ขณะพูดคุยกันอยู่ มีข้ารับใช้คนหนึ่งเข้าประตูมาถ่ายทอดพระราชเสาวนีย์ของไทเฮาว่าการประชุมขุนนางเช้านี้เลื่อนออกไปครึ่งชั่วยาม* ให้ขุนนางทุกท่านรอต่อไป
ข้ารับใช้ไปแล้ว บังเกิดเสียงเซ็งแซ่ดังระงมตรงฝั่งตะวันออกของท้องพระโรงทันใด
ใครๆ ต่างรู้แก่ใจดีว่านี่เป็นเพราะหลิวไทเฮากำลังพบกับเซี่ยฉางเกิงตามลำพังเป็นแน่แท้
เพื่อรับการเข้าเฝ้าของเขาถึงกับเลื่อนเวลาประชุมขุนนาง ให้พวกตนจับเจ่าเฝ้ารออยู่ตรงนี้
นอกจากอิจฉาแล้ว พวกเขายังอดริษยาอยู่หลายส่วนมิได้
ด้วยเหตุนี้ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตั้งต้น ทุกคนเริ่มหันเหความสนใจจากความชอบของเซี่ยฉางเกิงผู้บัญชาการกองทัพเหอซีไปที่ข่าวโคมลอยที่เพิ่งเล่าลือกันในหมู่ขุนนางเมืองหลวงก่อนหน้านี้ไม่นาน
ตอนต้นปีเซี่ยฉางเกิงเข้าพิธีมงคลกับธิดาอ๋องของแคว้นฉางซาซึ่งหมั้นหมายไว้เมื่อสามปีก่อน คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุเจียงตูอ๋องก่อกบฏ เขาต้องละทิ้งภรรยาคนงามจากเรือนไปในคืนเข้าหอ กระนั้นเรื่องนี้ไม่นับเป็นความลับอะไร ตอนนั้นมีขุนนางในราชสำนักไปร่วมงานเลี้ยงแล้วเล่าสู่กันฟัง จากหนึ่งไปสิบ จากสิบไปร้อย จนรู้กันไปทั่วมานานแล้ว
บางทีอาจเพราะเวลานั้นเขามิได้พูดปลอบนางให้เข้าใจ ต่อมาภรรยาของเขากลับไปยังแคว้นฉางซาด้วยความโกรธเคือง หลังจากปราบกบฏได้ ผู้บัญชาการเซี่ยเร่งเดินทางโดยไม่หยุดพักสู่แคว้นฉางซาหมายจะรับธิดาอ๋องกลับ คาดไม่ถึงว่าจะโดนตัดรอนอย่างไม่ไยดี
เขาไม่เพียงรับภรรยาคนงามกลับมาไม่ได้ ว่ากันว่ายังโดนฉางซาอ๋องวัยหนุ่มลบหลู่ดูหมิ่นเพราะไม่พึงใจในความเป็นมาของเขา สุดท้ายจำต้องกลับมามือเปล่าอย่างอับอายขายหน้า
ต้นตอของข่าวลือน่าจะมาจากผู้ตรวจการที่ราชสำนักส่งไปแคว้นฉางซา
ราชสำนักจะแต่งตั้งผู้ตรวจการไปประจำอยู่ในทุกๆ แคว้น ซึ่งจะต้องส่งฎีการายงานผลทุกเดือน นี่เป็นข้อบังคับของราชวงศ์นี้ที่บัญญัติขึ้นเมื่อแรกที่มีการก่อตั้งแคว้นขึ้น
ไม่ว่าข้อเท็จจริงของข่าวนี้เป็นเช่นใด ถึงอย่างไรขุนนางเมืองหลวงส่วนใหญ่ก็ริษยาแกมดูแคลนเซี่ยฉางเกิงผู้มีความเป็นมาที่ไม่พึงเอื้อนเอ่ยถึงนัก ดังนั้นในแง่มุมนี้พวกเขาล้วนถือหางเข้าข้างฉางซาอ๋องมู่เซวียนชิง การได้เห็นเซี่ยฉางเกิงเสียท่าจนกลายเป็นที่ตลกขบขันอย่างนี้ ใครเล่าจะไม่หยิบยกขึ้นมานินทายามว่างคำสองคำอย่างสาแก่ใจ
ตอนนี้การประชุมขุนนางยังต้องล่าช้าเพราะการมาถึงของเซี่ยฉางเกิงอีก
ทุกคนเริ่มคุยกระซิบกระซาบกันตามสบาย ผลัดกันเล่าข่าวที่ตนได้ยินมาและ ‘แสดงความเห็นอกเห็นใจ’ อย่างล้นเหลือต่อความโชคร้ายของผู้บัญชาการเซี่ย
ในเวลาเดียวกัน เซี่ยฉางเกิงรอคอยอยู่นอกตำหนักเซวียนเจิ้ง
ถึงตัวเขาไม่ได้อยู่ที่ท้องพระโรง แต่ขณะนี้เหล่าสหายขุนนางที่นั่นกำลังพูดคุยอะไรกันอยู่ เขาล้วนรู้ดีแก่ใจ
ในสารลับที่เฉาจินส่งมาให้เขาเมื่อคืนก็เอ่ยถึงเรื่องนี้ แต่คงกลัวว่ามันจะสร้างความไม่พอใจให้เขา เพียงบอกสั้นๆ ประโยคเดียวว่า ‘เรื่องไม่น่าอภิรมย์ที่ประสบในการเดินทางไปแคว้นฉางซาครานี้แพร่สะพัดออกไปแล้ว’
เซี่ยฉางเกิงยืนรอเข้าเฝ้าอยู่นอกตำหนักด้วยสีหน้าสงบนิ่ง