บทที่ 4
แกว่งเท้าหาเสี้ยน
“รู้จักเหรอครับคุณฉาย”
“ใคร”
“ก็ผู้หญิงผมยาวหน้าสวยคนนั้น ผมเห็นคุณฉายมองผู้หญิงคนนั้นหลายทีแล้ว”
วิทยาชี้มือไปยังหญิงสาวซึ่งถูกวัยรุ่นชายเกาหลีราวสามสี่คนห้อมล้อมและคะยั้นคะยอให้ดื่มไม่หยุด
“ใครจะไปอยากรู้จักล่ะ”
วิทยาเลิกคิ้วแปลกใจ ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าสวยซึ้ง รูปร่างบอบบางแต่มีส่วนเว้าส่วนโค้ง แม้ไม่เซ็กซี่เหมือนคู่ควงที่ผ่านมาของเจ้านาย แต่ก็จัดว่าเป็นผู้หญิงสวยน่ามองคนหนึ่งเลยทีเดียว แล้วมีหรือคาสโนว่าฉายจะมองไม่เห็น
“ไม่เหมือนคนเกาหลีเลย ลุคนี้น่าจะคนไทย แต่ดูท่าคืนนี้คงไม่รอดพวกหนุ่มๆ นั่น”
ฉายปรายตามองชายหนุ่มวัยกลัดมันพวกนั้นด้วยความหงุดหงิดใจพลางสะบัดเสียงขุ่น
“ไปเถอะ!”
เขาเดินขึ้นบันไดไปยังห้องวีไอพีซึ่งตั้งอยู่บนชั้นสองของผับหรูย่านคังนัม บริเวณชั้นสองของผับนี้ถูกออกแบบเป็นห้องส่วนตัวสำหรับลูกค้ากระเป๋าหนักที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ภายในห้องสี่เหลี่ยมตกแต่งด้วยโทนสีดำเหลือบทอง มีโซฟารูปตัวยูตั้งอยู่ริมผนัง
ไม่นานสาวๆ ตัวท็อปของร้านก็ก้าวเข้ามาปรนนิบัติเจ้านาย วิทยาจึงออกมาสูบบุหรี่ที่ระเบียงแต่ไม่ถึงสิบนาทีเจ้านายก็ตามออกมาสมทบ
“ทำไมออกมาเร็วจังล่ะครับ”
“ไม่มีอารมณ์!”
วิทยาเลิกคิ้วสูง ไม่เคยได้ยินคาสโนว่าหน้าหวานเอ่ยประโยคนี้มาก่อน หญิงสาวแต่ละคนที่คัดเลือกมาบริการเจ้านายล้วนสวยเซ็กซี่ไม่แพ้นางแบบชุดชั้นในวิคตอเรีย’ส ซีเคร็ท แล้วอาการอัดควันเข้าปอดไม่หยุดแบบนี้คืออะไร
“ให้ทางร้านส่งสาวอื่นมาให้เลือกไหมครับ”
“ไม่ต้องหรอก แกเข้าไปแทนแล้วกัน”
เลือดในกายของวิทยาเดือดพล่าน ขนาดกลัวภรรยาจนหัวหดแต่ชายหนุ่มก็ยังใจสั่นอยากลองของใหม่อยู่ดี
“ไหนๆ ก็จ่ายเงินไปแล้ว ไปสิ ฉันยกให้ ถือเสียว่าเป็นโบนัสพิเศษ”
“แล้วท่านรองจะไปไหนครับ”
“ฉันว่าจะยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงนี้แหละ มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย”
“แล้วคุณลิซล่ะครับ เห็นว่าเธอจะแวะมาหาท่านรองที่ผับด้วย”
ฉายแบะปากอย่างเอือมระอา แฟนก็ไม่ใช่ เป็นเพียงว่าที่แฟนซึ่งคุณปู่เคยเปรยว่าอยากให้คบหากันแค่นั้น แต่อีกฝ่ายกลับนำไปตีความผิดๆ ฉายเห็นแก่หน้าคุณปู่และพ่อของศลิษาซึ่งมีหุ้นอยู่ในบริษัทจึงแสร้งเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ แต่หากยังขืนวุ่นวายกับเขาไม่เลิกคงได้เจอดีกันบ้าง
“นัดไว้สี่ทุ่มไม่ใช่เหรอ นี่เหลืออีกชั่วโมง ปกติลิซก็มาเลตอยู่แล้ว แกใช้ห้องนั้นตามสบาย”
วิทยาคลี่ยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนหายเข้าไปรับโบนัส ทิ้งให้เจ้านายยืนรับลมหนาวตามสบาย
“ปล่อย! ช่วยด้วย!”
เสียงอ้อแอ้ดังขึ้นเป็นภาษาอังกฤษจากหน้าผับดึงสายตาของฉายให้ก้มลงไปมองเหล่าชายหนุ่มซึ่งกำลังรุมล้อมหญิงสาวคนหนึ่งอยู่ ที่จริงเรื่องของชายหญิงจะกินตับกันไม่ใช่ธุระของเขา แต่พอได้ยินเสียงกรีดร้องเป็นภาษาไทยฉายก็ต้องดึงสายตากลับไปหยุดที่จุดเดิม
ชายหนุ่มสามคนกำลังยื้อยุดหญิงสาวร่างเพรียวในเสื้อคอเต่าแขนกุดกับกางเกงยีนเข้ารูป โดยไม่มีลูกค้าหน้าร้านคนใดคิดยื่นมือเข้าช่วยเหลือ
“ให้มันได้อย่างนี้สิวะ!”
ฉายกัดฟันกรอด เร่งฝีเท้าลงจากชั้นบน พุ่งตัวไปที่หน้าร้าน ก่อนจะพบว่าหญิงสาวคนนั้นกำลังยึดเสาไฟบริเวณหน้าร้านไว้แน่น ปากก็ร้องขอความช่วยเหลือด้วยเสียงอ้อแอ้
บ้าฉิบ!
เขาสบถกับตัวเอง ก่อนวิ่งไปยกเท้าถีบชายหนุ่มตัวการจากทางด้านหลังจนหมอนั่นหน้าคะมำ เพื่อนอีกคนจะเข้ามาช่วยจึงโดนหมัดลุ่นๆ ฟาดปากล้มลงไปทับคนแรก ส่วนอีกคนก็ยืนยักแย่ยักยัน เก่งแต่ปาก
“มึงเป็นใครวะ…ไอ้ตุ๊ด!”
หนุ่มหน้าหวานถลึงตาใส่แล้วประเคนฝ่าเท้าเข้ากลางอกจนฝ่ายนั้นล้มกลิ้งไปที่พื้น ก่อนจะตามเข้าไปกระทืบทั้งสามซ้ำอีกหลายที
ทำอย่างไรได้ฉายดันได้ดีเอ็นเอหน้าหวานของแม่มากเกินพิกัดจึงถูกเพื่อนล้อว่า ‘ตุ๊ด’ ตั้งแต่ยังเล็ก ตอนเด็กสู้คนไม่ได้ก็อาศัยฟ้องครูฟ้องปู่ แต่พอโตขึ้นเขาก็จัดการพวกปากไม่มีหูรูดด้วยกำปั้นและลูกถีบจนพวกมันเข็ดขยาดไม่กล้าตอแย พอมาได้ยินคำพูดระคายหูเขาจึงระบายอารมณ์หงุดหงิดลงกับทั้งสามไม่ยั้ง
“ยอมแล้ว! ยอม!”
ฉายถอยฉากออกมายืนเท้าเอวดูผลงาน พวกมันดูสะบักสะบอมไม่น้อย กระนั้นก็ยังมีแรงวิ่งกรูกันไปขึ้นรถของเพื่อนอีกคนที่ขับมาจอดก่อนบึ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นจึงตวัดสายตามองหญิงสาวที่ยืนเหนี่ยวเสาอย่างไม่มั่นคงนัก
“เป็นไงบ้างคุณ”
“ขอบ…คุณ”
เธอตอบเป็นภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่น สีหน้าแดงก่ำ นัยน์ตาฉ่ำเยิ้มแบบคนที่ดื่มไปเยอะ เรือนร่างอ้อนแอ้นทรงตัวแทบไม่ไหวทำเอาคนมองลอบถอนหายใจ ชายหนุ่มสะบัดหน้าไปทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าผับหรูอย่างไม่พอใจ แต่ฝ่ายนั้นกลับก้มหน้างุด ไม่กล้าปริปากเมื่อเห็นสายตาคมกริบของแขกซูเปอร์วีไอพี
“ไหวไหม พักที่ไหน เดี๋ยวไปส่ง”
“ไม่บอก เดี๋ยวพาไปปล้ำ”
หญิงสาวตอบเสียงอ้อแอ้พลางเกาะเสาไฟไว้แน่น ก่อนหัวเราะคิกคักเหมือนคนสติไม่สมประกอบ ทำเอาคนฟังยกมือเท้าเอวอย่างระอา
“จะไปไหม”
“ไม่! คุณจะพาฉันไปปล้ำ”
“เมาแบบนี้ใครจะเอาลง”
ฉายยกมือขึ้นลูบหน้า อยากทึ้งผมตัวเองนัก เขาหาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ
จังหวะที่ฉายกำลังจะยอมแพ้และทิ้งเธอกอดเสาตามลำพัง จู่ๆ เธอก็คว้าหมับเข้าที่ขากางเกงพลางยึดไว้มั่นราวกับเป็นเกราะกำบังชิ้นใหม่
“เฮ้ย ทำอะไรเนี่ย!”
“คุณจะทิ้งฉัน ฮือๆ ทิ้งฉันเหมือนพี่อั๋นเลย”
เธอระเบิดน้ำตาออกมาโฮใหญ่ ทำเอาคนรอบข้างเหล่มองราวกับเขาเป็นนักโทษฉกรรจ์ ฉายสะบัดขากางเกงออกจากการเกาะกุม แต่คนขี้เมากลับเปลี่ยนมากอดขาเขาไว้แน่นแทน
“ปล่อย!”
“คุณใจร้าย คุณจะทิ้งฉัน ฮือๆๆ”
ฉายยกมือขึ้นกุมศีรษะ ถลึงตาใส่คนขี้เมาด้วยสีหน้าละเหี่ยใจ
เวรกรรมอะไรของกูวะเนี่ย!
โปรดติดตามตอนต่อไป
Comments
comments
No tags for this post.