แน่นอนว่าทุกคนย่อมจะต้องมีเพื่อน จะมีมากหรือมีน้อยว่าก็ว่ากันไป แต่ในบรรดาเพื่อนที่มีทั้งหมด อย่างน้อยจะต้องมีสักหนึ่งคนที่ถูกจริตกับเรามากที่สุด ที่เข้ากับเราได้มากที่สุด ที่รู้ใจเรามากที่สุด ที่เรียกง่ายๆ ว่า “เพื่อนสนิท” นั่นแหละ
ซึ่งหลายคนก็สนิทกันมาก สนิทจนบางครั้ง เราก็เริ่มเกิดคำถามขึ้นในใจ ว่าตกลงแล้ว เราคิดกับมันแบบเพื่อน หรือว่ากำลังแอบเผลอมีใจให้กับคนใกล้ตัวกันแน่
อย่ารอช้า มาเช็คสัญญาณความรู้สึกของหัวใจว่าเข้าข่ายเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อกันมากน้อยแค่ไหนดูเลยดีกว่า
เป็นห่วงเป็นใยใส่ใจทุกรายละเอียด
คอยดูแลเทคแคร์ ให้ช่วยเหลือทุกครั้งเวลาที่เขาต้องการ ขอให้บอกมาเถอะว่าจะให้ทำอะไร นี่พร้อมยอมทำให้ทุกอย่าง แถมยัง รู้ว่าเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เรียกได้ว่าแค่มองตาก็รู้ใจ
สนใจอยากรู้ความเคลื่อนไหว ตั้งแต่ตื่นยันนอน
คอยถามว่า ตื่นหรือยัง วันนี้ไปไหน ไปกับใคร กินข้าวแล้วยัง จะกลับบ้านกี่โมง ตกดึกคอยส่งเข้านอนบอกฝันดี จนกลายเป็นกิจวัตรแบบไม่รู้ตัวไปซะงั้น
ไม่อยากให้สนิทกับใครมากกว่าตัวเอง
ถ้าเกิดอาการหงุดหงิดเวลาที่เขาไม่สนใจ น้อยใจเวลาเขาเทไปกับคนอื่น แอบปวดใจเวลาเขาให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่า เกิดอาการหวงมากเป็นพิเศษ เอ๊ะ หรือว่าจะหึงกันนะ
หัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่ใกล้ชิด
ทุกครั้งที่อยู่ใกล้มันอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก มีความสุขเวลาใกล้ชิด แถมเกิดอาการใจสั่นแปลกๆ ขึ้นมาทุกที
ไหนว่ามาสิ โดนข้อไหนกันไปบ้าง ถ้าแค่ข้อแรกๆ ยังไม่ต้องตกใจไป เพื่อนสนิทบางคู่ก็เป็นแบบนี้ได้โดยที่ไม่มีอะไรเกินเลย แต่ถ้าเกิดลามลงมาถึงข้อล่างๆ ด้วยนี่สิ ให้รู้ไว้เถอะ ว่า กำลังเผลอมีใจให้กับเพื่อนสนิทตัวเองเข้าให้แล้วล่ะ
ลำดับต่อไปก็คงต้องตัดสินใจแล้วล่ะ ว่าจะลุยต่อ หรือ หยุดใจเอาไว้ที่คำว่าเพื่อนสนิท เพราะถ้าหากเพื่อนสนิทที่ดันไปเผลอมีใจ เกิดเป็นเพศเดียวกันขึ้นมากับเรา นี่คงจะยิ่งปั่นป่วนหัวใจเพิ่มเข้าไปอีก ใครกำลังอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้ รับรองว่าถ้าได้อ่านนิยายฟีลแอบรักเพื่อนสนิทคงได้อินกันเป็นแน่ ไม่ว่าจะเป็น เก้า ที่แอบชอบ พีท ในเรื่อง “Blue Kiss เพื่อนแก้เหงา” หรือจะเป็น เติร์ด ที่แอบชอบ ค่าย ในเรื่อง “ทฤษฎีจีบเธอ”
ถ้าอยากรู้ว่าพวกเขาจัดการกับหัวใจตัวเองอย่างไร ต้องตามไปอ่านกันต่อ ไม่แน่ว่าอาจจะได้เจอแนวทางเก๋ๆ ไปปรับใช้กับของตัวเองบ้างก็ได้น้า
Comments
comments
No tags for this post.