เทียบกับแคว้นฉางซาซึ่งไม่มีแรงคุกคามมากนัก หลู่อ๋องที่มีเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงสูงกับผิงหยางอ๋องที่กุมอำนาจทหารในมือจำนวนมากต่างหากที่เป็นเภทภัยอย่างแท้จริงในยามนี้ อีกประการหนึ่ง ในสายตาของเหล่าขุนนาง แคว้นฉางซาไม่ก่อปัญหาใด ยังส่งเครื่องบรรณาการตรงเวลา และไม่มีหลักฐานแน่นหนาชี้ว่าเป็นกบฏก่อความไม่สงบ นอกจากนี้ภายในราชสำนักเดิมก็มีเสียงลือลับๆ อยู่แล้วว่าสาเหตุที่หลิวไทเฮาตั้งข้อรังเกียจแคว้นฉางซามาจากความขุ่นข้องหมองใจกับมู่ฮองเฮาในอดีต ถ้าเล่นงานแคว้นฉางซาตอนนี้ ไม่เพียงเปิดช่องให้หลู่อ๋องกับผิงหยางอ๋องได้ฉวยโอกาส ยังจะเป็นที่ครหาของผู้คนอย่างเลี่ยงมิได้ด้วย
จางปันกล่าวว่าขณะนี้มิใช่เวลาเหมาะจะลงมือกับแคว้นฉางซา มิสู้รอวันหน้ากำจัดหลู่อ๋องกับผิงหยางอ๋องแล้ว อยากจัดการแคว้นฉางซาจริงๆ ก็ง่ายดุจพลิกฝ่ามือ
ตอนนั้นหลิวไทเฮารู้สึกว่ามีเหตุผลพอสมควร นางใคร่ครวญแล้วตกลงใจทำตามคำแนะนำของจางปัน
เมื่อครู่นางจงใจตั้งคำถามนี้กับเซี่ยฉางเกิงเพียงเพื่อหยั่งเชิงเขาเท่านั้น
ถึงอย่างไรเขาก็แต่งงานกับธิดาอ๋องสกุลมู่
ส่วนคำตอบของเขาเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ล่วงหน้าทุกประการ
พินิจดูจากความเป็นมาของเขา ระหว่างตระกูลของภรรยากับเจ้าแผ่นดินที่มีอำนาจประทานลาภยศสรรเสริญให้เขาได้ เขาจะเลือกฝ่ายใดนั้นไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใด
ไม่มีนางสักคน เขาก็ปราศจากความหมาย
หลิวไทเฮาคลายใจลงได้ นางกล่าวอย่างยิ้มแย้ม “หลายวันก่อนข้ากับมุขมนตรีจางเอ่ยถึงแคว้นฉางซาตอนปรึกษาข้อราชการกัน ความเห็นของเขาแทบจะเป็นไปในทางเดียวกับท่าน แต่จะอย่างไรท่านก็ตบแต่งสตรีสกุลมู่เป็นภรรยา ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ข้าไม่อยากสร้างความลำบากใจให้หรอก ต่อไปขอแค่สกุลมู่อยู่อย่างสงบเสงี่ยม ข้าย่อมไม่แตะต้องพวกเขา”
เซี่ยฉางเกิงพูดอย่างเคารพนอบน้อม “กระหม่อมขอบพระทัยในพระเมตตาขององค์ไทเฮาแทนสกุลมู่ของแคว้นฉางซาด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
หลิวไทเฮาพยักหน้า นางครุ่นคิดในใจแล้วตัดสินใจเรื่องหนึ่งได้อย่างว่องไว
หลังเซี่ยฉางเกิงออกไปแล้ว นางเรียกหยางกงกงขันทีคู่ใจเข้ามากำชับ “ร่างพระราชโองการให้ข้าทันที จากนั้นส่งคนนำของพระราชทานไปยังแคว้นฉางซา บอกว่าข้าระลึกถึงความผูกพันลึกซึ้งฉันพี่น้องกับมู่ฮองเฮาในอดีตแล้วบังเกิดความสะเทือนใจเหลือหลาย จำได้ว่าฝูหลันธิดาอ๋องสกุลมู่เคยพำนักอยู่ในวังหลวงเมื่อสิบปีก่อน นับว่าเคยมีความหลังกับข้า ข้ารู้สึกคิดถึงนางอยู่สักหน่อย จึงตั้งใจเรียกตัวนางเข้าเมืองหลวงเพื่อรำลึกอดีต หากร่างกายของนางแข็งแรงดีแล้วก็ออกเดินทางมาเมืองหลวง”
หยางกงกงอึ้งไปเล็กน้อยก่อนเอ่ยถาม “ไทเฮา เมื่อครู่ผู้บัญชาการเซี่ยทูลว่านางพักฟื้นอยู่ที่แคว้นฉางซามิใช่หรือ แล้วพระองค์ทรงเรียกตัวนางเข้าเมืองหลวงด้วยเหตุใดพ่ะย่ะค่ะ”
หลิวไทเฮาหัวร่อ
“ถ้อยคำของท่านเซี่ยเมื่อครู่ เจ้าคิดว่าเป็นความจริงรึ เป็นไปได้เก้าในสิบส่วนว่าเขาคงโดนปฏิเสธที่แคว้นฉางซาถึงรับธิดาอ๋องสกุลมู่กลับมาไม่ได้ เขาหมดทางเลือกเลยใช้เป็นข้ออ้างกลบเกลื่อนเวลาตอบคนภายนอกเท่านั้นเอง เขาเป็นคนของข้า ต่อให้ข้าไม่แตะต้องแคว้นฉางซาตอนนี้ ก็ต้องให้มู่เซวียนชิงผู้นั้นรู้ว่าไม่เคารพท่านเซี่ยก็คือไม่เคารพต่อข้า! ยามนี้ตัวท่านเซี่ยอยู่ในเมืองหลวง น้องสาวที่ออกเรือนแล้วของเขาผู้นั้น อย่าว่าแต่ไม่ป่วย ถึงป่วยร่อแร่ปางตายจริงๆ เมื่อข้าออกปากแล้ว นางก็ต้องตามท่านเซี่ยเข้าเมืองหลวงแต่โดยดี”
หยางกงกงแจ่มแจ้งในบัดดล