ซีรี่ส์ที่ออกฉายทางโทรทัศน์ในช่วงนี้ มีหลายเรื่องเลยที่สร้างจากนิยายรักวัยรุ่น ทั้งแนวชายหญิงและแนวชายชาย อย่างล่าสุดที่เพิ่งจบไปอย่าง ‘เดือนเกี้ยวเดือน’ ก็ทำเอาแฟนคลับหลายคนกรี๊ดหนักมาก เห็นได้ชัดว่ากระแสซีรี่ส์แนววายมาแรงจริงๆ
แต่ซีรี่ส์แนวชายหญิงใช่ว่าจะดร็อป เพราะกระแสก็ยังมีอยู่นาจา ไม่ว่าจะเป็นความน่ารักของซีรี่ส์ ‘รักนะ… เป็ดโง่’ หรือความหล่อของซีรี่ส์ ‘U-Prince’ เรียกได้ว่าทำเอาคนดูฟินกันทั่วบ้านทั่วเมือง
ล่าสุดทาง GMM25 จึงเอาใจกลุ่มแฟนคลับซีรี่ส์ทั้งหลายด้วยการหยิบเอานิยายเรื่องดังของแจ่มใสถึง 4 เรื่องมาทำเป็นซีรี่ส์เรื่องล่าสุด และใช้ชื่อว่า Love Books Love Series งานนี้โดนใจทั้งนักอ่านและแฟนซีรี่ส์แน่นอน ว่าแต่อยากรู้มั้ยล่ะ แต่ละเรื่องมีความน่าสนใจยังไงบ้าง คนที่จะบอกเล่าได้ดีที่สุดก็ต้องเป็นนักเขียนใช่มั้ยล่ะ งั้นขอเชิญตัว CRAZE มาเม้าท์มอยถึง The Seven Year Itch นิยายเล่มที่ตัวเองแต่งกันเลยดีกว่า
Q : สวัสดีจ้า CRAZE ให้แนะนำตัวก่อนดีกว่า ตอนนี้ทำอะไรอยู่ และผลงานล่าสุดคือเรื่องไหน (ขายของได้เล้ยยย)
A : สวัสดีค่า CRAZE (เครซ) หรือ หนูเล็กเองค่ะ ไม่แน่ใจว่าจะคุ้นเคยกันมั้ย เพราะไม่ได้ออกนิยายมานานเหลือเกิน (เขิน) ตอนนี้ก็ทำงานอาชีพ นักเขียนบทค่ะ ทำกับหลายช่อง เช่น ช่อง 7, Work Point, GMM25 ก็มีผลงานออกมาเรื่อยๆ เช่น Club Friday the Series และอื่นๆ อีกมากมาย (หลังไมค์ไว้ติดตามกันได้) ส่วนผลงานล่าสุดของนิยาย ก็คงจะเป็นเรื่อง Sixth Dream ฝันนี้เกือบร้าย แต่กลายเป็น (เกือบ) รัก ค่ะ (นี่ก็นานมากแล้วเช่นเดียวกัน 5555) แต่คิดว่ากำลังจะมีผลงานเร็วๆ นี้ค่ะ กำลังเตรียมตัวปั้นเรื่องใหม่ รอติดตามกันได้ค่ะ
Q : ย้อนไปคุยถึง The Seven Year Itch กันหน่อยดีกว่า ตอนที่รู้ว่าเรื่องนี้ถูกนำไปทำซีรี่ส์และเห็นแคสต์นักแสดง รู้สึกยังไงบ้าง
A : พอรู้ว่าเรื่องนี้จะต้องถูกเอามาทำเป็นซีรี่ส์ ก็มีแอบกังวลเล็กๆ เพราะเรื่องนี้เราก็เขียนเมื่อ 7 ปีที่แล้วพอดี เนื้อเรื่องมันอาจจะมีความประดักประเดิด มีความ weird เล็กๆ มีความอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ของนางเอกเหมือนคนเป็นไบโพล่าร์ (ด้วยวัยของเราในการเขียนตอนนั้น) แต่พอรู้แคสต์นักแสดง ก็ใจพองโตเลยค่ะ ทั้งน้องเก้า จิรายุ, พรอยมน, เบสท์ ณัฐสิทธิ์ ก็รู้สึกแล้วว่า เรื่องนี้ต้องตลกแน่นอน 555 คือแค่เห็นนักแสดงเราก็หัวเราะออกมาเลย มันตรงปกมาก เหมือนหลุดออกมาจากในนิยาย ถ้าให้คิดถึงแคสต์อื่น เราก็คิดไม่ออกเหมือนกันค่ะ
Q : ความสนุกและความน่าสนใจของนิยายเรื่องนี้คืออะไร
A : ความสนุกมันน่าจะอยู่ตรงที่ ตัวละครในเรื่องเป็นนิสัยของมนุษย์ธรรมดาที่จับต้องได้ และความแตกต่างระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย ที่เหมือนมาจากดาวคนละดวง และมีความไม่รู้เรื่องรู้ราวของตัวละคร ที่พาตัวเองเข้าไปอยู่ในจุดที่ไม่อยากให้สถานการณ์นี้มันเกิดขึ้น แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ดันมาจากตัวเองล้วนๆ ค่ะ เรื่องนี้คาแร็กเตอร์แต่ละตัว จะแอบมีความ weird เล็กๆ เพราะตั้งใจใส่ลงไป ถึงจะเป็นคาแร็กเตอร์ที่จับต้องได้ แต่ด้วยความ weird ของมันเนี่ย จึงทำให้เรื่องนี้มันค่อนข้างเหมือนนั่งดูตลกคาเฟ่กลายๆ แอบบอกนิดนึงว่า นางเอกเรื่องนี้มีความขี้บ่นได้น่ามคาญสูงมากค่ะ เขียนเองยังต้องกลอกตาไปมาเป็นไวกิ้งในดรีมเวิล์ด
Q : ชอบฉากไหนมากที่สุดในนิยายเรื่องนี้
A : ฉากไหนเหรอคะ...อืมม เอาจริงๆ เราก็ชอบหลายๆ ฉากในเรื่อง แต่ถ้าจะให้นับเดอะเบสต์ คงจะเป็นฉากที่อยู่ในท้องฟ้าจำลองค่ะ เอาชอบแบบภาพนะคะ 555 ถ้าย้อนกลับไปได้ อยากขยี้เนื้อเรื่องของฉากตรงนี้ให้ดีกว่านี้ เราว่ามันน่าจะเป็นฉากที่ดีพอสมควรเลยค่ะ ถ้าฉากที่ชอบในส่วนของเนื้อเรื่อง ชอบทุกฉากที่ด่ากันค่ะ มันส์ดี 5555
Q : ทราบว่านิยายเรื่องนี้เป็นโปรเจ็กต์พิเศษในวันวาเลนไทน์ของแจ่มใส พอจะเล่าคอนเซ็ปต์ในตอนนั้นได้มั้ย และเรื่องนี้เกี่ยวโยงกับคอนเซ็ปต์ที่ว่ายังไงบ้าง
A : ในตอนนั้นที่เราได้รับโปรเจ็กต์มา มันคือ Valentine’s Difference of Love แตกต่างอย่างเข้าใจ ตอนที่ได้มาก็แอบเครียดมากพอสมควร ว่าเราจะทำเรื่องออกมายังไงดี จู่ๆ ก็ได้ไอเดีย (ตอนนั่งส้วม) เรื่องอาถรรพ์ 7 ปี ขึ้นมาได้ เลยคิดต่อว่า การที่คนเราจะเลิกกันได้ มันต้องเกิดจากปัจจัยหลายๆ อย่างที่มันไม่ลงตัว ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ส่วนคู่ที่ยังคบกันได้ต่อ มันต้องเกิดจากความเชื่อใจ ความเข้าใจในหลายสิ่งหลายอย่างที่จะพากันไปรอด จึงทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมาค่ะ
Q : มีโอกาสที่เราจะได้อ่านเล่มต่อของเรื่องนี้มั้ย
A : โอกาสที่ว่า เพิ่งได้บอกไปเมื่อคำถามแรกเลยค่ะ 55555 นั่นคือเรื่อง Sixth Dream ฝันนี้เกือบร้าย แต่กลายเป็น (เกือบ) รัก นั่นเอง โอ้โห นานไปอีก ถ้าใครอยากอ่านคู่รองในเรื่องนี้ คือหลินหลินกับหงเฟย ก็ติดตามได้ในเล่มนี้เลยค่ะ งานเจ้าฮะก็มา ตลกคาเฟ่แบบไม่ทิ้งคอนเซ็ปต์
Q : ให้พูดถึงนักแสดงนำของเรื่องกันหน่อยดีกว่า
A : ตอนที่เรารู้ว่าน้องเก้า จิรายุจะมาเล่นเป็นรัมเบียพระเอกของเรา ก็รู้สึกดีใจมาก เพราะน้องเก้านี่เรียกได้ว่าเป็นพระเอกคู่บุญก็ว่าได้ 555 เคยเขียน Club Friday the Series ตอนสัญญาใจให้น้องเล่น ก็เห็นเลยว่าเก้าเป็นนักแสดงที่ดีมาก เก้าเป็นคนที่ทุ่มเทกับการทำงาน และวิเคราะห์บทได้เป็นอย่างดี เลยรู้สึกใจพองโตเมื่อรู้ว่าได้เก้ามาเป็นของเราค่ะ (หมายถึงเรื่องของเรา 555) ส่วนพรอยมนก็ได้ยินกิตติศัพท์มาอย่างดี เรื่องการแสดงในแบบน่ารัก กวนๆ เป็นธรรมชาติ เลยรู้สึกดีใจกับทุกแคสต์ในเรื่องนี้ค่ะ
Q : สุดท้ายนี้ขอสามคำสำหรับนิยายเรื่องนี้
A : ไบ! โพ! ล่าร์! (คิดว่าคำนี้น่าจะเหมาะสุดค่ะ อารมณ์ในเรื่องมันขึ้นๆ ลงๆ เหลือเกิน)
สำหรับวันนี้ต้องขอขอบคุณ CRAZE มากๆ เลยจ้า อ๊ะๆ อย่าลืมติดตาม The Seven Year Itch กันด้วยนะเออ
Comments
comments