X
    Categories: บทสัมภาษณ์

ครั้งแรกกับการเปิดใจถึงผลงานใหม่ของ ‘ราตรีนิมิต’ เจ้าของผลงาน ณ ภวังค์สุดฝั่งฟ้า ในม่านกาล บุพเพรักร้อยลิขิต และนิรันดร์บรรจบ

     ต้องมีสักครั้งที่เราจะตกอยู่ในช่วงเวลาเปลี่ยวเหงา สับสน เดียวดายหรือหลงทาง บางครั้งสิ่งที่ยากไม่ใช่การหาทางออก แต่เป็นการอยู่กับห้วงความรู้สึกเหล่านั้นค่ะ ราตรีนิมิตเขียน ณ ภวังค์สุดฝั่งฟ้า ขึ้นด้วยหวังว่าเรื่องราวของมาลารินกับกวินจะเคียงข้างและปลอบโยนนักอ่านในช่วงเวลาที่ยากลำบากค่ะ 

ที่มาของนิยายรักเรื่อง ‘ณ ภวังค์สุดฝั่งฟ้า’

     ทดลองอ่านคลิก l อ่านบทความคลิก 

     ณ ภวังค์สุดฝั่งฟ้า ผลงานของ ราตรีนิมิต นิยายรักโรแมนติก-ดราม่า เรื่องราวของหนุ่มสาวคู่หนึ่งเขาและเธอพบรักกันที่เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย หัวใจของชายหนุ่มมีร่องรอยแห่งความเจ็บปวดทว่าหญิงสาวได้เข้ามาเติมเต็มเกิดเป็นความรักลึกล้ำจนยากที่จะแยกจากกัน กระทั่งความรักของเขาและเธอสุกงอม จู่ๆ เกิดเรื่องราวไม่คาดฝันจากความสุขแปรเปลี่ยนเป็นความทุกข์ จากรักที่หวานซึ้งสู่ความแค้นที่ไม่สามารถลืมเลือนแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนับสิบปี เขายังเฝ้ารอว่าวันหนึ่งจะได้พบเจอเธออีกครั้ง และวันนั้นก็มาถึง

   ราตรีนิมิต มีผลงานการันตีฝีมือการเขียนหลายเรื่อง อาทิ ในม่านกาล บุพเพรักร้อยลิขิต และนิรันดร์บรรจบ สำหรับผลงานเรื่องใหม่ ‘ณ ภวังค์สุดฝั่งฟ้า’ ความสนุกและน่าติดตามไม่แพ้เรื่องที่ออกมาก่อน ที่มารวมถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้เขียนนิยายเรื่องนี้คืออะไร มุมมองของนักเขียนที่มีต่อเรื่องนี้เป็นอย่างไร มาติดตามกันค่ะ

แนะนำตัวกับนักอ่านหน่อยค่า
สวัสดีค่ะ ราตรีนิมิตค่ะ

ผลงานที่ผ่านมามีเรื่องอะไรบ้างคะ
สำหรับผลงานที่เคยร่วมงานกับ LOVE มีทั้งหมดสามเรื่องค่ะ คือ ในม่านกาล บุพเพรักร้อยลิขิต และนิรันดร์บรรจบ

ทำไมถึงตั้งชื่อเรื่องว่า ‘ณ ภวังค์สุดฝั่งฟ้า’ มีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง
เพราะในเรื่องได้บอกเล่าถึงความทรงจำซึ่งเคยเกิดขึ้น ณ สถานที่แสนไกลของตัวละคร ซึ่งส่งผลเชื่อมโยงมาสู่ชีวิตและความสัมพันธ์ของพวกเขาในปัจจุบันค่ะ

ความยากง่ายในการเขียน ‘ณ ภวังค์สุดฝั่งฟ้า’ ว่ามีอุปสรรคอะไรเกิดขึ้นไหมระหว่างเขียนและแก้ปัญหาเหล่านั้นอย่างไร
สิ่งที่ยากคือการเขียนตัวละครตัวเดิมในช่วงวัยที่แตกต่างกันค่ะ เพราะการใช้ชีวิตทำให้คนเราต่างเติบโตขึ้นในทุกขณะ ความคิดและทัศนคติเองก็ย่อมเปลี่ยนแปลงไปไม่มากก็น้อย สำหรับตัวละครเองก็เช่นกัน โลกของพวกเขาเหล่านั้นย่อมต้องมีช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านเป็นธรรมดา ในจุดนี้ผู้เขียนก็เลยได้ใช้โอกาสทบทวนตัวเองในปัจจุบันกับอดีตไปด้วยค่ะ แล้วผลลัพธ์ก็ โอ้... ฉันคนนี้กับฉันคนนั้นแทบจะเป็นคนแปลกหน้าของกันและกันเลยนี่นา นั่นสินะ สำมะหาอะไรกับตัวละครกันล่ะ

‘ณ ภวังค์สุดฝั่งฟ้า’ ได้แรงบันดาลใจมาจากอะไร
พล็อตนี้ผุดขึ้นครั้งแรกที่เมลเบิร์นซึ่งเป็นเซ็ทติ้งในเรื่องด้วยค่ะ ตอนเห็นฝนตกแล้วเผลอคิดไปว่าจะเป็นยังไงถ้าสิ่งที่กำลังร่วงลงมาพร้อมหยดน้ำคือความทรงจำของเรา คนที่หลบในร่มคือคนที่เลือกจะลืมเลือน คนที่ตัวเปียกคือคนที่กล้านึกย้อน แล้วก็มีคนที่ไม่อยากเปียกแต่จำต้องก้าวเดินต่อไปด้วย และยังได้รับแรงบันดาลใจเกี่ยวกับการให้อภัยตัวเองจากสุนทรพจน์บนเวที UN ของคุณคิมนัมจุนวง BTS ในปี 2018 ที่กล่าวถึงการรักตัวเองในอย่างที่เป็น เคยเป็น และมุ่งหวังว่าจะเป็นด้วยค่ะ

จุดเด่นหรือเสน่ห์ของ ‘ณ ภวังค์สุดฝั่งฟ้า’ คิดว่าอยู่ตรงไหนคะ
ณ ภวังค์สุดฝั่งฟ้าจะโอบกอดคุณผู้อ่านด้วยบรรยากาศของเมืองเมลเบิร์น สายฝน และกลิ่นกาแฟ ขณะเดินทางกลับไปยังความทรงจำต่างๆ ของตัวละครค่ะ

ส่วนตัวแล้วนักเขียนชอบฉาก หรือโมเมนต์ไหนใน ‘ณ ภวังค์สุดฝั่งฟ้า’ มากที่สุด เพราะอะไร
จะเรียกว่าฉากคลั่งรักได้มั้ยนะ แต่ชอบตอนที่พระ-นางกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งรักครั้งแรกค่ะ การที่คนเดียวดายสองคนได้ค้นพบและจับคว้ากันและกันไว้เหมือนทั้งโลกเหลือกันอยู่แค่นั้น ตอนที่เขียนเองก็ได้แต่พึมพำกับตัวเองว่า โห ความรักมันยิ่งใหญ่ขนาดนี้นี่เอง

ขอสัก 1 เหตุผลว่าทำไมถึงต้องอ่าน ‘ณ ภวังค์สุดฝั่งฟ้า
ต้องมีสักครั้งที่เราจะตกอยู่ในช่วงเวลาเปลี่ยวเหงา สับสน เดียวดายหรือหลงทาง บางครั้งสิ่งที่ยากไม่ใช่การหาทางออก แต่เป็นการอยู่กับห้วงความรู้สึกเหล่านั้นค่ะ ราตรีนิมิตเขียน ณ ภวังค์สุดฝั่งฟ้า ขึ้นด้วยหวังว่าเรื่องราวของมาลารินกับกวินจะเคียงข้างและปลอบโยนนักอ่านในช่วงเวลาที่ยากลำบากค่ะ

สุดท้ายนี้อยากให้คุณ ‘ราตรีนิมิต’ ฝากถึงผลงานเล่มล่าสุด รวมถึงผลงานในอนาคตหน่อยค่ะ
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ให้การสนับสนุนกันในผลงานที่ผ่านมานะคะ ซาบซึ้งใจและรู้สึกขอบคุณอยู่เสมอเลยค่ะ และอยากขอฝากมอบความรักให้กับ ณ ภวังค์สุดฝั่งฟ้า ผลงานเรื่องใหม่ของราตรีนิมิต รวมไปถึงผลงานเรื่องต่อไปด้วยนะคะ ด้วยรัก จนกว่าจะพบกันใหม่ค่ะ ♡

   อ่านจนจบแล้วเป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อนๆ สำหรับเรื่อง ‘ณ ภวังค์สุดฝั่งฟ้า’ สามารถทดลองอ่านได้แล้วนะคะ (คลิกที่นี่) และเป็นเจ้าของนิยายเรื่องนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป สามารถช้อปผ่านหลากหลายช่องทาง อาทิ

• ช้อปออนไลน์กับ Jamsai Store : คลิกที่นี่
• ช้อปที่ Jamclub (ซอยแซมมี่ อยู่ในซอยด้านข้างเมเจอร์ สาขาปิ่นเกล้า) หรือช้อปออนไลน์กับ Jamclub คลิกที่นี่
• ช้อปที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ

Comments

comments

Jamsai: