เสียงฝีเท้าดังขึ้นระลอกหนึ่งพร้อมกับหยางก่วงซู่หรือหยางกงกง ขันทีใหญ่ข้างกายหลิวไทเฮาออกมาจากด้านใน บอกว่าไทเฮามีพระบัญชาเรียกตัว และนำทางเซี่ยฉางเกิงเข้าไป
เขาเดินตามไปจนถึงเบื้องหน้าหลิวไทเฮาซึ่งนั่งเด่นเป็นสง่าอยู่ในตำหนักแล้วคุกเข่าถวายคำนับตามธรรมเนียมของผู้เป็นขุนนาง
หลิวไทเฮามีอายุราวสี่สิบเท่านั้น แต่นางเป็นไทเฮามาหลายปีแล้ว สิบปีก่อนหลังมู่ฮองเฮาที่มาจากแคว้นฉางซาสวรรคต ปีต่อมานางก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮาพระองค์ใหม่ พระโอรสของนางก็กลายเป็นรัชทายาทไปด้วย
อดีตฮ่องเต้นั้นมีโรคประจำตัวอยู่แต่เดิม ไม่ถึงสองปีก็สวรรคต ฮ่องเต้ที่สืบทอดราชสมบัติต่อยังอ่อนเยาว์ ดังนั้นงานราชกิจทุกอย่างย่อมต้องให้นางซึ่งเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นไทเฮาออกว่าราชการหลังม่าน จัดการสะสางโดยชอบควรด้วยประการทั้งปวง
เมื่อนางได้กุมอำนาจก็กวาดล้างผู้อยู่ฝ่ายตรงข้าม บรรดาอ๋องสกุลจ้าวที่แยกย้ายกันไปครองเมืองต่างๆ ซึ่งถือตนเป็นลูกหลานมังกร เป็นเชื้อสายโอรสสวรรค์ มีหรือจะยินยอมอยู่ในกำมือของวงศ์วานอื่นนั่งรอความตาย จึงไม่มีคนใดไม่คิดกำจัดไทเฮาชั่วแล้วตั้งตนเป็นใหญ่แทน
นี่ก็คือต้นเหตุของความไม่สงบสุขในแผ่นดินที่ต่อเนื่องมายาวนาน
เจ้าแคว้นซึ่งมีอยู่จำนวนมากต่างผนึกกำลังกันต่อต้านการจัดการงานแผ่นดินของหลิวไทเฮา มิใช่ที่นี่ก่อกบฏก็เป็นที่นั่นบุกมาบีบให้ฮ่องเต้สละบัลลังก์ ถึงหลิวไทเฮาจะมีกลอุบายชั้นเชิงสูงปานใด สกุลเดิมมีอำนาจมากเพียงไร ก็ต้องห่วงหน้าพะวงหลังและปวดเศียรเวียนเกล้าไม่น้อย
นับแต่เกิดการลุกฮือขึ้นเมื่อสามปีที่แล้ว กองทัพกบฏยกพลเข้าเมืองหลวงไม่หยุดหย่อน หลิวไทเฮาส่งคนไปปราบกบฏ กลับพบกับความพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ส่งผลให้เมืองหลวงตกอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลม ในยามบ้านเมืองเผชิญกับภาวะคับขันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้เอง เซี่ยฉางเกิงก็ผงาดขึ้นมา
ตลอดสามปีนี้ เขาอาศัยความสามารถเชิงรบอันโดดเด่นช่วยกำราบเจ้าแคว้นที่กระด้างกระเดื่องให้หลิวไทเฮาได้หลายครั้งหลายหน ฐานะของหลิวไทเฮาถึงมั่นคงไม่สั่นคลอน แล้วนางจะไม่ให้ความสำคัญกับเขาได้เช่นไร
นางแย้มเยื้อนบอกให้ชายหนุ่มลุกขึ้น และสั่งให้ข้ารับใช้จัดที่นั่งให้เขาแล้วเอ่ยยิ้มๆ “ฎีการายงานสถานการณ์ที่ท่านส่งมาเมื่อวาน ข้ากับฝ่าบาทได้อ่านแล้วเมื่อคืน ทำได้ดีมาก กบฏเจียงตูอ๋องถูกปราบปรามราบคาบ ท่านมีความชอบครั้งใหญ่หลวง แบ่งเบาภาระและคลี่คลายปัญหาให้แก่ราชสำนักได้ กระทั่งฮ่องเต้ที่ทรงพระเยาว์ยังตรัสกับข้าเลยว่าท่านเซี่ยเป็นยอดแม่ทัพผู้จงรักภักดี ท่านอยากได้บำเหน็จรางวัลใดเอ่ยปากมาได้เต็มที่”
เซี่ยฉางเกิงกล่าว “นี่เป็นหน้าที่ที่กระหม่อมพึงกระทำอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมน้อมรับพระบัญชาไปปราบกบฏ ได้อาศัยบารมีขององค์ไทเฮาและฝ่าบาท พึ่งพาเหล่าทหารในกองทัพที่ทุ่มเทอุทิศตน ถึงไม่ทำให้ต้องทรงผิดหวังที่ไว้วางพระทัย กระหม่อมเดิมเป็นแค่ชาวบ้านต่ำต้อย มีเกียรติยศเฉกทุกวันนี้ก็เป็นพระคุณอย่างหาที่สุดมิได้แล้ว หาได้คิดจะขอรับคุณความชอบแม้สักเศษเสี้ยวพ่ะย่ะค่ะ”
หลิวไทเฮาพึงพอใจกับท่าทีของเขาเป็นอันมาก ใบหน้านางเผยรอยยิ้ม
“ท่านเซี่ย ท่านอายุยังน้อยก็ไต่เต้าขึ้นมาถึงจุดนี้ได้แล้ว แม้จะพูดว่าได้รับแต่งตั้งตามความดีความชอบ แต่หากตำแหน่งสูงกว่านี้ ข้าหวั่นใจว่าท่านจะกลายเป็นเป้าโจมตีของใครต่อใครจริงๆ หนนี้ข้าจะไม่เลื่อนตำแหน่งของท่านอีก เปลี่ยนเป็นประทานบรรดาศักดิ์ให้กับมารดาของท่าน…เป็นอย่างไร”