วแต่ละประเทศมีการจัดลีกการแข่งเป็นสมัยแรก ปีนี้ยิ่งมีการจัดลีกการแข่งขันระดับโลกให้นักกีฬาจีนและต่างชาติแข่งขันเวทีเดียวกัน พรีเซ็นเตอร์ย่อมต้องตามลีกการแข่งขันนี้ออกไปสู่ต่างประเทศ…ไม่ว่าจะเป็นเจ้าตัวหรือว่าผลงาน สำหรับลู่เหยาจือแล้ว เป็นโอกาสที่ดีของการเริ่มต้นมีชื่อเสียงระดับนานาชาติ นอกจากนี้หากผลของการประชาสัมพันธ์ Summon Spirits ไม่เลว ถ้าอย่างนั้นก็จะมีโอกาสได้ร่วมโปรเจ็กต์อื่นๆ กับแฮมเมอร์อินเตอร์แอ็กทีฟเอ็นเตอร์เทนเมนต์ตามมา นี่เป็นขนมเปี๊ยะ* ชิ้นโตที่หาได้ยาก
การช่วงชิงงานเป็นเรื่องของผู้จัดการส่วนตัว บวกกับถึงแม้ลู่เหยาจือจะชอบเล่นเกม แต่ความจริงเขาอยากเป็นนักแสดงที่ดีมากกว่า ดังนั้นเขาเองจึงไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจมากนัก แต่สำหรับแจ็คแล้วต้องจ้องขนมเปี๊ยะชิ้นนี้ตาเป็นมันแน่นอน อีกฝ่ายพูดพร่ำมานานแล้ว เมื่อหลายวันก่อนยังพูดอยู่เลยว่ากำลังคิดหาวิธีโยงความสัมพันธ์ของลู่เหยาจือกับ Summon Spirits ภาพลักษณ์ของหลิงถ่งคล้ายลู่เหยาจือก็คือจุดขายหนึ่งที่อีกฝ่ายหาออกมาได้
นับตั้งแต่เขาอารมณ์เสียแล้วใช้เงินไปครั้งที่แล้ว แจ็คก็รับรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของหลินจื่อและรู้ถึงความสนใจของลู่เหยาจือที่มีต่อหลินจื่อ แจ็คต้องเคยตรวจสอบหลินจื่อแน่ ดังนั้นการใช้หลินจื่อมาสร้างกระแสสำหรับอีกฝ่ายแล้วเป็นวิธีการที่ปกติมาก ความรู้สึกแรกของลู่เหยาจือก็คือแบบนี้แหละ
แต่แจ็คปฏิเสธแล้ว…อย่างนั้นถ้าตัดแจ็คออก แล้วจะเป็นใครกัน
โต้วหลงทีวีเหรอ ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ถึงแม้โต้วหลงถือได้ว่ามีชื่อเสียงในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง แต่ระยะนี้ศักยภาพไม่แข็งแกร่งพอ สถานการณ์ไม่สู้ดีนัก ฉีหลินทีวีแพลตฟอร์มที่เพิ่งเติบโตขึ้นมาใหม่จึงแซงหน้า คว้าตัวคนเก่าแก่ของโต้วหลงทีวีไปไม่น้อย ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้พวกเขาจะใช้หลินจื่อมาสร้างกระแสก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ส่วนฐานะของตัวเองคาดว่าอีกฝ่ายคงไม่รู้ชัดเจนมากนัก รู้สึกแค่ว่าเสียงคล้ายเท่านั้น สามารถหยิบหัวข้อนี้มาเล่นได้ แต่ใครจะคาดถึงกันล่ะว่าจะบังเอิญถูกต้องแบบนี้
พอลองคิดดู ถ้าแมรี่เป็นแค่คนทั่วไปคนหนึ่งที่มีเสียงคล้ายลู่เหยาจือ หลังจากคำค้นหายอดนิยมนี้ฮอตขึ้นมาแล้วทีมงานของลู่เหยาจือออกมาแก้ข่าว คาดว่าคงมีประเด็นร้อนระลอกใหญ่ตามมาทีหลัง ช่างเป็นแผนการที่ยอดเยี่ยม คุ้มค่ากับการสร้างกระแสจริงๆ เลย
แต่ความเป็นจริงก็ประจวบเหมาะ แมรี่คือลู่เหยาจือ แต่ลู่เหยาจือไม่สามารถกระโดดออกมายอมรับได้ว่าใช่ ถูกต้องแล้ว คนนี้คือผมเอง
ตามความรู้สึกแล้ว ลู่เหยาจืออยากจะเข้าเวยป๋อแล้วโพสต์ตอนนี้จริงๆ เลยว่า ‘ผมคือแมรี่ แมรี่คือผม’ เขาไม่รู้ว่าเจ้าเด็กสตรีมเมอร์เห็นคำพูดสกปรกหยาบคายพวกนี้หรือเปล่า รู้หรือเปล่าว่ามีคนใช้พวกเขามาสร้างกระแส ถ้าเห็นแล้วตอนนี้จะเสียใจผิดหวังหรือว่าไม่สนใจ แม้แต่ตัวลู่เหยาจือเองเห็นคำพูดพวกนั้นที่แฟนคลับของตัวเองพูดยังรู้สึกไม่สบายใจ ถึงขั้นกลัวนิดหน่อยด้วยว่าจะพลอยทำให้หลินจื่อมีความทรงจำที่ไม่ดีกับตนไปด้วยเพราะเรื่องนี้
แต่ถ้าหากเขาโพสต์แบบนี้จริง ก็คงเป็นตัวอย่างของการสื่อสารในภาวะวิกฤตที่ผิดพลาด ลู่เหยาจือเข้าใจกลุ่มแฟนคลับของตัวเอง แจ็คมักจะภาคภูมิใจพวกตำหนักเหยาฉือที่มี ‘พลังในการต่อสู้’ ช่วยลดปัญหาให้เขาเยอะมาก แต่ลู่เหยาจือกังวล เขาเดาได้เลยว่าต่อให้ตอนนี้ออกไปยอมรับว่าเขาคือแมรี่ เหล่าแฟนคลับอาจจะไม่เชื่อ หรือไม่ก็อาจจะกลายเป็นแอนตี้เพราะรับความจริงไม่ได้ หลังจากนั้นก็ยิ่งเกลียดหลินจื่อ ส่วนจะเลิกเป็นแฟนคลับหรือเปล่าเขาไม่สนใจ เพราะเขาไม่ต้องการแฟนคลับที่ไม่มีสติแค่ไม่กี่คนนี้หรอก เพียงแค่ถ้าเขาเอ่ยปากอย่างลวกๆ จะนำมาซึ่งผลที่เลวร้ายที่สุดก็คือหลินจื่อในฐานะที่เป็นศูนย์กลางของมรสุมและต้นเหตุทั้งหมดจะมีแอนตี้กลุ่มใหญ่ที่ตามราวีไม่เลิก นี่เป็นสิ่งที่ลู่เหยาจือไม่อยากเห็นมากที่สุด
ทำยังไงถึงจะทำให้เรื่องนี้ผ่านไปได้โดยเร็วที่สุด
ทำยังไงถึงจะสามารถทำให้หลินจื่อไม่ได้รับความเสียหายอีก หลังจากนี้จะชดเชยยังไง ถึงสามารถกอบกู้ภาพลักษณ์ ‘ลู่เหยาจือ’ ในใจของหลินเหว่ยกลับคืนมาได้
เขามองตัวเองที่อยู่ในกระจก หลังจากนั้นกดเปิดหน้าต่างแชตของเขากับแจ็คอีกครั้ง
ไม่สนใจแล้ว เขาอยากทำตามใจตัวเองสักครั้ง
หลินเหว่ยงุนงง
เมื่อวานตอนเขาเลิกสตรีมก็เป็นเวลาหนึ่งทุ่มกว่าแล้ว กำลังจะเตรียมไปทำเรื่องอื่นก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อของเขาบอกว่าคุณตาคุณยายมาจากบ้านเกิดกะทันหัน ให้เขากลับบ้านไปกินข้าวด้วยกัน เขาเลยรีบร้อนเก็บของ นั่งรถไฟใต้ดินข้ามครึ่งเมือง กลับบ้านไปเป็นลูกชายหลานชายที่น่ารัก
เนื่องจากไปอย่างรีบเร่ง หลินเหว่ยเลยไม่ได้เอาหัวชาร์จกับสายชาร์จมาด้วย โทรศัพท์มือถือแบตฯ หมดตั้งแต่ตอนอยู่บนรถไฟใต้ดิน และเป็นเพราะว่าครึ่งค่อนปีแล้วที่ไม่ได้เจอคุณตาคุณยาย รู้สึกดีใจเลยไปทำกับข้าวเองสองอย่าง กินข้าวคุยเรื่องสัพเพเหระทั่วไปจนลืมเรื่องชาร์จแบตฯ ไปเลย กระทั่งนึกขึ้นมาได้ทุกคนในบ้านก็หลับกันหมดแล้ว หลินเหว่ยค้นดูแต่ก็หาหัวชาร์จกับสายชาร์จสำรองในลิ้นชักของห้องตัวเองไม่เจอ ก็เลยเลิกหา
ดังนั้นกลางวันของวันถัดมา ตอนที่เขากลับถึงคอนโดฯ ของตัวเอง ชาร์จแบตฯ แล้วโทรศัพท์เปิดเครื่องเองอัตโนมัติ เขาก็ตกใจกับข่าวที่สั่นแจ้งเตือนขึ้นมาไม่หยุดจนเกือบโยนไอโฟนที่เพิ่งซื้อใหม่ทิ้ง
เกิดอะไรขึ้นเนี่ย
ทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีข้อความแจ้งเตือนเด้งออกมาเหมือนกับติดไวรัส ทั้งเวยป๋อ วีแชต ข้อความมือถือ โต้วหลงทีวี ยังมีเว็บไซต์คลิปวิดีโอ เด้งแจ้งเตือนข้อความออกมาพรวดๆ เหมือนกับระบายน้ำท่วมอย่างนั้น
หลินเหว่ยรีบเปิดคอมพิวเตอร์ ล็อกอินเวยป๋อ อ่านเล็กน้อยแล้วถึงกับพูดไม่ออกบอกไม่ถูก
นี่แม่งเรื่องอะไรกัน! แมรี่คือลู่เหยาจือ? ใครคิดออกมากันเนี่ย แมรี่จะเป็นลู่เหยาจือได้ยังไง ไม่ใช่นิยายแมรี่ซูสักหน่อย แต่งเรื่องกันเก่งจริง!
ส่วนคำพูดสกปรกหยาบคายที่ด่าเขาพวกนั้น หลินเหว่ยแค่กลอกตามองบนแล้วผ่านไป ส่วนที่พูดแช่งครอบครัวเขา เขากลับจำเอาไว้หลายคน เตรียมรีพอร์ตทีละคน ถึงแม้จะเป็นคำพูดไม่น่าฟังและไร้สมองจริง แต่ตอนนี้เขาหวังว่าแม่ของตัวเองที่ชอบลู่เหยาจือเหมือนกัน เวลานี้จะไม่ว่างมาท่องอินเตอร์เน็ต ไม่อย่างนั้นพอเห็นพวกนี้แล้วจะไม่สบายใจมากแค่ไหนกัน
เขาปิดคอมเมนต์และข้อความส่วนตัวของคนไม่รู้จักในเวยป๋อ ก่อนจะจัดการส่งข่าวปลอบใจพวกแฟนคลับที่กังวลเพราะเขาไม่ได้ออนไลน์เลย จากนั้นเขาถึงได้สงบจิตใจมาใคร่ครวญเรื่องนี้
ปฏิกิริยาแรกของหลินจื่อก็คือตอบกลับวีแชตของเสี่ยวหลี่ผู้จัดการของโต้วหลง เมื่อคืนเสี่ยวหลี่ส่งข้อความมาหาเขาว่า
‘คุณเห็นหรือยัง’
พอเห็นเขาไม่ตอบก็เลยไม่ได้พูดอะไรต่อ
หลินเหว่ยอธิบายก่อนว่าเมื่อคืนตัวเองมีธุระไม่ได้ดูโทรศัพท์มือถือ จากนั้นก็ถามถึงปัญหา
ผืนป่าโตแล้ว คำค้นหายอดนิยมครั้งนี้แพลตฟอร์มของพวกเราเป็นคนซื้อเหรอ
คาดว่าเสี่ยวหลี่เองก็คงจ้องโทรศัพท์มือถือรอการตอบกลับอยู่ตลอด จึงขึ้นว่ากำลังพิมพ์ทันที
LEE ไม่ใช่ อย่างน้อยครั้งแรกก็ไม่ใช่ พวกเราโง่หรือไงถึงได้หยิบลู่เหยาจือมาสร้างกระแส มีใครไม่รู้บ้างว่าแฟนคลับของเขาโคตรน่ากลัว
ถ้าอย่างนั้นเป็นใครกัน หลินเหว่ยขมวดคิ้ว เขาไม่คิดว่าลู่เหยาจือจะรู้ว่ามีสตรีมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขาอยู่ แล้วยังเต็มใจโดนโยงความสัมพันธ์กับตัวเอง ก็เหมือนกับที่แฟนคลับพวกนั้นพูด ถ้าอีกฝ่ายเห็นแล้วคงคิดว่า ‘คนนี้ใครกันทำไมถึงมาเกาะกระแสฉันตามใจชอบ’
LEE ตอนแรกพวกเรากำลังเฝ้าสังเกตการณ์ ผลสุดท้ายวุ่นวายกันจนใหญ่โต ลูกพี่เลยบอกว่าจะให้คนของเราถูกด่าฟรีๆ ไม่ได้ ฉวยโอกาสสร้างกระแสให้แพลตฟอร์มของเราแล้วโฆษณาคุณด้วย ก็เลยอนุมัติเงินประชาสัมพันธ์ก้อนหนึ่ง ติดต่อ KOL* แล้วแนะนำไป…
ผืนป่าโตแล้ว …
หลินเหว่ยเองก็นึกไม่ถึงว่าฝ่ายประชาสัมพันธ์ของโต้วหลงจะบื้อแบบนี้
แผนการที่ไม่ฉลาดนี้ก่อให้เกิดผลยังไงก็เห็นชัดเจน ครั้งที่สองที่นำเสนอให้แอ็กเคานต์ปั่นกระแสยกยอผืนป่าโตแล้วยิ่งเพิ่มความโกรธให้กับแฟนคลับของลู่เหยาจือ จนเขายิ่งถูกด่าแรงขึ้น ไม่รู้ว่าทำไมฝ่ายประชาสัมพันธ์ของโต้วหลงถึงไม่ได้เรื่อง ถึงแม้เพราะว่าความขัดแย้งมีแนวโน้มรุนแรง ผู้เล่น Summon Spirits ยินดีช่วยตอบโต้แทนเขาในเวลาแบบนี้ แต่สถานการณ์ในตอนนี้ก็พอถือได้ว่าห้าสิบห้าสิบ ทั้งสองฝ่ายเสมอกัน แต่หนึ่งคืนนี้บวกกับเช้านี้หลินเหว่ยถูกโจมตีเรื่องส่วนตัวมากกว่ายี่สิบกว่าปีก่อนของเขารวมเข้าด้วยกันอีกต่างหาก
หลินเหว่ยไม่ใช่คนที่ชอบถอนหายใจ แต่ตอนนี้ทำได้แค่ถอนหายใจแล้ว
ผืนป่าโตแล้ว ตอนนี้ทำยังไงดี มีวิธีไหม
เขารู้ว่าในฐานะที่เป็นบุคคลสาธารณะ แถมเบื้องหลังยังมีแพลตฟอร์มใหญ่อย่างโต้วหลงอยู่ด้วย เพื่อไม่ก่อให้เกิดเรื่องยุ่งยาก เขาย่อมไม่สามารถพูดเรื่อยเปื่อยตามใจได้อย่างแน่นอน แม้เมื่อคืนฝ่ายประชาสัมพันธ์ของโต้วหลงจะพลาด แต่ก็ยังเป็นมืออาชีพมากกว่าตัวเขาเอง จึงได้แต่ลองฟังความคิดเห็นก่อน และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องแย่ๆ นี้จะผ่านพ้นไปเมื่อไหร่
เสี่ยวหลี่ไม่ได้ตอบกลับครู่หนึ่ง
หลินเหว่ยจึงส่งเครื่องหมายคำถามไปอีก
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เสี่ยวหลี่ต่อสายมาหาเขาโดยตรง หลินเหว่ยรับสายด้วยความสงสัย เสี่ยวหลี่ที่อยู่ฝั่งนั้นเสียงสูงมากเหมือนควบคุมน้ำเสียงไม่ได้ “รีบดูเวยป๋อของลู่เหยาจือ!”
ด้านหลังของเขามีเสียงจ้อกแจ้กจอแจ หลินเหว่ยฟังไม่ค่อยชัด คล้ายกับได้ยินรางๆ ว่า “จริงเหรอ” “โอ้พระเจ้า” ประมาณนี้ เสี่ยวหลี่บอกว่าพวกเขาต้องประชุมด่วน และขอให้หลินเหว่ยอยู่นิ่งๆ ก่อน จากนั้นก็วางหูทันที
หลินเหว่ยยิ่งสงสัยมากขึ้น วางสายแล้วจึงพิมพ์ชื่อลู่เหยาจือที่หน้าเว็บเพจ แล้วกดเข้าไปดูเวยป๋อของเขา
เวยป๋อโพสต์หนึ่งที่เพิ่งลงเมื่อสามนาทีก่อน ตอนนี้มียอดแชร์เกือบหมื่นแล้ว…ลู่เหยาจือลงรูปภาพรูปหนึ่ง
ไม่ใช่รูปเซลฟี่ ลู่เหยาจือไม่ชอบเซลฟี่ เรื่องนี้หลินเหว่ยเคยได้ยินแม่พูด คงเป็นทีมงานที่แอบถ่าย
ลู่เหยาจือนั่งอยู่ในห้องพักผ่อน เส้นผมสยาย บนตัวยังสวมชุดเข้าฉาก กำลังก้มหน้าดูไอแพด ใบหน้าด้านข้างของเขาดูดีมาก ถึงแม้ภาพทั้งหมดจะให้ความรู้สึกเหมือนทะลุมิติมาแต่กลับกลมกลืนอย่างแปลกประหลาด ภาพบนหน้าจอไอแพดมัวมาก น่าจะเป็นคลิปวิดีโอ พวกนี้ไม่ใช่จุดสำคัญ ที่สำคัญคือเขานั่งอยู่บนเก้าอี้เกมมิ่งตัวหนึ่ง…หลินเหว่ยสามารถบอกชื่อยี่ห้อของเก้าอี้เกมมิ่งตัวนี้ออกมาได้ DrixRacer สปอนเซอร์ของโต้วหลง หลินเหว่ยก็ใช้เก้าอี้เกมมิ่งของ DrixRacer ที่บ้านเหมือนกัน เวลาสตรีมก็จะพูดถึงสปอนเซอร์อยู่บ้าง
ต่อมาบนโต๊ะด้านหลังลู่เหยาจือมีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเครื่องหนึ่ง หลินเหว่ยไม่ค่อยเล่นฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงเท่าไหร่ แต่มองแค่แวบเดียวก็มองออกว่านั่นเป็นคอมพิวเตอร์ของคนที่ชอบเล่นเกมแน่นอน คีย์บอร์ด หูฟัง เม้าส์แบรนด์ดังมีพร้อมสรรพ ถึงขนาดที่ใต้คีย์บอร์ดยังปูด้วยแผ่นรองเม้าส์ธีม Summon Spirits! ซึ่งที่พิมพ์อยู่บนนั้นน่าจะเป็นคาแร็กเตอร์ตัวละครกานหนิง
หลินเหว่ยเกิดความคิด นึกถึงก่อนหน้านี้ที่โต้วหลงเคยจัดกิจกรรมสร้างปฏิสัมพันธ์กับสตรีมเมอร์ เขาถามแมรี่ว่าต้องการรางวัลกล่องดำไหม ถึงจะเป็นแค่แผ่นรองเม้าส์เท่านั้น…บนแผ่นรองเม้าส์แผ่นนั้นพิมพ์ตัวละครกานหนิง ฮีโร่ที่หลินเหว่ยใช้บ่อย
แคปชั่นที่ประกอบรูปเรียบง่ายมาก
[ปิดกล้องแล้ว รอคอยวันหยุด จะได้เล่นที่ตัวเองอยากเล่น]
นี่น่าจะเป็นความบังเอิญสินะ เขาคิดต่ออีก ดูเหมือนลู่เหยาจือจะเล่นเกม Summon Spirits จริงๆ? นั่นก็มีความเป็นไปได้มาก Summon Spirits ดังมาก เดิมทีก็มีคนดังเล่นกันเยอะ ลู่เหยาจืออยากโพสต์รูปเพื่อปลอบโยนแฟนคลับโดยไม่ได้คิดเยอะขนาดนั้นใช่ไหม บางทีคนที่ถ่ายรูปคงไม่รู้ว่าแผ่นรองเม้าส์นั่นคือของที่ระลึกจาก Summon Spirits?
ในใจของเขามีความคาดหวังอยู่รางๆ แต่ก็ไม่กล้าเชื่อความเป็นไปได้ 0.1% นี้
เห็นได้ชัดว่าตอนแรกแฟนคลับตำหนักเหยาฉือส่วนใหญ่ไม่ได้คิดมาก เพราะคาดไม่ถึงว่าเหยาเหยาที่ไม่ชอบลงรูปจะออนไลน์มาโพสต์รูป ไม่ต้องสนอะไรทั้งนั้น ไม่สนว่าเขากำลังทะเลาะอยู่หรือเปล่า แชร์ไว้ก่อนแล้วกัน มีบางคนที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับเกมเอย คอมพิวเตอร์เอย พอแชร์เสร็จแล้วไม่ได้พบว่ามีอะไรผิดปกติ แต่เดิมทีก็มีแฟนคลับที่เข้าใจทางด้านนี้อยู่แล้ว เวลานี้จึงถามด้วยความลังเลว่า ‘ฉันไม่ได้ดูผิดใช่ไหม’
คนคนนั้นคือหัวหน้าแฟนคลับที่มีจำนวนคนติดตามเกินแสน เมื่อก่อนได้แค่เฝ้าสังเกตไม่เคยพูดอะไรเลย ครั้งนี้พอแสดงความคิดเห็นออกมา จึงมีคนกลุ่มหนึ่งถามทันทีว่าทำไมเหรอ รูปเซลฟี่ของพี่ชายเป็นอะไร
หัวหน้าแฟนคลับคนนั้นแคปรูปโพสต์ลงในคอมเมนต์…เธอไม่กล้าลงโพสต์ใหม่ เพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องยุ่งยาก
[คุณเหยาฉัน 8 แผ่นรองเม้าส์นี้คือกานหนิงใน Summon Spirits พี่ชายเอาคอมพิวเตอร์ไปเล่นที่กองถ่ายจริงด้วย สมกับภาพลักษณ์โอตาคุ]
คนที่มีความรู้สึกไวหน่อยก็คิดถึงเรื่องเมื่อวานจนถึงตอนนี้ แต่พวกเขาไม่กล้าแพร่กระจายข่าว และไม่กล้าทะเลาะอย่างเอิกเกริกแล้ว
ถึงแม้ว่าแฟนคลับที่เคยต่อสู้อยู่แนวหน้ายังคงปากแข็ง บอกให้พวกตำหนักเหยาฉือไม่ต้องคิดมาก…ใช่แล้ว ถึงยังไงพี่ชายก็ไม่ได้ยอมรับโดยตรง ปล่อยข่าวลือก็คือปล่อยข่าวลือ! ส่วนเรื่องที่ภาพลักษณ์ ‘กำลังทุ่มเทถ่ายหนังไม่มีเวลาว่างเล่นเกม’ ซึ่งพวกเขาช่วยสร้างพังทลาย คงได้แต่ดึงดันทำเป็นไม่เห็น แล้วเปลี่ยนมาที่อีกภาพลักษณ์หนึ่ง ‘หนุ่มโอตาคุที่เวลาพักผ่อนในกองถ่ายก็ยังเล่นเกมช่างน่ารักจริงๆ เลย’
ทว่าระฆังเตือนภัยในใจของเหล่าแฟนคลับที่ยังมีสติอยู่ได้ถูกเคาะขึ้นมาแล้ว
ถ้าพี่ชายเล่น Summon Spirits จริง…งั้น ‘แมรี่’ คนเมื่อวานนั่น จะเป็นตัวเขาเองจริงๆ หรือเปล่า
เพราะถ้าไม่ใช่เขา เวลานี้สตูดิโอก็น่าจะออกมาบอกว่าเป็นข่าวลือ หรือบอกเป็นนัยอะไรบ้างแล้ว เรื่องใหญ่ขนาดนั้นแต่ไม่มีความเคลื่อนไหวเลย เดิมทีก็ไม่ใช่เรื่องปกติอยู่แล้ว ถ้าเอาเรื่องที่ลู่เหยาจือโพสต์รูปครั้งนี้ซึ่งเป็นเรื่องที่หาได้ยากถือว่าเป็นคำตอบ ถ้างั้นคำตอบนี้หากเปรียบเทียบกับการปฏิเสธ ยิ่งดูคล้ายกับ…การยอมรับ?
แน่นอนว่ามีบางคนไม่เต็มใจเชื่อความคิดนี้ พวกเขาบอกว่าพี่ชายตั้งใจถ่ายหนัง จะไปรู้เรื่องที่ถูกคนไร้ตัวตนเกาะกระแสได้ที่ไหนกัน ต่อให้เล่น Summon Spirits จริง แล้วยังไง เล่น Summon Spirits แล้วต้องไปดูสตรีมของสตรีมเมอร์หนุ่มไร้ตัวตนคนนั้นด้วยเหรอ พวกเธออย่ามาชักนำความคิดเลย
ในตำหนักเหยาฉือมีความคิดแตกต่าง พวกเขาไม่ฮือกันมาด่าหลินจื่อแล้ว แต่ทะเลาะกันเองเป็นการภายในก่อน ทางโต้วหลงทีวีเองก็โล่งอก บอกให้หลินจื่อไม่ต้องมีความเคลื่อนไหวอะไรชั่วคราว แล้วคอยเฝ้าสังเกตการณ์ต่อ
ตอนนี้หลินจื่อเองก็ไม่มีหนทาง ‘เคลื่อนไหว’
เขาถูกทำจนตกใจหนักมาก
แอ็กเคานต์รองเวยป๋อของแมรี่ออนไลน์แล้ว และส่งข้อความส่วนตัวมาหาเขา พวกเขากดติดตามกันนานมากแล้ว ถึงแม้แอ็กเคานต์รองนั่นจะไม่เคยโพสต์อะไรเลยก็ตาม
เหมือนกับครั้งแรกที่ติดต่อเขา แมรี่ไม่ได้พูดอะไรเลย แต่ส่งหลายรูปมาก่อน ซึ่งทั้งหมดเป็นบันทึกการเติมเงิน
หลินเหว่ยไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร ได้แต่รออย่างเงียบๆ จนแมรี่ส่งบันทึกการเติมเงินของทั้งห้าแอ็กเคานต์นั้นมาจนครบ
ช่างประปาแมรี่1111 คุณเคยพูดว่าหนึ่งแสนสามารถแอดวีแชตใช่ไหม
ช่างประปาแมรี่1111 เกินหนึ่งแสนตั้งนานแล้ว ผมขอไอดีวีแชตของคุณได้ไหม หลินหลิน?
หลินเหว่ยงงเล็กน้อย วันนี้เขาอยู่ในสภาพที่มีเครื่องหมายคำถามอยู่เต็มหัว แมรี่ต้องการไอดีวีแชต เขาให้แน่นอนอยู่แล้ว แต่ทำไมอีกฝ่ายถึงต้องการตอนนี้? ถูกพัวพันขึ้นคำค้นหายอดนิยมเลยมาซักไซ้เอาความเหรอ แต่ท่าทางเหมือนไม่ใช่
โต้วหลงทีวี_ผืนป่าโตแล้ว เรื่องวันนี้แปลกประหลาดมากใช่ไหม ทำให้คุณเดือดร้อนต้องขอโทษด้วย แต่วันนั้นผมพูดไปเรื่อยเปื่อยน่ะ ในวงการไม่มีกฎนี้
โต้วหลงทีวี_ผืนป่าโตแล้ว ไอดีวีแชตของผมคือ linwei0000 คุณแอดมาได้เลย
เขาส่งไปไม่กี่วินาที วีแชตก็ดังขึ้นมา แจ้งเตือนว่ามีคนแอดเขา หลินจื่อก้มหน้ากดยอมรับ พอเงยหน้าก็เห็นแมรี่ตอบกลับข้อความ
ช่างประปาแมรี่1111 ไม่สิ ต้องเป็นผมที่พูดขอโทษคุณ
ช่างประปาแมรี่1111 แฟนคลับบางคนของผมพูดโดยไม่คิด หลังจากนี้ผมจะให้ทีมงานติดต่อกับทางกลุ่มแฟนคลับนั่น ทำให้เรื่องนี้สงบลงโดยเร็วที่สุด
ช่างประปาแมรี่1111 คุณอย่าโกรธผมได้ไหม
โต้วหลงทีวี_ผืนป่าโตแล้ว ???
โต้วหลงทีวี_ผืนป่าโตแล้ว …???
หลินเหว่ยเบิกตาโตไปดูวีแชต ไอดีของคนที่เพิ่งแอดเขามาใหม่สั้นกระชับมาก มีแค่คำเดียว ‘เหยา’ รูปโพรไฟล์เป็นใบหน้าด้านข้างที่หันหลังให้แสง สาบานได้เลยว่าด้วยความสามารถในการวินิจฉัยซึ่งถูกคุณแม่หลินกล่อมเกลามานานมาก บวกกับในบ้านมีโปสเตอร์โปสการ์ดผลงานของลู่เหยาจือมากมายนับไม่ถ้วน ใบหน้าด้านข้างนี้มีความเป็นไปได้ 80% ที่จะเป็นเจ้าตัวลู่เหยาจือเอง
เป็นรูปที่ไม่เคยโพสต์ข้างนอกมาก่อนด้วย!
หลินเหว่ย “เชี่ยเอ๊ย”
* มาจากสำนวน ‘ขนมเปี๊ยะไส้เนื้อตกลงมาจากฟ้า’ หมายถึงมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน โดยขนมเปี๊ยะหมายถึงสิ่งดีๆ
*KOL (Key Opinion Leader) หมายถึงผู้นำทางความคิด หรือก็คือกลุ่มคนที่มีความน่าเชื่อถือในเรื่องต่างๆ จนสามารถแนะนำและทำให้ผู้คนสนใจตามไปกับการกระทำและความคิดของพวกเขาได้
บทที่ 8
เรื่องคำค้นหายอดนิยมก็สงบลงไปแบบนี้ ลู่เหยาจือพูดได้ทำได้จริงๆ
แต่คลื่นลูกใหญ่ภายในใจของหลินเหว่ยทำยังไงก็สงบลงไม่ได้เสียที
เขายังคงรู้สึกไม่คาดคิดอยู่เล็กน้อย หรือว่าที่จริงแล้วแมรี่ไม่ใช่เสียงคล้าย แต่หน้าตาก็คล้ายด้วย เพื่อที่จะล้อเขาเล่นถึงบอกว่าตัวเองคือลู่เหยาจือ?
ทว่าก็ไม่ใช่ อาจจะเพื่อยืนยันตัวเอง พวกเขาสองคนแอดวีแชตเพียงไม่นาน แมรี่ก็ถามว่า
‘ผมจำได้คุณบอกว่ามีคนในบ้านคุณเป็นแฟนคลับของผม? งั้นจะมาดูงานแถลงข่าวของผมพร้อมกันกับเธอไหม’
ด้านหลังตามมาด้วยอีโมจิยิ้ม
หลินเหว่ยได้แต่อึ้ง “…”
หลินเหว่ยจึงต้องเชื่อแล้ว
ความหมายของแมรี่…เอ่อ…ลู่เหยาจือก็คือส่งบัตรให้หลินเหว่ยสองใบเพื่อเป็นการ ‘ชดเชย’ ให้กับเรื่องในครั้งนี้
“พูดจริงๆ แล้วเป็นเพราะผมเปิดไมค์ถึงได้เกิดเรื่องพวกนี้” ในข้อความเสียงดาราดังกำลังตั้งใจอธิบาย “แต่ทำให้คุณต้องเดือดร้อนถูกด่าโดยไม่มีสาเหตุ ผมอยากขอโทษคุณ ครั้งที่แล้วคุณบอกว่าคุณพักที่เมืองตงไห่ใช่ไหม งานแถลงข่าวจัดที่เมืองตงไห่ ถ้ามีเวลาคุณยินดีมาไหม”
น้ำเสียงของเขายังคงทุ้มไพเราะ และไม่เหมือนอย่างที่คนอื่นวิพากษ์วิจารณ์ว่า ‘ทื่อๆ ไม่มีความอ่อนโยน’ หลินเหว่ยเปิดฟังรอบที่สองพลางคิดในใจว่าภาพลักษณ์ของคนในวงการบันเทิงเป็นของปลอมจริงด้วย ทั้งที่ไม่ว่าจะเป็นแมรี่ก็ดีหรือลู่เหยาจือเองก็ตาม ทั้งคู่นุ่มนวลอ่อนโยนมาก นี่คือ ‘หนุ่มประเภทเกลือ’ อย่างที่พวกเขาพูดที่ไหนกัน หลินเหว่ยเคยค้นหา คำว่าประเภทเกลือใช้สำหรับคนที่เฉยเมยเย็นชาไม่ใช่เหรอ
ขณะเดียวกันหลินเหว่ยก็มีความคิดแตกแยกอยู่บ้าง ความรู้สึกของเขาที่มีต่อลู่เหยาจือซึ่งปิดบังตัวตน กับแมรี่ตอนที่เป็นเพียงแค่ ‘แฟนคลับ’ ธรรมดาคนหนึ่งนั้นไม่เหมือนกัน เวลาแมรี่ไม่พูดก็แล้วไป แต่พอพูดแล้วก็มีอารมณ์ขันแสนเย็นชาที่ทำให้คนตะลึง พูดสรุปง่ายๆ ก็คือเป็นคนมีมุกและน่ารักคนหนึ่ง ไม่มีความรู้สึกเว้นระยะห่างกับหลินเหว่ยหรือว่าชาวเน็ตคนอื่น ตอนนี้ ‘เหยา’ ที่คุยกับเขา คล้ายกับอยู่ตรงกลางระหว่างแมรี่ที่เขารู้จักกับลู่เหยาจือที่เขาคุ้นเคยแต่ไม่รู้จัก ให้ความรู้สึกแปลกประหลาดอย่างหนึ่งกับหลินเหว่ย แต่แน่นอนว่าไม่ได้รังเกียจ
แม้จะเป็นเพียงความสัมพันธ์ของ ‘สตรีมเมอร์’ และ ‘แฟนคลับ’ แต่หลินเหว่ยก็รู้จักแมรี่มาครึ่งค่อนปีแล้ว รู้ว่าถึงแม้เขาพูดน้อย แต่ก็มีนิสัยพูดคำไหนคำนั้น
เคยมีครั้งหนึ่งโต้วหลงเลียนแบบกิจกรรมในวงการบันเทิง โดยการจัดอันดับสตรีมเมอร์ที่มีความนิยมสูงสุด แฟนคลับที่เช็กอินทุกวันสามารถโหวตได้หนึ่งคะแนน ถ้าเติมเงินจำนวนที่กำหนดเป็นพิเศษในหน้าเว็บนั้นก็จะสามารถโหวตได้มากขึ้น โต้วหลงให้คำมั่นว่าสุดท้ายแล้วสตรีมเมอร์ที่ได้อันดับหนึ่งของการจัดอันดับรวมจะมีงานทั้งออฟไลน์ออนไลน์เป็นจำนวนมาก หลินจื่อไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้มากนัก ปกติแล้วนี่เป็นสนามรบที่โกลาหลของบรรดาสตรีมเมอร์สาวๆ จะมีความเกี่ยวข้องอะไรกับเขาที่ไม่เปิดเผยแม้แต่ใบหน้า
ผลสุดท้ายไม่รู้ว่าใครไปพูดกับแมรี่ เขาเลยทิ้งข้อความให้หลินจื่อประโยคหนึ่ง
‘ตารางจัดอันดับนี้น่าสนใจ ผมจะทำให้คุณคว้าที่หนึ่งได้แน่นอน’
จากนั้นก็บุกเดี่ยวไปแบตเทิล
ความจริงแล้วตารางจัดอันดับความนิยมนั่น ที่บอกว่าแฟนคลับเช็กอินก็สามารถโหวตได้เป็นเรื่องเท็จ ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์จริงๆ ก็คือการเติมเงิน ทางฝั่งสตรีมเมอร์สาวๆ มีคนจัดตั้งการระดมเงิน ส่วนหลินจื่อล่ะ? ชาวด้อมนกไม่แคร์เรื่องนี้เช่นกัน พอนึกขึ้นได้ถึงค่อยไปเช็กอินโหวตเป็นบางครั้งเท่านั้น
มีแค่แมรี่คนเดียวที่มุ่งมั่นต่อสู้ในแนวหน้า ‘ต้องให้หลินจื่อชนะให้ได้’ ผลปรากฏว่าสุดท้ายถูกเขาคนเดียวทุ่มเงินจนนั่งบัลลังก์ที่หนึ่งอย่างมั่นคงติดต่อกันสามสิบวัน ถึงแม้รายชื่อบนตารางจะมีห้าแอ็กเคานต์ แต่ว่าคนที่อยู่ในโต้วหลงมานานแล้ว ใครไม่รู้เรื่องที่สายเปย์แสนห่วยคนเดียวมีห้าแอ็กเคานต์กันบ้าง
ระหว่างที่แบตเทิล เสี่ยวหลี่เคยรายงานกับหลินจื่อว่าคุณชายหลิน ขอร้องคุณล่ะ คุณไม่เปิดเผยแม้แต่ใบหน้า แล้วเราจะติดป้ายโฆษณาได้ยังไง ให้ปล่อยคาแร็กเตอร์การ์ตูนของคุณหรือว่าตัวละครซิงป้า*? คุณกล่อมแมรี่ของคุณว่าอย่ากดดันเด็กน้อยอีกเลย ให้ทางออกกับพวกสตรีมเมอร์สาวที่อยู่อันดับสองอันดับสามบ้างเถอะ!
ที่จริงหลินจื่อรู้สึกว่าการร้องขอของเสี่ยวหลี่มีเจตนาก่อกวนนิดหน่อย เพราะแมรี่ไม่ได้โกงการแข่งขันและทำเกินเลย การที่เต็มใจช่วยเขาชิงที่หนึ่งเป็นการตัดสินใจของอีกฝ่าย แต่เขารู้สึกว่ากิจกรรมครั้งนี้เป็นการหลอกลวงเงิน ไม่คุ้มกับแมรี่ เขาพูดกับเสี่ยวหลี่ว่าถ้าหากเขาเกลี้ยกล่อมแมรี่ให้ยอมเลิกได้ โต้วหลงจะคืนเงินกลับไปได้ไหม
การกระทำของฝั่งโต้วหลงเองก็น่าสนใจ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเห็นด้วย บอกว่าถ้าแมรี่ยอมเลิกเพียงเท่านี้ก็จะคืนเงินให้ทั้งหมด หลินจื่อจึงไปพูดกับแมรี่
‘แมรี่ๆ พวกเราไม่เล่นเรื่องนี้แล้วเถอะนะ จะคืนเงินให้คุณหมดเลย ผมไม่อยากได้ที่หนึ่งนี้จริงๆ’
ใครจะรู้แมรี่ถึงกับพูดว่า
‘ไม่ได้ ฉันอาศัยความสามารถโหวตคุณจนเป็นที่หนึ่ง ใครก็อย่ามาขวางฉันทั้งนั้น…คุณเองก็ไม่ได้’
ผลสรุปของเรื่องนี้คือโต้วหลงทีวียอมศิโรราบเพื่อเงิน แม้แต่ตอนจะติดตั้งป้ายโฆษณาก็ยังมาถามแมรี่ว่าคุณท่านครับ คุณคิดว่าภาพพวกนี้ที่พวกเราเลือกเป็นยังไงบ้าง และนั่นเลยทำให้หลินจื่อได้รู้จักแมรี่อย่างชัดเจนอีกครั้งว่าเป็นคนที่มุ่งมั่นมาก สิ่งที่เขาถูกใจ ไม่ว่านั่นคืออะไร เขาต้องได้มันมา เรื่องที่เขาจะทำ หากเริ่มทำแล้ว ถ้ายังไม่ถึงเป้าหมายก็ไม่มีทางวางมือเด็ดขาด
ดังนั้นตอนนี้ที่รู้ว่าแมรี่คือลู่เหยาจือ หลินเหว่ยเองก็รู้ว่าคงไม่มีหนทางปฏิเสธการ ‘ชดเชย’ ด้วยบัตรมีตติ้งสองใบนี้ได้แน่นอน เขาถึงขนาดคิดด้วยว่าถ้าตัวเองปฏิเสธ ลู่เหยาจือคงโทรศัพท์หาโต้วหลงทีวีโดยตรงเพื่อเอาที่อยู่ของครอบครัวเขา จากนั้นก็มาส่งบัตรให้ด้วยตัวเอง… อืม แม้ว่าการคาดเดานี้จะทำให้หลินเหว่ยใจเต้นเล็กน้อย เพราะในงานมีตติ้งต่อให้ใกล้แค่ไหนก็ยังอยู่ด้านบนเวทีกับด้านล่างเวที แต่หากลู่เหยาจือมาด้วยตัวเองนั้นความหมายคงต่างออกไป
แต่ว่าสภาพที่ในบ้านของหลินเหว่ยอัดแน่นไปด้วยสินค้าที่เขาเป็นพรีเซ็นเตอร์และโปสเตอร์ อย่าเพิ่งให้ลู่เหยาจือเห็นดีกว่า ไม่อย่างนั้นต่อให้มีปากมากมายก็อธิบายได้ไม่ชัดเจนเรื่องที่หลินเหว่ยไม่ใช่หนุ่มตำหนักเหยาฉือ แต่เพียงแค่ชอบใบหน้าของเขาเท่านั้น อ้อ ตอนนี้คิดขึ้นมาได้ เรื่องที่ ‘ชอบใบหน้าของเขา’ ทางที่ดีที่สุดก็อย่าพูดเลย เพราะเขินมากจริงๆ!
หลินเหว่ยจึงต้องยอมรับเอาไว้
เขายังไม่ได้คิดให้ดีว่าจะพูดเรื่องในครั้งนี้กับคุณแม่หลินยังไง คุณแม่หลินไม่เข้ากลุ่มแฟนคลับ แต่เรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้แถมยังพัวพันถึงลูกชายของเธออีก ต้องมีช่องทางให้ได้รู้ข่าวภายหลังแน่ เดิมทีหลินเหว่ยเตรียมคำอธิบายไว้ดีแล้วว่า ‘นี่เป็นความเข้าใจผิดเท่านั้น’ แต่ตอนนี้แมรี่เปิดเผยตัวตนยอมรับว่าตัวเองคือลู่เหยาจือ แถมยังแอดวีแชตส่งบัตรมาด้วย หลินเหว่ยคงโกหกคุณแม่หลินแล้วยังไม่ให้เธอไปเจอกับไอดอลไม่ได้หรอกใช่ไหม คุณแม่หลินพูดถึงมานานมากแล้วว่าอยากเจอลู่เหยาจือสักครั้ง ไม่ควรปล่อยโอกาสดีให้หลุดมือ สามารถทำให้ความฝันของคุณแม่หลินเป็นจริง การถูกแฟนคลับของลู่เหยาจือด่าก็ถือว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่
ผืนป่าโตแล้ว งั้นผมรับไว้แล้วกัน ขอบคุณแทนแม่ของผมด้วย
เหยา ?
เหยา [แพนด้ามีเครื่องหมายคำถาม.jpg]
เหยา ‘คนในบ้าน’…ที่ชอบผม…คนนั้น คือคุณป้า?
ผืนป่าโตแล้ว [แพนด้ามีเครื่องหมายคำถาม.jpg]
ผืนป่าโตแล้ว ใช่แล้ว! แม่ผมเอง ชอบจนหัวปักหัวปำ
ผืนป่าโตแล้ว ไม่ได้เหรอ 🙂
เหยา …
เหยา เปล่าๆ ผมรู้สึกเป็นเกียรติมาก
ผืนป่าโตแล้ว งั้นก็ดี
ทางนั้นส่งมีมเหงื่อไหลมาอีก หลินเหว่ยมองๆ ไปแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ ความกระวนกระวายใจและความรู้สึกไม่คุ้นเคยตอนเพิ่งแอดวีแชตหายไปแล้ว แมรี่ก็คือแมรี่ ต่อให้ความจริงแล้วเขาเป็นดาราดังคนหนึ่ง แต่เขาก็ยังคงเป็นแมรี่
หลังจากคิดถึงจุดนี้ได้แล้ว เขาก็มีความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย
แม้เขาสามารถถือว่าคำพูดคำด่าของคนพวกนั้นไม่มีอยู่ เพราะลู่เหยาจือเองก็รับปากแล้วว่าจะจัดการปัญหาเละเทะนี้ให้เรียบร้อย แต่ถึงขั้นนี้แล้ว แมรี่ยังสามารถออนไลน์ได้อยู่ไหม ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงตอนนี้เขายังไม่เคยเปิดสตรีมเลย แต่ข่าวจากทางเสี่ยวหลี่บอกว่าถึงแม้เขาไม่ได้สตรีมแต่ในห้องสตรีมก็มีคนแปลกๆ เข้ามาเยอะมาก ความหมายของเสี่ยวหลี่และแพลตฟอร์มคือทางที่ดีช่วงนี้ควรระมัดระวังหน่อย ถึงแม้พวกเขาต้องการกระแส แต่ก็ไม่อยากให้คนสำคัญของตัวเองถูกรุมโจมตี
บางทีเรื่องนี้อาจต้องใช้เวลาช่วงหนึ่งถึงจะผ่านพ้นไปอย่างสิ้นเชิง ส่วนหลินจื่อก็สามารถสตรีมต่อได้ แต่เขาไม่กล้าไว้ใจว่าแมรี่ที่เป็นศูนย์กลางของหัวข้อ ถ้าปรากฏตัวอีกครั้งในห้องสตรีมจะชักนำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ยังไงบ้าง ไม่ว่าจะมีคนเชื่อหรือไม่ก็ตามว่าแมรี่คือลู่เหยาจือ แต่ ‘ช่างประปาแมรี่’ ก็คือระเบิดที่ตั้งเวลาลูกหนึ่ง
ลู่เหยาจือเองคิดยังไง เขายังจะใช้แอ็กเคานต์ของแมรี่ไหม
หลินเหว่ยอยากรู้ แต่เขาไม่ได้ถาม เขารู้สึกว่าในใจของตัวเองมีคำตอบแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปยืนยันอีกรอบ การเซ้าซี้ทำให้คนรำคาญ
แมรี่ไม่ปรากฏตัวอีก เป็นเรื่องดีสำหรับทุกคน หลินเหว่ยไม่อยากยอมรับแบบนี้ ยิ่งไม่อยากได้ยินจากปากของลู่เหยาจือ เขาจึงเลือกที่จะหลอกตัวเอง หลีกเลี่ยงที่จะพูดถึง
ทว่าความจริงก็เป็นเช่นนี้ ตั้งแต่หลินเหว่ยได้รับบัตรงานมีตติ้งที่นั่งวีไอพีซึ่งส่งพัสดุมา แมรี่ก็ไม่เคยปรากฏตัวอีก
แอ็กเคานต์รองของเขาไม่เคยออนไลน์ หลายแอ็กเคานต์ในโต้วหลงทีวีก็ไม่ทุ่มของขวัญอย่างลึกลับให้ผืนป่าโตแล้วอีก กระทั่งเตี๋ยอิ่งยังวิ่งมาหยอกล้อ เมื่อก่อนทั้งเว็บไซต์จะนำเสนอข่าวทุกวันว่าช่างประปาแมรี่ทุ่มกล่องของขวัญแพลทตินั่มให้ผืนป่าโตแล้ว พอตอนนี้ไม่เห็น ก็เลยคิดถึงความรู้สึกที่ถูกคนรวยเหยียบหน้าอยู่บ้าง
หลินจื่อไม่มีอะไรจะพูด เขาส่งกล่องของขวัญแพลทตินั่มให้เตี๋ยอิ่งเพื่อให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงความรู้สึกของการที่ทั้งเว็บไซต์นำเสนอข่าว ท่าทีที่ผิดปกติของเขาทำให้เตี๋ยอิ่งสะดุ้งตกใจ จึงถามว่า ‘นายเป็นอะไร อารมณ์ไม่ดี?’ แล้วพูดอีกว่า ‘ฉันรับไว้ไม่ได้ รอนายสตรีมก่อนแล้วฉันจะคืนกล่องของขวัญแพลทตินั่มให้นาย’
หลินจื่อไม่สามารถพูดถึงฐานะที่แท้จริงของแมรี่กับเตี๋ยอิ่งได้แน่นอนอยู่แล้ว จึงพูดเรื่อยเปื่อยว่าตัวเองใกล้กลับมาสตรีมเหมือนเดิม เลยอาศัยโอกาสที่โยนของขวัญให้นายมาโปรโมต เตี๋ยอิ่งเชื่ออย่างว่าง่าย ดังนั้นจึงช่วยเขาโปรโมตในห้องสตรีมของตัวเอง ผู้ยิ่งใหญ่หลินจื่อที่เคยขึ้นคำค้นหายอดนิยมกลับมาแล้ว!
หลินเหว่ยเปิดสตรีมหลังจากเรื่องคำค้นหายอดนิยมจบไปแล้วสามวัน แม้ในห้องสตรีมจะมีคนก่อกวน แต่ก็สรุปได้ว่าบรรยากาศคึกคักกว่าเมื่อก่อน คนจำนวนมากที่เล่นเกม Summon Spirits แล้วไม่ดูสตรีมก็ได้รู้จักเขาเพราะเรื่องครั้งนี้ และมีบางส่วนที่ไม่เล่น Summon Spirits แต่ก็หันมาสนใจ เข้ามาดู ‘ตัวการสำคัญ’ ชาวด้อมนกคุยกันบอกว่าลูกชายดังแล้ว แล้วก็มีคนพูดว่าลูกชายได้รับความไม่เป็นธรรม ทุกคนจึงทุ่มของขวัญปลอบใจ ส่งซับกระสุนหยอกให้เขาสบายใจ
ซึ่งในนี้ไม่มีแมรี่
หลินจื่อจัดกิจกรรมพาแฟนคลับเล่นเกมอีกครั้ง ผู้ควบคุมถามว่าครั้งนี้ต้องเหลือที่ให้แมรี่ไหม พูดด้วยท่าทางระมัดระวังเล็กน้อย ซึ่งไม่ได้โทษพวกเขาหรอก เพราะตลอดมาหลินจื่อเป็นคนติดต่อแมรี่ด้วยตัวเอง เมื่อคิดอย่างละเอียดเขาก็ไม่เคยสนิทสนมกับด้อมนกคนอื่น หลินเหว่ยมองบันทึกแชตที่หลังจากวันนั้นแล้วก็ไม่ได้คุยกันอีก จากนั้นไปค้นดูโมเมนต์วีแชตที่ลู่เหยาจือเปิดเป็นสาธารณะ ก็ไม่ได้อัพเดตมาสักระยะแล้วเหมือนกัน ไม่อยากรบกวนอีกฝ่ายจนทำให้ลำบากใจ จึงพูดตรงๆ ว่าไม่ต้องหรอก เลือกคนอื่นเถอะ
ถึงแม้แมรี่ไม่ได้ออนไลน์ แต่ห้าอันดับของเขากลับไม่ได้หล่นลงจากอันดับสายเปย์ บางครั้งหลินจื่อเคยกดไปเห็นไอดี ก็จะรู้สึกไม่สบายใจเล็กๆ
พูดตามตรง หลินเหว่ยสามารถยอมรับได้ว่าแมรี่คือลู่เหยาจือ แต่เขาไม่มีทางยอมรับได้ถ้าแมรี่จะไม่ปรากฏตัวอีกเพราะเหตุการณ์นี้
เขาแคร์ ‘แมรี่’ มากกว่าลู่เหยาจือเยอะ
* ซิงป้า เป็นชื่อรองของกานหนิง
โปรดติดตามตอนต่อไป…
Comments
comments
No tags for this post.