ทดลองอ่าน แสนชัง นิรันดร์รัก บทที่ 5-บทที่ 6 – หน้า 32 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แสนชัง นิรันดร์รัก บทที่ 5-บทที่ 6

32 of 32หน้าถัดไป

ทางหยวนฮั่นติ่งก็ส่งข่าวดีมาเช่นกัน นักขุดเหมืองมือฉมังที่สำรวจหาแหล่งแร่มาทั้งชีวิตเข้าสู่ภูเขาลึกในเขตหรู่ หลังได้ตรวจดูลักษณะผืนดินแล้วตื่นเต้นยกใหญ่ บอกว่านอกจากแหล่งแร่กลางภูเขาจะอุดมสมบูรณ์ ยังฝังตัวอยู่ตื้นทำให้ง่ายต่อการขุดสกัด ด้วยบริเวณรอบนอกภูเขามีหมู่บ้านอยู่อย่างกระจัดกระจายไม่กี่แห่ง จึงมีผู้อยู่อาศัยไม่มาก เมื่อหยวนฮั่นติ่งโยกย้ายชาวบ้านออกไปจนหมด ทหารกับช่างเหล็กหลายพันคนก็เริ่มทยอยกันเข้าไปในภูเขาอย่างลับๆ

สำหรับผู้ตรวจการที่ราชสำนักส่งมาประจำการที่แคว้นฉางซาผู้นั้นมิใช่ปัญหาใหญ่อันใดนัก ข่าวที่เขาได้รับไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากเรื่องที่เปิดเผยให้รู้กันทั่ว อีกทั้งพักก่อนยังพบตัวผู้ติดตามนามจูลิ่วหู่ซึ่งเซี่ยฉางเกิงทิ้งเอาไว้ก่อนกลับไปแล้ว เขาแฝงกายเข้าเมืองมาในฐานะพ่อค้าเร่ พำนักอยู่ในตรอกสายหนึ่งไม่ไกลจากวังอ๋อง ทุกวันเขาจะหาบกระจาดเร่ขายของตามตรอกซอกซอยทั่วเมืองเยวี่ย สองสามวันต่อมาก็มีหญิงม่ายนามฮวาเหนียงย้ายไปอยู่เรือนใกล้ๆ กัน กลายเป็นเพื่อนบ้านกับพ่อค้าเร่

ขณะที่หลายวันนี้ฝ่ายพี่ชายของนางวุ่นอยู่กับการเสาะหาเกาะที่เหมาะสมในทะเลสาบต้งถิงสร้างเป็นค่ายทหารโดยยกข้ออ้างตรวจตราทำนบกั้นน้ำ

หลังสร้างเสร็จแล้ว ที่นั่นล้อมรอบด้วยน้ำอยู่ห่างไกลจากผู้คน ถึงจะมีคนมากปานใดหรือเกิดความเคลื่อนไหววุ่นวายอย่างไร คนภายนอกก็ไม่อาจจับสังเกตได้ และไม่สามารถสอดแนมในระยะใกล้ด้วย

แคว้นฉางซาจะมีสถานที่ฝึกทหารซึ่งมีปราการธรรมชาติชั้นยอดแห่งหนึ่งในครอบครอง

ทั้งหมดนี้ล้วนลอบดำเนินการอยู่โดยปิดเป็นความลับอย่างมิดชิดที่สุด ความเป็นไปได้ที่จะถูกคนนอกจับได้จึงน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย

แต่ในเวลานี้เมืองหลวงส่งผู้ถือสารจากวังหลวงมาได้อย่างไร แล้วมีจุดประสงค์อะไรกันแน่

มู่ฝูหลันลอบฉงนใจ เมื่อนางกลับเข้าเมืองไปถึงวังอ๋องก็ได้รับความกระจ่างอย่างรวดเร็ว

ผู้ถือสารนำพระราชเสาวนีย์ของหลิวไทเฮามาพร้อมกับของพระราชทานและหมอหลวงคนหนึ่ง

พอถ่ายทอดพระราชเสาวนีย์จบ คนผู้นั้นก็กล่าวด้วยรอยยิ้มพราย “มู่ซื่อ องค์ไทเฮาทรงได้ยินจากท่านผู้บัญชาการเซี่ยว่าท่านสุขภาพไม่ใคร่ดี หากเป็นเช่นนั้นจริง พระนางย่อมไม่บังคับฝืนใจ หมอหลวงจะอยู่ที่นี่ตรวจชีพจรให้ท่านอย่างละเอียด ดื่มยารักษาจนร่างกายหายดีแล้วค่อยไปก็ยังไม่สาย”

มู่ฝูหลันคุกเข่ากับพื้นพลางโขกศีรษะขอบพระทัย ชั่วครู่ต่อมานางยกตัวขึ้นอย่างเนิบช้า กล่าวว่า

“ขอบพระทัยองค์ไทเฮาที่ทรงห่วงใย ข้าพักรักษาตัวเป็นปกติแล้ว เป็นบุญของข้าที่พระนางทรงระลึกถึง ข้าสามารถเข้าเมืองหลวงได้ทุกเมื่อ”

ผู้ถือสารยิ้มหน้าบาน “ดี ได้เช่นนี้ก็ดี ในเมื่อไปได้ พวกเราก็ไม่ควรปล่อยให้พระนางต้องทรงรอคอยนานเกินไป ออกเดินทางพรุ่งนี้เช้าเลยเป็นอย่างไร”

“สุดแท้แต่กงกงทุกอย่าง”

ลู่ซื่อสั่งให้คนจัดที่พำนักให้ผู้ถือสาร ด้านมู่เซวียนชิงรู้ข่าวก็รุดกลับมาถึงวังอ๋องอย่างเร่งร้อน พอพบน้องสาวเขาก็กล่าวขึ้นทันที “น้องพี่ เจ้าไปไม่ได้นะ พรุ่งนี้ข้าจะไปบอกเองว่าตอนค่ำเจ้าไม่สบายอีกแล้ว ไปไม่ได้”

มู่ฝูหลันไม่รับคำ เพียงถามเขาถึงความคืบหน้าการเสาะหาที่ตั้งค่ายทหาร

มู่เซวียนชิงตอบว่าวันนี้ตนเลือกสถานที่ได้แล้ว เป็นเกาะเจ่อซานที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของทะเลสาบ ผืนน้ำล้อมสี่ทิศ มีเขาจวินซานเป็นที่กำบัง เดินทางไปกลับด้วยเรือราวหนึ่งชั่วยาม บนเกาะครึ่งหนึ่งเป็นพื้นที่ภูเขา ครึ่งหนึ่งเป็นที่ราบ เหมาะแก่การสร้างเป็นค่ายทหารมากที่สุด

มู่ฝูหลันกล่าว “ได้เช่นนี้ก็ดี ท่านเริ่มสร้างค่ายทหารโดยเร็วที่สุด พี่เซวียนชิง ท่านคือเจ้าแคว้นฉางซา จำให้ขึ้นใจว่าอย่าถือดีอย่าเจ้าอารมณ์ ไม่พาตัวเข้าสู่ที่อันตราย รับฟังคำเตือนของพี่สะใภ้มากๆ พี่หยวนเป็นผู้ที่ไว้เนื้อเชื่อใจได้ ทั้งมีความสามารถสูงยิ่ง เรื่องงานฝึกทหารหลังจากนี้ท่านมอบหมายให้พี่หยวนได้อย่างวางใจเต็มที่ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็หารือกับเสนาบดีลู่นะเจ้าคะ”

มู่เซวียนชิงขบสันกรามแน่น “เจ้าไปไม่ได้ ไทเฮาชั่วจะใช้เจ้าเป็นตัวประกัน เจ้าไปแล้วจะต่างอะไรกับเดินเข้าถ้ำเสือรังหมาป่า”

“หากเป็นเช่นนี้ข้ายิ่งต้องไปเจ้าค่ะ ขืนข้าหาข้ออ้างไม่ไป ไทเฮาชั่วจะแคลงใจว่าพวกเราร้อนตัว ถึงนางไม่แสดงความไม่พอใจออกมาให้เห็น แต่ต้องจับตาดูพวกเราโดยไม่คลาดสายตาเป็นแน่ เช่นนั้นทุกสิ่งก็ไม่อาจเป็นไปตามที่เตรียมการไว้ก่อนหน้านี้ได้อย่างราบรื่น”

“น้องพี่”

“พี่เซวียนชิง ข้ารู้ว่าท่านดีต่อข้ามาตั้งแต่เด็ก แต่ท่านอย่าลืมว่าท่านต้องถือหน้าที่ของเจ้าแคว้นเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาถึงจะเป็นพี่ชายของข้า ถ้าสกุลมู่เรากระทั่งปกป้องตนเองยังเป็นปัญหา ก็คงต้องยืมจมูกผู้อื่นหายใจตลอดไป ยังจะพูดเรื่องการล้างแค้นให้อาหญิงอันใดได้ ตอนนี้เป็นโอกาสเพียงหนึ่งเดียวของพวกเรา ไม่ว่าอย่างไรก็เสี่ยงที่จะเสียมันไปไม่ได้”

มู่เซวียนชิงกำสองมือเป็นหมัดแน่น เส้นเอ็นบนหน้าผากปูดโปน

ขอบตาของลู่ซื่อแดงเรื่อ นางก้าวเข้าไปกุมมือมู่ฝูหลัน

“หลันเอ๋อร์ หลังจากเจ้าไปแล้วต้องระวังตัวให้มากขึ้น เจ้าตัวคนเดียว ที่นั่นก็เทียบเรือนตนเองไม่ได้ ไทเฮาชั่วคิดประสงค์ร้ายต่อเจ้า พวกเรากับผู้บัญชาการเซี่ยยังมาบาดหมางกันอีก คราวนี้เจ้าพบกับเขาแล้วจงจำไว้ว่าต้องอดทนอ่อนโอน อย่าล่วงเกินเขาอีกเด็ดขาด”

มู่ฝูหลันพยักหน้ายิ้มๆ

“พี่เซวียนชิง พี่สะใภ้ พวกท่านไม่ต้องกังวลใจจนเกินไป พอข้าไปแล้ว ขอแค่แคว้นฉางซาเดินหน้าไปในทางที่ดีได้ นี่จะเป็นแรงใจที่ดีที่สุดให้ข้า ข้าไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ ข้าจะคิดหาหนทางกลับมาให้เร็วที่สุดแน่นอน”

 

(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็ม)

 

32 of 32หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com