บทที่ 52
ครั้นเห็นว่าอีกฝ่ายไม่พูดอะไร เซี่ยงไหวจือก็คิดว่าอีกฝ่ายคงจะเข้าใจผิด
“ไม่ได้หมายความว่าห้ามเธอไปชอบคนอื่นนะ”
จิ่งฮวนด่าหัวใจเพรียกหาในใจไปเป็นร้อยเป็นพันครั้ง จากนั้นก็พิมพ์ข้อความ
[ปาร์ตี้] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : นอกจากพี่แล้ว ฉันจะไปชอบคนอื่นได้ยังไงTT
เขาเปิดไมค์ไม่ได้เพราะกลัวว่าตัวเองจะอดไม่ไหวจนสบถใส่อีกฝ่าย
เซี่ยงไหวจือคิดว่าตัวเองอธิบายได้อย่างชัดเจนแล้ว
เขาพยักหน้า “ช่วงนี้ฉันไม่อยู่ เธอก็พยายามอย่าออกจากเซฟโซนนะ”
นิสัยแบบรักม่ายม่ายที่สุด ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนประเภทที่โดนฆ่าแล้วจะสามารถกล้ำกลืนฝืนทนได้ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีก
[ปาร์ตี้] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่กลัวเขาหรอก >.<
จิ่งฮวนไม่กลัวจริงๆ ถึงไอเทมของรักม่ายม่ายที่สุดจะดีมาก แต่ฝีมือกลับไม่เอาไหน ตรงตามมาตรฐานของผู้เล่นที่ชอบเติมเงินโดยแท้
เขาคิดว่านี่คงเป็นเหตุผลที่เกม Nine Heroes อยู่มาได้นานขนาดนี้ สำหรับผู้เล่นที่เติมเงินไม่มากพอแต่มีฝีมือดีก็จะพอสูสีกับพวกผู้เล่นที่ขยันเติมเงินได้
แน่นอนว่าถ้าไม่เติมเลยสักแดงคงไม่ได้
“เธอน่ะนะไม่กลัว” เซี่ยงไหวจือเหลือบมองเซียนจิ้งจอกน้อยข้างกายตนเอง “ไปซื้อไอเทมบนตัวเธอพวกนี้มาตอนไหน”
บนร่างกายของเซียนจิ้งจอกน้อยไม่ได้มีเพียงแหวนที่ส่องสว่างอยู่วงเดียวอีกต่อไป
ในมือของเธอมีแส้ระดับสีม่วง น้ำเต้าที่เอวก็ส่องแสงสีขาว แม้แต่ผ้าคาดเอวก็ยังเป็นไอเทมระดับสีม่วง
จิ่งฮวนตกตะลึง และเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้ตนเองโมโหจนหน้ามืดซื้อไอเทมมาทั้งชุด
[ปาร์ตี้] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : ฉัน…
[ปาร์ตี้] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : ตอนนั้นฉันโมโหมากน่ะ! QAQ
“เอาเงินมาจากไหน”
[ปาร์ตี้] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : ค่าใช้จ่ายประจำวันค่ะ…
“ค่าใช้จ่ายประจำวันพอซื้อของพวกนี้เหรอ”
เดี๋ยวนะ
นี่มันบทสนทนาบ้าบออะไรเนี่ย
จิ่งฮวนรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังโดนแฟนสอบปากคำอย่างไรอย่างนั้น
[ปาร์ตี้] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : ก็…เบิกมาเกินค่ะ! เดือนนี้คงต้องกินแต่ซาลาเปาแล้ว!
“…” เซี่ยงไหวจือสำลัก
เขาคิดไม่ถึงว่าจะมีคนถึงกับยอมอดข้าวเพื่อเกมจริงๆ
“ทำไมเอาแต่พิมพ์อย่างเดียวไม่พูดเลยล่ะ” เซี่ยงไหวจือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “เดี๋ยวฉันให้ยืมเงิน จะเอาเท่าไร”
จิ่งฮวนตกใจ “หา? ไม่ต้องค่ะไม่ต้อง! ในบัตรกินข้าวของฉันยังเหลือเงินอยู่ แถมตอนนี้ฉันกำลังไดเอตพอดีด้วย…”
“เธอไม่อ้วน ไม่ต้องลดหรอก”
เสียงในสายเงียบไปสักพัก
จิ่งฮวนถามขึ้น “พี่รู้ได้ไงว่าฉันไม่อ้วน”
เซี่ยงไหวจือเงียบไปสองวินาที ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเป็นธรรมชาติ “เดาเอา”
ปากหวานเชื่อไม่ได้!
“ไม่ต้องจริงๆ ค่ะพี่ชาย ซาลาเปาเนื้อที่มหา’ลัยฉันอร่อยมากจริงๆ นะ แป้งบางเนื้อหนา ก้อนละหนึ่งหยวนห้าเหมาเอง!” จิ่งฮวนหยุดพูด “อีกอย่างเราก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแบบนั้น ฉันจะใช้เงินพี่ได้ยังไง ถ้าพี่สงสารฉันล่ะก็ช่วยทำอีกความฝันของฉันให้เป็นจริงดีกว่า เราไปที่ศาลเจ้าผู้เฒ่าจันทรา…”
“เข้าใจแล้ว” เซี่ยงไหวจือวางมือถือลง “งั้นเธอก็กินข้าวโรงอาหารไปแล้วกัน”
“…”
จิ่งฮวนอยากจะพูดอะไรอีกสักสองสามประโยค แต่จู่ๆ แจ้งเตือนจากเพื่อนก็สว่างขึ้นมา
[พ่อค้าดินแดนปริศนา : ขอแสดงความยินดีกับผู้กล้า! ชิวเฟิงมอบชุด ‘ตะเกียงวิญญาณ’ ให้คุณ กรุณาไปที่ดินแดนปริศนา (118.29) เพื่อรับชุดใหม่ของคุณ!]
จิ่งฮวนตกใจ เขาส่งเครื่องหมาย ‘?’ ไปหาชิวเฟิงโดยไม่รู้ตัว
[เพื่อน] ชิวเฟิง : ของขวัญปลอบใจ [ลูบหัว]
จิ่งฮวนไม่ได้ตอบแต่เปิดไมค์ถาม “พี่คะ เราไปที่ดินแดนปริศนาหน่อยได้ไหม”
“ทำไมเหรอ”
“ชิวเฟิงส่งชุดใหม่มาให้ฉัน ฉันอยากคืนชุดให้เขา”
ระบบส่งของขวัญในเกม Nine Hereos มีกฎที่แปลกประหลาด ถ้าทิ้งของขวัญไว้ในการดูแลของพ่อค้าดินแดนปริศนาเกินครึ่งชั่วโมงจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมซึ่งมีชื่อเรียกสวยหรูว่า ‘ค่าดูแล’
แม้จะเป็นจำนวนเงินไม่มาก แต่จิ่งฮวนก็ไม่อยากเสียเงินส่วนนี้
หัวใจเพรียกหาไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่พาเขาออกจากหุบเขาบุปผาร่วงหล่นไป
เมื่อมาถึงพื้นที่ของพ่อค้าดินแดนปริศนา จิ่งฮวนก็ออกจากปาร์ตี้และรีบส่งชุดคืนไป
[เพื่อน] ชิวเฟิง : แค่ชุดชุดเดียวเอง แค่นี้ก็รับไว้ไม่ได้เหรอ
[เพื่อน] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : ฉันรับน้ำใจไว้แล้ว ไม่ต้องเสียเงินหรอก O.O
หลังจากส่งข้อความไปไม่กี่วินาที ไอคอนเพื่อนก็สว่างขึ้นอีกครั้ง จิ่งฮวนนึกว่าเป็นชิวเฟิงตอบข้อความกลับมาจึงกดเปิดดู แต่มันกลับเป็นกล่องข้อความสีชมพูที่มีเฉพาะการแจ้งเตือนของระบบเท่านั้น
[พ่อค้าดินแดนปริศนา : ขอแสดงความยินดีกับผู้กล้า! หัวใจเพรียกหามอบชุด ‘ตะเกียงวิญญาณ’ ให้คุณ กรุณาไปที่ดินแดนปริศนา (118.29) เพื่อรับชุดใหม่ของคุณ!]
???
สองคนนี้เสพติดการส่งของขวัญเหรอ
[เพื่อน] หัวใจเพรียกหา : รับไว้เถอะ
[เพื่อน] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : ฉันรับของแพงขนาดนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ…
[เพื่อน] หัวใจเพรียกหา : ?
[เพื่อน] หัวใจเพรียกหา : ถ้าส่งคืนฉัน ฉันจะส่งให้ถนนยาวไกล
[เพื่อน] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : ขอบคุณค่ะพี่ พี่ว่าฉันใส่แล้วสวยไหม
จิ่งฮวนเปลี่ยนชุด
แรกเริ่มเดิมทีเขาไม่ได้อยากหลอกเอาเงินหนึ่งพันสองร้อยหยวนนี้จากหัวใจเพรียกหาเลย แต่ในเมื่อไอ้คนหลายใจยืนกรานจะให้ งั้นก็อย่าหาว่าเขาไม่มีมโนธรรมก็แล้วกัน
[เพื่อน] หัวใจเพรียกหา : อืม ทำเควสต์ประจำวันของวันนี้แล้วหรือยัง
[เพื่อน] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : …ถ้าพี่ไม่พูดฉันคงลืมไปแล้ว QAQ
[เพื่อน] หัวใจเพรียกหา : เข้าตี้สิ เดี๋ยวพาไปทำ
จิ่งฮวนรู้สึกสุขสบาย เขากดเข้าปาร์ตี้อย่างรวดเร็ว
ทำเควสต์ประจำวันไปได้ครึ่งชั่วโมง จิ่งฮวนก็เปิดดูไว่ม่าย ขณะที่กำลังคิดว่าจะสั่งอะไรดี เพื่อนสาวของเขาก็ทักมาหา
[เพื่อน] รักคือแบ่งให้เธอกิน : ยัยจิ่งจิ่ง [โกรธ]! เกิดอะไรขึ้น! ทำไมเธอถึงกับออกจากกิลด์ล่ะ แถมยังไม่ตอบวีแชตฉันอีก!
จิ่งฮวนตกใจ เขาเปิดดูวีแชตก็พบว่าได้รับข้อความมาไม่น้อย
[เพื่อน] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : วีแชตฉันกากอะ มันไม่เตือน QAQ! พอดีฉันมีเรื่องกับรักม่ายม่ายที่สุด กลัวว่าจะมีปัญหาไปถึงกิลด์ด้วยก็เลยออกน่ะ
[เพื่อน] รักคือแบ่งให้เธอกิน : ไม่หรอกน่า ตัวรักม่ายม่ายที่สุดเองก็ไม่ถูกกับกิลด์เรานิดหน่อยอยู่แล้ว
[เพื่อน] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : O.O ไม่ถูกกันได้ไงอะ
[เพื่อน] รักคือแบ่งให้เธอกิน : คอลล์คุยกันได้ไหม ฉันกินข้าวอยู่ พิมพ์ไม่สะดวก
[เพื่อน] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : ได้
จิ่งฮวนปิดไมค์ในเกมแล้วไปโทรคุยกับรักคือแบ่งให้เธอกินในวีแชต
“เมื่อก่อนเขาเคยฆ่าน้องชายคนหนึ่งในกิลด์หอเสียนเหรินจนต้องเลิกเล่นเกมไปเลย แถมยังเคยทะเลาะกับชุนเซี่ยวจนวุ่นวายกันใหญ่โตอีก แต่ตอนมีเรื่องเธอยังไม่มาเล่นเกมนี้จะไม่รู้เรื่องก็ไม่แปลก อีกอย่างหลายคนในกิลด์ก็ไม่ชอบเขาด้วย” รักคือแบ่งให้เธอกินพูด “ตอนบ่ายทุกคนยังคุยกันอยู่เลยว่าจะแก้แค้นให้เธอยังไงดี”
จิ่งฮวนประหลาดใจ “แก้แค้นเหรอ”
รักคือแบ่งให้เธอกินบอก “ใช่น่ะสิ หัวหน้าหน่วยชิวเฟิงยังไปคุยกับรักม่ายม่ายที่สุดแบบส่วนตัวเลย แม้แต่เทพเซี่ยงก็ยังออกโรง”
จิ่งฮวนเริ่มรู้สึกเสียใจที่ออกจากกิลด์ไวขนาดนั้น “อ๋า…แล้วพี่เขาพูดอะไรบ้าง”
“เดี๋ยวฉันแคปไปให้ดูในวีแชตนะ”
จิ่งฮวนรีบหยิบมือถือมาดูรูปภาพ
อย่าถามหาวันกลับ ไม่มั้ง ออกจริงดิ? ไม่จำเป็นสักหน่อย…
เด็กน้อยไล่ตามลม ไม่จำเป็นจริงๆ นะ พวกเราไม่กลัวมีปัญหาหรอก
จือจือเถาเถาคือชีวิต งั้นจิ่งแสนหวานตัวน้อยจะกลับมาเข้ากิลด์ไหม
ชุนเซี่ยว ฉันกับช่างหัวความรักอยู่ในช่วงวันหยุด รอเรากลับไปพรุ่งนี้ค่อยจัดการนะ
ชิวเฟิง ไอ้รักม่ายม่ายที่สุด ครั้งก่อนเราก็ยอมให้ทีนึงแล้ว นี่ยังมาหาเรื่องคนในกิลด์เราอีก วางใจเถอะ ฉันจะไปอธิบายกับเสี่ยวจิ่งเอง
อย่าถามหาวันกลับ ดี หัวหน้าหน่วยสุดยอด!
หัวใจเพรียกหา @ชิวเฟิง เธอเป็นคนในตี้ฉัน ฉันจัดการเอง ไม่ต้องลำบากนายหรอก
จิ่งฮวนอ่านประโยคของหัวใจเพรียกหาซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายรอบ ผ่านไปสักพักกว่าจะถาม “พี่เขาได้พูดอะไรอีกไหม”
“ไม่มีนะ มีแค่ประโยคนี้แหละ” รักคือแบ่งให้เธอกินจิ๊ปาก “เทพเซี่ยงตอนพูดคำนี้คืออย่างเท่อะ ไม่เหมือนก่อนหน้านี้เลยสักนิด”
“เมื่อก่อน?”
“ใช่ไง ตอนที่คบกับเซียนเซียนน่ะ…” รักคือแบ่งให้เธอกินพูดได้ครึ่งประโยคก็เบรกเอี๊ยด
จิ่งฮวนเพิ่งนึกขึ้นได้ รักคือแบ่งให้เธอกินเคยเป็นเพื่อนกับเซียนเหมิงเหมิงมาก่อนนี่นา
เขานั่งหลังตรงโดยไม่รู้ตัวพลางถามด้วยความสงสัย “ตอนที่พี่เขาคบกับเซียนเหมิงเหมิง เขาเป็นยังไงเหรอ”
รักคือแบ่งให้เธอกินอึกอัก “…ก็แบบนั้นแหละ”
“พูดมาเถอะ” จิ่งฮวนบอก “ฉันรับปากว่าจะไม่เอาไปพูดมั่วซั่ว!”
“ก็เหมือนคู่รักทั่วไปนั่นแหละ ไม่มีอะไรพิเศษหรอก” รักคือแบ่งให้เธอกินครุ่นคิด “ก็แค่เปิดไมค์วันละสิบชั่วโมงอะ”
?
มีอะไรให้พูดคุยกันขนาดนั้นเลยเหรอ
จิ่งฮวนหัวเราะอย่างไร้อารมณ์ “ทำไมเธอถึงรู้แม้แต่เรื่องพวกนี้ล่ะ”
“เซียนเซียนชอบแสดงความรัก หลายๆ คนก็รู้ดี” รักคือแบ่งให้เธอกินพูด “ในวีแชตพวกเขาก็ใช้รูปโพรไฟล์คู่รัก หัวใจเพรียกหาก็เหมือนจะชอบโพสต์รูปเธอในโมเมนต์ด้วย เธอยังเคยส่งรูปโมเมนต์มาให้ฉันเลย…แต่ดูเหมือนตอนนี้เทพเซี่ยงจะเปลี่ยนรูปโพรไฟล์วีแชตแล้วนะ?”
จิ่งฮวนนึกถึงตอนที่ตัวเองถูกปฏิเสธคำขอเพิ่มเพื่อนก็ยิ้มแข็งกว่าเดิม
โมเมนต์ของหัวใจเพรียกหาว่างเปล่าสุดๆ ดูก็รู้ว่าหลังจากเลิกกันก็ลบทุกอย่างทิ้งไปแล้ว
“โพรไฟล์คู่งั้นสินะ…” เขาพึมพำ
เมื่อคิดถึงตอนที่ตนเองเคยกินอาหารสุนัขช่วงก่อนหน้านี้ รักคือแบ่งให้เธอกินก็หยุดพูดไม่ได้เลย “ใช่น่ะสิ เมื่อก่อนเทพเซี่ยงยังเรียกเซียนเซียนว่าที่รักไม่ก็ตัวเองด้วย…ดูไม่ออกเลยใช่ไหมล่ะ”
จิ่งฮวน “…”
หัวใจเพรียกหาเรียกเขาว่ายังไงบ้างนะ
นอกจาก ‘จิ่งแสนหวานตัวน้อย’ แล้ว เขาก็คิดชื่ออื่นไม่ออกอีกเลย
ไม่สิ…หัวใจเพรียกหาเปิดไมค์คุยกับคนอื่นได้ตั้งสิบชั่วโมง เปลี่ยนรูปโพรไฟล์คู่ แถมยังเรียกคนอื่นว่า ‘ที่รัก’ ได้อีกงั้นเหรอ
จิ่งฮวนไม่สามารถเชื่อมโยงพฤติกรรมนี้เข้ากับคนที่กำลังลากเขาเดินไปนู่นมานี่ในตอนนี้ได้เลย
อีกอย่าง…ทำไมกันล่ะ
ทำไมถึงเปลี่ยนรูปโพรไฟล์โพสต์โมเมนต์ให้คนอื่นได้ แต่พอกับเขาแค่จะพูดให้นุ่มนวลยังไม่ได้เลย?!
จู่ๆ จิ่งฮวนก็รู้สึกไม่โอเคขึ้นมา
ไม่โอเคเอามากๆ เป็นความรู้สึกไม่โอเคแบบที่ไม่อยากกินข้าวเย็นแล้ว
พอรักคือแบ่งให้เธอกินพูดจบก็คิดขึ้นมาได้ว่าตัวเองพูดมากไปแล้ว “แต่ว่า…เทพเซี่ยงก็ดีกับเธอมากนะ ดูสิ เขายังไปช่วยฆ่าคนให้เธอเลย”
“เขาเคยช่วยเซียนเหมิงเหมิงฆ่าใครมาก่อนไหม”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงเฉยชาของอีกฝ่าย รักคือแบ่งให้เธอกินก็รีบตอบ “ไม่มี! ตอนที่พวกเขาคบกันแม้แต่อารีน่าก็ยังไม่ค่อยลงเลย”
“ไม่ลงอารีน่า?” จิ่งฮวนสงสัย “แล้วปกติพวกเขาจะทำอะไรกันล่ะ”
“ก็ลงดัน ไปชมวิว ถ่ายรูป…” รักคือแบ่งให้เธอกินถอนหายใจ “ประมาณนั้นแหละ”
“…”
แม่งเอ๊ย! ไอ้หมอนี่ทำได้ทุกอย่างแท้ๆ! แต่ทุกวันนี้ดันทำเป็นเย็นชาต่อหน้าเขางั้นเหรอ?!
หลังจากวางสายไปจิ่งฮวนก็นั่งอยู่บนเก้าอี้ แม้แต่ไว่ม่ายก็ไม่อยากสั่งมากินแล้ว
จิ่งฮวนยิ่งคิดยิ่งโมโห!
หัวใจเพรียกหาสองมาตรฐานเกินไปแล้ว!
[ปาร์ตี้] หัวใจเพรียกหา : ไปไหนแล้ว
[ปาร์ตี้] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : …อยู่นี่ค่ะ
[ปาร์ตี้] หัวใจเพรียกหา : ทำไมปิดไมค์ล่ะ
เพราะพ่อนายไม่อยากพูดกับนายน่ะสิ นายมันไอ้หมาสองมาตรฐาน
[ปาร์ตี้] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : ไม่มีอะไรค่ะ เมื่อกี้ฉันไปคอลล์กับชือชือมา
เซี่ยงไหวจือที่กำลังดื่มน้ำชะงักงัน
[ปาร์ตี้] หัวใจเพรียกหา : พวกเธอสนิทกันเหรอ
[ปาร์ตี้] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : แน่นอนสิ ยังไงก็เป็นตี้เดียวกันนี่นา
[ปาร์ตี้] หัวใจเพรียกหา : …
ต่างจากชิวเฟิง รักคือแบ่งให้เธอกินเป็นผู้หญิง ถ้าคนที่จิ่งฮวนชอบเปลี่ยนเป็นเธอแทน…ก็ดูจะไม่เลว
เซี่ยงไหวจือครุ่นคิดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
เมื่อทำเควสต์ประจำวันเสร็จ ทั้งคู่ก็มายืนอยู่ข้างๆ NPC ที่เมืองหลักโดยไม่มีใครพูดอะไร
ผ่านไปพักหนึ่งเซี่ยงไหวจือถึงดึงตัวเองออกมาจากความคิด ขณะที่กำลังจะพิมพ์นั่นเอง
“พี่คะ” คนในปาร์ตี้เรียกเขาด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร
“หืม?”
“พี่รับปากกับฉันแล้วว่าต่อไปถ้ามีเรื่องอะไรให้มาหาพี่” จิ่งฮวนพูด “ใช่ไหมคะ”
“อืม”
“งั้นพี่พาฉันไปถ่ายรูปหน่อยได้ไหม”
เซี่ยงไหวจือตกใจเล็กน้อย “ถ่ายรูปเหรอ”
“อืม” จิ่งฮวนพูดออกมาอย่างหน้าไม่อาย “อยากได้รูปทำท่าจุ๊บๆ อะ!”
“…” แล้วเซี่ยงไหวจือก็ถามว่า “จะถ่ายไปทำไม”
จิ่งฮวนเองก็ไม่รู้ว่าจะถ่ายไปทำไมเหมือนกัน
แต่เขาแค่อยากถ่าย
“ฉันแค่อยากถ่าย” จิ่งฮวนพูด “ได้ไหมคะพี่”
สิบนาทีต่อมา ทั้งคู่ก็มาหยุดอยู่ที่หน้าดวงจันทร์ในสวนวังจันทรา
[จิ่งแสนหวานตัวน้อยต้องการจูบกับคุณ — (ยอมรับ) (ปฏิเสธ)]
เม้าส์ของเซี่ยงไหวจือขยับไปมาอยู่ระหว่างสองคำนั้น เขาลังเลตัดสินใจไม่ได้
สุดท้ายก็กดยอมรับไปแบบจนปัญญา
เซียนจิ้งจอกน้อยเอียงคอ หางจิ้งจอกส่ายไปมา เธอจูบเบาๆ ที่มุมปากของเขา
ต่อหน้าดอกไม้ ภายใต้แสงจันทร์ ถือเป็นภาพอันสวยงาม หนำซ้ำที่ขายังมีกระต่ายหยกสองสามตัวดุ๊กดิ๊กไปมาด้วย
เขามองภาพนี้อยู่สองสามวินาที มือกดแคปเจอร์ภาพหน้าจอไปอย่างไม่รู้ตัว
“พี่คะ” เสียงหญิงสาวเรียกเขาอย่างไม่รู้จักพอดังมาจากในหูฟัง “พี่ช่วยเรียกฉันว่า…อะไรนะ…เรียกว่าที่รักหน่อยได้ไหม”
เมื่อพูดถึงคำสุดท้ายเสียงของเขาก็เบาลงเรื่อยๆ
“…”
เซี่ยงไหวจือสำลัก ในลำคอเหมือนมีอะไรบางอย่างติดอยู่ เขาเงียบไปอยู่นานกว่าจะพูดออกมาหนึ่งประโยค “อะไรนะ”
“เรียกแค่ในเกมก็ได้!” จิ่งฮวนทำท่าทางหนักแน่น “ก็…ก็ถือว่าเป็นเรื่องในเกมเหมือนกันนี่นา…”
“ไม่ได้”
“ทำไมไม่ได้ล่ะคะ…” จิ่งฮวนไม่พอใจ “พี่ไม่คำไหนคำนั้นเลย!”
เซี่ยงไหวจืออดขำไม่ได้ “มีใครเขาขออะไรแบบนี้บ้างล่ะ”
“ฉันนี่ไง!” จิ่งฮวนพูด “เรียกเถอะน่าพี่ ไม่เสียหายอะไรหรอก”
“ไม่ได้”
“คำเดียว! แค่คำเดียว!” จิ่งฮวนพูด “คำเดียวก็พอแล้ว!”
“…”
จิ่งฮวนเปิดเครื่องบันทึกเสียง ขณะกำลังวางแผนว่าจะพูดยังไงให้หัวใจเพรียกหายอมทำตามดี
เขาวางแผนจะอัดเสียงคำว่า ‘ที่รัก’ เอาไว้ รอให้ความจริงเปิดเผยออกมาก่อนเขาจะส่งไปที่อีเมลของหัวใจเพรียกหาทุกวันเลย!
เมื่อเห็นหัวใจเพรียกหาเงียบไป จิ่งฮวนก็บีบเสียงแอ๊บแบ๊ว “พี่คะ ฉัน…”
“…ที่รัก”
เสียงนั้นดังเข้ามาในหูเขาอย่างกะทันหันจนจิ่งฮวนตะลึงไปครู่หนึ่ง
ชายหนุ่มพูดอย่างรวดเร็วแต่ก็ชัดเจน เสียงของเขาทุ้มต่ำ ปกติเสียงก็น่าฟังอยู่แล้ว ยิ่งบวกกับน้ำเสียงที่แฝงแววจนปัญญาและตามใจแบบนี้…ไม่มีใครฟังแล้วไม่ใจเต้นแน่นอน
จิ่งฮวนเผลอหลุดเข้าไปในภวังค์พักหนึ่ง…เหมือนพวกเขาเป็นคู่รักออนไลน์จริงๆ เลย เหมือนเขาชอบหัวใจเพรียกหาและกำลังตามจีบอีกฝ่ายอยู่จริงๆ
ใช้เวลาสักพักกว่าจิ่งฮวนจะเรียกสติกลับมาจากคำว่าที่รักได้
แก้มของเขารู้สึกร้อนผ่าว คอแห้งผาก เขาหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบทันที
อย่าว่างั้นงี้เลยนะ ไอ้คนหลายใจนี่…มันเก่งจริงๆ
ซึมซับอยู่ครู่หนึ่งจิ่งฮวนถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ เขา-ไม่-ได้-เปิด-เครื่อง-อัด-เสียง!!
“พี่คะ ฉัน…เมื่อกี้ฉันไม่ได้ยิน” จิ่งฮวนรีบพูด “พี่เรียกอีกทีสิคะ”
เซี่ยงไหวจือ “ไม่ได้ยินแล้วทำไมรู้ว่าฉันเรียกแล้วล่ะ”
…ทีตอนนี้ล่ะดันฉลาดขึ้นมาเชียวนะ
จิ่งฮวนบอกว่า “ฮือๆๆๆ ขออีกรอบนะ รอบสุดท้ายเลย!”
“ไม่ได้” เขาปฏิเสธ
“พี่คะ…”
“ไม่ต้องมาอ้อน…ไม่มีประโยชน์หรอก” เซี่ยงไหวจือกล่าวเสียงแหบต่ำ “ฉันขอ AFK ก่อนนะ ถ้ามีอะไรก็ทักวีแชตมาแล้วกัน”
พูดจบเซี่ยงไหวจือก็หยิบแก้วลุกขึ้นไปรินน้ำ
ตอนที่น้ำเพิ่งจะเต็มแก้ว ประตูห้องก็เปิดออกพอดี
“เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ตอนแรกฉันไม่น่าเลือกเรียนกับนายเลย ทุกวันศุกร์เลยต้องเหนื่อยเป็นหมาแบบนี้” ลู่หังเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเหน็ดเหนื่อย “แถมวันนี้นายยังหนีออกมาก่อนอีก รู้ไหมว่าฉันนั่งคนเดียวมันน่าเบื่อแค่ไหน ตอนเดินออกมาก็อย่างกับมีลมพัด ฉันนึกว่านายโดนขโมยไอดีอีกแล้วซะอีก…”
เดิมทีลู่หังมีอะไรจะพูดอีกมาก แต่หลังเห็นสีหน้าของรูมเมตก็ต้องหยุดชะงัก
“นาย…” ลู่หังขมวดคิ้วขยับไปด้านหน้า “ทำไมหน้าแดงแบบนั้นล่ะ”
เซี่ยงไหวจือผลักหน้าเขาออกก่อนจะพูดด้วยใบหน้าราบเรียบไร้อารมณ์ “ร้อน”
ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ใน How to… เดตออนไลน์ยังไงให้พัง เล่ม 2 (3 เล่มจบ)
วางจำหน่ายแบบรูปเล่มที่เว็บไซต์ Jamsai Store, ร้าน Jamclub และร้านหนังสือทั่วไป
รวมถึงในรูปแบบอีบุ๊กที่ Meb / OOKBEE / Fictionlog / Naiin App / SE-ED / Hytexts / comico และ ARN
Comments
comments
No tags for this post.