“ไทเฮาตรัสได้ถูกต้องที่สุดพ่ะย่ะค่ะ หลายวันนี้กระหม่อมได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่บ้าง เกรงว่าปกติคนพวกนั้นคงอิจฉาผู้บัญชาการเซี่ย บางเรื่องพูดเล่าลือกันจนไม่น่าฟังเอาเสียเลยจริงๆ พระองค์ทรงทำเช่นนี้เป็นการขว้างหินก้อนเดียวได้นกสองตัว ทั้งเป็นการตักเตือนแคว้นฉางซา ทั้งกู้หน้าให้ผู้บัญชาการเซี่ยด้วย พอเขาได้รู้ต้องซาบซึ้งพระทัยเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ”
หลิวไทเฮานิ่งคิดครู่หนึ่งถึงกล่าวต่อ “มิใช่เท่านี้ ข้าได้ยินว่าธิดาอ๋องสกุลมู่มีรูปโฉมโดดเด่น ได้ชื่อว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของแคว้นฉางซา แม้เมื่อครู่ท่านเซี่ยจะแสดงความจงรักภักดีต่อข้า แต่ดังคำกล่าวว่า ‘เสน่ห์หญิงงามคือสุสานของวีรบุรุษ’ นับแต่โบราณกาลมามีวีรบุรุษผู้กล้าตั้งมากเท่าไรที่ต้องพ่ายด้วยน้ำมือสตรี เจ้าอย่าเห็นว่ายามนี้มู่เซวียนชิงมีท่าทีเฉกนี้ ตราบเท่าที่ท่านเซี่ยกับมู่ซื่อยังเป็นสามีภรรยากัน ถ้าเกิดวันหลังนางโดนคนเป่าหูหรือมีใจคิดร้ายแล้วยุแยงท่านเซี่ยให้แตกกับข้า ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ข้าต้องได้เห็นนางเองกับตาถึงจะสบายใจ สงบเสงี่ยมเจียมตัวก็แล้วกันไป ข้าเชื่อว่าคงควบคุมคนอย่างท่านเซี่ยไม่ได้ แต่ถ้าเป็นพวกไม่น่าวางใจ…”
แววเหี้ยมเกรียมผุดวาบขึ้นในดวงตานาง
“เช่นนั้นก็ต้องคิดวิธีจัดการสะสางให้ท่านเซี่ย จะได้ไม่เป็นเภทภัยในวันหน้า”
หยางกงกงพูดเสียงต่ำ “ไทเฮาทรงดำริได้ละเอียดรอบด้านโดยแท้ แม้ว่าจะปล่อยแคว้นฉางซาไปก่อนชั่วคราว แต่ก็ต้องระวังป้องกันจริงๆ กระหม่อมจะไปร่างพระราชโองการประเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”
วันที่พระราชโองการมาถึงเมืองเยวี่ย มู่ฝูหลันอยู่ที่เขาจวินซานกับอาต้าช่วยกันเด็ดสมุนไพรในแปลงของเฒ่าโอสถอยู่
เฒ่าโอสถลงเขาเดินทางไปที่อื่นนานหลายเดือนแล้ว อากาศหนาวเย็นลงทุกวัน จึงต้องเร่งเก็บเกี่ยวสมุนไพรชุดสุดท้ายก่อนหิมะตก
ช่วงอากาศหนาวเหน็บที่สุดของปีจวนเจียนย่างกรายมาแล้ว
แม้มู่ฝูหลันเป็นธิดาอ๋อง ทว่าเมื่ออยู่ที่นี่ นางจะลงมือทำทุกอย่างด้วยตนเองไม่แตกต่างจากอาต้า
ตั้งแต่วัยเยาว์ นางก็ชอบขลุกอยู่ในแปลงสมุนไพรเรียนรู้พืชพันธุ์ชนิดต่างๆ กับอาจารย์ การได้ง่วนอยู่กับงานถือเป็นความสุขอย่างหนึ่ง
ครั้นเก็บสมุนไพรแปลงสุดท้ายเสร็จ ตอนนางยกตะกร้าไม้ไผ่ขึ้น นิ้วมือก็แตะโดนเสี้ยนไม้ข้างตัวตะกร้าโดยไม่ทันระวัง
เสี้ยนแหลมเล็กตำลึกลงไปในนิ้วมือนุ่มนิ่มของหญิงสาว
หยดเลือดแดงเข้มผุดซึมขึ้นบนปลายนิ้วอย่างช้าๆ หยดหนึ่ง
“ท่านหญิง ในเมืองส่งคนมาบอกความขอรับ พระชายาให้ท่านหญิงกลับไป บอกว่ามีผู้ถือสารจากวังหลวงต้องการพบท่าน”
ในเวลานี้อาต้าวิ่งตะโกนพูดเข้าประตูกระท่อมมาอย่างรีบร้อน
มือของมู่ฝูหลันสั่นกระตุก นางบ่งเสี้ยนที่ทำร้ายตนเองชิ้นนั้นออกแล้วล้างมือ มอบหมายงานที่เหลืออยู่ให้อาต้า จากนั้นลงเขาไปขึ้นเรือกลับเข้าฝั่ง
ผ่านมาหนึ่งเดือนกว่าแล้ว งานต่างๆ ที่หารือวางแผนกันไว้ก่อนหน้านี้กำลังรุดหน้าไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
การใช้ลู่ทางของจางปันเห็นผลแล้ว ‘ความมุทะลุ’ ของพี่ชายนางรวมถึงที่มู่ฝูหลันจงใจไม่ยับยั้ง ‘การใช้อารมณ์นำเหตุผล’ ของเขาตอนเซี่ยฉางเกิงมาเยือนกลายเป็นยันต์ป้องกันแคว้นฉางซา เมื่อไม่กี่วันก่อนมีข่าวลับส่งมาแจ้งว่าจางปันพูดหว่านล้อมสำเร็จ หลิวไทเฮาไม่น่าจะเล่นงานแคว้นฉางซาทันทีทันใด