ในวันนี้จะขอพาเพื่อนๆ ผู้รักการอ่านทั้งหลาย รวมถึงคนรุ่นใหม่ที่มีความต้องการอยากจะนั่งทำงานแบบชิลๆ คูลๆ มายัง ‘WOLF’
อีกหนึ่ง Co-working Space สุดเท่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ถ้าเราเดินจากสถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์มาถึงที่หมาย จะใช้เวลาเพียงแค่ห้านาทีเท่านั้น แต่เห็นแนะนำว่าอยู่ใจกลางเมืองแบบนี้ หลายคนคงนึกถึงความวุ่นวายจอแจกันใช่มั้ยล่ะ
ต้อนรับด้วยรอยยิ้มแจ่มใส
หากมองจากตัวอาคารภายนอกจะมีความเท่ในแบบที่น่าค้นหา พอได้ก้าวเข้าไปด้านในตัวอาคารของ WOLF จะพบกับโถงชั้นล่าง ซึ่งจะมีเหล่า WOLF Staff รอต้อนรับด้วยรอยยิ้มแจ่มใส
ความแตกต่างที่ลงตัว
ทว่าสถานที่จริงซึ่งตั้งอยู่ในซอยเล็กๆ นั้นกลับมอบความสงบร่มรื่นให้กับผู้มาเยือน ได้มากกว่าที่คิด เพราะ Co-working Space แห่งนี้ต้องถือว่าไม่ได้ตั้งอยู่ แค่ใจกลางเมืองเท่านั้น แต่ยังตั้งอยู่ใจกลางระหว่างความเป็น Urban ของทางฝั่งสีลม-สาธร และความเป็น Old Community ของทางฝั่งบางรัก นับเป็นความแตกต่างที่ลงตัว และมีความน่าดึงดูดในแบบวาไรตี้จริงๆ
บริเวณผนังปูนเปลือยฝั่งหนึ่งจะโชว์สิ่งของ DIY หรือของทำมือที่สร้างสรรค์จากไอเดียเก๋ๆ ของคนรุ่นใหม่เอาไว้ด้วย (สำหรับใครที่สนใจนำสินค้าทำมือมาฝากวางโชว์ หรือวางขายก็สามารถติดต่อมาที่นี่ได้เลย)
เรียบง่ายและเป็นกันเอง
ถัดเข้าไปอีกจะเป็นส่วนของ Pantry ที่ให้ Mood & Tone แบบเรียบง่ายและเป็นกันเอง มีโต๊ะไม้ตัวยาวไว้ให้นั่งรับประทานอาหาร หรือพบปะพูดคุยกับเพื่อนใหม่ นอกจากนี้ยังมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครันทั้งเตาอบขนาดเล็ก ไมโครเวฟ ตู้เย็น ตู้น้ำดื่ม รวมทั้งมีขนมขบเคี้ยวและกาแฟ Gourmet แบบดริปไว้ให้บริการฟรีๆ อีกด้วย แน่นอนว่าในส่วนของห้องน้ำนั้น ก็มีไว้อำนวยความสะดวกชั้นเว้นชั้น ซึ่งก็ถือว่าเดินขึ้นลงได้สะดวกเลยทีเดียว
เหมาะสำหรับคนที่รักการอ่านหนังสือ
พอเดินขึ้นบันไดขึ้นมายังชั้นสองจะเป็นส่วนของพื้นที่ Co-working ซึ่งจะมีโต๊ะตัวยาวจำนวนหนึ่งไว้สำหรับนั่งทำงานได้อย่างสบายๆ ชิลๆ Zone ที่เหมาะสำหรับคนที่รักการอ่านหนังสือรวมเอาไว้ด้วยมุมหนึ่ง ซึ่งบอกเลยตรงนี้แหละนั่งๆ นอนๆ เหยียดขาได้ตามใจชอบเลยนะ อ่านหนังสือกันเพลินเลยทีเดียว
เรียกความสดชื่นได้เป็นอย่างดี
ขณะที่ในส่วนของชั้นสามจะมีโต๊ะตัวยาวไว้รองรับสำหรับคนทำงานที่ชอบนั่งมองวิวแบบเพลินๆ โซนนี้จะมองเห็นวิวสระว่ายน้ำชัดเจน ชนิดที่เรียกความสดชื่นได้เป็นอย่างดี ส่วนพื้นที่ใช้สอยหลักๆ จะเป็นโซฟานุ่มๆ หลากหลายสไตล์ให้นั่งพักผ่อนหรือพูดคุยกัน ให้ความรู้สึกถึงความเป็น Living Room สุดๆ นอกจากนี้ยังมีห้องประชุมขนาดพอเหมาะพอเจาะแบบโต๊ะกลม สำหรับให้คนทำงานมานั่งปรึกษาหาไอเดียเจ๋งๆ กันอีกด้วย
เปิดรับแสงและเงาธรรมชาติ
ไปต่อกันที่ชั้นสี่และห้ากันเลยดีกว่า สำหรับสองชั้นนี้จะให้ฟีลของการทำงานแบบ Workstation ที่ใหม่ด้วยหรือโต๊ะทำงานแบบ Y-Shaped Shaped ที่มีดีไซน์เป็นสองแฉก เพิ่มความคล่องตัวของการทำงานได้อย่างหลากหลายในคราวเดียวกัน ซึ่งความดีงามของสองชั้นนี้คือเราจะสามารถมองเห็นวิวท้องฟ้าได้อย่างเต็มตา ก็น่าจะช่วยให้หัวแล่นและคิดงานเร็วมากยิ่งขึ้น ไม่รู้สึกอึดอัด จุดเด่นหลักๆ จึงน่าจะอยู่ตรงการเปิดรับแสงและเงาธรรมชาติให้สาดส่องเข้ามาทางผนังกระจก พร้อมด้วยม่านกรองแสง ของทุกชั้นนี่แหละ
ให้ความรู้สึกของการทำงานแบบ Free Flow
และที่โดดเด่นตั้งแต่ชั้นล่าง ก็เห็นจะเป็นเรื่องการตกแต่งแบบ Loft ซึ่งช่วยทำให้พื้นที่ดูโปร่งพอสมควรนี่แหละ แถมยังมีลิฟต์ไว้ให้บริการด้วย (เพราะที่นี่มีถึงห้าชั้นด้วยกัน) พอมาบวกรวมกับการเลือกใช้วัสดุ แบบปูนเปลือย เน้นการใช้สีดำของเหล็ก ตัดกับสัมผัสของความเป็นธรรมชาติในสไตล์ Lapland ที่เน้นเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งจากชนพื้นเมือง อย่างเช่น พรมขนสัตว์ และ Bean Bags แล้ว ก็ช่วยทำให้บรรยากาศโดยรวมของสถานที่แห่งนี้มีความโล่ง โปร่ง สบาย
สะท้อนบุคลิกคล่องตัวของคนที่มาใช้บริการ
ก็ที่นี่น่ะนอกจากจะเน้นแสงธรรมชาติอย่างที่บอกไป ไฟที่ใช้ยังภายในตัวอาคารยังมีทั้งที่เป็นไฟนีออนที่เหมาะสมกับการอ่านหนังสือหรือจ้องหน้าจอโน้ตบุ๊กตอนทำงานเป็นเวลานานๆ รับรองสบายตา และไฟเหลืองแบบ warm light ในมุมพักผ่อน นอกจากนี้บริเวณผนังบางส่วนยังตกแต่งด้วยลวดลายการเล่าเรื่องแบบพวกชนเผ่าที่อาศัยอยู่ตามถ้ำ ก็เพิ่มกิมมิกชิคๆ ที่เข้ากับชื่อสถานที่ซึ่งสะท้อนบุคลิกความรักอิสระของคน Gen Y ที่มาใช้บริการที่นี่ได้เป็นอย่างดี
นี่แหละคือตัวเลือกที่ลงตัว
งานนี้ใครยังไม่เคยเปิดประสบการณ์อ่านหนังสือ หรือทำงานนอกสถานที่ ขอบอกเลยว่าที่นี่แหละคือตัวเลือกที่ลงตัว เพราะถ้าคุณมาใช้เวลาทั้งวันอยู่ที่นี่ เกิดคุณอยากจะไปเดินเล่นชิลๆ แวะอาร์ตแกลลอรี่ จิบกาแฟที่ร้านเก๋ๆ ย่านสีลม-สาธรหรือเดินหาของกินที่สตรีทฟู๊ดย่านบางรัก ก็สามารถเดินไปได้ใกล้ๆ เพราะที่ตั้งของ Co-working Space แห่งนี้นี่แหละช่างเพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบายในการเดินทางสุดๆ จะไปทางเส้นไหนก็ง่ายสุดๆ แน่นอนว่าหลังจากออกไปหากิจกรรมชิลๆ หรือหาอะไรกินอร่อยๆ เสร็จ ก็สามารถกลับมานั่งอ่านหนังสือที่พกพามาด้วยหรือเปิดโน้ตบุ๊กทำงานต่อ รับรองว่าสมองต้องโลดแล่นกว่าเดิมชัวร์ๆ
Fulfill Lifestyle ของคนรุ่นใหม่
ก็การได้นั่งทำงานในสถานที่ดีๆ สิ่งแวดล้อมโดนๆ แบบนี้ เราย่อมรู้สึกเหมือนได้ชาร์จแบตฯ ทำให้มีพลังในการทำงานสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่อยู่แล้ว นอกจากนี้คุณยังได้รับความผ่อนคลายชนิดที่คุณต้องหาโอกาสกลับมาที่นี่อีกครั้งแน่นอน เพราะที่นี่แหละคือ Co-working Space ที่จะ Fulfill Lifestyle ของคนรุ่นใหม่ได้อย่างแท้จริง!
สำหรับรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่อวัน สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 02 -236-7040 หรือ
Facebook : WOLF co-working space
Comments
comments