X
    Categories: ไลฟ์สไตล์

เมื่อนิยายรักบอกข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องความรักของหนุ่มสาวยุค 4.0 Part.2

อย่างที่เคยบอกเอาไว้ในครั้งที่แล้วว่า เวลาดูละครก็ต้องย้อนดูตัวเรา เพราะอาจจะมีบางโมเมนต์ที่เรากับตัวละครที่เห็น ก็ตัดสินใจหรือมีการกระทำที่ไม่ต่างกัน เช่นเดียวกับเวลาที่อ่านนิยาย ต้องยอมรับเลยว่านิยายในยุคหลังๆ ไม่ได้แต่งเกินจริงเลย เพราะนักเขียนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะเขียนตามเรื่องราวที่สามารถเกิดขึ้นได้จริง หรืออาจจะหยิบเอาประสบการณ์ที่เคยเจอหรือเคยพบเห็นมาใส่ในเรื่องไงล่ะ และเมื่อเราอินไปกับเรื่องราวนั้นๆ มันก็อาจจะลบล้างความคิดแบบเดิมๆ เกี่ยวกับเรื่องความรักที่เราปักใจเชื่อกันมาเลยก็ได้ ว่าแล้วเราก็ไปส่องกันต่อเลยดีกว่าว่า นิยายรักยุคน่ะบอกข้อเท็จจริงเกี่ยวกับหนุ่มสาวยุค 4.0 ไว้แบบไหนอีกบ้างนะ

 

1.ผู้หญิงเจ็บแล้วจำฝังใจ

ไม่ว่าจะยุคไหนๆ ก็ไม่มีใครอยากถูกทำร้ายจิตใจหรอก โดยเฉพาะฝ่ายชายที่ทำร้ายจิตใจฝ่ายหญิงไปแล้วอย่างตั้งใจ ผู้หญิงก็มักจะแสดงจุดยืนให้รู้เลยว่า ความเจ็บปวดครั้งนี้ เธอจะไม่มีวันลืม แม้ว่าอีกฝ่ายจะเคยดีต่อกันแค่ไหน แต่หากทำให้เธอเจ็บช้ำใจบ่อยๆ เข้า นั่นก็แสดงว่าเขายังแคร์เราไม่มากพอ เธอจึงเลือกที่จะเจ็บแล้วจบ ไม่ต้องมาพบกันอีกเลยดีกว่า

 

2.ผู้ชายยอมเป็นคนเห็นแก่ตัว เมื่อเจอคนที่ใช่มากกว่าคนที่คบหาอยู่

เมื่อฝ่ายชายบางคนเผลอตัวตกหลุมรักคนใหม่ ทั้งๆ ที่เขามีคนรักอยู่แล้ว สิ่งที่เขาเลือกจะทำ กลับไปสารภาพรักกับผู้หญิงคนใหม่แบบตรงๆ และยอมที่จะเป็นคนเลวในสายตาคนอื่นหากเรื่องนี้ถูกเปิดเผย นั่นอาจจะเป็นเพราะความเจ้าชู้ไม่รู้ของตัวพวกเขาเอง แน่นอนว่าหากผู้หญิงคนใหม่ไม่สนใจเรื่องที่เขาจะมีใครมาก่อน คนที่จะต้องเสียใจมากที่สุด ก็คือคนรักตัวจริงของเขาไงล่ะ

 

3.ผู้ชายที่เคยมีแฟนมาก่อน มักจะมองว่าแฟนคนล่าสุดอ่อนต่อโลกมากๆ

ด้วยความที่ฝ่ายชายผ่านประสบการณ์ความรักมาก่อน พอได้มาเจอคนปัจจุบัน ก็จะเกิดความรู้สึกอยากทะนุถนอมให้ดีๆ เพราะคิดว่าคนอย่างเขาผ่านโลกมาเยอะกว่า เวลาเห็นเธอไปคุยและทำตัวดีกับเพื่อนผู้ชายคนอื่นเพราะต้องรักษามารยาททางสังคม เขาก็จะมองว่าเธอไม่กล้าปฏิเสธ เขาเลยต้องมาประกบติดเธอมากขึ้นไงล่ะ

 

4.ผู้ชายยังคงชอบตัดสินไปเองอยู่ฝ่ายเดียวว่าพวกผู้หญิงมีนิสัยน่ารำคาญ ขี้นินทา ขี้บ่น

อาจจะด้วยเพราะภาพลักษณ์การช่างพูดช่างคุยการเป็นกลุ่มของผู้หญิงบางคน ทำให้ผู้ชายคิดแบบนั้น แต่ก็ลืมมองไปว่า ผู้ชายด้วยกันเองนี่แหละ สมัยนี้ก็ชอบบ่น และชอบจับกลุ่มว่าคนอื่นเหมือนกัน ซึ่งนิสัยเหล่านี้ถึงแม้จะสามารถเป็นกันได้ทั้งชายและหญิง แต่ก็เป็นแค่กับบางคนเท่านั้น ที่สำคัญคือสามารถแก้ไขได้ แค่เราไม่ตัดสินคนอื่นนั่นเอง

 

5.ผู้ชายหงุดหงิด โมโห หรือมีเรื่องทะเลาะกัน จะชอบขับรถเร็วๆ แรงๆ

สำหรับผู้ชายบางคนที่อารมณ์ แน่นอนว่าพอเวลามีเรื่องผิดใจกับคนรัก และเป็นตอนที่ขับรถอยู่ เขาจะเหยียบแรงทันที นั่นก็เพราะเขาอยากหนีไปจากปัญหาการทะเลาะกัน เลยเลือกที่จะโฟกัสกับเรื่องอื่น อยากไปให้ถึงที่หมายไวๆ โดยไม่กลัวว่าผู้หญิงที่นั่งมาด้วยจะได้รับอันตรายเลย สาเหตุหลักๆ ก็ไม่ต่างจากคนขาดสตินั่นแหละ เพราะฉะนั้นต้องควรฝึกตัวเองให้มีความใจเย็นเข้าไว้มากๆ

 

6.ผู้หญิงชอบจ้ำจี้จ้ำไชผู้ชายในเรื่องต่างๆ แล้วอ้างว่าหวังดี

ส่วนใหญ่เวลาฝ่ายหญิงจู้จี้ผู้ชาย ไม่ว่าจะเรื่องเสื้อผ้า อาหาร การบ้าน หรือเรื่องอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน ที่เธอทำอย่างนั้น เธอมักจะอ้างว่าทำไปเพราะหวังดีและเป็นห่วง ที่สำคัญคือผู้หญิงเลือกที่จะใส่ใจในตัวแฟนมากกว่าตัวเอง พอล้นเกินไป ก็กลายเป็นฝ่ายชายจะมองว่าฝ่ายหญิงชอบวุ่นวายและบงการชีวิตเขามากเกินไปไงล่ะ

 

7.ผู้ชายชอบปกป้องคนที่มีเรื่องกับแฟนไว้ก่อน

ผู้ชายบางคนมักไม่อยากให้คนรักไปมีเรื่องกับใคร บางครั้งที่เขาก็ออกตัวเหมือนไปเข้าข้างอีกฝ่ายที่มีเรื่องด้วยมากกว่า นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาเลือกที่จะไม่ให้เป็นเรื่องใหญ่โตไงล่ะ เพราะหากแฟนของเขาไปมีเรื่องกับคนอื่นๆ เธอก็อาจจะถูกมองในทางที่ไม่ดีไปด้วยก็ได้ ดังนั้นถ้าเขาแสดงบทบาทนี้ ก็ให้เดาได้เลยว่าเขากำลังช่วยเราอยู่นะเออ

 

8.ผู้หญิงมักประชดแฟนตัวเองด้วยการไปทำตัวสนิทกับผู้ชายอีกคน

เป็นสิ่งที่บางคนอาจจะเคยทำ หรืออาจจะเคยคิดจะทำอยู่ นั่นก็เพราะว่า ผู้หญิงเหล่านั้นคิดว่าเมื่อผู้ชายสามารถไปทำตัวสนิทสนมกับผู้หญิงคนอื่นได้ เธอก็ต้องทำได้เหมือนกัน ถึงฝ่ายชายจะวางฟอร์มด้วยการทำเฉยในช่วงแรกๆ แต่พอนานวันเข้า ถ้าฝ่ายชายเริ่มเห็นว่าฝ่ายหญิงเริ่มไม่ใส่ใจเขาเหมือนเคย ก็ต้องมีอาการหึงหวงเกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน

 

Comments

comments

No tags for this post.
Jamsai Editor: