‘ความรักเยียวยาทุกสิ่ง’ เพื่อนๆ หลายคนคงเคยได้ยินประโยคนี้กันมาบ้างใช่ไหมคะ ไม่ว่าเราจะกำลังรู้สึกทุกข์ตรมกับเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจ ต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ ที่ยังไม่อาจแก้ไข แม้ ‘ความรัก’ อาจจะไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาได้โดยตรง แต่ ‘ความรัก’ จะเป็นยาที่ดีที่สุดที่จะช่วยเยียวยาให้จิตใจเรามีพลังขึ้นมา พร้อมที่จะต่อสู้กับความทุกข์ต่างๆ หรืออยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นได้ เพราะฉะนั้น ‘ความรัก’ นับได้ว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ และการได้รู้สึกว่า ‘มีความรักที่ดีอยู่เคียงข้างถือว่าเป็นเรื่องโชคดีที่สุดเรื่องหนึ่งก็ว่าได้’
ช่วงต้นปี 2021 แจ่มใสได้เปิดตัวนิยายรักร่วมสมัย แปลจีน ภายใต้แบรนด์ With Love ด้วยหวังว่าจะช่วยเติมเต็มความหวานและความอบอุ่นในหัวใจของเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบนิยายรักโรแมนติกให้มากยิ่งขึ้นผ่านนิยายรัก 3 เรื่อง 3 รสชาติอย่าง ให้เสียงของคุณโอบกอดผม, หมอของฉันเหมือนจะชอบฉันนะ และ เชฟคนนี้มีรักมาเสิร์ฟ! ซึ่งตัวละครหลักของนิยายรักทั้ง 3 เรื่องนี้ต่างก็มีปมปัญหาซุกซ่อนเอาไว้ในจิตใจ และต้องอยู่กับความเจ็บปวดหรือปัญหาเหล่านั้น จนกระทั่งเขาและเธอได้พบใครสักคนที่มาช่วยเยียวยาและเติมเต็มจนเกิดเป็นความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ
ครั้งนี้แจ่มจะขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักเรื่องราวของ 3 คู่รักผ่านนิยายทั้ง 3 เรื่องกันค่ะ ว่าเรื่องราวของพวกเขาจะอบอุ่นหัวใจมากแค่ไหน
ให้เสียงของคุณโอบกอดผม (สองเล่มจบ) นิยายรักร่วมสมัย แปลจีน
ผลงานของ เจี่ยนเสี่ยวซั่น แปลโดย ลู่เผิ่งฮวา
‘เหรียญมีสองด้าน’ น่าจะเป็นประโยคที่เข้ากับความพิเศษของ ‘หลินเซิน’ จิตรกรสาวผู้ค้นพบว่าเสียงของตัวเองมีความพิเศษและแตกต่างจากคนทั่วไป ในวัยเด็กหลินเซินมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งชื่อถิงถิง เธอได้แนะนำให้ถิงถิงที่อยากเจอพ่อเดินทางไปที่ทำงานของพ่อ ระหว่างการเดินทางนั้นเองถิงถิงถูกลักพาตัวไป แต่โชคดีที่ตำรวจตามจนพบเพื่อนของเธอและพากลับมาบ้านได้ แต่นั่นทำให้ถิงถิงถูกพ่อและแม่ของเธอต่อว่าอย่างหนัก ความกดดันทำให้เด็กน้อยพูดออกไปว่า หลินเซินเป็นคนสะกดจิตให้เธอเดินทางไปหาพ่อคนเดียว และนั่นทำให้ครอบครัวของถิงถิงรวมถึงเพื่อนบ้านตราหน้าว่าหลินเซินเป็นสัตว์ประหลาด จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นส่งผลให้หลินเซินกลายเป็นคนเก็บตัว พูดน้อยลง พ่อและแม่ของเธอเป็นห่วงมาก พวกเขาจึงพาหลินเซินไปพบหมอ ก่อนจะตัดสินใจพาเธอย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่น
อันที่จริงแล้วก็ไม่ใช่ว่าทุกคนเชื่อในคำพูดของถิงถิงเสียทีเดียว แต่เพราะทุกคนรับรู้ได้ว่าเสียงของหลินเซินมีความประหลาดบางอย่างอยู่จริงๆ เสียงของเธอสามารถทำให้ผู้คนที่ได้ยินรู้สึกสบายใจไปจนถึงทำให้คล้อยตามในสิ่งที่เด็กสาวพูดซึ่งนั่นทำให้ผู้คนอดหวั่นใจในความพิเศษนี้ของหลินเซินไม่ได้
วันเวลาผ่านไปหลายปี ‘หลินเซิน’ พบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคกลัวการเข้าสังคม ในวันที่เธอตัดสินใจจะจบชีวิตของตัวเอง เธอกลับได้พบ ‘เมิ่งสืออวี่’ นักศึกษาคณะจิตวิทยาที่ได้เข้ามาช่วยเหลือเธอเอาไว้ ทั้งสองจึงกลายเป็นเพื่อนสนิทกันและภายหลังเมิ่งสืออวี่ก็ได้กลายมาเป็นจิตแพทย์ประจำตัวของหลินเซินด้วย
‘กู้ชิงไหว’ มีอาการนอนไม่หลับอย่างรุนแรง จนต้องเข้ารับการรักษากับจิตแพทย์ แต่รักษากับจิตแพทย์มาหลายคนก็ยังไม่มีใครสามารถรักษาเขาได้ กู้ชิงไหวจึงกลายเป็นเคสที่รักษายากที่สุดในวงการจิตแพทย์ จนกระทั่งมาเจอกับเมิ่งสืออวี่ที่แนะนำเขาว่าเขาควรหาวิธีทำให้ตัวเองเหนื่อยเพื่อลดพลังงานในร่างกายลงจะได้เหนื่อยจนหลับไป กู้ชิงไหวจึงตัดสินใจเริ่มทำอาชีพ ‘ให้เช่าตัวเอง’
อาการนอนไม่หลับของกู้ชิงไหวนั้นรุนแรงมาก จนกระทั่งในบ่ายวันหนึ่งที่โบสถ์ประจำเมืองที่ ‘กู้ชิงไหว’ ได้ยินเสียงสวดมนต์ของหญิงสาวคนหนึ่ง เสียงนั้นชวนให้รู้สึกสงบอย่างมากจนทำให้เขาเผลอหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมาชายหนุ่มก็พบว่าหญิงสาวเจ้าของเสียงที่สามารถทำให้เขาหลับใหลได้นั้นหายไปแล้ว… และเขาหวังว่าจะได้พบเจ้าของเสียงนี้อีกสักครั้ง
‘หลินเซิน’ ได้พบ ‘กู้ชิงไหว’ ด้วยความบังเอิญอยู่หลายครั้ง และส่วนใหญ่มักจะพบเขาอยู่กับหญิงสาวมากหน้าหลายตา นั่นทำให้เธอรู้สึกไม่ดีกับผู้ชายคนนี้สักเท่าไหร่นัก จนกระทั่งเมิ่งสืออวี่แนะนำให้เธอลองในแอพฯ หาคู่เพื่อรักษาอาการกลัวการเข้าสังคม หลินเซินจึงมีโอกาสได้คุยกับกู้ชิงไหวผ่านแอพฯ นั้น ภารกิจมากมายที่ต้องทำผ่านแอพฯ ดังกล่าวทำให้กู้ชิงไหวมั่นใจว่าหญิงสาวที่เขาคุยด้วยนี้คือเจ้าของเสียงสวดมนต์ในโบสถ์วันนั้น เขาจึงพยายามหาโอกาสทำความรู้จักและพูดคุยกับเธอโดยตรง
ความผูกพัน
‘กู้ชิงไหว’ และ ‘หลินเซิน’ ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ด้วยกันมากมาย อาทิ ครั้งหนึ่งหลินเซินถูกเชิญไปร่วมงานที่มหาวิทยาลัยในฐานะศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จ หญิงสาวถูกอาจารย์ท่านหนึ่งพูดถึงอาการป่วยจนทำให้อับอาย และในวันนั้นเองกู้ชิงไหวก็ได้เข้ามาช่วยเหลือเธอเอาไว้ หรือเหตุการณ์ที่หลินเซินต้องผจญกับนักข่าวเพียงลำพัง นักข่าวพยายามจะทำข่าวของเธอกับ ‘ซ่งเซียวหาน’ เจ้าของโรงแรมที่มีชื่อเสียง กู้ไหวชิงก็ได้เข้ามาช่วยเหลือเธอไว้อีกครั้ง และยังมีอีกหลายเหตุการณ์สำคัญที่เขาคอยอยู่เคียงข้างและเต็มใจช่วยเหลือเธอจนทำให้เธอหวั่นไหว ทว่าหลินเซินกลับไม่แน่ใจว่าเขาจริงใจกับเธอจริงๆ หรือไม่ เพราะเธออดนึกถึงหญิงสาวอีกหลายคนที่อยู่กับเขาไม่ได้
ความลับที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้
อาการนอนไม่หลับของกู้ชิงไหวเริ่มดีขึ้นเมื่อเขาได้ใช้เวลาร่วมกับหลินเซิน ทว่าก็ยังรักษาไม่หายขาด นั่นเป็นเพราะเขาเก็บซ่อนเรื่องราวในอดีตเอาไว้เป็นอย่างดี แม้แต่จิตแพทย์ก็ไม่อาจล่วงรู้ความลับนี้ของเขาได้ และแม้ว่าความสัมพันธ์ของเขากับหลินเซินจะแน่นแฟ้นกันมากขึ้น แต่เขาก็ยังไม่อาจเปิดเผยปมปัญหาในจิตใจของเขาให้เธอรับรู้ได้… หากเป็นเช่นนี้แล้วเขาและเธอจะก้าวผ่านเรื่องที่ถูกฝังอยู่ในความทรงจำนี้ได้อย่างไร และความรักของหลินเซินจะเยียวยาหัวใจของเขาได้หรือไม่ ติดตามเรื่องราวความรักของทั้งคู่ได้ในนิยายเรื่อง ให้เสียงของคุณโอบกอดผม
...
หมอของฉันเหมือนจะชอบฉันนะ (เล่มเดียวจบ) นิยายรักร่วมสมัย แปลจีน
ผลงานของ หมัวกูเว่ยเถาจื่อ แปลโดย เฉี่ยวหลิงชิงซิ่ว
‘โชคไม่ดีเลย’
‘ทำไมถึงโชคร้ายอย่างนี้’
‘ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้นกับเรา’
เพื่อนๆ คุ้นๆ กับประโยคเหล่ากันไหมคะ ประโยคที่ตัดพ้อถึงความโชคร้ายที่เกิดขึ้นกับชีวิตของตัวเองแบบนี้อาจจะเป็นประโยคที่ ‘ลู่จยา’ นึกขึ้นมาหลังฟื้นจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ลื่นไถลและชนเข้ากับสิ่งกีดขวางจนทำให้เธอบาดเจ็บหนักจนแม้กระทั่งแพทย์ที่ทำการรักษาต่างพาวินิจฉัยว่าอาจจะต้องตัดขาของเธอเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้
'ลู่จยา' นักแข่งรถจักรยานยนต์หญิงมืออาชีพที่กำลังเตรียมตัวเพื่อเข้าแข่งขันชิงแชมป์รถจักรยานยนต์หญิงในเอเชียรอบชิงชนะเลิศ ในคืนก่อนวันแข่งเธอได้รับสายของ ‘ฮว่าถิง’ นักแข่งสาวเจ้าของฉายา ‘ควีนออฟเดวิล’ ที่ชวนเธอออกไปซ้อมแข่งด้วยกัน ลู่จยาแม้จะอยากปฏิเสธ แต่ก็ไม่อาจทำได้ สุดท้ายเธอจึงฝืนใจรับปากเพราะทนกับการรบเร้าของอีกฝ่ายไม่ไหว และนั่นเองคือที่มาของอุบัติเหตุในครั้งนี้
หลังลู่จยาฟื้นขึ้นมานอกจะจากพบว่าตัวเองขาหักและอาจต้องตัดขาแล้ว เธอยังได้รับรู้ว่าฮว่าถิงเสียชีวิตในอุบัติเหตุครั้งนี้ นักแข่งสาวตกใจมากเพราะจำได้ว่าก่อนที่เธอจะสลบไปนั้น ฮว่าถิงได้ชะลอความเร็วของรถแล้วลงมาดูเธอ เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำอะไรบางอย่าง แต่ก่อนที่จะไปสืบหาความจริงนั้นลู่จยาจำเป็นต้องรักษาตัวให้หายดีก่อน
ในช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดในชีวิต ทั้งขาหักอาจต้องตัดทิ้ง ทั้งตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการตายของเพื่อนร่วมอาชีพ แล้วยังถูกไล่ออกจากสโมสรเพราะข่าวฉาวครั้งนี้ 'เฉิงอี้เหิง' แพทย์หนุ่มรูปหล่อก็ได้ก้าวเข้ามามอบความหวังให้เธอด้วยการรับผิดชอบการผ่าตัดขาของเธอด้วยตัวเองแม้ว่าจะต้องเอาชื่อเสียงของเขาเข้ามาเสี่ยงก็ตาม
ลู่จยาอับจนหนทาง ทั้งร่างกายก็ยังช่วยเหลือตัวเองได้ไม่มากนัก จิตใจก็เต็มไปด้วยความสับสน ไหนจะเงินที่สะสมไว้ก็หมดไปกับการมอบให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต บ้านที่เช่าไว้ก็หมดสัญญาทำให้เธอไม่มีที่ไป แต่ในเรื่องราวเลวร้ายทั้งหมดที่ต้องเจอเธอกลับมี ‘เฉิงอี้เหิง’ อยู่เคียงข้าง คอยดูแลอย่างดีในทุกๆ เรื่อง และยังคอยปกป้องเธอจนลู่จยารู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย แพทย์หนุ่มดีกับเธอจนหัวใจของเธอได้แต่สงสัยว่าเขาทำไปเพราะเหตุใดกันแน่ ในระหว่างที่พักรักษาตัวลู่จยาจึงอดไม่ได้ที่จะตั้งกระทู้ ‘หมอของฉันเหมือนจะชอบฉันนะ’ ในเว็บไซต์โต้วปั้นขึ้นมาเพื่อให้ชาวเน็ตช่วยกันหาคำตอบและแก้ไขปัญหาหัวใจของเธอ
แล้วคำตอบจากชาวเน็ตจะตรงกับคำตอบที่เธอได้รับจากเฉิงอี้เหิงหรือไม่ เรื่องราวความรักของนักแข่งสาวและแพทย์หนุ่มจะเป็นอย่างไร เพื่อนๆ สามารถร่วมลุ้นเอาใจช่วยความรักของเขาและเธอ โดยติดตามความน่ารักสุดโรแมนติกนี้ได้ในนิยายรัก หมอของฉันเหมือนจะชอบฉันนะ
...
เชฟคนนี้มีรักมาเสิร์ฟ! (เล่มเดียวจบ) นิยายรักร่วมสมัย แปลจีน
ผลงานของ สืออู๋ แปลโดย Lucky Luna
เพื่อนๆ เคยมีอาการเบื่ออาหารกันไหมคะ ไม่อยากกินเมนูซ้ำเดิมบ่อยๆ ก็คงไม่เท่าไหร่ แต่หากมีอาการอาเจียนหลังจากที่กินเข้าไปเพราะไม่สามารถกินอาหารนั้นได้ คงนำความทุกข์ใจมาให้ไม่น้อยเลย
‘เจียงเหมยอิ่ง’ ป่วยเป็นโรคเบื่ออาหาร เธอไม่สามารถกินอาหารที่มีกลิ่นหรือรสชาติจัดจ้านได้จนถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล อาการของเธอทำให้แม่เป็นห่วงเธอมาก แต่เจียงเหมยอิ่งก็ให้สัญญากับแม่ว่าตนจะต้องหายจากโรคนี้ให้ได้ เธอจึงเข้ารับการรักษาโรคนี้ และพยายามอย่างยิ่งที่จะกินอาหารให้มากขึ้น
‘เจียงเหมยอิ่ง’ เป็นนักตัดต่อรายการโทรทัศน์ และยังเป็นบล็อกเกอร์สอนทำอาหารลดน้ำหนักสุดฮอตซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่าห้าแสนคน เธอได้แบ่งปันวิธีลดน้ำหนัก รวมทั้งสูตรอาหารลดน้ำหนักที่คิดขึ้นและทำกินเองอยู่เป็นประจำจนทำให้มียอดผู้ติดตามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่มีใครรู้เลยว่าเบื้องหลังของน้ำหนักตัวเธอนั้นมาจากอาการของโรคที่เธอเป็น
‘หานต้ง’ ทายาทเพียงคนเดียวของธุรกิจร้านอาหารในเครือซานเว่ยฝาง ทว่าเขามีแนวคิดในการทำธุรกิจแตกต่างจากผู้เป็นพ่อ หางต้งจึงได้หนีออกจากบ้านและมาเปิดร้านบะหมี่เล็กๆ ของตัวเอง รสชาติของบะหมี่ที่กลมกล่อมทำให้ผู้คนล้วนติดใจสร้างชื่อเสียงให้กับร้านและตัวเขาเองเป็นอย่างมาก
‘เจียงเหมยอิ่ง’ เคยตัดต่อรายการทีวีที่หานต้งมาออกตามคำสั่งของผู้กำกับที่ต้องการให้รายการมีกระแสด้วยการทำให้หานต้งดูเป็นคนร้ายกาจ การตัดต่อนั้นทำให้รายการมีกระแสจริงเพราะหลังออกอากาศผู้ชมต่างตำหนิหานต้งว่าเขาเป็นคนที่เข้มงวดกับพนักงานมากเกินไป แต่เมื่อผู้กำกับทราบว่าหานต้งคือทายาทของซานเว่ยฝางซึ่งมีอิทธิพลอย่างมาก เขากลัวว่าตนจะเดือดร้อน
ในตอนนั้นเองพนักงานร้านบะหมี่ของหานต้งที่มาส่งบะหมี่ก็มาโวยวายถึงบริษัทจนผู้กำกับต้องขอโทษและรับปากว่าจะชี้แจงเรื่องนี้ในเว็บไซต์ของรายการให้ ทำให้พนักงานคนนั้นพอใจมากจึงยกบะหมี่เนื้อสองชามที่ลูกค้ายกเลิกให้ทั้งคู่ เจียงเหมยอิ่งจึงได้อาสาไปขอโทษหานต้งที่ร้านบะหมี่ ในเวลาเดียวกันนั้นเองเพื่อนร่วมงานของเจียงเหมยอิ่งก็โผล่เข้ามา พอรู้ว่าบะหมี่ชามนี้เป็นบะหมี่ที่หานต้งทำก็รีบเปิดกล่องเพื่อกินทันที ทีแรกเจียงเหมยอิ่งคิดว่าถ้าได้กลิ่นอาหารที่มีเนื้อสัตว์เธอจะต้องอาเจียนแน่ๆ แต่กลายเป็นว่าเธอไม่รู้สึกแบบนั้น ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังสามารถกินน้ำซุปของบะหมี่เนื้อได้
เจียงเหมยอิ่งได้ไปที่ร้านบะหมี่ของหานต้งพร้อมความตั้งใจที่จะขอโทษเขาส่วนหนึ่ง อีกส่วนคือเธอตั้งใจจะใช้อาหารของเขาในการรักษาโรค แต่ถึงเธอจะกินอาหารที่เขาทำได้ แต่ก็ไม่สามารถกินจนหมดจาน นั่นทำให้หานต้งไม่พอใจอย่างมาก เพราะเขาคิดว่าเธอเป็นพวกกินทิ้งกินขว้าง ทำให้เจียงเหมยอิ่งไม่พอใจอย่างมากที่เขาต่อว่าเธอเช่นนั้น เพราะไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเธอแล้วว่าการกินสิ่งที่อยากกินไม่ได้นั้นทุกข์ทรมานแค่ไหน แต่ด้วยภารกิจที่ต้องทำให้หางต้งรับคำขอโทษของเธอให้ได้เจียงเหมยอิ่งจึงไปที่ร้านอีกครั้ง การได้พบกันและได้พูดคุยกันบ่อยขึ้นทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งหานต้งได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเจียงเหมยอิ่งมีปัญหาเรื่องการกินอาหาร เขาจึงเริ่มสังเกตและจดบันทึกเกี่ยวกับการกินอาหารของเธอว่าเธอสามารถกินอะไรได้บ้าง หรือมีอะไรที่กินไม่ได้ นอกจากนั้นเขาและเธอยังช่วยกันคิดค้นสูตรอาหารร่วมกันทำให้ได้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น
จนกระทั่งมีเหตุการณ์ที่ทำให้หานต้งได้ล่วงรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้เจียงเหมยอิ่งต้องทุกข์ทรมานกับการกิน เชฟหนุ่มทั้งรู้สึกโกรธผู้ที่ทำร้ายเจียงเหมยอิ่งและเป็นห่วงความรู้สึกของหญิงสาวจึงคอยดูแลเธออย่างใกล้ชิด ซึ่งนั่นทำให้เขามั่นใจว่าเขาตกหลุมรักเธอเข้าแล้ว อะไรคือเหตุการณ์ที่ทำให้ ‘เจียงเหมยอิ่ง’ ต้องทนทุกข์กับอาการป่วยนี้ และ ‘หานต้ง’ จะจัดการกับเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเพื่อเธออย่างไร ติดตามความน่ารักและความหวานของคู่รักคู่นี้ได้ใน เชฟคนนี้มีรักมาเสิร์ฟ!
...
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับเรื่องราวความรัก 3 สไตล์จากนิยายรักร่วมสมัย แปลจีนทั้ง 3 เรื่อง หากเพื่อนๆ คนไหนสนใจแต่ยังอยากรู้ว่า เอ กระแสการตอบรับจากนักอ่านท่านอื่นๆ เป็นอย่างไรกันบ้าง แจ่มได้รวบรวมรีวิวบางส่วนจากนักอ่านที่พูดถึงเรื่อง ให้เสียงของคุณโอบกอดผม, หมอของฉันเหมือนจะชอบฉันนะ และเชฟคนนี้มีรักมาเสิร์ฟ! มาฝากกันด้วยค่ะ จะเป็นอย่างไรบ้างไปดูกันเลย
เพื่อนๆ คนไหนที่สนใจนิยายทั้ง 3 เรื่องนี้ สามารถสั่งซื้อหนังสือ ให้เสียงของคุณโอบกอดผม, หมอของฉันเหมือนจะชอบฉันนะ และเชฟคนนี้มีรักมาเสิร์ฟ! ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ดังนี้
- ช้อปผ่านช่องทางออนไลน์ของแจ่มใส : คลิกที่นี่
- ช้อปผ่านทาง Shopee jamsai_official : คลิกที่นี่
- ช้อปที่ Jamclub (ซอยแซมมี่ อยู่ในซอยด้านข้างเมเจอร์ สาขาปิ่นเกล้า) หรือช็อปออนไลน์กับ Jamclub คลิกที่นี่
- ช้อปที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
สำหรับสาย e-book สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ที่
OOKBEE / Meb / Fictionlog / Naiinpann / SE-ED / Hytexts /comico
Comments
comments