4 เทคนิคดีๆ สำหรับคนที่อยากเขียนนิยายแต่ยังไม่มีพล็อตที่แปลกใหม่

มั่นใจเลยว่าเพื่อนๆ นักอ่านหลายคน มีความคิดอยากจะเขียนนิยายกันดูบ้าง แต่ก็ยังไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี เพราะกลัวว่าจะเขียนแล้วไปซ้ำกับเรื่องที่เราเคยอ่านหรือเปล่า

หรือเขียนแล้วไม่รู้จะจบยังไง วันนี้เราเลยขอเสนอเทคนิคดีๆ ไว้ให้ลองนำไปใช้กันดูในการเขียนนิยายสักหนึ่งเรื่อง อ๊ะๆ โดยเฉพาะเพื่อนๆ ที่คิดว่าพล็อตของตัวเองยังไม่แปลกใหม่ ต้องลองอ่านกันดูน้า

1.อ่านหนังสือเยอะๆ

แน่นอนว่าการอ่านหนังสือนิยายบ่อยๆ จะช่วยฝึกให้เพื่อนๆ ได้พัฒนาฝีมือการเขียนได้ เพราะเราจะเข้าใจการเดินเรื่องของนักเขียนแต่ละเล่มว่ามีสไตล์เช่นไร ส่วนใหญ่ก็จะคล้ายๆ กัน คือเล่าเรื่องให้ชวนติดตามตั้งแต่ต้น เพื่อดึงความน่าสนใจ แน่นอนว่าแต่ละเล่มก็ต้องมีบางจุดที่ไปคล้ายกับเล่มอื่น ลองศึกษาดูไงล่ะว่าแต่ละเล่มเขาเขียนออกมายังไงให้มีความน่าแตกต่าง พอถึงเวลาที่เราจะคิดพล็อต ก็จะสามารถสร้างความแปลกใหม่ได้เพราะเราจับจุดได้ว่าแนวไหนจะซ้ำยังไงล่ะ

2.พกปากกากับสมุดโน้ตติดตัว

การจะเป็นนักเขียน ควรจะพกสมุดเล่มเล็กๆ ติดตัวไว้สำหรับเขียนพล็อตที่นึกออก หรืออาจจะพิมพ์ลงมือถือเลยก็ได้ในกรณีที่ลืมเอาสมุดโน้ตมา แต่จากนั้นก็ต้องกลับไปเขียนลงสมุดไว้นะ เพราะการเขียนนี่แหละ จะช่วยให้เราจดจำพล็อตที่เราวางไว้ได้ พอถึงเวลาที่เราจะเริ่มแต่งสักเรื่อง อาจจะลองเอาสมุดโน้ตเล่มนั้นมีเปิดดูว่าเรานึกอะไรออกแล้วเขียนลงไปบ้าง แน่นอนว่าการที่เรามีพล็อตหลายๆ แบบเก็บไว้ เราก็สามารถนำส่วนเหล่านี้มามิกซ์รวมเป็นพล็อตหลักของนิยายสักเรื่องได้เลย รับรองเข้มข้นกว่าเดิมแน่

3.มีความตั้งใจจริง

อุปสรรคที่ใหญ่จริงๆ เห็นจะเป็นเรื่องความขี้เกียจนี่แหละ และคำพูดในหัวที่ลอยเข้ามาอยู่ตลอดคือ เดี๋ยวค่อยเริ่ม ไว้ค่อยทำ พอคิดแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราก็จะไม่ได้เริ่มซะที ทางที่ดีคือถ้าเรามีอารมณ์ในการจะคิดงานเขียนแล้ว ให้รีบลงมือทำทันที จะมากหรือน้อยก็อย่าได้สนใจ เพราะยังไงก็ถือว่าเราได้ลงมือทำแล้ว แรกๆ หัวยังไม่แล่น แต่ถ้าได้ลองฝึกมือบ่อยๆ รับรองว่าเพื่อนๆ จะคิดงานเขียนได้คล่องมาก ทีนี้ล่ะพล็อตมาเต็มแน่ๆ ที่สำคัญยังเป็นการฝึกพิมพ์ไวไปในตัวด้วย บอกเลยถ้าเราตั้งใจจริง อะไรๆ ย่อมสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีชัวร์ๆ

4.ลงผลงานของเราในเว็บไซต์อ่านนิยาย

การนำเรื่องที่เราแต่งไปลงตามเว็บไซต์สำหรับอ่านนิยาย แน่นอนว่าเราจะได้รับฟีดแบ็กโดยตรง การค่อยๆ ทยอยลงทีละตอนสองตอนไปเรื่อยๆ นอกจากจะได้รู้จุดที่ควรปรับปรุงแล้ว เรายังได้รู้ด้วยว่า นักอ่านชอบงานแนวไหน และพล็อตเรื่องที่เราวางไว้จะได้ไปต่อหรือไม่ เพราะถ้าคิดว่าไม่เวิร์ก เราก็ต้องกลับมาแก้ไขใหม่เพื่อให้พล็อตเรื่องที่คิดเอาไว้นำเสนอออกมาได้โดนใจคนอ่านมากที่สุด แต่เราต้องมีจุดยืนด้วยว่า หากลงเรื่องไปเยอะๆ แล้ว ก็ไม่ควรแก้ไขจนกลายเป็นเหมือนเรื่องใหม่ เพราะคนที่เคยอ่านงานเรา ถ้ากลับไปอ่านตอนแรกๆ ใหม่อาจจะไม่ประทับใจเหมือนตอนที่เขาอ่านครั้งแรกก็ได้นะเออ

ใครที่มีความฝันอยากเป็นนักเขียน ถ้ารู้ตัวเองแล้วว่าสนใจทางด้านนี้ ก็ให้ลงมือทำเลยน้า รับรองว่าเพื่อนๆ จะต้องได้มีผลงานเป็นของตัวเองในสักวันหนึ่งแน่นอน สู้ๆ!