ทดลองอ่าน เรื่อง I Can Do It ใครไม่ไหว ฉันลุยเอง! เล่ม 4
ผู้เขียน : 酱子贝 (Jiang Zi Bei)
แปลโดย : หมั่งสีโสว ซื่อเก้เหล้าก้าย
ผลงานเรื่อง : 我行让我来〔电竞〕 (Wo Xing Rang Wo Lai (Dian Jing))
ถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์เอเวอร์วายในการเผยแพร่ผลงาน
จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว
หากผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
– – – – – – – – – – – – – – – – –
** หมายเหตุ: ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **
– – – – – – – – – – – – – – – – –
110
แม้ช่องถ่ายทอดสดจะสแตนด์บายแล้ว แต่การถ่ายทอดสดการแข่งขันยังไม่ได้เริ่มอย่างเป็นทางการ วิดีโอมากมายที่ฉายอยู่ด้านหน้านี้มีไว้เพื่อวอร์มอัพและทดสอบการถ่ายทอดสด
และมักจะทำให้เกิดเหตุการณ์ที่วิดีโอหลายคลิปเล่นซ้ำเป็นประจำ
[เลิกเปิดโฆษณาได้แล้ว เปิดวิดีโอขิงก่อนแข่งอีกรอบ พ่ออยากฟังอีก]
[แฟนสาวส่งข้อความมาบอกว่าคืนนี้พ่อแม่เธอไม่อยู่บ้าน ฉันให้เธอนอนเร็วหน่อย ไม่ก็หาอะไรอย่างอื่นทำ อย่ามารบกวนการวนลูปช่วงขิงก่อนแข่งของฉัน เพื่อนๆ ว่าฉันทำถูกไหม]
[จำนวนคนดูช่วงโฆษณาสูงกว่าเมื่อก่อนหลายเท่า…แนะนำว่าวันนี้บริษัทโฆษณาควรเอาเงินให้ Soft ทั้งหมด]
[มาแล้วๆ! เล่นซ้ำครั้งที่สี่แล้วพี่น้อง!]
“ยังจะเล่นซ้ำอีก!” ในห้องพักผู้ช่วยโค้ชพูดด้วยความกังวล “ผู้กำกับรายการคนนี้เป็นแฟนคลับ PUD ล่ะมั้งเนี่ย คิดจะเล่นซ้ำหลายๆ รอบเพื่อสุมไฟให้สมาพันธ์? ถ้าแข่งไปแข่งมาพักหนึ่งแล้วประกาศแบนออกมา…”
คลิปนี้เป็นช่วงที่นักแข่งถ่ายทำตามลำพัง ตอนนั้นทุกคนต่างยุ่งอยู่กับการแต่งหน้าและเตรียมการแข่งขันให้นักแข่งอยู่หลังเวที บวกกับเวลากระชั้นชิดพอถ่ายเสร็จก็เอาไปตัดต่อเลย ดังนั้นนอกจากทีมงานกับนักแข่งที่ถ่ายทำด้วยกันแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาพูดอะไรบ้างในช่วงขิงก่อนแข่ง
คำพูดของเจี่ยนหรงในครั้งนี้ พวกเขาได้ยินเป็นครั้งแรกเหมือนกับคนดูที่ฟลัดเครื่องหมายคำถามในซับกระสุน
พี่ติงนั่งนิ่งดุจขุนเขาอยู่บนโซฟา
หลังผ่านมรสุมมามากเรื่องอย่าง ‘สมาชิกด่าคน’ ถูกจัดลำดับเอาไว้ท้ายสุดในใจเขาไปแล้ว
“ไม่เป็นไร” พี่ติงยัดแตงโมเข้าปาก “พวกนี้ล้วนเป็นวิดีโอที่ผ่านกองตรวจสอบแล้ว ถ้าพูดไม่ได้จริงๆ ผู้รับผิดชอบคงไม่กล้าตัดส่วนนี้เข้าไป”
คำพูดเมื่อคืนของ rish ถูกด่าจนขึ้นช่องการค้นหายอดนิยม คนที่สนใจวงการอีสปอร์ตต่างมองเห็นกันทั้งนั้น
ระดับบริหารของ LPL ก็เห็นแล้วเช่นกัน
คำพูดเหน็บแนมที่ทีม HT พูดกับ LPL ก่อนหน้านี้ล้วนอยู่บนเอ็กซ์ทราเน็ต* ที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่ตอนนี้เมื่อไอ้เบื๊อกพวกนั้นมาระรานถึงที่แล้ว เหล่าผู้บริหารของ LPL ยังจะทนได้อีก?
คิดจริงๆ เหรอว่า LPL โกรธไม่เป็น
หากเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนนักแข่งของทั้งสองลีกคงชนเลนกันอย่างดุเดือดไปแปดร้อยรอบแล้ว
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนเพราะ LPL ได้กลายเป็นธุรกิจไปแล้ว ใครก็ไม่อยากทำลายชื่อเสียงของตัวเอง ไม่อยากทำลายมูลค่าทางธุรกิจของทีม และยิ่งไม่อยากถูกลงโทษเพราะเรื่องนี้
พี่ติงถอนหายใจ คิดในใจว่าช่วงสุดท้ายของวิดีโอขิงก่อนแข่งพูดได้ดีจริงๆ แต่ถ้าตัวตั้งตัวตีไม่ใช่มิดเลนของพวกเขาคงดีกว่านี้
“ช่วงขิงก่อนแข่งพูดแบบนี้ได้ด้วยเหรอ” เสี่ยวไป๋พูดอย่างตกตะลึง “เรียนรู้แล้ว…”
ไม่ทันขาดคำเสี่ยวไป๋ก็ถูกพี่ติงดีดกะโหลกหนึ่งที “คนที่อายุยี่สิบกว่ายังอยู่ในช่วงวัยรุ่นอีก? ชอบทำตัวเหมือนนักเรียนเลว?”
‘นักเรียนเลว’ ได้ยินคำวิจารณ์นี้แล้วก็ไม่แม้แต่จะเหลือบตาขึ้นมอง ทำเพียงหุบปากเคี้ยวหมากฝรั่งที่ลู่ป๋อหยวนเพิ่งยื่นให้เขา
พอได้ยินคำพูดดังกล่าวในช่วงขิงก่อนแข่ง ลู่ป๋อหยวนกลับไม่ได้ประหลาดใจมาก
หลังจากที่วิดีโอนี้ถูกเล่นซ้ำครั้งที่สี่ การถ่ายทอดสดก็ตัดภาพไปยังที่นั่งของผู้บรรยายในที่สุด
ลู่ป๋อหยวนหันหน้ามาถามว่า “เมื่อคืนทนได้ไม่ใช่เหรอ”
เจี่ยนหรงเป่าหมากฝรั่ง ใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มจนแตกแล้วรวบกลับเข้าไปในปากอีก จากนั้นจึงตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่ยี่หระ “นอนหลับไปตื่นหนึ่งก็ยิ่งคิดยิ่งโกรธ”
ตอนนี้ในสายตาของคนอื่นๆ เจี่ยนหรงคือเด็กหนุ่มขี้โมโหที่ไม่ควรยั่วยุ
ลู่ป๋อหยวนเอามือสอดเข้าในกระเป๋า สะกดกลั้นความวู่วามที่อยากขยี้ผมเขาเอาไว้
ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ได้มาเตือนพวกเขาว่าอีกสิบนาทีจะต้องขึ้นเวที
ลู่ป๋อหยวนหยิบมือถือออกมาตามปกติ ขณะกำลังจะปิดเครื่อง โทรศัพท์สายหนึ่งพลันโทรเข้ามาพอดี
เขามองดูหมายเลขผู้ติดต่อ ลังเลสองวินาทีแต่ยังคงรับสายแล้วพูดว่า “ครับแม่”
เจี่ยนหรงชะงัก อดไม่ได้ที่จะหันหน้ามองเขา
คุณแม่ลู่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน [ป๋อหยวน กินข้าวเย็นหรือยัง]
เบื้องหลังยังถ่ายทอดเสียงของคุณพ่อลู่มาด้วยว่า…[แค่มีแฟนมีอะไรน่าตกอกตกใจ เรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นยังต้องให้พวกเราเป็นห่วงอะไร เขาพากลับมาบ้านได้ค่อยว่ากัน!]
คุณแม่ลู่หันไปถามว่า [คุณเดินหมากของคุณเงียบๆ ได้มั้ย]
ลู่ป๋อหยวนเข้าใจแล้ว เขาหลุบตาลงสบสายตากับเจี่ยนหรงเล็กน้อย ริมฝีปากแฝงรอยยิ้มหลายส่วน “แม่ ผมจะแข่งแล้ว มีเรื่องอะไรค่อยคุยกันตอนดึกนะครับ”
[แม่รู้ แม่เพิ่งเปิดแอพฯ ดูการแข่งขันนั้น เห็นลูกยังไม่ขึ้นเวทีเลยคิดว่าลูกว่างซะอีก] คุณแม่ลู่ตอบสนองขึ้นมา [งั้นลูกไปเถอะ ความจริงก็ไม่ได้มีเรื่องด่วนอะไร แค่ลูกสาวคุณป้ากู้บอกว่าในอินเตอร์เน็ตกำลังลือกันว่าลูกมีแฟนแล้ว…]
ลู่ป๋อหยวนตอบกลับไปว่า “มีแล้วครับ”
หลังวางสายลู่ป๋อหยวนถามแบบติดตลกว่า “แอบฟังเหรอ”
เจี่ยนหรงกำลังถลึงตามองเสี่ยวไป๋ที่ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวอยู่ด้านข้าง พอได้ยินจึงหันหน้ากลับมา พูดอย่างอารมณ์เสีย “เสียงดังเกินไป ไม่ได้ยิน”
หลังพี่ติงตรวจสอบจนแน่ใจว่าสภาพร่างกายของสมาชิกในทีมปกติ จึงโบกมือบอกเป็นนัยให้ทุกคนขึ้นเวที
สนามแข่งขันรอบชิงชนะเลิศใหญ่กว่าสนามรอบที่ผ่านมา ขณะเจี่ยนหรงเดินขึ้นเวทีเกือบถูกแสงไฟแยงตาจนบอด
ในสถานการณ์แบบนี้นอกจากเงาหลังของเพื่อนร่วมทีมกับอุปกรณ์บนเวทีแล้ว อย่างอื่นล้วนมองไม่เห็นทั้งสิ้น
แต่เสียงตะโกนของผู้ชมชัดเจนมาก แฟนคลับของทั้งสองทีมสามัคคีกันสุดๆ ต่างผลัดกันตะโกนฝ่ายละครั้ง
ท่ามกลางคำว่า “PUD สู้ๆ” กับ “TTC ต้องชนะ” มีเสียงผู้หญิงเสียงหนึ่งดังแหลมขึ้นมาจากแถวหน้า…
“ไอ้โง่สู้ๆ! ไปฝัง rish ที่เกาหลี!”
ขณะที่ทุกคนกำลังหัวเราะเกรียวกราวนั้นเอง ฉากที่น่าประหลาดใจก็เกิดขึ้น
บนหน้าจอยักษ์ของสนามแข่งและในหน้าจอการถ่ายทอดสด เจ้าผมฟ้าที่เพิ่งถือแก้วน้ำนั่งลงประจำที่ กำลังก้มหน้าปรับอุปกรณ์เหมือนปกติและยังไม่ทันได้ใส่หูฟังก็พลันยกมือขึ้น ชูนิ้วโป้งให้กล้องของตัวเอง
ถึงเขาจะไม่ได้พูดอะไร สายตาก็ไม่ได้มองไปยังกล้อง แต่คนทั้งหมดราวกับได้ยินคำตอบจากท่าทางนี้ของเขา
‘ฝัง’
ท่าทางนี้เพื่อนร่วมทีมซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ก็มองเห็นเช่นกัน
เมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดเสมือนกระแสคลื่นในสนาม พี่ติงอดถอนใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้…บางคนเหมือนเกิดมาเพื่ออีสปอร์ต ไม่ว่าจะเป็นทักษะหรือนิสัย
เมื่อปล่อยคนอย่างเจี่ยนหรงไปบนเวที แม้การแข่งขันยังไม่เริ่ม แต่ความตื่นตาตื่นใจก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัดแล้ว
เสี่ยวไป๋อิจฉาแทบตาย ถามในระบบเสียงพูดคุยทีมว่า “นายถอนท่าเมื่อกี้กลับมาได้มั้ย ครั้งนี้ให้ฉันกวนเอง”
“ฉันเพิ่งนึกเรื่องนึงขึ้นได้” หยวนเชียนส่งเสียงซี้ด “เจี่ยนหรง คำพูดที่นายพูดในช่วงขิงก่อนแข่ง Savior สอนนายจริงเหรอ”
เจี่ยนหรงตอบว่า “เปล่า”
Pine พูดว่า “Savior อาจเข้าใจแค่ไม่กี่คำ”
เสี่ยวไป๋หัวเราะ “ฮ่าๆๆๆ ฉันก็คิดเหมือนกัน จากนั้นพอลงไปให้เพื่อนร่วมทีมแปลให้ฟัง เขาค่อยตกใจตาย…”
หยวนเชียนเองก็หัวเราะ “ถ้านายอยากเรียนภาษาเกาหลี ทำไมไม่ถามกัปตันล่ะ”
เจี่ยนหรงกำลังจะบอกว่าตนแค่อยากด่าคน ไม่ได้อยากเรียนด้วยใจจริง ก็ได้ยินลู่ป๋อหยวนพูดอย่างเฉยชาว่า “คงคิดว่าฉันสอนได้ไม่ดี”
หยวนเชียนถามต่อ “ยังไม่เคยสอน รู้ได้ยังไงว่าไม่ดี หลายวันมานี้เจี่ยนหรงเรียนรู้หลายประโยค เดี๋ยวไปเกาหลีคงได้ใช้”
ลู่ป๋อหยวนพูดว่า “เคยสอนอย่างอื่น”
เจี่ยนหรงตกตะลึง ก่อนถามออกไปตามสัญชาตญาณ “สอนตอนไหน…”
มุมปากของลู่ป๋อหยวนเชิดขึ้นเล็กน้อย “คืนรอบรองชนะเลิศ”
คำพูดไม่กี่พยางค์นี้ตรึงเจี่ยนหรงไว้บนเก้าอี้
“ขยันขนาดนี้เชียว? แข่งเสร็จยังมีแรงไปเรียนรู้อะไรพวกนั้นอีก” หยวนเชียนไม่เข้าใจ จึงพูดต่อไปด้วยความประหลาดใจ “สอนอะไรบ้าง ความจริงฉันเองก็ได้ภาษาเกาหลีนิดหน่อย อย่างซีปา* ปาปัว**…”
“สอน…” เจี่ยนหรงขาดความมั่นใจ ทำได้เพียงพูดอย่างคลุมเครือว่า “แค่สองคำนี้”
ลู่ป๋อหยวนยกยิ้ม ระหว่างนั้นกรรมการที่ตามขึ้นมาตรวจสอบอุปกรณ์ก็บอกเป็นนัยว่าโอเคแล้ว
หลังความกระตือรือร้นผ่านไป เสี่ยวไป๋ถึงพลันนึกอะไรได้ “รอเดี๋ยว งั้นถ้าพวกเราแพ้ให้ HT ในการแข่งขันกลางฤดูจะทำยังไง ให้พี่ฟู่สร้างแคมป์ใต้ดินสักหลัง พวกเราแทรกไปอยู่ในซอกพื้นดิน?”
เพิ่งคิดได้ตอนนี้?
ตาขาวของพี่ติงเหลือกจนแทบจะทะลุออกจากสเตเดี้ยมแล้ว “ตื่นตัวหน่อยได้มั้ย ตอนนี้พวกนายกำลังแข่งรอบชิงชนะเลิศของการแข่งขันฤดูใบไม้ผลิ ยังไม่แน่เลยว่าจะได้ไปเกาหลีหรือเปล่า!”
“เชี่ย” หยวนเชียนนั่งตัวตรง หมุนข้อมือผ่อนคลายเล็กน้อย “วันนี้ต้องเอาชนะให้ได้ ไม่งั้นชีวิตที่เหลือของฉันคงไม่กล้าสตรีมแล้ว…”
เสี่ยวไป๋เอ่ย “ยังจะสตรีมอีก? สตรีมรีไทร์ได้อยู่นะ”
Pine วิเคราะห์อย่างใจเย็น “ครั้งนี้พวกเราใช้ชุดหลักครบชุด แถมจังเกิ้ลชุดหลักของพวกเขาไม่อยู่ ถ้าแพ้คงได้รีไทร์กลับไปทำนาแล้วล่ะ”
เจี่ยนหรงพูดว่า “วางใจ คำที่ฉันพูด ถ้าแพ้ฉันจะรับผิดชอบเอง”
พี่ติงถามด้วยความประหลาดใจ “นายจะรับผิดชอบยังไง”
“ผมจะโพสต์เวยป๋อยาวเหยียดด่าพวกเขา” เจี่ยนหรงพูดอย่างสงบ “แบบนี้พวกเขาก็จะหันมาด่าผมกันหมด”
พี่ติง “…”
อัจฉริยะแห่งการชนเลน
หยวนเชียนหัวเราะก่อนพูดว่า “อย่าพูดจาเหลวไหลอย่างรับผิดชอบเอง…ทุกคนเป็นทีมเดียวกัน มีอะไรต้องแบกรับด้วยกัน”
“ใช่แล้ว มีทุกข์ร่วมต้าน มีสุขฉันเสพเอง” เสี่ยวไป๋พึมพำ “อีกอย่างฉันไม่ชอบขี้หน้า rish นั่นมานานแล้ว แข่งเสร็จฉันจะไปขโมยชุดทีมของโต้วฟู พอถึงเกาหลีจะใช้มันคลุมหน้า rish แล้วอัดในห้องน้ำสักรอบ!”
Pine พูดอย่างเย็นชา “อุปกรณ์เสียงเปิดแล้ว”
เสี่ยวไป๋พูดต่อ “ขอโทษครับ พี่ชายที่ดูมอนิเตอร์ ถ้าคุณเอาท่อนนี้ใส่ไปในช่วงทดสอบไมค์ผมต้องตายแน่ คุณสร้างกุศลทำความดีช่วยน้องชายสักครั้ง…”
เสียง ‘ตึง’ ดังขึ้น พวกเขาเข้าสู่หน้าแบนแอนด์พิกแล้ว การแข่งขันเกมแรกในรอบชิงชนะเลิศของการแข่งขันฤดูใบไม้ผลิเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ
ลู่ป๋อหยวนเก็บรอยยิ้มมุมปาก พูดว่า “เอาล่ะ วันนี้เล่นให้เต็มที่ ชนะตามต้องการ”
หนึ่งฤดูกาลที่ผ่านมาทั้งสองทีมต่างคุ้นเคยกับแผนการปกติของกันและกันแล้ว เฟสแบนจึงไม่ได้เสียเวลาอะไรเลย
ตำแหน่งการแบนสามตัวแรกคือ LeBlanc Aphelios และ Lee Sin ถูกใส่ในช่องแบน พี่ติงเองก็ให้แบนOrianna Volibear และ Renekton ที่อีกฝ่ายชำนาญ
เกมนี้ PUD เลือกฝั่งน้ำเงิน อีกทั้งมีสิทธิ์เลือกตัวแรกก่อน
และแชมเปี้ยนที่ PUD หยิบตัวแรกคือแชมเปี้ยนตำแหน่งจังเกิ้ลอย่าง Graves
“ฉันรู้อยู่แล้ว” พี่ติงหรี่ตาลง ยืนพูดอยู่ด้านหลังลู่ป๋อหยวน “แชมเปี้ยนพูลของถัวถัวมีพอกันกับนาย อีกอย่างเขาชอบเล่นแผนจังเกิ้ลแบกมาก”
“คงเป็นแฟนคลับของพี่ชายผมอีกแล้ว” เสี่ยวไป๋ยิ้มพลางพูดว่า “ถึงยังไงก็เป็น Road รุ่นสอง”
เจี่ยนหรงพูดขึ้นอย่างเย็นชา “เขาไม่มีรุ่นสอง”
พี่ติงขอความคิดเห็นจากลู่ป๋อหยวน “อยากเล่นอะไร”
ลู่ป๋อหยวนพูดว่า “ก่อนแข่ง XIU ส่งข้อความให้ผม”
เจี่ยนหรงขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ “เขายังรบกวนคุณอยู่อีก? บอกว่าอะไร”
ลู่ป๋อหยวนยิ้มเล็กน้อย “เขาบอกว่า…ฉันจะเลือกแพ้ หรือจะช่วยบอกจังเกิ้ลที่อยากขึ้นชุดหลักแทนเขามาตลอดคนนี้ว่า LPL โหดร้ายแค่ไหน”
ขณะนั้นผู้บรรยาย A เอ่ยขึ้นว่า “เอาล่ะครับ คะแนนความนิยมของทั้งสองทีมออกมาแล้ว! ความนิยมของทีม TTC คือ…แปดสิบสอง?!”
โดยปกติหากเป็นทีมแข็งแกร่งสองทีมซึ่งอยู่ในลีกเดียวกัน ทีมที่มีคะแนนความนิยมสูงล้วนอยู่ระหว่างหกสิบเปอร์เซ็นต์ถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์
ผู้บรรยาย B “นับว่าปกติครับ ถึงยังไงช่วงขิงก่อนแข่ง Soft ก็ดูมีทักษะการเล่นดุดันขนาดนี้ ลำดับต่อไปให้พวกเราดูหน่อยว่าเฟสสอง TTC จะหยิบตำแหน่งอะไร…Nidalee! ตำแหน่งจังเกิ้ล! TTC กลับหยิบแชมเปี้ยนแผนจังเกิ้ลแบกออกมา?”
“เหนือความคาดหมายมากเลยใช่มั้ยครับ Road ไม่ได้มีชื่อเสียงจากจังเกิ้ลเบิร์สต์แดเมจหรอกเหรอ ในความทรงจำของผมฤดูกาลนี้ยังไม่มีใครกล้าหยิบแชมเปี้ยนแผนจังเกิ้ลแบกมาปะทะกับ Road เลย” ผู้บรรยาย C ยิ้มเล็กน้อย “ความหมายของ Road คือ…ให้ฉันสั่งสอนเด็กใหม่ของ LPL คนนี้สักหน่อยว่าแผนจังเกิ้ลแบกควรเล่นยังไง”
TTC ล็อกแชมเปี้ยนตำแหน่งซัพพอร์ตเป็น Thresh ตามมาด้วย Kog’Maw ในตำแหน่งแครี่
ผู้บรรยาย A พูดด้วยความงุนงง “ผมไม่เข้าใจคอมพ์ของ TTC อยู่นิดหน่อย? จะเล่นแผนสามตัวแบกเหรอครับ แบบนี้พี่เชียนจะกดดันเกินไปหรือเปล่า”
คอมพ์สามตัวแบกเรียกอีกอย่างว่าคอมพ์สามแกนกลาง จุดเด่นคือสามารถจ่ายแดเมจในทีมไฟต์ได้ดีอย่างยิ่ง หลังฟาร์มไปเรื่อยๆ ก็สามารถสร้างความเสียหายได้พอสมควร
แต่จุดด้อยก็ชัดเจนอย่างยิ่งเช่นกัน…แนวหน้าน้อย CC น้อย คอมพ์ที่มีแชมเปี้ยนตัวบางมากเกินไปจะเป็นการมอบโอกาสให้คู่ต่อสู้
หลังหยวนเชียนหยิบ Sion เหล่าผู้บรรยายก็แน่ใจแล้วว่า TTC จะเล่นคอมพ์สามตัวแบกแล้วจึงเริ่มวิเคราะห์เกม…
“ความจริงผมรู้สึกว่าการหยิบคอมพ์สามแกนกลางมาเผชิญหน้ากับ PUD ก็ไม่ได้เล่นง่ายมากนัก ถึงยังไงมาโครของ PUD ก็แข็งแกร่ง ถึง XIU ไม่อยู่แต่ซัพพอร์ตเลนบนของ 98K มีประโยชน์ในทีมไฟต์อย่างยิ่ง”
“ใช่ครับ อีกทั้งเกมนี้ 98K ยังหยิบ Ornn มาเล่นด้วย ถ้าฟาร์มได้ดี ช่วงท้ายเกมเขาต้านอยู่แนวหน้า TTC จะลำบากมาก”
“CC ของ Syndra ที่ Savior หยิบมาก็เพียงพอสุดๆ แล้ว รอดูแค่ว่า Soft จะหยิบแชมเปี้ยนอะไร พูดตามจริงผมกลัวมากว่าเขาจะหยิบ Yasuo…”
เสียงของผู้บรรยายพลันหยุดลง
เห็นเพียงสล็อตที่ห้าของ TTC ปรากฏใบหน้ารูปไข่ของแม่มดน้อยที่กำลังแย้มยิ้ม
ในที่สุดแชมเปี้ยนมิดเลนของ TTC ก็ปรากฏตัว…Lulu, The Fae Sorceress
Lulu เป็นแชมเปี้ยนสายซัพพอร์ต ในจำนวนสี่สกิลของแชมเปี้ยนมีสามสกิลที่แบ่งเป็นเพิ่มเลือด เพิ่มเกราะ และเพิ่มความเร็วให้เพื่อนร่วมทีม นับว่ามีความเป็นพี่เลี้ยงเต็มเปี่ยม รูปร่างตัวละครตัวเล็กน่ารัก ครองใจผู้เล่นหญิงในสามอันดับแรกมายาวนาน
แน่นอนว่าสกิลโล่ของเธอนั้นเมื่อกดใส่ศัตรูก็สามารถสร้างความเสียหายได้ อีกทั้งสกิลเพิ่มความเร็วก็สามารถใบ้* ได้ แดเมจของ Glitterlance** ซึ่งเป็นสกิล Q ก็ไม่ได้ต่ำ…และสิ่งเหล่านี้ยังทำให้สามารถใช้เธอเป็นมิดเลนสายปกป้องได้ ปรากฏให้เห็นในสนามแข่งเป็นบางครั้ง โดยปกติล้วนหยิบมาปกป้องแครี่ ท็อปเลน และจังเกิ้ล
จุดประสงค์ของการเล่นแชมเปี้ยนตัวนี้ในเลนกลางคือยืนเลนแข็งและขี้ขลาด รอเล่นในช่วงท้ายเกม
มีทั้งโล่ ความเร็ว และสกิลอัลติเมต ขอเพียงระวังให้มากศัตรูก็ไม่สามารถแกงค์และโซโล่คิลได้
แต่ในขณะเดียวกันคุณเองก็สร้างภัยคุกคามที่มากกว่าขี้เล็บให้ศัตรูได้ยากมากเช่นกัน…
พูดกันตามเหตุผลการที่แชมเปี้ยนมิดเลนพี่เลี้ยงแบบนี้ปรากฏตัวในสนามแข่งนั้นก็ไม่แปลก ต้าหนิวของทีมจั้นหู่ก็หยิบออกมาเดินเล่นเป็นประจำ เพียงแต่ว่า…
ผู้บรรยาย A “Soft หยิบพี่เลี้ยง Lulu มาเล่น?!”
ผู้บรรยาย B “รอเดี๋ยว ผมค่อนข้างประหลาดใจ…เขารู้มั้ยว่าแชมเปี้ยนตัวนี้มีโล่”
“ผมคิดว่าไม่รู้” ผู้บรรยาย C ดันแว่นตา วิเคราะห์อย่างใจเย็น “ตอนเล่นดูโอ้ เขากับ Pine เคยเล่น Lulu สี่สิบเจ็ดนาทีใส่โล่ป้องกันให้ Pine แค่สามอัน…แต่ไม่เป็นไร ผมเชื่อว่าคืนนี้แหละ Lulu สายเบิร์สต์แดเมจกำลังจะปรากฏแก่สายตาของผู้คน ขอเชิญผู้เล่นหญิงทุกท่านหาที่นั่งให้ดี เตรียมพบกับวิธีการเล่นแบบใหม่ของลูกสาว Lulu ของพวกคุณ…”
แน่นอนว่า Lulu สายเบิร์สต์แดเมจย่อมไม่มี
การแข่งขันเริ่มขึ้นห้านาทีแรก Lulu ของ Soft ลาสต์มินเนี่ยนอย่างใจจดใจจ่อ ตำแหน่งการเดินระมัดระวังรอบคอบ หลบเลี่ยงสกิลของ Syndra ที่เลนกลางอย่างเงียบสงบ ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
ผู้บรรยาย A เอ่ย “อ๊ะ ไม่ชินเลย”
ผู้บรรยาย B พูดว่า “ผมคิดว่าผู้กำกับรายการเองก็ไม่ค่อยชิน ตัดภาพมาให้พวกเราดูเขาสองคนลาสต์มินเนี่ยนเรื่อยเลย”
ผู้บรรยาย C ยังคงยึดมั่น “ไม่ ต้องไม่ง่ายดายแบบนั้นแน่ ผมเชื่อว่าความรุนแรงในตัวของ Soft กำลังจะส่งเสียงขึ้นมาแล้ว…”
เขายังไม่ทันพูดจบก็เห็น Soft เคลียร์มินเนี่ยนเสร็จ เตรียมวาร์ปกลับบ้าน
แอนิเมชั่นสัญลักษณ์ของการวาร์ปกลับบ้านเพิ่งขึ้นมาได้สองวินาทีก็ถูก Soft ยกเลิก จากนั้น Lulu ผู้น่ารักก็ค่อยๆ ชูคทาในมือของตัวเองขึ้น…
มอบแพ็กเกจรักออนไลน์ ‘ความรักเต็มเปี่ยม’ ที่เพิ่มความเร็วและโล่ชุดหนึ่งให้ Road ผู้ที่มีเลือดเต็มหลอดซึ่งเดินผ่านทางมาพอดี
111
หลัง Lulu มอบสองสกิลนี้แล้วก็วาร์ปกลับบ้าน Nidalee ที่เดินผ่านมาหยุดอยู่ที่เดิมไปชั่วขณะ แล้วค่อยยกมือฮีลให้ Lulu ที่กำลังวาร์ปกลับบ้านหนึ่งครั้งอย่างไม่จำเป็น ก่อนจะเลือนหายไปในป่าของตัวเอง
ซับกระสุนในการถ่ายทอดสดมี ‘?’ ลอยผ่านเต็มหน้าจอ จากนั้น…
[ยื่นหมูยื่นแมว [มั่นใจ]]
[ผู้กำกับรายการเชี่ยวชาญมาก ดูสี่คนที่เลนล่างในมินิแมปสู้กันนัวจนไอคอนซ้อนทับกันแล้ว เขาก็สามารถตัดภาพมาที่เลนกลางให้พวกเราดูสิ่งนี้ได้]
[แถมยังใช้สกินเทศกาลหิมะน้ำแข็งด้วย…]
[ถ้าปิดไอดีไว้ ฉันคิดว่าตัวเองกำลังดูแอ็กเคานต์อีสปอร์ตใหญ่ส่งบทความไปเผยแพร่ เนื้อหาคือ ‘ทำไมต้องมีความรักในซัมมอนเนอร์ริฟต์ คนจนสองคนนี้ไม่มีเงินไปโรงหนังเหรอ’]
[ไม่มีใครบอกว่าคนที่ Soft ชอบไม่ใช่ Road และไม่มีใครบอกว่าแฟนของ Road ไม่ใช่ Soft]
[WTF? พี่สาวข้างบนเธอรอเดี๋ยว? ทำไมฉันรู้สึกเหมือนรู้แจ้งอะไรบางอย่างแล้ว!]
[ช่วงขิงก่อนแข่งพูดเหมือนคืนนี้จะเดินทางไปกระทืบ HT ที่เกาหลี แต่พอลงสนามแข่งกลับใช้พี่เลี้ยง Lulu วนเวียนอยู่กับ Road อย่างอ่อนโยน]
ผู้บรรยายทั้งสามเองก็มึนงงมาก
ผู้บรรยาย A กล่าว “เอ่อ เรื่องนี้ เรื่องนี้…อาจเป็นเพราะ Soft รับรู้ได้ถึงบทสนทนาของพวกเรา อยากใช้การกระทำบอกพวกเราว่า…เขาเพิ่มเกราะให้เพื่อนร่วมทีมเป็น!”
ผู้บรรยาย B พยักหน้าซ้ำๆ “ใช่ ถึงจะเล่น Lulu แล้วยังไง สกิลระยะไกลที่แข็งแกร่งเวลาชนเลนเองก็น่าสนใจมาก พวกคุณดูสิ Soft เล่นอย่างมีความสุขแค่ไหน…”
ขณะผู้บรรยาย B พูดประโยคนี้ออกมา เจ้าผมฟ้าตรงมุมขวาล่างของจอถ่ายทอดสดก็สลับมุมมองจากเลนกลางที่น่าเบื่อของตัวเอง ไปมองดูสี่คนตรงเลนล่างซึ่งสู้กันอย่างดุเดือดเลือดพล่านแวบหนึ่ง ในดวงตาเผยความอิจฉาที่หาได้ยากเสี้ยวหนึ่ง
หลังสลับมาที่มุมมองตัวละครของตัวเองอีกครั้ง ในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว อ้าปากกว้างต่อหน้าคนร้อยกว่าล้านคนที่รับชมการถ่ายทอดสดทั่วประเทศอย่างไม่ปกปิดแม้แต่น้อย…หาวคำใหญ่เบ้อเริ่ม
ในชั่วขณะนี้ผู้ชมครึ่งหนึ่งราวกับมองเห็นตัวเองที่หงุดหงิดเวลาเข้าเรียนตอนมัธยม
ผู้ชมอีกครึ่งหนึ่งอดไม่ได้ที่จะอ้าปากหาวตามเขา
อาชีพพี่เลี้ยงมีความสนุกของมัน เหมาะกับเหล่าผู้เล่นที่ชอบช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก มีจิตใจเมตตา เสียสละตัวเองเพื่อผู้อื่นและมีความเป็นแม่อย่างเด่นชัด…เพียงแต่ในนี้ไม่รวมเจี่ยนหรง
สาเหตุที่ต้องเล่น Lulu เป็นเพราะ Thresh ซึ่งเป็นแชมเปี้ยนขึ้นชื่อของเสี่ยวไป๋ถูกปล่อยออกมา เสี่ยวไป๋จึงแสดงหัวใจที่อยากเล่นของตัวเองออกมาแบบสองร้อยเปอร์เซ็นต์ในระบบเสียงพูดคุยทีม แต่ถูกพี่ติงปฏิเสธด้วยคำว่า ‘ปกป้องแครี่ไม่ดี’
Kog’Maw ที่ Pine หยิบในเกมนี้ก็เป็นแชมเปี้ยนที่ไม่มีสกิลเคลื่อนที่ และต้องให้เพื่อนร่วมทีมดูแลเป็นพิเศษ
ดังนั้นเสี่ยวไป๋ที่เลือกคำพูดไม่ถูกจึงแสดงออกด้วยความกล้าหาญว่าขอแค่เจี่ยนหรงหยิบแชมเปี้ยนสายป้องกันอย่างเช่น Lulu หรือ Karma มาเล่น เกมนี้ต้องชนะได้แน่นอน
เจี่ยนหรงถามเขาอย่างมีมารยาทว่ามีชีวิตจนเบื่อแล้วอยากไปกอดคอกับ rish บนสวรรค์ใช่ไหม
หลังพี่ติงครุ่นคิดซ้ำไปซ้ำมากลับรู้สึกว่าคำพูดของเสี่ยวไป๋มีเหตุผลเล็กน้อย จากนั้นถามลู่ป๋อหยวนอย่างมีวาทศิลป์ว่า Lulu มิดเลนเป็นอย่างไร
ลู่ป๋อหยวนพูดด้วยน้ำเสียงสงบว่า ‘ได้หมดครับ สามตัวแบกหรือตัวป้องกันก็เล่นได้ทั้งนั้น อยากเล่นอะไรเอาตามใจชอบเลย…Lulu กับ Nidalee มีสกินซีรี่ส์เดียวกันใช่มั้ยครับ’
…สรุปแล้ว สุดท้ายเจี่ยนหรงก็หยิบ Lulu มาเล่นอย่างประนีประนอม
เลนที่คึกคักที่สุดของ TTC สงบลงแล้ว กระทั่งเข้าสู่นาทีที่สิบสามการแข่งขันเกมนี้ก็ยังไม่มีคิลเกิดขึ้น
“ข่าวดีๆ!” เสี่ยวไป๋พูดเหมือนแสดงตลกอยู่ในระบบเสียงพูดคุยทีม “คู่หูเลนล่างของพวกเขาไม่มีอัลติ นิ้วมือของท่านไป๋จ่ออยู่บนแฟลชแล้ว ตะขอไร้เทียมทานสุดแสนจะแม่นยำสำหรับคร่าชีวิตก็เตรียมพร้อมแล้วเช่นกัน ถ้ามาก็จะได้กำไร ถ้ามาก็จะได้เปรียบ…เงื่อนไขสำคัญคือพวกนายต้องให้ Pเป่าของฉันเก็บคิล ไม่งั้นบอตเลนของพวกเราสู้ยาก ขอบคุณๆ”
เจี่ยนหรงแค่นหัวเราะอย่างเย็นชา คำว่า ‘พ่อไปแล้วมีประโยชน์อะไร ไปเพิ่มเกราะให้นายเหรอ’ มาถึงริมฝีปากแล้ว
ลู่ป๋อหยวนฆ่าสามหมาป่าที่เพิ่งเกิดแล้วพูดว่า “Lulu มา”
เจี่ยนหรงกลืนคำพูดด่าคนลงไป ก่อนลาสต์มินเนี่ยนที่ด้านหน้าแล้วจึงเพิ่มความเร็วให้ตัวเอง สองมือของแม่มดน้อยถือคทา สองขาห่างจากพื้นลอยไปหา Nidalee
พวกเขาไปที่เลนล่างแล้ว ในฤดูกาลนี้ Nidalee ของลู่ป๋อหยวนก็เป็นแชมเปี้ยนที่อยู่ในช่องแบนแทบทุกครั้ง เพียงแต่ฤดูกาลนี้ Nidalee ถูกเนิร์ฟลงหนึ่งขั้นทำให้ไม่มีทีมไหนใช้ แต่เห็นได้ชัดว่าการเนิร์ฟนี้ไม่มีผลกระทบต่อลู่ป๋อหยวน
ความจริงหากพูดตามตรงคือ Graves ของจังเกิ้ลฝ่ายตรงข้ามวิ่งมาถึงเลนล่างก่อน แต่ยังไม่ทันได้แตะเส้นผมของพวกเสี่ยวไป๋แม้แต่เส้นเดียว หอกแหลมของลู่ป๋อหยวนก็ลอยออกมาจากในพุ่มหญ้าเหมือนกระสุนนัดหนึ่ง โจมตีบนร่างจังเกิ้ลฝ่ายศัตรูสุดระยะสกิล…สิ้นเสียงดังฉึก Graves ถูกตอดเลือดมากถึงหนึ่งในสาม!
บนร่างของลู่ป๋อหยวนติดสกิลเพิ่มความเร็วที่เจี่ยนหรงให้พุ่งออกมาจากพุ่มหญ้า ใช้สกิลอัลติเมตเปลี่ยนร่างเป็นเสือภูเขากระโจนใส่ Graves เจี่ยนหรงซึ่งตามติดอยู่ด้านหลังของเขา เสก Graves เป็นแกะเพื่อใบ้และยับยั้งการจ่ายแดเมจของเขาก่อนค่อยใช้สกิล Q ลดความเร็ว อีกฝ่ายถูกลู่ป๋อหยวนฆ่าตายคาที่…
“เฟิร์สต์บลัด!”
ตะขอของเสี่ยวไป๋ตีซัพพอร์ตฝ่ายศัตรูอย่างแม่นยำ ปากก็ร้องว่า “ว้าววววว…สกิลหลอดเลือดหายวับ!”
“อย่าโหยหวน” Pine พูด “ตะเกียง”
คู่หูเลนล่างตามจังหวะการเล่นของเพื่อนร่วมทีมทันที สังหารจังเกิ้ลของฝ่ายตรงข้ามไปได้ ลู่ป๋อหยวนไม่มีความคิดผละไป กำชับอย่างรวบรัดในระบบเสียงพูดคุย “ไดฟ์ป้อม ฆ่าบอตเลน”
เสี่ยวไป๋เป็นซัพพอร์ตที่หนาที่สุดในแมป ย่อมต้องใช้เรือนร่างของตัวเองไปรับแดเมจจากป้อมฝ่ายศัตรู เขาคุ้นเคยกับการทุ่มเทเพื่อเพื่อนร่วมทีมนานแล้ว ทั้งยังคิดว่าเกมนี้มี Lulu อยู่อย่างไรตัวเองก็ไม่มีทางตาย แต่ไม่กี่วินาทีให้หลัง…
“โล่! โล่ๆๆ! เจี่ยนหรง…ฉันจะตายแล้ว อ๊ากกก!”
ครึ่งวินาทีก่อนที่เลือดเสี้ยวหนึ่งของเขาจะถูกพรากไป เจี่ยนหรงก็เพิ่มเกราะชั้นหนึ่งให้เขาอย่างไม่รีบร้อน
ไม่ง่ายเลยกว่าที่เสี่ยวไป๋จะหนีรอดจากป้อมมาได้ด้วยเลือดเสี้ยวเดียว แครี่ฝ่ายตรงข้ามเห็นว่าไม่มีทางรอดจึงคิดฝืนเทรดสักตัวทันที ทว่าผู้ที่พุ่งมาคนแรกก็คือเสี่ยวไป๋ที่เหลือเลือดเพียงไม่กี่สิบหน่วย
Kalista จ่ายแฟลชและปาหอกยาวไปยังเสี่ยวไป๋ก่อนตาย…
เสี่ยวไป๋กรีดร้อง “ไอ้หมานี่คิดเทรดฉัน! เจี่ยนหรงอัลติๆ! อัลติให้ฉัน! อ๊ากกก ฉันจะตายแล้ว!”
เจี่ยนหรงขมวดคิ้ว “เลิกร้องน่า หูจะระเบิดอยู่แล้ว”
ขณะที่หอกกำลังจะจิ้มถูกร่างของเสี่ยวไป๋ เจี่ยนหรงไม่เร่งไม่ร้อนกดสกิลอัลติเมตฟื้นฟูเลือดและขยายร่างให้เสี่ยวไป๋ เพื่อช่วยชีวิตที่น่าสงสารของเขาอย่างไม่เต็มใจ
ลู่ป๋อหยวนเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ปาหอกแหลมใส่ศัตรูเสร็จก็หมุนตัวจากไป ที่ด้านหลังเขาแครี่ฝ่ายศัตรูพลันล้มลงเสียงดังตึง
โล่ป้องกันขั้นสูงสุดกับสกิลอัลติเมตที่เจี่ยนหรงจงใจยื้อไว้จนถึงตอนสุดท้ายค่อยมอบให้นั้นเกือบจะส่งเสี่ยวไป๋ไปตายซะแล้ว
“แค่ให้นายเล่น Lulu เป็นมิดเลนเกมเดียวเองไม่ใช่เหรอ…” เสี่ยวไป๋ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มหญ้า ก่อนวาร์ปกลับบ้านก็หันหน้ามาด้วยความโศกเศร้า เห็นเจี่ยนหรงใช้สกิลเพิ่มความเร็วให้ลู่ป๋อหยวนพอดีจึงรู้สึกน้อยใจกว่าเดิม “Pเป่า ฉันเองก็ต้องการสกิลเพิ่มความเร็ว”
Pine กำลังวาร์ปกลับบ้านไปออกไอเทมจากร้านค้าในเกม “ฉันมีสกิลเพิ่มความเร็วที่ไหน”
เสี่ยวไป๋พูดว่า “ฉันเห็นฮีลของนายคูลดาวน์เสร็จเมื่อสองวินาทีก่อน”
Pine เอ่ย “นายฝันไปเถอะ”
หลังได้แกล้งเสี่ยวไป๋ไปรอบหนึ่ง เจี่ยนหรงจึงอารมณ์ดีขึ้นมาก ชูคทาเดินต๊อกๆ กลับไปฟาร์มมินเนี่ยนต่อที่เลนกลาง
ส่วนลู่ป๋อหยวนลอบเข้าป่าฝ่ายศัตรู
ผู้บรรยาย A พูดอย่างประหลาดใจ “Road มั่นใจในตัวเองเกินไปแล้ว ปาหอกไปแล้วหันหน้ากลับมาด้วยความมั่นใจในตัวเอง…”
ผู้บรรยาย B เอ่ย “พูดตามหลักการ ถ้าตั้งแต่เริ่มเกมจนถึงตอนนี้ผมได้ปาหอก ถึงจะแค่ครั้งเดียวแต่ผมคงมั่นใจในตัวเองมากกว่าเขาอีก…คิดไม่ถึงว่าหลัง Road ไม่ได้ลงแข่งในรอบรองชนะเลิศแค่นัดเดียว ประสาทสัมผัสมือกลับดีขึ้นเรื่อยๆ เลย”
ผู้บรรยาย C ยอมรับความจริงแล้วว่าเกมนี้ Soft เลือกเล่นแนวอ่อนโยน
เมื่อเห็นว่า Nidalee ของลู่ป๋อหยวนลอบเข้าไปในป่า เขามองไปยังจังเกิ้ลสำรองของ PUD ด้วยความสงสาร “Graves ฟาร์มป่าเร็วไม่เท่า Nidalee อยู่แล้ว ตอนนี้ยังถูกเคาน์เตอร์แกงค์ตายอีก หมายความว่าป่าครึ่งล่างไม่เหลือแล้ว…แต่ไม่เป็นไร ถ้าเจอกันแล้วสู้หนึ่งต่อหนึ่งก็ไม่ใช่จะสู้ไม่ได้ ขอแค่หลบสกิลของเทพลู่ได้ก็พอแล้ว”
น้ำเสียงปลอบใจในคำพูดประโยคสุดท้ายชัดเจนยิ่ง ใครๆ ก็รู้ว่าภายใต้สถานการณ์ที่ลู่ป๋อหยวนหยิบแผนจังเกิ้ลแบกและสร้างความได้เปรียบในการแกงค์ช่วงต้นเกมได้แล้วเช่นนี้ก็แสดงความยินดีกับจังเกิ้ลของฝ่ายตรงข้ามได้เลย…พื้นที่ป่าของคุณไม่มีอะไรเหลือแล้ว
ตามคาดหลัง Graves เกิดใหม่ก็ได้แต่ร้องเพลง ‘คงคงหรูเหยี่ย’* อยู่ในป่าครึ่งล่างของตัวเอง
ตอนนี้เขาตามหลังลู่ป๋อหยวนหนึ่งเลเวล ขณะตีบลูบัฟก็ตัวสั่นงันงกจนต้องลากมอนสเตอร์ป่าไปมุมด้านในสุด
เขาร้องเรียกเพื่อนร่วมทีม “Savior มาเอาบลูบัฟไปสิ”
Savior “มาแบ้ว”
ท่าลาสต์มินเนี่ยนของ 98K หยุดชะงัก “…อย่าเลียนแบบคำเสริมน้ำเสียงของพวกชาวเน็ต”
Savior ตอบอย่างน่าเอ็นดู “ครับพี่ชาย”
เกมนี้ Savior เล่นช่วงชนเลนอย่างมีความสุขมาก
สามารถชนเลนกับ Soft และลาสต์มินเนี่ยนอย่างราบรื่น ไม่มีการปะทะและความวุ่นวาย นี่คือเรื่องราวที่เขาไม่คาดฝันเลยทีเดียว เขาได้พบกับความเงียบสงบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในเกมเกมนี้ แม้ว่าตอนนี้เขาจะกำลังแข่งรอบชิงชนะเลิศอยู่ก็ตาม
ความสุขของเขาสิ้นสุดลงตอนที่บลูบัฟถูกลู่ป๋อหยวนซึ่งซ่อนตัวอยู่ในพุ่มหญ้าด้านหลังมาเนิ่นนานปาหอกใส่แล้วขโมยไป
“เขาอยู่ด้านหลังฉันมาตลอด?!” ถัวถัวตกใจจนหน้าถอดสี “เป็นไปไม่ได้มั้ง? งั้นทำไมเมื่อกี้เขาไม่ลอบโจมตีฉัน…”
98K คิดวิ่งไปช่วยเพื่อนร่วมทีมทันที แต่กลับถูกหยวนเชียนใช้สกิลขวางเอาไว้ เขาปลีกตัวไม่ได้จึงขมวดคิ้วพูดว่า “หนีเร็ว…เขาคิดจะฆ่าสองตัว!”
การตอบสนองของ Savior เร็วมาก เขาจ่ายสกิลออกไปทันทีคิดสตันลู่ป๋อหยวน แต่ลู่ป๋อหยวนหลบออกไปทางซ้าย ในขณะเดียวกันยังปาหอกแหลมออกไปด้วย ถัวถัวจ่ายสกิลเคลื่อนที่ของตัวเองตามสัญชาตญาณ…
เสียงดังฉึก หอกแหลมแทงลงบนร่างถัวถัว เลือดหายไปครึ่งหลอด…ลู่ป๋อหยวนคาดการณ์ตำแหน่งการเดินของเขาไว้แล้ว
ลู่ป๋อหยวนแย้มยิ้มอย่างเกียจคร้าน เขาคุ้นเคยกับ Graves เหลือเกิน ขอบเขตตำแหน่งการเดินในลักษณะพื้นที่แบบนี้มีอยู่แค่นั้น ต่อให้เขาหลับตาก็รู้ว่าถัวถัวจะเดินไปทางไหน
“ไม่เป็นไร” Savior เย็นชามาก เขาใช้ภาษาจีนอันห่วยแตกพูดว่า “ฉานอยู่ ไม่ต้องตระหนก พวกเหลาเทรดกับเขา”
ถัวถัวรู้ว่าครั้งนี้ตัวเองไม่มีแฟลชย่อมหนีไม่รอด เขาจึงปล่อยสกิลเพื่อสร้างความเสียหายทั้งหมดออกไปประสานกับสกิลของ Savior ตอดเลือดลู่ป๋อหยวนจนเหลือน้อยก่อนที่ตัวเองจะตาย
หน้าจอพลันมืดลง ถัวถัวระบายลมหายใจหนึ่งเฮือก คิดในใจว่าครั้งนี้เขากับลู่ป๋อหยวนเทรดหนึ่งต่อหนึ่งถือว่ากำไร สังหารลู่ป๋อหยวนมีค่าหัวเหลือเฟืออยู่แล้ว ขั้นต่อไปป่าของตัวเองคงจะปลอดภัยขึ้นเล็กน้อย…
ถัวถัวคิดไปได้ครึ่งหนึ่ง พลันได้ยินเสียงแฟลชหนึ่งเสียง…เจี่ยนหรงวิ่งมาถึงทันเวลา ใส่โล่ป้องกันให้ลู่ป๋อหยวนและใบ้ Savior จากนั้น Nidalee แปลงร่างเป็นเสือภูเขากระโจนใส่หน้า Savior แล้วใช้กรงเล็บโจมตีเก็บคิล Savior ไปและได้รับดับเบิ้ลคิล
พวกเขาฉวยโอกาสติดตามซ้ำเติม หลังสังหารมิดเลนและจังเกิ้ลฝ่ายศัตรูก็วิ่งตรงไปยังเลนบน
หยวนเชียนเห็นเขาสองคนมาแล้วจึงจ่ายสกิลอัลติเมตพุ่งเข้าชาร์จโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ทักษะการเล่นอันดุดันชน 98K ลอยขึ้นฟ้าได้สำเร็จ!
ขณะลู่ป๋อหยวนกระโจนเข้าใส่ 98K เลือดเหลือไม่มากแล้ว เจี่ยนหรงจ่ายสกิลอัลติเมตของตัวเองให้ลู่ป๋อหยวนโดยไม่แม้แต่จะคิด ใช้สกิลใบ้และลดความเร็วใส่ 98K คนทั้งสามเก็บคิล 98K อย่างตรงไปตรงมาและทำลายป้อมที่เลนบน…
ผู้บรรยาย A ร้องว่า “ได้ป้อมแรกแล้ว! ไทม์มิ่งของ TTC ในเกมนี้ดีเกินไปหรือเปล่าครับ!”
ผู้บรรยาย B กล่าวต่อ “นั่นสิครับ ไม่ต้องพูดถึงไทม์มิ่งแผนจังเกิ้ลแบกของลู่ป๋อหยวน สิ่งที่ผมคิดไม่ถึงเลยก็คือ Soft ให้เกราะตลอด ทั้งที่สกิลโล่นี้สามารถสร้างความเสียหายให้ศัตรูได้…แต่เขายังคงเลือกใส่ให้เทพลู่อย่างต่อเนื่องอย่างไร้ขีดจำกัด แน่นอนว่านี่คือการเลือกที่ถูกต้องอย่างยิ่ง เพราะตอนนี้แดเมจของเทพลู่รุนแรงมาก มีชีวิตรอดเพียงหนึ่งวินาทีคือการสร้างความกดดันให้คู่ต่อสู้!”
ผู้บรรยาย C เอ่ย “ผมรู้สึกว่าการคอลล์เกมของ Road กับ Soft ในตอนนี้ดีอย่างยิ่ง แค่ดูก็รู้ว่าเบื้องหลังพวกเขาจับคู่ดูโอ้ฝึกจนรู้ใจกันเป็นประจำ”
ในเกมนี้แผนจังเกิ้ลแบกของ PUD ล้มเหลว ไม่เพียงไม่ได้ช่วยเลนอื่น แม้กระทั่งการฟาร์มของตัวเองก็กลายเป็นปัญหาใหญ่ เขาไม่กล้าไปตีมอนสเตอร์ป่าของตัวเองภายใต้สถานการณ์ที่ขาดทัศนวิสัยโดยรอบ เพราะกลัวว่าตีไปตีมาจู่ๆ Nidalee จะกระโดดออกมาจากด้านข้าง…
เกมนี้ 98K ท็อปเลนที่ควรค่าให้พึ่งพาที่สุดของ PUD เล่น Ornn ซึ่งไม่ใช่แชมเปี้ยนสายแครี่ ช่วงต้นเกมและกลางเกมถูกลู่ป๋อหยวนกับเจี่ยนหรงไปเยี่ยมเยือนพร้อมกัน การฟาร์มไม่ได้ดีไปกว่าหยวนเชียนสักเท่าไหร่ Pine กับเสี่ยวไป๋หยิบ Thresh และ Kog’Maw ประสานงานกัน เดิมทีก็เป็นแชมเปี้ยนที่ความสามารถคุกคามแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว เมื่อได้รับความช่วยเหลือจากลู่ป๋อหยวนจึงกดฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดายมากหนึ่งครั้งในช่วงต้นเกม และเป็นเพราะว่า Savior ฆ่า Lulu ไม่ตายจึงไม่ได้เปรียบเจี่ยนหรง
ในที่สุดทีมไฟต์ครั้งแรกก็ระเบิดขึ้นในนาทีที่ยี่สิบสาม หลังหอกแหลมของลู่ป๋อหยวนตอดฝ่ายศัตรูสองคนจนเหลือเลือดครึ่งหลอด หยวนเชียนเปิดสกิลอัลติเมตพุ่งไปยังดงศัตรู แม้จะไม่โดนใครแต่ก็บีบให้ฝ่ายตรงข้ามทั้งสองคนจ่ายแฟลชได้สำเร็จ
“บุกๆๆ เพื่อนๆ!” หยวนเชียนตะโกนด้วยความตื่นเต้น “มิดเลนกับซัพพอร์ตไม่มีแฟลช! ฉันหลอกให้จ่ายไปหมดแล้ว!”
ลู่ป๋อหยวนพูดว่า “สวยงาม”
ลู่ป๋อหยวนฉวยโอกาสสลับเป็นร่างเสือภูเขา แฟลชพุ่งเข้าไปหาแครี่ฝ่ายตรงข้ามในดงศัตรู ใช้คอมโบฉีกกัดด้วยแดเมจสูงชุดหนึ่งปลิดชีพ!
แครี่ถูกสังหารไปแล้ว แต่ลู่ป๋อหยวนก็ยังพุ่งเข้าไปท่ามกลางฝ่ายศัตรูทั้งสี่คน อีกฝ่ายตอบสนองอย่างรวดเร็ว สกิลอัลติเมตนับไม่ถ้วนพุ่งมาหาลู่ป๋อหยวน…เสียงดังติ๊ง เจี่ยนหรงจ่ายสกิลอัลติเมตให้ลู่ป๋อหยวนปกป้องเขาเอาไว้ได้ แล้วใส่โล่กับสกิลเพิ่มความเร็วที่เหลือให้ Pine ที่ด้านหลัง!
สกิลเพิ่มความเร็วของเจี่ยนหรงไม่เพียงเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ แต่ยังเพิ่มความเร็วในการโจมตีได้ด้วย
เสี่ยวไป๋แฟลชไปเกี่ยว Savior เอาไว้และส่งตัวเองไปเบื้องหน้าเขา ทั้งยังลดความเร็วทั้งหมดและส่งตะเกียงไปให้ Pine
“Pเป่า ไปเลย!” เสี่ยวไป๋พูดว่า “กัดพวกเขาให้ตาย!”
Pine เหยียบตะเกียงของเสี่ยวไป๋พุ่งเข้าวงไฟต์ บวกกับสกิลเพิ่มความเร็วโจมตีที่เจี่ยนหรงให้และสกิลของตัวเอง อ้าปากพ่นน้ำกรดปิ้วๆๆๆ…
“ทริปเปิ้ลคิล!”
“ไนซ์! แปะๆๆ!” เสี่ยวไป๋ขยับปากปรบมือ จากนั้นจึงพูดเหน็บแนมว่า “ยี่สิบสามนาที ขอแสดงความยินดีที่แครี่ฝ่ายเราได้รับโล่ป้องกันจากมิดเลนหนึ่งครั้งได้สำเร็จ!”
เจี่ยนหรงถามว่า “ทิ้งเพื่อนร่วมทีมในการแข่งขันผิดกฎมั้ย”
“ถ้าไม่ชัดเจนเกินไป” ลู่ป๋อหยวนตอบ “ก็คงไม่”
เสี่ยวไป๋เอ่ย “พี่ชายที่ดูมอนิเตอร์ยังอยู่มั้ยครับ รบกวนช่วยบันทึกคำพูดท่อนนี้เอาไว้หน่อย ผมแข่งรอบชิงชนะเลิศแมตช์นี้เสร็จจะให้มิดเลนของพวกเราชื่อเสียงป่นปี้เพราะกลั่นแกล้งเพื่อนร่วมทีม!”
เจี่ยนหรง “ไม่เป็นไร ฉันไม่มีชื่อเสียงอะไรอยู่แล้ว พูดได้ตามใจชอบ”
เสี่ยวไป๋ “งั้นพี่ชายฉันยอมให้นายรังแกฉันก็เป็นความผิดประเภทหนึ่ง…”
เจี่ยนหรง “นายอยากต่อยกับฉันก็บอกมาตามตรง จบรอบชิงชนะเลิศแล้วตรงไปห้องน้ำเลย”
เสี่ยวไป๋ “ขอโทษ”
พี่ชายที่ดูมอนิเตอร์ “…”
ถ้าทีมนี้ไปแข่งระดับโลกจะไม่มีปัญหาจริงเหรอ
เดิมที PUD เสียเปรียบอยู่แล้ว หลังทีมไฟต์ครั้งนี้จบลงจึงกำหนดความพ่ายแพ้ของพวกเขา Graves คือแชมเปี้ยนต้นเกม พึ่งพาไอเทมเป็นอย่างยิ่ง ครั้นเสียเปรียบย่อมเป็นเศษสวะตัวหนึ่ง
นาทีที่ยี่สิบห้าทีมไฟต์ครั้งที่สองเกิดขึ้นตรงบารอน สถานการณ์ที่ถูกต้องคือเสี่ยวไป๋คิดไปปักวอร์ดที่บารอน แต่กลับถูกฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดว่าพวกเขาลำพองจะเปิดบารอน ทั้งห้าคนจึงยกโขยงมาหาเสี่ยวไป๋ เสี่ยวไป๋หมุนตัววิ่งหนีได้สองวินาทีพลันหันหน้าโยนตะขอออกไปเกี่ยวถูกแครี่ฝ่ายตรงข้าม และพุ่งไปในดงศัตรูพร้อมกับปล่อยสกิลอัลติเมตลดความเร็วรั้งเอาไว้ได้สามคน…
ฉันเผ่นก่อนล่ะ ฉันหลอกเล่น
ด้านหลังเสี่ยวไป๋มีเพื่อนร่วมทีมของเขาบุกมาอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกร ทั้งต่อยและตีจน PUD ตายยกทีม จากนั้นก็ได้บารอนและดันป้อมของ PUD
นาทีที่ยี่สิบแปด TTC รวมกลุ่มบุกฐาน 98K คิดพลิกสถานการณ์ใช้สกิลอัลติเมตโจมตี Pine จนกระเด็นได้สำเร็จ…ทว่าเพื่อนร่วมทีมกลับไม่ได้ตามไปเพราะแดเมจไม่เพียงพอ Savior แฟลชเข้าไป คิดจะลองปล่อยสกิลอัลติเมตฆ่าคนสักหน่อย ใครจะไปรู้ว่าเพิ่งพุ่งเข้าไปก็ถูกเจี่ยนหรงประกาศโทษประหารโดยการเสกให้เป็นแกะและใบ้ ไม่กี่วินาทีให้หลังค่อยถูกหยวนเชียนสังหารตายไป
นาทีที่ยี่สิบเก้า TTC สังหาร PUD และทำลายฐานของอีกฝ่าย คว้าชัยชนะในเกมแรกไปครอง
นักแข่งของทั้งสองทีมออกจากสนามเพื่อพักผ่อนเตรียมแข่งขันเกมที่สอง ขณะกล้องจับภาพสมาชิกทีม TTC บนใบหน้าของทุกคนล้วนมีสีหน้าผ่อนคลายเป็นธรรมชาติ
ผู้บรรยาย A เอ่ย “ขอแสดงความยินดีที่ TTC คว้าชัยชนะในการแข่งขันเกมแรกไป…ทำไมผมรู้สึกว่าคืนนี้สมาชิก TTC ทุกคนต่างผ่อนคลายเป็นพิเศษ”
ผู้บรรยาย B พูดว่า “ใช่มั้ยล่ะครับ ไม่มีความตึงเครียดและความกดดันเหมือนตอนที่สู้กับจั้นหู่”
ผู้บรรยาย C “นั่นมันแน่อยู่แล้ว ตอนนั้น Road ไม่ได้ลงสนามไงล่ะครับ เหมือนกับ PUD ในวันนี้…จะว่าไปแล้วช่วงนี้ผมเจอคำพูดมากมายที่บอกว่าความสามารถและการตอบสนองของผู้เล่นเก่าถดถอย ความจริงการที่ในทีมทีมหนึ่งมีผู้เล่นเก่าที่ประสบการณ์โชกโชนก็สำคัญมาก…อีกเรื่องคือไม่อาจใช้แผนจังเกิ้ลแบกสู้กับ Road เพราะสู้ไม่ได้จริงๆ ถึงยังไงจังเกิ้ลที่เล่นอย่างรอบคอบรัดกุมแล้วค่อยปลดปล่อยพลังในช่วงท้ายเกมอย่าง XIU ก็รับมือ Road ได้ค่อนข้างง่ายดายกว่า”
เมื่อกลับถึงหลังเวทีพี่ติงชมผ่านๆ ก่อนว่า ‘เล่นได้ไม่เลว’ จากนั้นเริ่มพูดคุยกลยุทธ์ของเกมต่อไปทันที
พวกเขาทั้งห้าคนถึงขั้นไม่มีเวลาไปพักผ่อนที่โซฟาแม้แต่ครู่เดียว และเพื่อจะได้ฟังคำพูดของพี่ติงอย่างชัดเจน พวกเขายืนอยู่ด้วยกันในระยะที่ใกล้มาก แทบจะไหล่ชนกันทั้งหมด
ลู่ป๋อหยวนรู้สึกได้ว่าคนที่ด้านข้างพิงมาหาตัวเอง ถ่ายน้ำหนักบนร่างมาเล็กน้อย
ลู่ป๋อหยวนหลุบตามองดูเขา
เจี่ยนหรงหลุบตาฟังอยู่ เหมือนกำลังฝืนกระปรี้กระเปร่า สุดท้ายยังคงทนไม่ไหว อ้าปากหาวครั้งที่สองของคืนนี้
มีคนบอกว่าการหาวติดต่อกันได้ เสี่ยวไป๋เองก็หาวตาม จากนั้นเป็นหยวนเชียนที่อ้าปากอย่างไม่อาจควบคุม…
“…ทำไม ให้ฉันเอาหมอนหลายๆ ใบให้พวกนายพกขึ้นไปด้วยมั้ย” พี่ติงพูด
ความจริงเจี่ยนหรงไม่ได้ง่วง แต่เกมเมื่อครู่เขาลาสต์มินเนี่ยนหลายสิบนาที กระทั่งจบเกมมีผลการต่อสู้เพียงหนึ่งคิล เลยปลุกความมีชีวิตชีวาไม่ขึ้นจริงๆ เขาไม่รู้สึกตื่นเต้นเลยถึงแม้ว่าคืนนี้จะเป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศก็ตาม
เขาถูๆ ใบหน้า “มีเรดบูลมั้ยครับ”
พี่ติงบอกว่า “ไม่มี ฉันจะให้คนไปซื้อ…แต่เกมนี้คงไม่ทันแล้ว นายทนเอาหน่อย เกมนี้พวกเขามีตำแหน่งเคาน์เตอร์ ไม่ต้องให้นายฟาร์มแล้ว วางใจได้”
เจี่ยนหรงพยักหน้า ยืนตัวตรงพลางพูดว่า “ผมจะไปล้างหน้า”
เมื่อถึงห้องน้ำเจี่ยนหรงออกแรงใช้น้ำเย็นวักใส่ใบหน้าตัวเอง หลังล้างไปมาหลายรอบยังรู้สึกไม่เพียงพอเลยยกฝ่ามือคิดตบหน้าตัวเองอีกหลายที ผลสุดท้ายมือยังไม่ทันแตะถูกใบหน้า ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้แล้ว
“ทำร้ายตัวเองเหรอ” ไม่รู้ลู่ป๋อหยวนเข้าห้องน้ำมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เลิกคิ้วถามเขาอยู่ด้านข้าง บนหน้าไม่แสดงสีหน้าอะไร
“…ไม่ใช่” เจี่ยนหรงตกตะลึง กะพริบตาจนหยดน้ำบนขนตาร่วงพรู “ฟอร์มไม่ดีนิดหน่อย”
ลู่ป๋อหยวนถามว่า “น้ำตาลในเลือดต่ำอีกแล้ว?”
“เปล่า ไม่มีแน่นอน” เจี่ยนหรงพูดทันที “ตอนแข่งไม่มีปัญหา ผมแค่…ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ รู้สึกเรี่ยวแรงไม่พอ”
เจี่ยนหรงใช้มืออีกข้างเช็ดน้ำบนใบหน้า จากนั้นถามว่า “พี่ติงให้คุณมาเรียกผมเหรอ จะขึ้นเวทีแล้ว?”
“ยังไม่ขึ้น” ลู่ป๋อหยวนพูด “มาหานายเฉยๆ”
เจี่ยนหรงตกตะลึง “ทำไม…”
“ช่วยนายปลุกความสดชื่นสักหน่อย”
คำว่า ‘ปลุกยังไง’ ของเจี่ยนหรงยังไม่ทันถามออกไปก็ถูกช้อนก้นอุ้มขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์อ่างล้างมือแล้ว
ขณะเขาถูกลู่ป๋อหยวนจับท้ายทอยบังคับให้โน้มไปข้างหน้า ยังไม่ลืมถามว่า “ประตู…”
ลู่ป๋อหยวนบอกว่า “ล็อกแล้ว”
ความจริงเป็นแค่การจูบเพียงชั่วครู่ไม่ถึงยี่สิบวินาที แต่เจี่ยนหรงกลับรู้สึกว่าริมฝีปากของตนเองจะแตกอยู่แล้ว
แต่แล้วก็มีคนเคาะประตู ลู่ป๋อหยวนจึงปล่อยเขาออก ก่อนถามเสียงแผ่วเบาว่า “ดีขึ้นบ้างหรือยัง”
เจี่ยนหรงกลืนน้ำลายเล็กน้อยตามสัญชาตญาณ รสชาติกาแฟที่ปลายลิ้นของลู่ป๋อหยวนเข้าไปในลำคอหมดแล้ว ปลายหูของเขาแดงขึ้นทันที
“อืม” เจี่ยนหรงลงมาจากบนเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ ดึงกระดาษทิชชูเช็ดใบหน้า “ตอนนี้ผมคนเดียวต่อยจวงอี้ไป๋สิบคนได้”
ลู่ป๋อหยวนยิ้มแล้วยื่นมือขยี้ผมของเขา
ประตูเปิดออก เสี่ยวไป๋ยืนอยู่นอกประตู พูดด้วยสีหน้าไม่เข้าใจจนดูโอเวอร์ “อะไรกัน นายเข้าห้องน้ำสาธารณะคนเดียวล็อกประตูทำไม แล้วเมื่อกี้นายคุยโทรศัพท์กับใคร ทำไมฉันรู้สึกเหมือนได้ยินชื่อฉัน ว่าแต่ว่า เกิดอะไรขึ้นกับปากนายเนี่ย แดงแจ๋เลย…นายรอฉันเข้าห้องน้ำก่อนแป๊บหนึ่ง ฉันกลั้นจนจะตายอยู่แล้ว นายรอฉันอยู่นอกประตูหนึ่งนาทีนะ พวกเราค่อยกลับไปด้วยกัน…”
คำพูดทั้งหมดหยุดลงขณะเขามองเห็นพี่ชายของตน
ตอนแรกเสี่ยวไป๋คิดว่าพี่ชายเขาแอบไปสูบบุหรี่ซะอีก คิดไม่ถึงว่ากลับอยู่ด้วยกันกับเจี่ยนหรงในห้องน้ำ แถมยังล็อกประตูอีก…ทำไมต้องล็อกประตูห้องน้ำสาธารณะด้วย ไม่มีศีลธรรมจริงๆ…แต่นี่ไม่ใช่จุดสำคัญ
มองดูเสี่ยวไป๋ที่สีหน้านิ่งอึ้ง ลู่ป๋อหยวนถามอย่างเฉยชาว่า “ต้องรอนาย?”
“…ไม่ต้องแล้วแหละ” เสี่ยวไป๋พูด “ผมกลับไปเองก็ได้ พวกคุณทั้งสองเชิญ”
* เอ็กซ์ทราเน็ต (Extranet) หมายถึงเครือข่ายภายนอกองค์กร
* ซีปา คือคำว่า 씨발 (ชีบัล) ในภาษาเกาหลี เป็นคำด่าที่ไม่สุภาพ ประมาณว่าไอ้เชี่ย
** ปาปัว คือคำว่า바보 (พาโบ) ในภาษาเกาหลี แปลว่าคนโง่ คนทึ่ม
* ใบ้ เป็นภาษาที่ใช้กันในเกม หมายถึงถูกสตัน ไม่สามารถเคลื่อนที่หรือใช้สกิลใดๆ ได้
** Glitterlance คือสกิล Q ของ Lulu เป็นการที่ Lulu และ Pix ซึ่งเป็นแฟรี่ประจำตัวยิงลูกศรเวทมนตร์ใส่ศัตรูที่อยู่บนเส้นทาง ซึ่งจะสร้างความเสียหายและสโลว์ศัตรูทุกตัวที่โดน
* เพลงคงคงหรูเหยี่ย เป็นเพลงของเริ่นหราน ชื่อเพลงแปลว่าความว่างเปล่า
โปรดติดตามตอนต่อไป…
ติดตามบทต่อไป ได้ในวันที่ 9 ต.ค. 65
Comments
comments
No tags for this post.