ทดลองอ่าน ท่าน… จงถอยไปเสีย! บทที่ 3-4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ท่าน… จงถอยไปเสีย! บทที่ 3-4

หน้าที่แล้ว1 of 6

บทที่ 3

สำนักบูรพาเพียงแค่แขวนผ้าแพรแดงหลายแถบเป็นสัญลักษณ์ เจ้าหน้าที่กว่าร้อยคนแต่งตัวเต็มยศ ทั้งยังประดับดาบข้างเอว ยืนเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ เพียงเท่านี้ก็น่าเกรงขามกว่าองครักษ์เสื้อแพรเสียอีก

งานมงคลที่ไร้สาระและประหลาดงานหนึ่งถึงกับทำให้ทุกคนทั่วสำนักบูรพาฉายรังสีอำมหิตออกมาอย่างยากจะอธิบายได้

แมวกระดองเต่าในอ้อมกอดเหมือนจะรับรู้ถึงอันตราย มันโก่งตัวขึ้น หางแมวชี้ตั้งขนพองในพริบตา เซียวฉางหนิงอยากจะปลอบลูกแมวที่ได้รับความตกใจเช่นเดียวกับนาง แต่แมวตัวนั้นกลับร้อง “เหมียว” อย่างตกใจกลัวแล้วกระโดดออกจากอ้อมแขนของนาง วิ่งมุดเข้าพุ่มดอกไม้ด้านข้างหายไปอย่างไร้ร่องรอย…

“หู่พั่ว!” เซียวฉางหนิงเรียกเสียงเบา

จากนั้นมือใหญ่ที่ข้อกระดูกชัดเจนข้างหนึ่งก็ยื่นมาถึงตรงหน้าของนาง

เซียวฉางหนิงมองเลื่อนขึ้นบนไปตามมือใหญ่ข้างนั้น สิ่งที่ได้เห็นเป็นใบหน้าสง่างามสะดุดตาของเสิ่นเสวียน

เพราะสายตาของเสิ่นเสวียนคมกริบเกินไป ทั้งสุนัขดำตัวใหญ่ข้างกายยังแยกเขี้ยวอย่างน่ากลัว ถึงแม้เขาจะมีหน้าตาหล่อเหลาเพียงใด เซียวฉางหนิงยังคงรับรู้ถึงความกดดันราวกับจะขาดใจนั้นได้

เมื่อรับรู้ถึงสายตาของทุกคนที่มารวมอยู่ที่ตนเอง เซียวฉางหนิงก็สูดลมหายใจลึกหลายที ไม่สนใจจะตามหาแมวแล้ว จากนั้นก็ยื่นมือตนเองวางลงบนฝ่ามือของเสิ่นเสวียนอย่างหวาดหวั่น

ทว่าต่างกับใบหน้าโอหังเย็นกระด้างของเสิ่นเสวียน ฝ่ามือของเขากลับอบอุ่นและมั่นคงอย่างยิ่ง

“องค์หญิงใหญ่กับกระหม่อมไม่มีญาติพี่น้อง งานฉลองแต่งงานจึงจัดอย่างเรียบง่าย ประเดี๋ยวจะส่งท่านไปที่ห้องหอเลย” เสิ่นเสวียนพูดเช่นนี้แล้วจูงมือเซียวฉางหนิงก้าวเดินไปบนพรมแดง

“ไม่ ช้าก่อน…”

เซียวฉางหนิงยังพูดไม่จบ คนในสำนักบูรพาคนหนึ่งที่ไม่รู้ว่าปรากฏตัวมาจากที่ใดก็คุกเข่ารายงานเสิ่นเสวียนว่า “ใต้เท้าผู้บัญชาการ คนทรยศนั่นไม่ยอมสารภาพ จะจัดการอย่างไรดีขอรับ”

ฝีก้าวของเสิ่นเสวียนไม่มีทีท่าจะหยุดแม้แต่น้อย น้ำเสียงเย็นชาแฝงไอสังหารเอาไว้ “ทำตามกฎระเบียบ จุดโคมลอย”

‘โคมลอย’ ที่ว่านี้คือการลงโทษทารุณอย่างหนึ่งที่สำนักบูรพาใช้เป็นประจำ โดยถอดเสื้อผ้าของนักโทษออกหมด พันแถบผ้าที่ชุบน้ำมันเชื้อเพลิงไว้ทั่วตัวตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า หลังจากพันจนกลายเป็น ‘ขนมจ้างมนุษย์’ แล้วแขวนไว้บนคานไม้สูงก็จะจุดไฟที่ปลายเท้าและศีรษะ เปลวไฟลอยขึ้นสูงเพราะผลจากน้ำมันเชื้อเพลิง ตามด้วยเสียงร้องโหยหวนของผู้ที่ถูกเผา สิ่งนี้ถือเป็นการ ‘จุดโคมลอย’…

เซียวฉางหนิงปลายนิ้วสั่นเทา

เนื่องจากนางไม่ได้กินอาหารมาทั้งวัน กอปรกับตกใจหวาดกลัว และบังเอิญอยู่ในสถานการณ์ที่ผู้บัญชาการสำนักบูรพาที่ร้ายกาจเลื่องชื่อตัดสินจัดการคนทรยศอีก ภาพตรงหน้าของนางมืดดำ เดินโอนเอนไปข้างหน้าหนึ่งก้าว

เสิ่นเสวียนประคองนางไว้ตามสัญชาตญาณ

“องค์หญิงใหญ่เพคะ! องค์หญิงใหญ่!” ข้างหูมีเสียงสะอื้นไห้เบาๆ ของเหล่านางกำนัลดังลอยมา “ฮือๆ องค์หญิงหมดสติไปแล้ว…”

แท้จริงแล้วเซียวฉางหนิงเพียงแค่หน้ามืดไปชั่วขณะเท่านั้น แต่นางกลับปล่อยเลยตามเลย แสร้งทำเป็นยังไม่ได้สติ

เป็นเพราะสำนักบูรพานี้มีชื่อเสียงเลวร้ายเกินไป ในขณะที่ยังไม่รู้เบื้องลึกและนิสัยของอีกฝ่ายชัดเจน เซียวฉางหนิงไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะเผชิญหน้ากับเสิ่นเสวียนเช่นไร จึงเลือกที่จะแสร้งหมดสติ ต่อให้จุดเหรินจง จะถูกกดจนแทบช้ำแล้วนางยังคงอดกลั้นความเจ็บไม่ร้องสักนิด

เหนือศีรษะมีเสียงหัวเราะอ่อนโยนของฟางอู๋จิ้งดังลอยมา “ใต้เท้าผู้บัญชาการ บอกแล้วว่าภรรยาตัวน้อยของท่านผู้นี้ขี้กลัวยิ่ง”

“ถอยไป” เสิ่นเสวียนออกคำสั่ง

จากนั้นเซียวฉางหนิงพลันรู้สึกว่าร่างกายของตนเองลอยขึ้นกลางอากาศ ยังไม่ทันคิดอะไรละเอียดก็ตกไปอยู่ในอ้อมกอดแข็งแรงอบอุ่นแล้ว

“!!!” เซียวฉางหนิงตื่นตกใจ เสิ่นเสวียน? เขาจะทำอันใด!

เสิ่นเสวียนอุ้มตัวเซียวฉางหนิงเดินไปทางห้องหอด้วยสีหน้าราบเรียบราวผืนน้ำ แต่ฟางอู๋จิ้งและเหล่าเจ้าหน้าที่สำนักบูรพายังคงปรบมือโห่ร้อง ปากก็ตะโกนว่า “ใต้เท้าผู้บัญชาการช่างองอาจ!”

เซียวฉางหนิงกลั้นหายใจ รู้สึกเพียงหัวใจทั้งดวงเต้นเร็วดั่งรัวกลองเพราะความหวาดกลัวตื่นเต้น แทบจะเต้นทะลุอกอยู่แล้ว ภายใต้ม่านพู่ทองของมงกุฎหงส์ ใบหน้าของนางซีดขาวสลับแดงเรื่อ ขนตาสั่นไหวเบาๆ นางแสร้งหมดสติจนอกสั่นขวัญแขวน กลัวเพียงว่าจะถูกผู้บัญชาการเสิ่นที่อุ้มนางอยู่จะมองเห็นพิรุธ

เสิ่นเสวียนอุ้มนางตรงเข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยผ้าแพรแดงอักษรมงคล จากนั้นก็มีขันทีผู้หนึ่งเอ่ยถามความเห็นว่า “ใต้เท้าผู้บัญชาการจะเชิญหมอหลวงมาหรือไม่ขอรับ”

“ไม่จำเป็น ข้าดูแลเองได้” เสิ่นเสวียนตอบเด็ดขาดยิ่ง ระหว่างที่พูดก็ใช้เท้าเตะเปิดประตูห้อง วางตัวเซียวฉางหนิงนอนราบบนเตียงที่ปูผ้าห่มมงคลแล้วพูดสั่งการว่า “ตักน้ำเย็นมาหนึ่งอ่าง”

น้ำเย็น?!

เซียวฉางหนิงรู้ว่าหากเป็นคนที่ทนไม่ไหวหมดสติไประหว่างการลงทัณฑ์จะใช้น้ำเย็นราดให้ฟื้น!

ไม่ได้นะ! ชุดเจ้าสาวที่ข้าเตรียมไว้อย่างประณีตเป็นเวลานาน จะให้เสียหายด้วยน้ำเย็นหนึ่งอ่างไม่ได้…

หน้าที่แล้ว1 of 6

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 4-6

    By

    บทที่ 4 แป้งชาด ตอนตี้อีชิวกลับถึงกองเสวียนอู่ก็เป็นยามอิ๋นแล้ว ถึงอย่างไรท้องฟ้าก็กำลังจะสว่าง เขาจึงมิได้นอนอีก ตัดสินใจไปอ่านเอกสารที่ห้อ...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 1-3

    By

    บทที่ 1 แค้นเก่า หวงหร่างกลายเป็นเผือกร้อนหัวหนึ่ง ผู้เก่งกล้าจากสำนักเซียนหลายคนฝ่าฟันอันตรายลักพาตัวนางออกมาด้วยความยากลำบากเหลือแสน เดิมท...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน บทที่ 1.5-1.6

    By

    บทที่ 1.5 นกกระเรียนบาดเจ็บกับดอกฝูหรง ยามนี้ในห้องลงทัณฑ์เงียบสงัดราวกับไร้คนมีชีวิต ความเจ็บปวดแสนสาหัสที่ยากจะทานทนเมื่อครู่เริ่มสงบลงแล้...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน บทที่ 1.3-1.4

    By

    บทที่ 1.3 นกกระเรียนบาดเจ็บกับดอกฝูหรง หลังจากหิมะตกในยามค่ำคืน วันถัดมาที่หนานไห่จื่อก็ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน ผู้ดูแลเอามือป้องตาพลางเปิ...

  • ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน

    ทดลองอ่าน ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน บทนำ-บทที่ 1.2

    By

    บทนำ บนโลกนี้มีการเดินทางข้ามกาลเวลาที่สมบูรณ์แบบอยู่หรือไม่ น่าจะมีอยู่ หยางหวั่นก็คือคนโชคดีที่ได้เดินทางข้ามกาลเวลาครั้งนี้ หลายคนต่างบอก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 7-8

    By

    บทที่ 7 หูซื่อหลังส่งจางมามาไปแล้วก็มีท่าทางเซื่องซึม แต่ตอนที่หันกลับมาเห็นบุตรสาวก็ฝืนทำเป็นยิ้มร่าเริง กระตุ้นให้ตนเองฮึกเหิมแล้วไปล้างปล...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ตามที่บทละครเขียนไว้แขวนโคมแดงคือการเปิดประตูเรือนทำงานเป็นนางคณิกา แม้หูซื่อจะทำเช่นนี้จริงๆ ยามจวนตัว แต่คำพูดนี้พอออกมาจากปากบุตร...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 1-2

บทที่ 1 อู๋เซี่ยวเซี่ยวไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตนเองที่เป็นผู้จัดการดารามือทองมากประสบการณ์จะถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 5-6

บทที่ 5 ตามที่บทละครเขียนไว้แขวนโคมแดงคือการเปิดประตูเรือนทำงานเป็นนางคณิกา แม้หูซื่อจะทำเช่นนี้จริงๆ ยามจวนตัว แต่คำพูด...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 3-4

บทที่ 3 อู๋เซี่ยวเซี่ยวเปิดกระจกรถเล็กน้อยด้วยสีหน้าเรียบเฉย ให้กลิ่นค่อยๆ ระบายออกไป จากนั้นสตาร์ตรถ เหยียบคันเร่งขับรถ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 7-8

บทที่ 7 หูซื่อหลังส่งจางมามาไปแล้วก็มีท่าทางเซื่องซึม แต่ตอนที่หันกลับมาเห็นบุตรสาวก็ฝืนทำเป็นยิ้มร่าเริง กระตุ้นให้ตนเอ...

community.jamsai.com