X
    Categories: LOVEทดลองอ่านเจ้าบ่าวขบวนสุดท้าย

ทดลองอ่าน เจ้าบ่าวขบวนสุดท้าย บทที่ 3

หน้าที่แล้ว1 of 3

บทที่ 3

รักนะ แต่ไม่แสดงออก

วิทยาเลิกคิ้วสูงเมื่อเห็นเรือนร่างสูงราวร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรนั่งรออยู่ตรงป้ายรถเมล์หน้าสถานีรถไฟกรุงโซลหรือโซลสเตชั่นซึ่งเป็นศูนย์รวมการคมนาคมในกรุงโซล มีท่ารถเมล์ รถไฟ และห้างสรรพสินค้าอยู่ในบริเวณเดียวกัน ท่าทางเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าและดวงหน้าแดงก่ำเหมือนคนเพิ่งออกกำลังกายมาหมาดๆ สร้างความแปลกใจให้ลูกน้องไม่น้อย

“มาอยู่ที่โซลสเตชั่นได้ยังไงครับท่านรอง”

“ฉันเดินมา”

“เดินมา?! จากนัมซานมาโซลสเตชั่นไม่ใช่ใกล้ๆ เลยนะครับ”

“ฉันอยากเดินเล่นไม่ได้รึไง”

หัวคิ้วของวิทยาย่นเข้าหากัน ขนาดจะข้ามถนนไปยังห้างสรรพสินค้าฝั่งตรงข้ามเจ้านายยังให้อ้อมรถไปเลย ประสาอะไรกับ ‘เดินเล่น’ จากนัมซานทาวเวอร์มาถึงโซลสเตชั่น

“เร่งแอร์ด้วย ฉันร้อน!”

ผู้เป็นเจ้านายกระแทกเสียงพลางถอดเสื้อแจ็กเก็ตและสเว็ตเตอร์ชุ่มเหงื่อออก เหลือเพียงเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนสีเข้ม ก่อนเหลียวกลับไปมองห้างสรรพสินค้าซึ่งหญิงสาวคนนั้นเดินเข้าไปช็อปปิ้งโดยเธอไม่รู้แม้แต่น้อยว่าเธอเป็นสาเหตุให้เขาเหงื่อตก หึ!

คิดแล้วมันหงุดหงิดนัก แทนที่ลงบันไดมาถึงชั้นล่างแล้วหญิงสาวจะเรียกแท็กซี่ กลับเดินทอดน่องเรื่อยเปื่อยจนเกือบจะตกฟุตปาธ ดีที่รถคันข้างหลังเบรกไว้ทัน ไม่งั้นป่านนี้เธอคงแบนติดล้อรถบัสไปแล้ว

“คืนนี้จองร้านเดิมให้ด้วย ฉันจะฉลองวันเกิดกับสาวๆ หามาสักสิบคนแล้วกัน”

“ครับท่านรอง เอ่อ…เมื่อสักครู่ท่านประธานโทรมา ท่านให้ท่านรองโทรกลับด้วยครับ”

ฉายพ่นลมหายใจแรงๆ

“ฉันโทรไปอาจจะกวนเวลาพ่อกับเมียน้อยพ่อน่ะสิ”

วิทยาลอบถอนหายใจ ทุกครั้งที่เจ้านายเอ่ยถึงบิดาก็มักค่อนขอดถึงบรรดาเมียน้อยของท่านเสมอ เขาเป็นเพียงลูกน้องตัวเล็กๆ จะกล้าแย้งอะไรได้ นอกจากตัดบท

“ท่านรองจะกลับวันไหนครับ ท่านประธานให้ถาม”

“อีกหลายวัน ฉันจะรอเจอแม่ อ้อ แกห้ามบอกพ่อนะว่าแม่ไม่อยู่”

“ผมไม่ได้พูดครับ”

วิทยารู้จักและทำงานใกล้ชิดฉายมาเป็นสิบปี นอกจากความสามารถแล้ว การเก็บความลับเก่งคืออีกเหตุผลที่อดีตประธานใหญ่ผู้ล่วงลับเลือกวิทยามาดูแลหลานชายหัวแก้วหัวแหวน เขารู้ดีว่าไม่ควรพาดพิงให้สุมาลีดูย่ำแย่ในสายตาท่านประธาน เพราะเจ้านายยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจให้พ่อแม่กลับมาคืนดีกัน

“ถ้าพ่อโทรมาอีก แกโม้ไปเลยนะว่าฉันมีความสุขมาก แม่ทำแต่ของโปรดให้ฉันกิน เข้าใจไหมวิทยา”

“ครับ ที่จริงท่านรองน่าจะโทรไปหาท่านประธานหน่อยนะครับ ท่านคงอยากอวยพรวันเกิด”

แต่ฉายกลับส่งเสียงจึ้กจั้กอย่างหงุดหงิด

“อย่าลืมสิครับ อดีตท่านประธานสั่งเสียให้ท่านรองคอยเป็นหูเป็นตาไม่ให้สองแม่ลูกเป่าหูท่านประธาน”

“รู้แล้วน่า ฉันถึงไม่ยอมย้ายออกจากบ้านถาวร เพราะอยากเป็นก้างขวางคอพวกมันเล่นไงล่ะ”

นัยน์ตาคมดุเปล่งประกายกร้าวก่อนสั่งเสียงเข้ม

“ต่อสายพ่อให้หน่อย”

วิทยาจัดแจงทำตามคำสั่งก่อนส่งมือถือให้ท่านรองหน้าหวาน แล้วปรายตามองผ่านกระจกมองหลัง

ชายหนุ่มมีเครื่องหน้านุ่มนวลอ่อนหวานซึ่งได้รับถ่ายทอดพันธุกรรมนี้มาจากผู้เป็นแม่ ขณะที่แววตาคมกริบและเรือนกายสูงใหญ่ได้รับตกทอดจากผู้เป็นพ่อ ส่วนผสมดังกล่าวทำให้ฉายเป็นหนุ่มฮอตที่สาวน้อยสาวใหญ่ถูกตาต้องใจ บางรายถึงขึ้นเสนอแพ็กเกจ

‘กินฟรีไม่มีลิมิต’

แต่บังเอิญเจ้านายของเขาดันขี้เบื่อก็เลยไม่เคยคบผู้หญิงรายไหนเกินหนึ่งเดือน ภาพลักษณ์ของฉายจึงหนีไม่พ้นหนุ่มเนื้อหอมจอมอื้อฉาวฉายา ‘คาสโนว่าหน้าหวาน’ แต่ฉายกลับไม่คิดแก้ข่าว ปล่อยให้โลโก้นี้ประทับตราเขาไว้อย่างไม่ยี่หระ

เพอร์เฟ็กต์ครบเครื่องแบบนี้แต่หนุ่มเนื้อหอมกลับมีปมเรื่องบ้านแตก ประสบการณ์ในอดีตหล่อหลอมให้ท่านรองตีสองหน้าเก่งและชื่นชอบการเอาชนะเป็นที่สุด ตั้งแต่พ่อแม่เลิกกัน ฉายก็เรียกคะแนนความสงสารจากเชาว์ อดีตท่านประธานหรือคุณปู่ให้เทไปยังสุมาลีได้มากโข

ลือกันว่าสุมาลีได้ทรัพย์สินจากการหย่าร้างหลายร้อยล้านบาท แม้หย่าร้างแล้วแต่สุมาลีกลับไม่เคยขาดการติดต่อพ่ออดีตสามีและลูกชาย เธอแวะมาหาท่านทุกเทศกาลสำคัญและโทรศัพท์มาพูดคุยให้ท่านสบายใจเป็นประจำ ดังนั้นเมื่ออดีตประธานใหญ่เสียชีวิต ชื่อของสุมาลีจึงถูกระบุอยู่ในพินัยกรรมอีกครั้ง

แม้ไม่ได้รับหุ้นในบริษัท แต่ทรัพย์สินจำพวกเงินสดและเครื่องประดับมีค่าทั้งหลายซึ่งเคยเป็นของคุณย่าฉายกลับตกเป็นของสุมาลีครึ่งหนึ่ง

นอกเหนือจากทรัพย์สินที่แบ่งให้สุมาลีแล้ว สมบัติที่เหลืออีกก้อนใหญ่และหุ้นในบริษัทถูกแบ่งเป็นสองส่วนสำหรับชวาล ผู้เป็นลูกชายและฉาย ผู้เป็นหลานอย่างเท่าเทียมกัน

แม้แต่วิทยาซึ่งเป็นเพียงคนนอกยังได้เงินสดก้อนโต ทำเอาผู้น้อยอึ้งกิมกี่ น้ำตาจะไหล

‘ก็แกจงรักภักดี ไม่เคยนอกลู่นอกทางไปเข้าข้างพวกนั้น ฉันก็ต้องตกรางวัลให้น่ะสิ’

‘ท่านรองพูดยังกับว่าท่านรองรู้เนื้อหาในพินัยกรรมอย่างนั้นแหละ’

‘ทำไมจะไม่รู้ ในเมื่อคุณปู่สั่งให้ทำพินัยกรรมตามที่ฉันต้องการ ตอนแรกคุณปู่เกือบใจอ่อนเจียดเงินให้สองแม่ลูกนั่นแต่ฉันห้ามเด็ดขาด คุณปู่ก็เลยตามใจฉัน’

แน่นอนว่าการไม่ได้อะไรแม้แต่บาทเดียวทำให้อมาวสีและวาทิต ลูกติดของอมาวสีแค้นใจนักหนา

‘หึ! คงคิดว่าเสแสร้งทำดีกับคุณปู่แล้วจะลบล้างความผิดที่พวกมันทำลายครอบครัวฉันได้’

วิทยาคิดแล้วก็อดสงสารสองแม่ลูกนั่นไม่ได้ที่ดันเจอเจ้ากรรมนายเวรสายโหดตามจองเวรไม่เลิกราเลยตกที่นั่งลำบากซวยไปตามระเบียบ

“ผมเองครับพ่อ”

เสียงของฉายดึงสติวิทยากลับมาก่อนเบนสายตาไปที่หน้ารถเพื่อความเป็นส่วนตัวของเจ้านาย

“เป็นยังไงบ้าง แม่เราอยู่ตรงนั้นรึเปล่า เอาสายให้พ่อคุยสิ”

“แม่ไม่อยู่ครับ”

“อ้าว แม่เราไปไหน หรือว่าไปกับหนุ่มๆ?”

ถึงพ่อกับแม่จะเลิกรากันสิบกว่าปีแล้ว แต่ทั้งคู่ไม่เคยห่างการติดต่อกัน เพราะทุกเดือนพ่อจะมีหน้าที่ส่งเงินให้แม่ ไม่เคยขาดแม้แต่เดือนเดียว

“แม่แค่ออกไปซื้อของน่ะครับ อีกเดี๋ยวก็กลับ”

“พ่อก็นึกว่ามัวหลงหนุ่มๆ อยู่ ฉายก็น่าจะห้ามแม่เราบ้าง อายุปูนนี้ไม่อายคนข้างนอกบ้างรึไง”

“พ่อปล่อยแม่ไปตามทางของแม่เถอะครับ แม่ออกจะมีความสุขกว่าตอนอยู่เมืองไทยด้วยซ้ำ พ่อเองก็มีเมียใหม่แล้ว ไหนจะพวกตัวเล็กตัวน้อยอีก จะอะไรกับแม่นักล่ะครับ”

“ยังไงลีก็ได้ชื่อว่าเป็นเมียพ่อ จะไม่ให้ดูดำดูดีเลยรึไง แล้วนี่เขาถามถึงพ่อรึเปล่า”

แปลกที่หลายปีมานี้พ่อพูดถึงแม่บ่อยขึ้น โดยเฉพาะหลังจากแม่บินกลับมาร่วมงานศพของคุณปู่เมื่อปีที่แล้ว แม้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพ่อกับแม่ แต่ก็เป็นนิมิตหมายอันดีไม่ใช่เหรอ

คิดๆ ไปแล้วเขาก็สงสัย เขาไม่เคยถามพ่อกับแม่เลยด้วยซ้ำว่าพวกเขารักกันได้อย่างไร ไหนๆ นึกขึ้นได้แล้วก็ลองถามดูสักหน่อยดีกว่า

“ผมถามหน่อยสิครับเมื่อก่อนพ่อกับแม่ใครจีบใครก่อนครับ”

“ก็ต้องเป็นพ่อน่ะสิ สมัยสาวๆ แม่เราน่ะคนจีบเยอะแยะ พ่อต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปหาเขาทุกอาทิตย์กว่าจะยอมใจอ่อนแต่งงานด้วย พ่อนี่ใจหายใจคว่ำอยู่หลายที ชื่อสุมาลีพ่อก็ตั้งให้หลังจากลียอมแต่งงานด้วย แม่เรารักพ่อไม่เท่าครึ่งที่พ่อรักเขาหรอก”

“ถ้ารักกันแบบนี้ ทำไมถึงเลิกกันล่ะครับพ่อ”

พ่อนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วถอนหายใจกลับมา

“เป็นความผิดของพ่อเอง”

ฉายรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหองระแหงของพ่อแม่ตอนเขาอายุสิบสาม มือที่สามคนนั้นเป็นเลขานุการส่วนตัวของพ่อ เป็นลูกสาวของหนึ่งในผู้บริหารแห่งวีโฮลดิ้งกรุ๊ปและเป็นม่ายสาวเนื้อหอม ความใกล้ชิดของหนุ่มสาวและความทะเยอทะยานของผู้บริหารคนนั้นผลักดันให้อมาวสีกล้าทุ่มสุดตัวเพื่อแย่งชิงสามีคนอื่น

แม่เริ่มระแคะระคายและจับผิดพ่อทุกครั้งที่กลับบ้าน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ย่ำแย่ลงทุกวัน แม้แต่คุณปู่ก็พูดไม่ออก ได้แต่ปลอบโยนหลานชายด้วยความสงสารและปล่อยให้พ่อกับแม่ตัดสินใจกันเอง

“แล้วทำไมฉายไม่ไปช่วยแม่เราหิ้วของล่ะ” ผู้เป็นพ่อตัดบทเมื่อเห็นฉายเงียบไป “เห็นแม่เราแข็งแรงแบบนั้น แต่เขาป่วยบ่อยนะ ส่งบิลมาเบิกค่าหมอหลายทีแล้ว บอกให้กลับมาอยู่เมืองไทยก็ไม่เอา พ่อรู้ว่าลีเหม็นหน้าพ่อแค่ไหน พ่อก็ไม่ได้จะกวนเขาให้กลับมาอยู่บ้านด้วยกัน ลีเขาชอบบ้านแบบไหนก็ไปเลือกเอา แต่นี่กลับปฏิเสธท่าเดียว รั้นไม่เข้าเรื่อง”

พ่อบ่นยืดยาวถึงแม่อีกครู่หนึ่งก็ย้ำให้เขาโทรตามแม่ แต่ฉายกลับแสร้งปฏิเสธ

“ผมไม่กล้าโทรหรอกครับ กลัวไปเป็นก้างขวางคอแม่กับแฟนใหม่ รายนี้หล่อยังกับเดินลงมาจากแคตวอล์กเลยนะครับ ขนาดผมยังหล่อสู้ไม่ได้”

“หึ! แก่ตัวก็เหี่ยวเหมือนกันหมดนั่นแหละ เงินที่พ่อส่งให้ทุกเดือนคงไม่พ้นเอาไปเลี้ยงเด็กพวกนี้ล่ะสิ”

พ่อแค่นเสียงหยัน แต่ฉายกลับกลั้นหัวเราะแทบไม่อยู่

“ที่จริงพ่อไม่ต้องโอนเงินให้แม่ก็ได้ครับ ผมจัดการเอง พ่อจะได้ไม่ลำบากใจ”

“ไม่ต้อง…มันหน้าที่พ่อ”

ฉายเลิกคิ้วพลางหวนนึกถึงคำพูดของแม่เมื่อนานมาแล้วตอนเขาบอกว่าจะโอนเงินให้แทนพ่อ

‘ให้พ่อเราโอนน่ะดีแล้ว เหลือเงินเยอะนักก็ส่งมาให้แม่ใช้’ ฉายมองแม่ด้วยสีหน้ากังวล ‘ไม่ต้องห่วงหรอกฉาย แม่รู้ว่าจะรับมือพ่อเรายังไง แค่บอกว่าป่วยหน่อยก็กุลีกุจอส่งเงินมาเพิ่มแล้ว’

ตอนนั้นฉายยังไม่เข้าใจนัก มาคิดได้ทีหลังว่าบางทีการที่พ่อยืนกรานจะโอนเงินให้แม่ด้วยตนเองทุกเดือนนั่นอาจเป็นข้ออ้างเดียวที่พ่อไว้ใช้ติดต่อแม่

“ไว้แม่มาถึงเมื่อไรผมจะให้แม่โทรกลับนะครับ”

“บอกลีว่าโทรมาได้ตลอด พ่อไม่เคยไม่รับสายแม่เราสักครั้ง”

หัวคิ้วเรียวย่นเข้าหากัน เหตุใดพ่อพูดเช่นนั้น ฉายจำได้ว่าเมื่อก่อนแม่มักร้องไห้คร่ำครวญว่าพ่อชอบตัดสายแม่ทิ้ง หรือว่าคนตัดสายจะเป็นนังงูพิษอมาวสี?

“ไว้ผมจะโทรไปเช็กกับพ่อก่อนแล้วกันครับ เผื่ออมาวสีอยู่ จะได้ไม่รบกวนเวลาของพ่อ”

“คิดมากไม่เข้าเรื่อง วสีอยู่ในโอวาท เขาไม่กล้าพูดอะไรหรอก ยังไงลีก็มาก่อนเขา”

ฉายแสยะยิ้มเหี้ยมหลังจากวางสาย

เมื่อก่อนพ่อคงไม่รู้ว่าลับหลังพ่อนังงูพิษโทรมายั่วประสาทแม่ ส่งรูปและข้าวของของพ่อมาป่วนจนแม่สติแตก วีนใส่พ่อบ่อยๆ นำมาสู่การหย่าร้างในที่สุด ตอนนั้นเขายังเด็ก ยังปกป้องแม่ไม่ได้

แต่…ไม่ใช่ตอนนี้!

‘พวกมัน’ ทำร้ายหัวใจแม่ พังครอบครัวเขาจนราบเป็นหน้ากลอง แล้วเหตุใดฉายจะเอาคืนบ้างไม่ได้

เขี้ยวลับที่เขาตะไบจนแหลมคมตลอดหลายปีมานี้จะกรุยทางให้แม่หวนกลับคืนมาเป็นคุณนายลีแห่งวีโฮลดิ้งกรุ๊ปอย่างสง่างามแน่นอน

 

 

โปรดติดตามตอนต่อไป

หน้าที่แล้ว1 of 3

Comments

comments

No tags for this post.
Jamsai Editor: