เซี่ยฉางเกิงคุกเข่าขอบพระทัย
หลิวไทเฮาบอกให้เขาลุกขึ้นแล้วไต่ถามทุกข์สุขอีกสองสามคำก่อนกล่าว “เพราะเกิดกบฏเจียงตูอ๋องเป็นต้นเหตุให้ท่านต้องจากเรือนในคืนเข้าหอ ข้าละอายแก่ใจมาก ได้ยินว่าเดือนก่อนท่านไปที่แคว้นฉางซามาหรือ”
เซี่ยฉางเกิงเงยหน้ามองสบแววตาที่แฝงความเอาใจใส่ของหลิวไทเฮา เขาเอ่ยตอบ “หลังปราบกบฏเจียงตูอ๋องได้ กระหม่อมมีบุญได้รับพระราชทานโอกาสกลับบ้านเดิมเยี่ยมญาติ ตอนนั้นกลับถึงเรือนแล้วได้รู้ว่าหลังจากฮูหยินมาอยู่ที่นั่น ไม่คุ้นเคยกับดินน้ำอากาศ เป็นเหตุให้สุขภาพไม่ดีจึงกลับแคว้นฉางซา กระหม่อมถึงเดินทางไปพ่ะย่ะค่ะ”
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ร่างกายของนางเป็นอย่างไรแล้ว”
“ไม่เป็นอะไรมากแล้วพ่ะย่ะค่ะ เพียงต้องพักรักษาตัวต่ออีกสักพักเท่านั้น ขอบพระทัยที่ทรงห่วงใยพ่ะย่ะค่ะ”
หลิวไทเฮาพยักหน้า
“ทว่าเหตุใดข้าได้ยินว่าตอนเจ้าอยู่ที่แคว้นฉางซาโดนลบหลู่ดูหมิ่นเล่า”
ใบหน้าของเซี่ยฉางเกิงปรากฏแววละอาย
“กระหม่อมมิบังอาจปิดบังพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมมีความเป็นมาต่ำต้อย เป็นคนไร้ชาติตระกูล ในครั้งนั้นตอนไปขอเกี่ยวดองกับฉางซาอ๋อง พี่ชายของภรรยาก็ไม่พอใจกระหม่อมแล้ว ยามเห็นกระหม่อมไปที่นั่น เขาจะไม่ยินดียินร้ายก็เป็นธรรมดาของปุถุชนพ่ะย่ะค่ะ”
หลิวไทเฮามุ่นคิ้ว “มู่เซวียนชิงผู้นี้ใจกล้าไม่น้อย บังอาจทำกับเจ้าเยี่ยงนี้เชียวหรือนี่ เขาก็รู้ว่าเจ้าเป็นคนที่ข้าให้ความสำคัญ แต่ก็ยังเหิมเกริมถึงเพียงนี้ วันหลังจะมีเรื่องใดทำไม่ได้อีก”
นางหยุดเว้นจังหวะ “สกุลมู่แห่งแคว้นฉางซาไม่ประสงค์ดีต่อข้ามาแต่ไหนแต่ไร เมื่อก่อนเคยมีคนเตือนข้าให้ระวังคนแซ่มู่ เรื่องนี้เจ้าเห็นเป็นเช่นไร”
นางถามขึ้นเช่นนี้อย่างไม่มีการเกริ่นนำใดๆ
เซี่ยฉางเกิงตอบ “ฉางซาอ๋องเป็นคนหนุ่มเลือดร้อน กระทำการหุนหันพลันแล่น เป็นถึงเจ้าแคว้นแล้วก็ยังคงเป็นเช่นเดิม กระนั้นแคว้นฉางซามีทหารน้อยและขาดแคลนแม่ทัพ ไม่เหมือนแคว้นอื่นๆ ที่แสนยานุภาพแข็งแกร่งทั้งสิ้น จะมีอันใดน่ากลัวเล่าพ่ะย่ะค่ะ ต่อให้วันหลังพวกเขากล้าสร้างความวุ่นวายจริงๆ แต่จะก่อคลื่นลมได้สักเท่าไรกัน”
“ท่านเซี่ย หากภายภาคหน้าข้าคิดกำจัดแคว้นฉางซา ถึงตอนนั้นท่านจะวางตัวอย่างไร” หลิวไทเฮาเพ่งตามองชายหนุ่มแล้วถามต่อ
เซี่ยฉางเกิงประสานสายตาของหลิวไทเฮาที่มองตนอยู่ แล้วกล่าววาจา “กษัตริย์ต้องการให้ขุนนางตาย ขุนนางไม่อาจไม่ตาย นับประสาอะไรกับเรื่องอื่นพ่ะย่ะค่ะ”
หลิวไทเฮานิ่งเงียบไป
หลายวันก่อนนางเรียกตัวมุขมนตรีจางปันมาหารือแผนสร้างความมั่นคงให้แก่แผ่นดินหลังจากนี้ ตอนคุยกันถึงแคว้นฉางซา จางปันเสนอความเห็นว่าแคว้นฉางซาเป็นแว่นแคว้นเล็กๆ กำลังทหารอ่อนแอ ส่วนมู่เซวียนชิงผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าแคว้นคนใหม่เมื่อสามปีก่อนนั้น นอกจากความสามารถห่างชั้นจากอดีตฉางซาอ๋องผู้เป็นบิดาอย่างเทียบไม่ติด ยังใจร้อนวู่วาม ได้ยินว่าก่อนหน้านี้ไม่นานเขาไปล่าสัตว์ตามลำพังจนพลัดตกลงไปในโตรกธาร หากมิใช่โชคดี คนที่ออกตามหาเขาพบตัวได้ทันการณ์ เกรงว่าเขาคงจบชีวิตไปแล้ว ประกอบกับเสียงโจษจันอื้ออึงเรื่องที่เขาไม่ยอมปล่อยตัวน้องสาวให้ตามผู้บัญชาการเซี่ยกลับไป อีกทั้งยังลบหลู่ดูหมิ่นอีกฝ่ายต่อหน้าธารกำนัล ก็เป็นการยืนยันได้อีกทางหนึ่ง