นวลหยกงาม นิยายรักที่ขณะนี้ได้เข้ามาครอบครองหัวใจของนักอ่านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกลายเป็น The Best หนังสือที่ดีที่สุดของนักอ่านหลายคน
นวลหยกงาม (15 เล่มจบ) ผลงานจาก ซานเยวี่ยกั่ว เขียน Honey Toast แปล ในช่วงแรกหลายคนอาจเกิดความลังเลใจว่า นิยายรักแสนอบอุ่น และมีความหมายเรื่องนี้จะคุ้มค่ากับการครอบครองหรือไม่ เมื่อมาถึงตอนนี้คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ‘นวลหยกงาม’ กลายเป็นนิยายรักแนวจีนย้อนยุคฮอตที่สุดในเวลานี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกลายเป็นนิยายติดอันดับขายดีต่อเนื่องตั้งแต่เล่มที่ 1 จนถึงเล่มปัจจุบัน จากการรีวิวของนักอ่านที่ชื่นชมเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จนกลายเป็นกระแสการอ่านอยู่ในตอนนี้
คลิกที่นี่ ดูเหตุผลที่เลือกซื้อนิยายรักนวลหยกงาม
คลิกที่นี่ ดูความประทับใจที่มีต่อตัวละคร
อะไรที่ทำให้ ‘นวลหยกงาม’ กลายเป็นเรื่องราวแสนพิเศษ
1. พล็อตเรื่องน่าติดตาม และดึงดูดใจให้อ่านต่อ
แม้ว่าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการย้อนยุค ซึ่งมีในนิยายเรื่องอื่น ๆ อยู่มากมาย แต่สำหรับเรื่อง นวลหยกงาม เป็นการสร้างปมของตัวละครจากยุคปัจจุบันย้อนไปสู่ยุคอดีตได้อย่างน่าสนใจ เรื่องราวของหญิงสาวที่เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เกิดอุบัติเหตุจนวิญญาณหลุดไปอยู่ในร่างของเด็กน้อยวัยสี่ขวบที่สมองพิการ มีท่านแม่นาม ‘หลูซื่อ’ และพี่ชายอีกสองคน ‘หลูจื้อ’ และ ‘หลูจวิ้น’ โดยย้อนไปในสมัยราชวงศ์ถัง
การวางพล็อตเรื่องทำให้ผู้อ่านรู้สึกผูกพันกับไปตัวละครแต่ละตัว นักอ่านจะได้เห็นถึงการเติบโตของตัวละครเหล่านั้นตั้งแต่วัยเด็กไปจนกระทั่งถึงวัยผู้ใหญ่จนกลายเป็นความรัก ห่วงใย เอาใจช่วย และชื่นชมตัวละครเหล่านั้น
2. นักอ่านเข้าถึงตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง
ตัวละครแต่ละตัวมีการสร้างที่มา และมีคาแร็กเตอร์ที่เด่นชัด ทำให้นักอ่านเข้าถึงความรู้สึกของตัวละคร อาทิ ‘หลูซื่อ’ แม่ผู้รักบุตรมาก นางทุ่มเทร่างกายและจิตใจประคับประคองดูแลบุตรของตนอย่างสุดความสามารถ นางเติบโตมาในตระกลูขุนนางชั้นผู้ใหญ่ จึงได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี แต่งงานและมีลูกทั้งสามคน แต่มีเหตุให้ต้องออกมาใช้ชีวิตตามลำพังสามแม่ลูก
‘อี๋อวี้’ ในภพปัจจุบันนางมีอายุยี่สิบกว่าปี เมื่อมาอยู่อีกภพหนึ่งค่อยๆ เข้าใจเรื่องราวต่างๆ อย่างแจ่มแจ้ง นางมีไหวพริบในการใช้ชีวิต รู้จักปรับตัว และยังใช้ปัญญาของนางช่วยเหลือครอบครัวที่นางรัก อีกทั้งเป็นผู้หญิงที่รู้จักวางตัวจนสร้างความประทับใจให้กับนักอ่าน
‘หลูจื้อ’ พี่ชายใหญ่ของสกุลหลู รักครอบครัวที่สุด รู้จักรับผิดชอบ มีความคิดอ่านเป็นผู้ใหญ่เกินตัว มีปัญญาเฉียบคมตั้งแต่ยังเยาว์วัยจวบเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ยังคงคิดเพื่อความอยู่รอดของครอบครัวเสมอ มีหลายเหตุการณ์ที่ทำให้นักอ่านรู้สึกชื่นชม จนอยากเห็นเขาโลดแล่นอยู่ในนิยาย คอยเอาใจช่วยเขา อยากเห็นเขาประสบความสำเร็จ และมีชีวิตที่ดี
‘หลูจวิ้น’ พี่ชายรอง มีอุปนิสัยร่าเริงสดใส เขารักครอบครัว ชื่นชอบการฝึกวรยุทธ์ มีพลังมาก หลูจวิ้นจะทำให้เราเห็นอีกมุมที่ตรงกันข้ามกับหลูจื้อ นักอ่านจะได้เห็นการเติบโตของหลูจวิ้นที่ค่อยๆ กลายป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว
‘หลี่ไท่’ เว่ยอ๋อง มีความสุขุมเยือกเย็น เขาคือผู้ที่อยู่เคียงข้างอี๋อวี้ในเวลาที่ไม่เหลือใคร คอยชั่วเหลือนางอยู่เสมอ เป็นผู้ที่มีรักมั่นคง และมีหัวใจมอบให้นางผู้เดียว ลักษณะรูปร่างหน้าตา และการปฏิบัติตัวของหลี่ไท่ทำให้นักอ่านหลายคนชื่นชอบในตัวเขา
ยังมีตัวละครอีกมากมายซึ่งทำให้ผู้อ่านรู้สึกถึงความมีชีวิตของนิยายรักเรื่องนี้ และต้องบอกว่าความรู้สึกนึกคิดของเหล่าตัวละครทั้ง รัก ห่วงใย ชิงชัง โกรธ ริษยา อยากปกป้อง ฯลฯ จะสามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจำวันของเราค่ะ
3. เรื่องราวมีเหตุมีผล
สำหรับนิยายรักเรื่องนวลหยกงาม แบ่งเป็น 15 เล่มจบนี้ผู้เขียนลงรายละเอียดในแต่ละเหตุการณ์ แต่ละตัวละครได้อย่างน่าสนใจคล้ายกับว่านักอ่านได้เข้าไปร่วมวงอยู่ในสถานที่แห่งนั้น เราจะรู้สึกตื่นเต้น มีพลัง ลุ้น สูญเสีย ซึ้ง อบอุ่น วาบหวาม ฯลฯ ไปกับทุกเหตุการณ์ที่ตัวละครแต่ละตัวได้ประสบพบเจอ
ตัวอย่างเหตุการณ์หลังจากที่ได้ยินท่านแม่กับพี่ใหญ่พูดถึงบิดา
หลูซื่อขึ้นเตียงแล้วจับผ้าห่มบนตัวอี๋อวี้ให้เข้าที่ ก่อนจะหลับตาลงครุ่นคิดเรื่องที่อยู่ในใจพลางเข้าสู่ห้วงนิทราไปอย่างช้าๆ จวบจนลมหายใจของนางเป็นจังหวะสม่ำเสมอทีละน้อย อี๋อวี้จึงหันหน้าไปมองอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง กลางม่านรัตติกาลมืดสนิท ดวงตาทั้งคู่ที่ลืมขึ้นเปล่งประกายวาววาม มองใบหน้าของมารดาที่รางเลือนด้วยความรู้สึกสับสนปนเป
นางรู้มาโดยตลอดว่า ‘ท่านพ่อ’ คนนั้นเป็นส่วนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความลับที่คนทั้งครอบครัวปิดบังนางไว้ และเพราะปกปิดอย่างมิดชิด นี่จึงเป็นคราแรกในระยะห้าปีมานี้ที่นาง ‘ได้ยิน’ เรื่องจริงๆ ของเขา ที่แท้ ‘ท่านพ่อ’ คนนั้นของนางยังไม่ตาย แล้วท่านแม่ก็ไม่ใช่หญิงม่าย!
ตัดพ่อตัดลูก ทอดทิ้งภรรยา จะสังหารบุตรชายแท้ๆ มันหมายความว่าอะไรกันนะ!
ที่แท้เบื้องหลังของความลับนี้เป็นเรื่องร้ายแรงถึงเพียงนี้เชียวหรือนี่ มิน่าทุกคนไม่เคยเอ่ยกับนางเลย
มิน่าเล่า…
ตัวอย่างความรักความเสน่หาที่พระนางมีต่อกัน
หลี่ไท่มิไยดีเสียงหัวเราะเย้าแหย่เบื้องหลังตั้งแต่แรก ณ เสี้ยวขณะนี้ดวงตาเขามองเห็นนางคนเดียว สายตาที่ควบคุมไม่อยู่ติดตรึงอ้อยอิ่งอยู่ที่ดวงหน้าขาวกระจ่างของนาง จากปลายคางเล็กน่ารักไปที่มุมปากชุ่มชื้น จากจมูกเรียวมนน้อยๆ น่าเอ็นดูไปข้างแก้มเนียนใส จากหางตาเฉียงขึ้นดุจประดับด้วยจันทร์เสี้ยวไปที่ดวงตาหวานซึ้งนุ่มละมุนดั่งสายน้ำคู่นั้น ชายหนุ่มจับสังเกตทุกๆ อารมณ์ความรู้สึกในแววตานางไม่ว่าจะเป็นประหม่าเขินอาย รักใคร่ ใฝ่ฝัน หรือแม้กระทั่งดื้อดึง อ่อนไหว เปราะบางไว้จนหมดสิ้น แต่ละด้านล้วนเป็นนาง แล้วก็มีแต่นางเท่านั้น
นางมิได้รู้เป็นวันแรกว่าเขาเป็นคนพิเศษหนึ่งเดียวบนปฐพี หากวันนี้ได้เห็น นางถึงประจักษ์ในบัดดลว่าเขายังเป็นคนที่ตนต้องการครอบครองเพียงคนเดียวในใต้หล้า ไม่ใช่เคียงคู่กันเท่านั้น แต่เป็นครอบครอง
เขามิได้รู้ตั้งแต่ต้นว่านางคือสิ่งที่เขาหมายมาดปรารถนา แต่เมื่อเขาประจักษ์ถึงจุดนี้ก็เฝ้ารอวันนี้มาวันแล้ววันเล่า วันที่เขาได้เป็นเจ้าของนางโดยสิทธิ์ขาด คราใดที่คิดถึงจุดนี้ การควบคุมตัวเองและความเยือกเย็นก็เหมือนจะถูกไฟเผาผลาญ
4. การดำเนินเรื่องชวนให้น่าติดตาม
มีการปูพื้นเรื่องราวจากจุดหนึ่งเพื่อเชื่อมโยมไปอีกจุดหนึ่ง ค่อยๆ เพิ่มความซับซ้อนของเรื่องได้อย่างน่าติดตาม ทั้งเรื่องภูมิหลังครอบครัวของมารดา, การกระทำของพี่หลูจื้อ, การหายตัวไปของพี่หลูจวิ้น, ความรักของอี๋อวี้กับหลี่ไท่ที่นับวันยิ่งเติบโตเคียงข้างกัน, ความริษยาของจ่างซุนซี และอีกหลายคน, คนในครอบครัวหลูซื่อถูกกลั่นแกล้ง หาผลประโยนช์, การใช้ปัญญา การชิงไหวชิงพริบของอี๋อวี้ หลูจื้อ หลูซื่อ หลี่ไท่ ฯ จึงบอกคำเดียวว่า ‘นวลหยกงาม’ จะทำให้นักอ่านเมื่อเริ่มอ่านแล้วไม่อาจไม่คิดถึงเรื่องนี้จนอยากอ่านให้จบได้เลยค่ะ
5. รายละเอียดของเรื่องมีความพิเศษ
เหตุการณ์ในเรื่อง นวลหยกงาม ถูกเรียงร้อยไว้อย่างพิเศษ ทำให้คนอ่านรู้สึกอินไปกับเหล่าตัวละคร ตัวอย่างเช่น ฉากที่ที่อี๋อวี้ได้รับความรัก การปกป้องจากมารดา และพี่ชาย
“พวกเจ้าทำอะไรกันอยู่หรือ”
อี๋อวี้ได้ยินเสียงก็เงยหน้ามองไปทางหน้าประตู เห็นเด็กหญิงมัดจุกชี้ฟ้าคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น นางมองปราดเดียวก็จดจำได้ว่าเป็นเด็กหญิงที่หวังซื่อสตรีวัยกลางคนช่างนินทาที่มายืมไม้คานหาบในวันนั้นพามา เด็กหญิงอายุหกขวบนางนี้มีนามว่า ‘หลี่เสี่ยวเหมย’
“ข้าปักผ้า พี่ใหญ่กำลังอ่านตำรา” อี๋อวี้เห็นสายตาของหลี่เสี่ยวเหมยจับจ้องอยู่ที่หลูจื้อข้างกายอย่างชัดเจน แต่เขาหาได้แยแสนางแม้สักนิด เลยหลุดปากตอบออกไป
วันนี้แม่นางน้อยหลี่เสี่ยวเหมยเบื่อหน่ายเหลือแสน บิดามารดาไปลงนากันหมด ทิ้งนางอยู่เฝ้าเรือนคนเดียว นางนึกขึ้นได้ว่าไม่พบหน้าพี่ชายสกุลหลูมานานมากก็อยากจะมาเยี่ยมสักหน่อย ไม่คิดว่าน้องสาวโง่งมของเขาคนนั้นจะอยู่ด้วย แม้ได้ยินว่าตอนนี้อีกฝ่ายไม่โง่แล้ว แต่ภาพที่น้องสาวคนเล็กสกุลหลูมีน้ำมูกน้ำลายเปรอะเต็มหน้าในกาลก่อนยังติดตรึงอยู่ในหัว คราวก่อนมายืมของที่เรือนสกุลหลูพร้อมกับมารดาก็เห็นน้องสาวโง่งมคนนี้ที่ดูสะอาดสะอ้านขึ้น ทว่ามันยากมากจะเปลี่ยนแปลงความคิดในใจนางที่มีต่อคนปัญญาอ่อนผู้นี้ได้
เพราะหลูจื้อไม่สนใจไยดีนาง หลี่เสี่ยวเหมยไม่รู้ว่าเหตุใดถึงน้อยอกน้อยใจอยู่บ้าง ก็พุ่งเป้าไปเล่นงานอี๋อวี้ที่พูดตอบตนเอง
“เจ้าเป็นคนปัญญาอ่อนมิใช่หรือ เหตุใดถึงได้พูดเป็นล่ะ”
อี๋อวี้ลอบยุ่งยากในใจ นางเห็นว่าเด็กหญิงผู้นี้ไม่เพียงหน้าตาธรรมดาๆ ยังพูดจาน่าตีเหลือเกิน กระนั้นนางไม่อาจถือสาหาความกับเด็กไม่ประสีประสาที่เพิ่งย่างหกเจ็บขวบคนหนึ่ง จึงก้มหน้าปักผ้าต่อโดยไม่พูดตอบอะไรอีก แต่นางไม่ใส่ใจ ใช่ว่าผู้อื่นจะไม่ใส่ใจ ทันทีที่หลูจื้อซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างตั้งสมาธิจดจ่อกับหนังสือได้ยินแม่นางน้อยพูดคำว่า ‘ปัญญาอ่อน’ ก็เงยหน้าขึ้นจากหนังสือ พอมองเห็นว่าเป็นเด็กหญิงในหมู่บ้านที่ชอบวิ่งตามหลังหลูจวิ้นต้อยๆ คนนั้น หัวคิ้วของเขาย่นเข้าหากันอย่างห้ามไม่อยู่
แม้ว่าเป็น ‘คนคุ้นเคยกัน’ แต่หลูจื้อยังไม่คิดจะละเว้นคนที่เอ่ยเรื่องสะเทือนใจของตนขึ้นมา ด้วยเหตุนี้เขาหรี่ตาพลางเอ่ยถามเสียงเรียบ “เจ้ารู้ว่าอะไรคือปัญญาอ่อนหรือไม่”
หลี่เสี่ยวเหมยอยากตอบคำถามของเขามาก นางเองก็รู้ว่าปัญญาอ่อนมิใช่ถ้อยคำที่ดีอะไร แต่กลับบอกเหตุผลไม่ออก ได้แต่ส่ายหน้าพร้อมกล่าวตอบ “ข้าไม่รู้ อะไรคือปัญญาอ่อนหรือ”
หลูจื้อได้ยินคำพูดของนางแล้วก้มหน้ามองหนังสือดังเก่า มีเพียงเสียงตอบดังลอดจากปาก “คนที่ไม่รู้ว่าปัญญาอ่อนคืออะไรก็คือคนปัญญาอ่อน”
อี๋อวี้นั่งเหงื่อแตกพลั่ก พี่ชายคนโตที่ไม่ชมชอบพูดจากับคนแปลกหน้าของนางผู้นี้ ทันทีที่ปริปากก็นับเป็นอาวุธลับเฉพาะตัวได้เลยทีเดียว อายุเพียงเท่านี้สามารถสังหารคนด้วยลมปาก ทำร้ายคนด้วยมือที่มองไม่เห็นแล้ว
แต่เห็นได้ชัดว่าสติปัญญาของแม่นางน้อยหลี่เสี่ยวเหมยยังไม่ถึงขั้น หลูจื้อพูดขนาดนี้แล้ว นางยังยืนเบิ่งตาโตทำหน้างงงวย ผ่านไปครู่ใหญ่หลูจื้อไม่ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวก็เงยหน้ามองนางอีกแวบหนึ่ง ใบหน้าเขามีรอยยุ่งยากใจผุดขึ้นวูบหนึ่ง คล้ายสะท้อนใจในความด้อยปัญญาของสหายน้อยหลี่เสี่ยวเหมย เขาพึมพำถ้อยคำหนึ่งเบาๆ กลับทำให้เด็กหญิงร้องไห้โฮวิ่งกลับไป
“กระทั่งคำพูดของข้ายังฟังไม่รู้เรื่อง มิใช่คนปัญญาอ่อนแล้วเป็นอะไร”
อี๋อวี้มองตามหลี่เสี่ยวเหมยที่วิ่งร้องไห้กลับไป แล้วค่อยมองหลูจื้อที่ก้มหน้าจดจ่อสมาธิกับหนังสืออีกที อยู่ดีๆ ก็รู้สึกถึงความอบอุ่นไหลรินผ่านกลางอกระลอกหนึ่ง นางรู้ว่าเขาทำเช่นนี้เพื่อระบายความโกรธแทนตน แต่นางไม่อยากให้เขามีปมในใจจากเรื่องที่นางปัญญาอ่อนในอดีตอีก จะอย่างไรแม่นางน้อยคนนั้นด่าว่านางเป็นคนปัญญาอ่อนโดยไร้เจตนา
“พี่ใหญ่ไม่โกรธๆ” เสียงออดอ้อนอ่อนหวาน เมื่อแสร้งทำตัวเป็นเด็กจนเคยชิน นางก็ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจอีก
“ข้าไม่ได้โกรธ”
ไม่ได้โกรธแล้วขมวดคิ้วแน่นขนาดนั้นทำไม
“เสี่ยวอวี้ไม่ใช่คนปัญญาอ่อน เสี่ยวอวี้จำตัวอักษรได้ ปักผ้าได้ ฉลาดอย่างมาก”
“อื้อ ข้ารู้” หลูจื้อเบนสายตาจากหนังสือมาที่เด็กหญิงตัวน้อยด้านข้าง เห็นดวงตาคู่โตทอประกายแวววาว ยังมีปากที่ยื่นน้อยๆ ความไม่พึงใจเมื่อครู่ก็หายวับไปทันใด
6. ภาษานุ่มนวล เข้าใจง่าย และน่าติดตาม
สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างซึ่งทำให้เรื่องราวน่าติดตามคือภาษาที่นุ่มนวล เข้าใจง่าย คล้ายตัวละครเหล่านั้นมีชีวิตอยู่จริง อาทิ บทหวานก็ทำเอาคนอ่านเขินอายไปตามๆ กัน หรือหากเป็นบทวางแผนชิงไหวชิงพริบก็ทำเอาคนอ่านลุ้นตัวโก่งให้ฝ่ายที่ตนเชียร์อยู่ชนะ ฯลฯ
7. ได้รับเกร็ดความรู้ตลอดการอ่าน
ผู้เขียนสอดแทรกความรู้ไว้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเรื่องราวในหนังสือยังให้ข้อคิดทำให้ทุกเล่มที่อ่านจะได้รับเกร็ดความรู้ทางวัฒนธรรม ความหมายของคำศัพท์ที่นำมาใช้ ทำให้นอกจากจะได้รับความสนุกเพลิดเพลินแล้วจะได้รับความรู้ ข้อคิดจากนิยายเรื่องนี้ด้วยค่ะ
ตัวอย่างเกร็ดความรู้
‘ชะตาแปดอักษร’ เป็นศาสตร์การทำนายชะตาของจีน เรียกอีกอย่างว่า ‘สีแถว’ โดยการนำวันเดือนปีเกิดตามตารางแผนภูมิสวรรค์ทั้งสิบที่เรียกว่า ‘กิ่งฟ้า’ และจักรราศีทั้งสิบสองของจีนเรียกว่า ‘ก้านดิน’ มาจับคู่นทำนายชีวิตในด้านต่างๆ แต่โดยมากนิยมใช้ผูกดวงชะตาของคู่ชายหญิง
ทั้ง 7 ข้อที่แจ่มใสนำมาบอกเล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น หากลองอ่านด้วยตัวเองแล้วละก็จะพบกับความประทับใจในแบบฉบับของตัวเอง สามารถนำความประทับใจหรือสิ่งที่ได้รับมาพิมพ์เพิ่มเติมลงในคอมเมนต์ด้านล่างเพื่อแบ่งปันกับเพื่อนนักอ่านได้เลยนะคะ
.
นวลหยกงาม (15 เล่มจบ)
ซานเยวี่ยกั่ว เขียน Honey Toast แปล
ทดลองอ่าน คลิกที่นี่
สั่งซื้อนิยาย คลิกที่นี่
หรือซื้อที่ร้าน Jamclub และร้านหนังสือทั่วประเทศ
Comments
comments
No tags for this post.