จะว่าไปเนี่ย นิยายที่เราอ่านๆ กัน นอกจากจะพูดถึงเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มสาวแล้ว ความสัมพันธ์ที่นับถือกันแบบพี่น้องก็มีนะ แถมยังได้ความน่ารัก อบอุ่นในสไตล์ของพี่กับน้องอีกด้วย เพราะบางทีโมเมนต์ของตัวละครอื่นๆ นอกเหนือจากพระ-นาง ก็ยังมีความสนุก และน่ารักไม่แพ้กันนะ
ว่าแต่วันนี้นักอ่านหลายคนอาจจะสงสัยกัน ว่าทำไมถึงมาพูดเรื่องความสัมพันธ์แบบพี่แบบน้อง เพราะว่าจะนำโมเมนต์น่ารักๆ ระหว่าง ‘ศิษย์พี่’ เมิ่งอวิ๋นเจิง (พระเอก) จากเรื่อง ‘สตรีอ่อนโยนล้วนแฝงพิษร้าย’ และ ‘ศิษย์น้อง’ มู่ไคเวย (นางเอก) จากเรื่อง ‘ชายาพกดาบเข้าห้องหอ’ มาให้นักอ่านได้ดูกัน ว่าเมื่อพวกเขาทั้งคู่มาเจอกัน จะเกิดอะไรขึ้น จะน่ารักหรือปั่นป่วน ชวนปวดหัวกันแน่นะ ตามไปดูกันเลย!
เมื่อ ‘ขนมแป้งนึ่ง’ เป็นเหตุ!
สี่ปีก่อน ศิษย์น้องมู่ไคเวยอายุครบสิบห้า ก็เข้าหน่วยประตูหกบานเพื่อฝึกฝน ทุกวันนี้ หญิงสาวร่างอ้อนแอ้นไปคลุกคลีกับบุรุษร่างสูงใหญ่ทั้งกลุ่มจนกลายเป็นพี่น้องชาวยุทธ์ที่แท้จริง อากัปกิริยาจึงดูยิ่งโลดโผน
“เป็นขนมแป้งนึ่ง!” มู่ไคเวยโห่ร้องดีใจ หยิบขึ้นมาโดยไม่ถามไถ่และส่งเข้าปากทันที
“อืม อืม...อร่อย กลิ่นพุทราเชื่อมหอมมาก อร่อยมาก!”
หากตะกร้าไม้ไผ่ยังอยู่ในมือของเมิ่งอวิ๋นเจิง มือปราบน้อยใหญ่ทั้งหลายของหน่วยประตูหกบานอาจจะยังไม่กล้าก่อความวุ่นวาย แต่พอตะกร้าถูกมู่ไคเวยแย่งไป ทั้งยังเป็นคนเปิดกินก่อน ชายฉกรรจ์ในชุดเจ้าหน้าที่ของทางการอีกห้าหกคนก็เปิดศึกแย่งของกินกันในทันที ‘สถานการณ์ศึก’ ดุเดือดมาก...
“เถี่ยต่าน เจ้าอายเป็นหรือไม่ ของมาถึงปากแล้ว ยังเอานิ้วมาล้วงอีก!”
“ครั้งก่อนกินขนมโก๋นึ่งถั่วแดงของท่านยายหลิวที่ถนนตะวันออก ข้าเอาเข้าปากแล้ว เจ้าก็ทำพิเรนทร์เช่นนี้!”
“ต้าจิ่งเจ้าสารเลว ไวมากนักหรือ ได้! ต่อยก็ต่อย พวกเราลุย!”
“มัวต่อยตีอะไรกัน ของจะหมดแล้วนา!”
“มารดามันเถิด เช่นนี้ไม่ถูกต้อง!”
“หยิบก่อนชนะ ใครถกความถูกต้องกับเจ้ากัน!”
คำกล่าวที่ว่า ‘สองผลท้อฆ่าสามขุนพล’ ได้ฉันใด ขนมแป้งนึ่งพุทราเชื่อมก็ทำให้เหล่ามือปราบที่เดียดฉันท์ความชั่วและซื่อสัตย์ปราดเปรียวของหน่วยประตูหกบานบาดหมางกันเองได้ฉันนั้น
ความแสบของ ‘มู่ไคเวย’ กับขนมแป้งนึ่งพุทราเชื่อมของ ‘ศิษย์พี่’
มู่ไคเวยถอนสายตากลับมาจากร่างของหญิงสาวที่วิ่งจากไปเพราะถูกทำให้แตกตื่น เลื่อนมามองทางศิษย์พี่ของตน แล้วก็เปิดปากพูด...
“เอ่อ...วันนี้กลุ่มของพวกข้ารับผิดชอบเฝ้าเวรยามที่เฉิงเป่ย นานๆ ทีจะเห็นท่านเดินอยู่กับแม่นางสักคนนี่นา ข้าเปล่าทำอะไรนะ ก็แค่จะ...สืบดูว่ามันเป็นมาอย่างไรกัน จะบอกกับผู้อื่นแค่ไม่กี่ประโยคว่าให้ดีต่อท่านสักหน่อย ในเมื่อเป็นเช่นนี้...ศิษย์พี่อย่าเงียบสิ ท่านเอาแต่จ้องไม่ยอมพูด ข้าเห็นแล้วรู้สึกปวดท้อง ช้าก่อน! หรือว่าจะเป็นเพราะขนมแป้งนึ่งพุทราเชื่อมตะกร้านั้น?” เอ๋? นางพูดตรงจุดแล้วสินะ!
เห็นสถานการณ์เป็นเช่นนั้น มู่ไคเวยก็รีบยกแขนตรง ชี้ไปยังสหายหน่วยประตูหกบานที่เพิ่งแย่งชิงของกินเสร็จ แล้วตะโกนเสียงโหยหวน “ข้ากินไปแค่ชิ้นเดียวชิ้นเล็กๆ เป็นชิ้นที่เล็กมากๆ จริงๆ นะ แค่พอลิ้มรสชาติเท่านั้นเอง ที่เหลือทั้งหมดเป็นพวกเขามาแย่งไป ศิษย์พี่โกรธแล้วก็ไปลงที่พวกเขาสิ ข้าเป็นหนึ่งในผู้บริสุทธิ์นะ”
“เอ๊ะ?”
“เอ๋?”
“หืม?”
“หา!”
“เอ่อ...”
เหล่าชายฉกรรจ์น้อยใหญ่ทั้งหลายที่กวาดขนมแป้งนึ่งจนหมดยังไม่ทันได้เลียหรือเช็ดคราบน้ำตาลที่เปื้อนรอบปากให้สะอาด ก็ถูกสายตาที่ลุกเป็นไฟของบุรุษจ้องจนขนลุกชัน เสียงที่เปล่งออกจากลำคอล้วนเป็นเสียงร้องอย่างตื่นตระหนกหนึ่งคำ
แหม ‘ศิษย์น้อง’ ของเราเนี่ยแสบไม่แพ้ใครเลยจริงๆ ถ้านักอ่านอยากเห็นความน่ารัก ความแสบ ซน ของ ‘ศิษย์น้อง’ (นางเอก) จากเรื่อง ‘ชายาพกดาบเข้าห้องหอ’ และ ‘ศิษย์พี่’ (พระเอก) จากเรื่อง ‘สตรีอ่อนโยนล้วนแฝงพิษร้าย’ ต่อ ก็มาพาพวกเขาทั้งสองคนกลับบ้านพร้อมกันได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ, JamClub และ JamShop
Comments
comments
No tags for this post.