ศาลคนกระดาษ ผลงานของ ‘สืออู่’ นิยายแปลไต้หวัน แนวแฟนตาซี มีเรื่องของวิญญาณมาชวนให้ลุ้น ที่มีทั้งความสนุก ความฟิน ครบรส จนวางนิยายไม่ลง จากแบรนด์ everY เกริ่นมาขนาดนี้ นักอ่านคนไหนยังไม่เชื่อ วันนี้เรามีบทสัมภาษณ์จากคุณ ‘ธันวาตุลาคม’ นักแปลจากนิยายเรื่อง ศาลคนกระดาษ ที่มาบอกเล่าความรู้สึกที่ได้แปล พร้อมการันตี ความฟิน ความสนุก ในนิยายเรื่องนี้ ใครพร้อมแล้วตามมาได้เลย
ธันวาตุลาคม หญิงสาวอายุ 20 ปลายๆ เรียนจบจากมหาวิทยาลัยย่านท่าพระจันทร์ หลงใหลในการอ่านและหลงรักนิยายวายตั้งแต่เริ่มเป็นวัยรุ่น
จุดเริ่มต้นที่ได้มาร่วมงานกับเอเวอร์วาย
ส่วนตัวเป็นแฟนของเอเวอร์วายอยู่แล้วค่ะ เคยคิดว่าถ้ามีโอกาสก็อยากแปลนิยายจีนสักครั้ง ช่วงนั้นเราออกจากงานประจำเพื่อเตรียมตัวไปเรียนต่อเลยมีเวลาว่างมากๆ ประจวบกับที่โปรเจ็กต์นี้ก็กำลังหานักแปลอยู่พอดี เราเลยได้มาร่วมงานกับเอเวอร์วายค่ะ
รู้สึกอย่างไรกับผลงานการแปลล่าสุดอย่าง ‘ศาลคนกระดาษ’
รู้สึกภูมิใจในตัวเองมากค่ะ ฮ่าๆๆ ผลงานเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกในชีวิตของเรา ซึ่งเราเคยใฝ่ฝันตั้งแต่เด็กๆ ว่าอยากแปลหนังสือ มันรู้สึกตื้นตันที่ความฝันเล็กๆ เป็นจริง ได้ก้าวเข้ามาสู่โลกนักแปลเต็มตัว
สำหรับเรา ความรัก สายสัมพันธ์และความเสียสละของครอบครัวคือเสน่ห์หลักของเรื่องนี้เลยค่ะ นักอ่านทุกท่านจะเห็นว่าหลายสิ่งที่ตัวละครหลักกระทำไปนั้นก็เพื่อคนที่ตนเองรัก เพื่อปกป้อง หรือแม้กระทั่งช่วงชิงให้ได้มาซึ่งความรักและความเป็นหนึ่งในครอบครัวอย่างที่เสี่ยวซานเอ๋อร์ได้ทำลงไป ความรักความอบอุ่นของครอบครัวไม่ได้จำกัดเฉพาะคนในโลกมนุษย์เพียงเท่านั้น หากแต่วิญญาณก็ต้องการไม่ต่างกัน เรามองว่าจุดนี้สวยงามมากค่ะ
พูดถึงความยากง่ายในการแปล ‘ศาลคนกระดาษ’
การแปลเรื่อง ‘ศาลคนกระดาษ’ ค่อนข้างท้าทายเรามาก โดยเฉพาะรายละเอียดเกี่ยวกับศาลและอารามหลวง รวมไปถึงฉากการต่อสู้หลบหนีในตอนท้ายด้วยค่ะ เล่นเอาอดหลับอดนอนกันเลยทีเดียว
เรื่องนี้สอดแทรกความเชื่อดั้งเดิมหลายอย่างเลยนะคะ อย่างการเผากระดาษเป็นข้าวของต่างๆให้กับวิญญาณในโลกหลังความตาย ตอนเด็กๆ เราเข้าใจว่าเผาแค่กระดาษ เป็นเงินในภพหน้า แต่จริงๆ ของใช้เช่นกระเป๋า โทรศัพท์ก็ต้องทำเป็นกระดาษก่อนแล้วจึงเผา วิญญาณถึงค่อยได้รับ ความเชื่อเรื่องการเลี้ยงผีเพื่อความมั่งคั่ง เมื่อเลี้ยงแล้วย่อมต้องมีสิ่งทดแทน ยิ่งร่ำรวยประสบความสำเร็จมากเท่าไร สิ่งตอบแทนก็ยิ่งสูงค่ามากเท่านั้น ในที่สุดก็ต้องมอบชีวิตของตนเอง และยังมีความเชื่อเรื่องเส้นวาสนาที่ผันเปลี่ยนได้ตลอดเวลา รวมไปถึงเครื่องรางของคลังต่างๆ คิดว่าพออ่านเรื่องนี้จบ นักอ่านทุกท่านน่าจะเข้าใจประเพณี ความเชื่อลี้ลับของทางจีนมากขึ้นทีเดียวค่ะ
ใน ‘ศาลคนกระดาษ’ นักอ่านจะได้เจอกับอะไรบ้าง
ความเย็นชาของสือหมิง ฮ่าๆ ล้อเล่นค่ะ นักอ่านจะได้พบกับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติต่างๆ ความน่ากลัวแสนเอาแต่ใจของน้องสาวกู้ไหวเจิน ผีเด็กที่ดูดุร้ายปกปิดความอ่อนไหวของตัวเอง ความสัมพันธ์น่ารักๆ ของครอบครัวอารามหลวง หรือมิตรภาพของเพื่อนเก่าที่ห่างหายจากกันไปนาน แต่ก็ยังปรับจูนกันติดเมื่อกลับมาเจอกันอีกครั้ง สุดท้ายนักอ่านจะได้ร่วมเป็นผู้สังเกตการณ์ความสัมพันธ์ของสือหมิงและกู้ไหวเจินที่ค่อยๆ พัฒนาเป็นลำดับ พระเอกของเราจะค่อยๆ เผยด้านที่อ่อนโยนออกมาทีละน้อยนะคะ เอาใจช่วยกู้ไหวเจินกันเถอะค่ะ !
ชอบฉากไหนใน ‘ศาลคนกระดาษ’
เราขอยกให้ฉากที่กู้ไหวเจินกับสือหมิงตกลงเป็นเพื่อนกันเป็นที่หนึ่งในใจเลยค่ะ เราคิดว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นของความอ่อนโยนในจิตใจสือหมิง คนแข็งๆ ทื่อๆ ที่แทบไม่มีเพื่อนเลยในชีวิต ได้มาเจอกับคนเข้าสังคมเก่งอย่างกู้ไหวเจิน ส่วนไหวเจินเองก็ได้เจอกับคนที่ทำให้รู้สึกอบอุ่น ไม่หวังผลประโยชน์อย่างสือหมิง เหมือนได้เจอจิ๊กซอว์เติมเต็มส่วนที่ขาดให้กัน มันเป็นอะไรที่ประทับใจเราค่ะ
ชวนนักอ่านมาอ่าน ‘ศาลคนกระดาษ’
อยากฝากผลงานเรื่องนี้ไว้กับทุกคนนะคะ ไม่ได้มีแค่ความรักคู่พระนาย แต่ยังมีความผูกพัน มิตรภาพ ความแค้นและการให้อภัยอยู่ในเรื่องนี้ด้วยค่ะ เรียกว่าครบรสทุกความรู้สึกกันเลย หวังว่าจะสนุก ถูกใจทุกคนนะคะ! /ยิ้มกว้าง
นักแปลอย่าง ‘ธันวาตุลาคม’ มาการันตีความสนุกด้วยตัวเองขนาดนี้ ใครยังไม่มีนิยายเรื่อง ศาลคนกระดาษ มาไว้ในครอบครอง สามารถหาได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ Jamclub
สั่งซื้อนิยายเรื่อง ศาลคนกระดาษ ผ่านออนไลน์ได้ที่
JamShop (คลิก)
Comments
comments