X
    Categories: LOVEทดลองอ่านปรารถนา... เพียงแค่คุณ ชุด Wishing You ด้วยรัก... และปรารถนา

ทดลองอ่าน ปรารถนา… เพียงแค่คุณ ชุด Wishing You ด้วยรัก… และปรารถนา บทที่ 4

หน้าที่แล้ว1 of 5

บทที่ 4

เอลิซซ่ามีกำหนดการในการเดินทางเจ็ดวันหกคืน

เช้าวันนี้นับเป็นวันที่สองซึ่งในตารางการเดินทางคือเรือจะล่องอยู่บนน่านน้ำสากลและจะไปเทียบท่าที่ปีนัง ประเทศมาเลเซียในเช้าวันรุ่งขึ้น

ร่างบางสมส่วนทาครีมกันแดดแบบละเมียดละไมที่สุด เธอเป็นคนผิวละเอียดแต่คล้ำง่าย

‘สีผิวสเป็กฝรั่ง’

ใครๆ ก็บอกแบบนั้น เธอได้แต่ตอบกลับไปว่าฝรั่งก็สเป็กเธอ

แต่จนแล้วจนรอดกาลเวลาก็ยังไม่มีโอกาสได้ลงเอยกับ ‘ฝรั่ง’ คนไหน ใช่ว่าไม่มีใครเข้ามา เธอพบเจอชาวต่างชาติหลากหลายชาติพันธุ์จากการเดินทางท่องเที่ยว แน่นอนว่าพิมพ์ฝรั่งนิยมอย่างเธอย่อมมีหนุ่มๆ มาตามจีบเป็นธรรมดา แต่เพราะเธอเรื่องมากเอง สุดท้ายจึงได้แค่คุยแล้วห่างหายกันไป

การมีคู่ชีวิตสวนทางกับสิ่งที่เป็นอุดมการณ์ของเธอ เมื่อมีครอบครัวจะไปเที่ยวไหนตามใจตัวเองแบบเดิมไม่ได้อีก ฉะนั้นกาลเวลาจึงคิดว่าเธอเหมาะกับการเป็นโสดมากกว่า อย่างน้อยก็ช่วงสามสี่ปีนี้ เธอจะได้เที่ยวอย่างสบายใจ

เมื่อทาครีมกันแดดเรียบร้อยแล้ว กาลเวลาก็คว้าชุดว่ายน้ำมาสวม ชุดว่ายน้ำของเธอเป็นทูพีซบราสีกรม กางเกงว่ายน้ำเป็นลายตารางเล็กๆ สีดำสลับขาว ให้ความรู้สึกสปอร์ตมากกว่าเซ็กซี่

วันนี้กาลเวลาวางแผนว่าจะลงไปว่ายน้ำเล่นที่ชั้นสิบเอ็ดซึ่งเป็นพื้นที่สระว่ายน้ำและมีกิจกรรมทางน้ำสำหรับคนที่ชอบความตื่นเต้นท้าทาย กาลเวลาพิสมัยกิจกรรมพวกนี้อยู่เหมือนกัน แต่เพราะมาคนเดียวเธอคิดว่าคงไม่สนุกสักเท่าไหร่ ดังนั้นเธอจึงหยิบหนังสือท่องเที่ยวแนวใหม่ของนักเขียนชื่อดังอย่าง ‘เถื่อนแปด’ ของวรรณสิงห์ ประเสริฐกุลติดมือมาด้วยหลังจากซื้อไว้นานหลายเดือนและปล่อยให้มันนอนนิ่งอยู่ในกระเป๋าเกือบทุกทริป

เธอตัดใจจากกล้องที่ถูกยึดไปเพราะถึงอย่างไรเธอก็ไม่มีแก่ใจจะทำงานอีกแล้ว อีกอย่างเธอก็สัญญากับตัวเองไว้ด้วยว่าเธอจะไม่ให้เครดิตอะไรกับเรือลำนี้ในเพจของตัวเองเด็ดขาด

เอลิซซ่า ครูซคงกลายเป็นฝันร้ายสำหรับเธอ

กาลเวลาบอกกับตัวเองแบบนั้น โดยไม่รู้เลยว่า ‘ฝันร้าย’ ของจริงยังไม่ได้เกิดขึ้น ไม่ใกล้เลยสักนิด

 

ในห้องนอนขนาดใหญ่บนเรือเอลิซซ่า ครูซ แดนนี่ เฉินกำลังนั่งดูภาพจากกล้องถ่ายรูปอย่างเงียบเชียบ ปาริธเดินเข้ามาพร้อมกับเอกสารของฝ่ายการเงิน

“คุณแดนนี่ครับ มีเอกสารต้องเซ็นสองฉบับ”

“อือ” แดนนี่ตอบสั้นๆ แต่สายตายังไม่ละจากสิ่งที่อยู่ในมือ

“กล้องใครครับนั่น” ปาริธถามเพราะปกติไม่เคยเห็นเจ้านายสนใจอะไรพวกนี้

“กล้องของยายบล็อกเกอร์จอมพูดมากนั่นแหละ”

ปาริธนิ่วหน้า ก่อนค่อยๆ คลายยิ้ม “นี่คุณแดนนี่พบกับคุณกาลเวลาอีกแล้วเหรอครับ”

“แปลกหรือไง”

“เธอไม่อยากเสวนากับคุณ เพราะเธอไม่ชอบหน้าคุณเท่าไหร่ เรียกว่าเหม็นหน้าเลยก็ได้” ปาริธพูดลอยๆ แต่กระทบใจเจ้านายมากพอให้ชายหนุ่มหันมามองด้วยแววตาไม่สบอารมณ์ “ขอโทษครับ”

“ฉันยึดของเธอมา”

“หือ?”

“ฉันแค่ไม่ไว้ใจ ไม่อยากให้มีภาพข่าวเกี่ยวกับพริมหลุดออกไป”

“แต่คุณพริมเป็นคนของสังคม เธอเลี่ยงเรื่องแบบนี้ไม่ได้อยู่แล้วนี่ครับ”

“ก็จริง แต่อย่างน้อยก็ไม่ใช่ข่าวที่หลุดออกไปจากเรือลำนี้”

ปาริธพยักหน้าเข้าใจ แดนนี่ เฉินไม่มีหัวใจ เขาขายมันแลกกับชีวิตที่ได้ทุกอย่างตามต้องการ

ก่อนหน้านี้แดนนี่เป็นนักธุรกิจผู้ร่ำรวยแห่งเกาะฮ่องกง แม้เลือดในกายส่วนหนึ่งจะเป็นคนไทย แต่เขาก็ไม่เคยถูกกล่าวถึงในสังคมที่นั่น ดังนั้นเมื่อชายหนุ่มต้องการเปิดตัวธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อหนึ่งในไทย เขาจึงได้ทำความรู้จักกับพริมาซึ่งเป็นดาราดังและเพียงระยะเวลาไม่นาน ชื่อของแดนนี่ เฉินก็ติดหูคนไทยอย่างง่ายดาย

นั่นเป็นเพียงยุทธวิธีหนึ่งทางธุรกิจ และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ต้องสละเรือ เพราะมีลำใหม่รอเขาอยู่ข้างหน้าอีกหลายลำ

“แล้วในกล้องนี้มีภาพคุณพริมามั้ยครับ”

แดนนี่มองกล้องแล้วส่ายหน้าปฏิเสธ กล้องของกาลเวลาบันทึกแค่ภาพบนเรือลำนี้และภาพถ่ายตัวเอง เป็นครั้งแรกที่แดนนี่หยุดดูรูปใครสักคนได้นานขนาดนี้ เพราะในเมมโมรี่การ์ดที่มีภาพถ่ายราวหกสิบกว่ารูป เขาเลื่อนมาจนหยุดที่ภาพหญิงสาวเจ้าของกล้องตัวนี้

โครงหน้าเรียวได้รูป ผิวเนียนละเอียดสีน้ำผึ้ง รอยยิ้มกระจ่างสดใสไปถึงดวงตา

เขาไม่อยากยอมรับว่าเธอสวย เพราะในชีวิตเขาผ่านผู้หญิงสวยกว่านี้มานับร้อยนับพัน แต่กระนั้นเขาก็ไม่เคยหยุดสายตาที่ใครได้นานเท่านี้มาก่อนเลย

“เธอน่ารักนะครับ” ปาริธถือวิสาสะยื่นหน้ามามองภาพบนจอกล้องที่เจ้านายมองไม่ละสายตา

แดนนี่รีบเบือนหน้าจากภาพถ่ายนั้นอย่างรวดเร็ว และแม้ว่าจะถูกลูกน้องจับได้ว่าเขาจ้องภาพหญิงสาวนานเกินไปแต่ชายหนุ่มก็ยังคงเก๊กหน้าขรึมได้ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ไม่มี นายช่วยเอากล้องนี้ไปคืนเธอหน่อยก็แล้วกันนะ” แดนนี่ส่งให้คนที่ยืนทำตาใส

“แล้วเธอจะไม่แหกอกผมเหรอครับ”

“แหกอกทำไม”

“ก็คุณแดนนี่เป็นคนเอากล้องเธอมา ในเมื่อตรวจดูแล้วไม่มีอะไร คุณก็น่าจะเอาไปคืนเธอด้วยตัวเอง เพื่อ…” ปาริธเว้นจังหวะครู่หนึ่ง “…จะได้ขอโทษเธอด้วยไงครับ”

“ขอโทษเหรอ ไม่จำเป็นหรอกมั้ง” แดนนี่ปฏิเสธ ถึงแม้ว่าเขามีความผิดในเรื่องนี้เต็มๆ แต่เขาไม่สนใจขอโทษใคร เพราะไม่แคร์ว่าใครจะคิดอย่างไร จริงอยู่ เจ้าของกล้องตัวนี้อาจเกลียดเขา เหม็นหน้าอย่างที่ปาริธว่า

แต่ใครจะสนกัน

ปาริธมองคนที่วางกล้องไว้บนโต๊ะแล้วหยิบเอกสารที่ต้องเซ็นมาอ่านอย่างตั้งใจ

“จำเป็นสิครับ เพราะถ้าจะว่าไปแล้ว คุณกาลเวลาเธอขึ้นเรือเราในฐานะลูกค้า เธอจ่ายเงินซื้อทัวร์ ต้องเจอเรื่องแบบนี้ คงเสียความรู้สึกมาก”

“งั้นนายก็มอบบัตรอาหารอาลาคาร์ตชั้นยี่สิบเอ็ดให้เธอด้วยแล้วกัน”

“เอางั้นเหรอครับ”

“ใช่! ไม่จำกัดวงเงิน ฟรีตลอดทั้งทริป”

กาลเวลายืนอึ้งอยู่เบื้องหน้าร่างสูงใหญ่ของปาริธ หลังจากชายหนุ่มแจ้งข่าวดียิ่งกว่าถูกหวยสองตัวท้ายสามใบรวดของรัฐบาลไทย

กาลเวลายอมรับว่าเธอโกรธแดนนี่ เฉินมาก โกรธจนแทบจะวิ่งไปบีบคอถ้าทำได้ แต่นับว่าเขายังมีสามัญสำนึกอยู่มากที่คืนกล้องให้เธอพร้อมมอบบัตรกำนัลอาหารแทนคำขอโทษ เพราะแน่นอนว่าคำขอโทษจากปากเขาไม่มีความหมายสำหรับเธอ ที่สำคัญไปกว่านั้น นับว่าเขายังมีสมองที่ไม่เอากล้องมาคืนเธอด้วยตัวเอง

เธอไม่อยากเจอหน้าเขา

“ฟรีตลอดทริปเลยเหรอคะ”

“ใช่ครับ”

“สั่งได้ทุกอย่าง ไม่อั้น ไม่จำกัดวงเงิน”

“ครับ”

“ปูอลาสก้า ปลาดิบ สเต๊กเนื้อพรีเมี่ยม ไข่ปลาคาเวียร์”

“ทุกอย่างเลยครับ” ปาริธยิ้มเอ็นดูเมื่อเห็นแววตาเป็นประกายของเธอ

“ดีค่ะ งั้นฉันรับคำขอโทษจากเจ้านายของคุณ ให้อภัยทุกอย่าง ไม่มีติดค้างสักนิดเดียว” กาลเวลารับบัตรจากชายตรงหน้ามามองตาวาว

“ผมคิดว่าคุณจะโกรธคุณแดนนี่จนไม่ยอมรับคำขอโทษแบบนี้แล้วเสียอีก”

“แหม! ความจริงก็เกลียดอยู่นะคะ แต่เห็นแก่ความฉลาดของเขาที่ขอโทษด้วยวิธีสร้างสรรค์ ฉันเลยยอมให้อภัยค่ะ”

“วิธีสร้างสรรค์?”

“ใช่ค่ะ”

ปาริธทำหน้าไม่ถูก เขามองหญิงสาวตรงหน้าก็เห็นว่ารูปร่างเธอสะโอดสะองไม่เหมือนคนที่เห็นแก่กินเลยสักนิด แต่ทำไมถึงได้ดูปลื้มอกปลื้มใจกับการได้รับบัตรกำนัลอาหารราคาแพงบนเรือ

“ดีครับ ผมจะเอาเรื่องนี้ไปแจ้งคุณแดนนี่ ท่านคงดีใจที่คุณชอบ”

“งั้นรบกวนช่วยบอกอีกอย่างได้มั้ยคะว่าไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้าเลยจะดีมาก ให้เขากระโดดลงเรือแล้วว่ายน้ำกลับฝั่งไปเลย”

“เอ่อ…” ปาริธพูดไม่ออก ถ้าขืนไปบอก เขาคิดว่ากาลเวลานั่นแหละที่อาจถูกจับโยนทิ้งทะเล

“ล้อเล่นค่ะ” หญิงสาวหัวเราะขันเมื่อเห็นว่าสีหน้าของฝ่ายตรงข้ามเผือดไป “ฉันไม่กล้าหาญชาญชัยขนาดนั้นหรอก”

“ครับ” ปาริธหัวเราะตาม เพราะคิดดูแล้วหากแดนนี่ เฉินกระโดดลงน้ำแล้วว่ายกลับฝั่งจริงๆ คงดูตลกพิลึก

“ขอโทษที่รบกวนเวลาชื่นมื่นนะครับ”

เสียงใครบางคนแทรกขึ้นทำให้กาลเวลาและปาริธต่างพากันหยุดหัวเราะ กาลเวลาจำได้ว่าเขาเป็นลูกน้องอีกคนของแดนนี่ เฉิน คนที่ร่วมมือกับปาริธลากเธอเข้าห้องวันก่อน

“คุณกาลเวลาครับ นี่หยางจงครับ” ปาริธแนะนำเพื่อนร่วมงานให้กาลเวลารู้จัก

“สวัสดีค่ะ คุณหยางจง” กาลเวลากล่าวชื่อเขาด้วยน้ำเสียงกระด้าง สายตาบ่งบอกว่ายังไม่หายเคือง

“ครับคุณกาลเวลา ชื่อเพราะจังเลยนะครับ” หยางจงยิ้มบาง

กาลเวลาสังเกตว่าหยางจงนั้นมีใบหน้าที่เครียดขรึมกว่าปาริธมาก บุคลิกนิ่งๆ ดูลึกลับแฝงไปด้วยความน่ากลัว

“จริงๆ พวกคุณเรียกฉันว่า ‘เว’ ก็ได้ค่ะ ฉันไม่ถือ เพราะเรียกชื่อเต็มแล้วมันจั๊กจี้” ถึงจะเกร็งๆ กับหยางจงอยู่บ้าง แต่เธอก็ยังใจกล้าพอที่จะพูดเล่นกับคนทั้งสอง

และเป็นไปตามคาด หยางจงไม่พูดอะไรสักคำ ขณะที่ปาริธยิ้มกระจ่าง

“ดีครับคุณเว ผมว่าดูสนิทกันดี คุณเวเรียกผมว่าริธก็ได้ครับ”

“อ่ะแฮ่ม” หยางจงกระแอมขัดจังหวะเพื่อนที่ทำท่ากะลิ้มกะเหลี่ย “ไปได้แล้ว คุณแดนนี่รออยู่ ขอตัวนะครับคุณเว”

หยางจงลากปาริธออกไปทันที กาลเวลามองตามอย่างงุนงง คนพวกนี้ไม่คิดจะทำตัวให้เหมือนคนปกติเลยหรือไง ทั้งเจ้านายทั้งลูกน้อง ไปไหนมาไหนผลุบๆ โผล่ๆ

จะอะไรก็ช่างเถอะ ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าบัตรวีไอพีในมือเธออีกแล้ว

 

เซียร์ทูน่าต้มยำกับซอสมะขาม อกเป็ดเซียร์เสิร์ฟพร้อมตับห่าน สเต๊กเนื้อโกเบ

กาลเวลาพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่แสดงความดีใจจนออกนอกหน้าเมื่ออาหารมาเสิร์ฟครบทุกจาน แต่กระนั้นรอยยิ้มก็ยังกระจ่างชัดจนพนักงานเสิร์ฟเห็นแล้วยังมองอย่างงุนงง

คิดคำนวณดูแล้วอาหารมื้อนี้ราคาเฉียดๆ ครึ่งหนึ่งของโทรศัพท์มือถือเธอที่ถูกโยนลงน้ำไป ฉะนั้นกว่าจะถึงวันกลับเธอคิดว่าคงได้กำไร

หญิงสาวไม่ลืมเก็บภาพอาหารบนโต๊ะ เธอวางแว่นกันแดดของลูกค้าลงบนโต๊ะในองศาที่สวยงามและกดชัตเตอร์ ทว่าอยู่ดีๆ บรรยากาศอันแสนอภิรมย์ก็มีอันต้องสะดุดเมื่อสายตาเธอดันไปปะทะเข้ากับภาพบางอย่าง

พริมา

กาลเวลาเกือบพ่นลมหายใจออกมา เรือลำนี้ออกจะกว้างใหญ่ไพศาล จุคนได้ตั้งห้าพันคน แต่ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้เจอแต่คนที่ไม่อยากเจอ

หญิงสาวหรี่ตาลงเพื่อมองให้แน่ใจว่าคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับพริมาเป็นใคร แวบแรกเธอคิดว่าเป็นแดนนี่ เฉิน แต่เมื่อมองดีๆ แล้วพบว่าไหล่ของชายผู้นี้ลู่ลงต่างจากแดนนี่ ไหล่ของเขากว้างตั้งตรงสง่าผ่าเผย

จากจุดที่เธอนั่งไกลเกินกว่าจะได้ยินบทสนทนาของคนทั้งคู่ แต่เธอก็จับสีหน้าได้ว่าการสนทนาคงจะรื่นเริงพอดู เพราะใบหน้าทั้งสองคนกระจ่างไปด้วยรอยยิ้ม

ถ้าแดนนี่มาเห็นคงหึงตะพึดตะพือแน่ กาลเวลาคิดแล้วได้แต่ส่ายศีรษะไปมา คงไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้ามานั่งจู๋จี๋กับผู้ชายคนอื่นบนเรือของแฟนตัวเองหรอก

พรวด!

“แค่กๆ”

กาลเวลาสำลักน้ำหน้าดำหน้าแดง เพราะขณะที่กำลังยกน้ำขึ้นดื่มเธอเห็นว่าพริมากับหนุ่มปริศนากำลังกุมมือกันแล้วสบตาอย่างหวานซึ้ง

“OMG”

อาหารราคาแพงกลายเป็นมื้อที่แสนพะอืดพะอม

กาลเวลาไม่ได้มีความหลังฝังใจเรื่องความรักแต่อย่างใด แต่เธอรู้สึกอยากอาเจียนทุกครั้งที่ดันไปรู้ไปเห็นพฤติกรรมการนอกใจของใครเข้า

เธอไม่ได้รู้จักพริมาและแดนนี่ เฉินมาก่อน ไม่ได้สนิทสนมเป็นการส่วนตัว ออกจะเกลียดไม่อยากเจอเสียด้วยซ้ำ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าพริมาช่างใจร้ายเหลือ นอกใจยังไม่พอ ดันมานั่งจู๋จี๋กับผู้ชายอยู่ใกล้แค่ปลายจมูกแดนนี่

“อาหารไม่อร่อยเหรอคุณ คิ้วถึงได้ยับขนาดนั้น”

กาลเวลาสะดุ้งตัวโยนเพราะกำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิด แล้วยิ่งตกใจหนักขึ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าชายผู้ยืนอยู่ตรงหน้าเธอเป็นใคร

“คุณ”

“ทำไมต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นด้วย”

จะไม่ให้ตกใจได้ไง นี่เขาเห็นหรือยังนะว่าแฟนตัวเองกำลังจับมืออยู่กับผู้ชายคนอื่น

น่าจะยัง…

เพราะถ้าเห็นแล้วคงไม่มายืนคุยกับเธออยู่ตรงนี้แน่ และเขาก็ไม่ควรได้เห็นด้วย

หรือว่าควร…

“คุณ!” แดนนี่เรียกหญิงสาวอีกครั้ง เพราะเห็นว่าเธอยังมองจ้องเขาตาไม่กะพริบ

“เอ่อ! คุณกำลังจะไปไหนคะ” กาลเวลาถามก่อนจะรู้สึกอยากตบปากตัวเองสิบครั้ง เธอมีสิทธิ์อะไรไปถามเขาเรื่องนั้นกัน

“ผมเหรอ” แดนนี่ยิ่งงงหนักกับท่าทีอันแปลกพิลึกของเธอ กาลเวลาเป็นคนประหลาด เขาพบเธอกี่ครั้งเธอไม่เคยเป็นปกติอย่างผู้หญิงคนอื่นเลย

“ฉันถามไปงั้นเองแหละคุณ ไม่ได้อยากรู้อะไรหรอก”

แต่อย่าเดินไปทางห้องอาหารก็แล้วกัน…

“ขอบคุณนะคะ สำหรับอาหารอร่อยๆ” หากเป็นก่อนหน้านี้เธอคงไม่เสียเวลาคุยกับเขาสักนิด แต่เห็นแก่ชะตาความรักของเขาที่ช่างน่าสงสาร เธอจะยอมลืมความบาดหมางที่ผ่านมา

ใบหน้าหล่อเหลาปรากฏรอยยิ้มจางๆ วูบหนึ่ง ก่อนจะเลือนหายไปอย่างรวดเร็วจนกาลเวลาไม่แน่ใจว่านั่นเรียกยิ้มหรือเปล่า

“ผมต้องขอโทษคุณเหมือนกัน เรื่องกล้อง ส่วนโทรศัพท์ของคุณที่พริมโยนลงน้ำไปผมจะรับผิดชอบให้”

กาลเวลาอึ้งเพราะไม่คิดว่าเขาจะรู้เรื่องโทรศัพท์ของเธอ แต่คิดไปแล้ว บนเรือนี้คงไม่มีเรื่องไหนที่เขาไม่รู้

“คุณไม่ต้องรับผิดชอบแทนหรอกค่ะ คุณไม่ได้เป็นคนทำ”

“ไม่เป็นไร ผมคิดว่าผมควรรับผิดชอบเรื่องนี้”

กาลเวลาสะท้อนใจ เขาออกตัวรับผิดชอบความผิดแทนคนรัก แต่เจ้าตัวกลับไปนั่งพลอดรักกับผู้ชายคนอื่น

แดนนี่ เฉินพลาดตรงไหนกันนะ ทั้งหล่อ ทั้งรวย คนรักยังคิดนอกใจได้

“ถ้าคุณจ้องผมอีกนาทีเดียว ผมจะคิดเงินละนะ” แดนนี่อดทนไม่ไหว ถึงนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาตกเป็นเป้าสายตา แต่กาลเวลาก็เป็นคนแรกที่ทำให้เขารู้สึกประหม่า

กาลเวลารีบหันไปมองทางอื่น เธอหมกมุ่นมากเกินไปจริงๆ นี่ไม่ใช่เรื่องของเธอ ไม่จำเป็นต้องอินขนาดนี้ก็ได้มั้ง

“งกแบบนี้ไง ถึงว่าร้วยรวย” เธอบ่นลอยๆ แก้เก้อ

แดนนี่หัวเราะในลำคอ ก่อนทุกอย่างจะตกอยู่ในความเงียบ ระยะเวลาสั้นๆ แต่แสนยาวนาน และเป็นแดนนี่ที่เอ่ยขึ้นมาก่อน

“ผมชอบรูปถ่ายของคุณนะ”

กาลเวลาหันมามองคนพูดและทำให้ประสานสายตาเข้ากับเขาพอดี ในดวงตาสีเข้มนั้นเปล่งประกายระยิบระยับ มันทำให้ใจเธอหวิวอย่างไร้เหตุผล สาบานได้ว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่หวั่นไหวกับผู้ชายง่ายๆ

แต่ทำไมกับเขาเธอถึงได้ใจเต้นแรงแบบนี้นะ

 

โปรดติดตามตอนต่อไป

หน้าที่แล้ว1 of 5

Comments

comments

No tags for this post.
Jamsai Editor: