ทดลองอ่าน Don’t Do That! คุณครับ อย่าเปิดไมค์ง่ายๆ เล่ม 1
ผู้เขียน : 柚子冰 (You Zi Bing)
แปลโดย : ซิ่งหลัน
ผลงานเรื่อง : 不要轻易开麦 (Bu Yao Qing Yi Kai Mai)
ถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์เอเวอร์วายในการเผยแพร่ผลงาน
จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว
หากผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
– – – – – – – – – – – – – – – – –
บทที่ 5
เวลานี้ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมทีม ผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม รวมไปถึงคนดูต่างก็สงสัยกันนิดหน่อย เขาจะทำอะไรน่ะ
ให้ซัพพอร์ตไปเลนกลาง แล้วใช้หลิงถ่งซึ่งเป็นเมจที่แข็งแกร่งมาเปิดทาง สำรวจพงหญ้า เอาตัวเองเป็นโล่เนื้อและเมื่อถึงคราวจำเป็นก็เสียสละตัวเอง? หากอยากชนะจริงๆ ตัวเองก็สามารถออกไอเทมจังเกิ้ลมาควบคุมจังหวะเดินเกมได้เลย! ตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามตามหลังอยู่ช่วงหนึ่ง เวลานี้ถ้าหลินจื่อไปเล่นจังเกิ้ลเอง ต่อให้แมรี่หยิบหานฝูมาเดินเล่นในป่าก็ไม่ได้ส่งผลอะไร…ศักยภาพจังเกิ้ลของเขาแข็งแกร่งแบบนี้ล่ะ
แต่ฟังความหมายจากประโยคนั้นของเขา คือเตรียมมอบหน้าที่จังเกิ้ลให้แมรี่ นอกจากนี้ตัวเองยังคิดไว้ดีแล้วด้วยว่าจะฟาร์มให้น้อยที่สุดเพื่อซัพพอร์ตเต็มกำลัง
ในซับกระสุนมีคนถามขึ้นมาทันที
[ลูกชายกำลังล้อเล่นหรือว่าสนุกที่ได้ไล่ตาม…จริงจังเหรอ]
[ให้แมรี่เป็นจังเกิ้ลไม่มีปัญหาจริงเหรอลูกชาย อย่าถูกเงินทองและความงามทำให้สับสนสิ! เล่นอีสปอร์ตคือต้องชนะนะ!]
แต่ก็มีคนที่ไม่ได้คิดเยอะว่าจะมีหรือไม่มีปัญหา เอาแต่ชมลูกชายที่พูดด้วยมาด ‘ถึงฉันเป็นซัพพอร์ตก็สามารถฟาดพวกแกเละได้’ ว่าช่างหยิ่งผยอง เท่มากงับ! แน่นอนว่าต้องมีคนที่ get ได้ถึง ‘ความรักความเอาใจใส่’ จากในคำพูดได้อย่างแปลกประหลาด แต่ความคิดเห็นที่ชอบคู่จิ้นนี้ก็ถูกเลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว…
ตกลงแล้วตัวต้นเหตุอย่างแมรี่คิดอย่างไร คนอื่นเองก็เดาไม่ออก แต่เขาก็ ‘น่าเอ็นดู’ มากมาตลอด พอหลินจื่อพูดเสร็จ เขาก็ควบคุมหานฝูไปทำเรื่องที่ทั้งพื้นฐานมากและธรรมดามากซึ่งจังเกิ้ลต้องทำ…เมื่อเดรกปรากฏตัว เขาก็วิ่งฮืดฮาดเข้าสู้กับเดรก พอบัฟรีเฟรชใหม่ก็ฮึ่มฮั่มๆ เข้าไปกินบัฟ ถ้าเลนบนกลางล่างต้องการความช่วยเหลือก็พุ่งเข้าไปหนุน ซึ่งในระหว่างนั้นไม่ใช่ว่าไม่มีฮีโร่ของศัตรูเข้ามาก่อกวน เมาอวี่ที่เมื่อกี้ดึงดันจนถูกฟาดกำลังตั้งใจกวาดป่าให้เรียบเพื่อที่จะเติมทรัพยากรซึ่งลดลงไปเพราะการตายของตัวเองจึงไม่มีเวลามาร่วมทีมไฟต์ แต่มิดเลนกับ ADC ของฝ่ายตรงข้ามก็มักจะไม่ยอมจึงมาคอยยั่วยุอยู่เป็นระยะ ถึงขนาดโอบกอดความหวังว่าจะคอยแอบซ่อนอยู่ด้านหลังแล้วแย่งบัฟสักอันหรือขโมยมังกรสักตัวอะไรแบบนี้
แต่อย่างแรกฝีมือของพวกเขาไม่สูงเท่ากับเมาอวี่ อย่างที่สองประเมินแมรี่ที่มีหลินจื่อคอยซัพพอร์ตอยู่ข้างๆ ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงได้ต่ำเกินไป ซึ่งความจริงแล้วหลินเหว่ยเองก็แปลกใจในจุดนี้เช่นกัน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแมรี่รับรู้ได้ถึงความตั้งใจของหลินจื่อที่อยากช่วยตัวเองให้พยายามสู้เพื่อเอาชนะ หรือเป็นเพราะว่าเขาค่อนข้างชำนาญฮีโร่หานฝูตัวนี้พอดี เขาจึงต่อสู้ได้ดีมากอย่างไม่น่าเชื่อ!
แน่นอนว่าฝีมือยังไม่อาจเทียบกับหลินจื่อเมาอวี่ที่เป็นระดับเทพได้ ส่วนการควบคุมการเคลื่อนที่ก็ยังมีจุดบกพร่อง แต่เวลาไหนปล่อยสกิลอะไร เคลื่อนที่อย่างไรถึงสามารถตรึงคู่ต่อสู้เอาไว้ได้ จังหวะไหนใช้ควรสไมต์เพื่อจบการต่อสู้ รายละเอียดพวกนี้แมรี่ทำได้ดีมากแล้วจริงๆ เมื่อประสานกับการซัพพอร์ตแบบเต็มกำลังของหลิงถ่งที่หลินจื่อควบคุม ฮีโร่ของฝ่ายศัตรูที่เข้ามาท้าทายต่างก็ถูกตีจนต้องล่าถอยไป ถ้าไม่ตายก็เหลือเพียงครึ่งชีวิต ที่น่าเวทนาที่สุดในนั้นก็คือมิดเลนไอซ์ควีน เดิมทีก็เป็นแค่เมจที่ค่อนไปทาง CC ไม่ใช่ตัวทำแดเมจ ไม่รู้ว่าฟังคำสั่งของเมาอวี่หรือว่าไม่มีสมองตามเมาอวี่ไปด้วย ถึงได้มั่นใจคิดมาโซโล่กับแมรี่หลายครั้ง (แต่ความจริงไม่ใช่การโซโล่เลย เพราะไม่มีใครรู้เลยว่าการที่คุณเห็นว่าหานฝูกำลังตีมอนสเตอร์เพียงคนเดียว แท้จริงแล้วหลิงถ่งกำลังหลบซ่อนคอยโจมตีกลับอยู่ตรงซอกมุมไหน!)
ผลก็คือตอนที่ไอซ์ควีนกำลังมุ่งมั่นต่อสู้ (มอบชีวิต) เลนกลางของฝ่ายตรงข้ามว่างเปล่าไม่มีคนสนใจ พลาดการเคลียร์มินเนี่ยนไปหลายเวฟ จึงถูก Clock Men เข้าไปดันป้อม
ป้อมที่อยู่เลนกลางเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เมื่อป้อมหนึ่งถูกตีแตก ทำให้สูญเสียความได้เปรียบในการมองเห็นพื้นที่ป่าของฝ่ายศัตรูไปทั้งหมด ฝ่ายเรายิ่งเข้าไปอินเวด* ป่าได้ง่ายขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่าไอซ์ควีนที่กำลังสู้ตายกับแมรี่คิดไม่ถึงว่า Clock Men จะมี AP ที่มีประสิทธิภาพสูงแบบนี้ เขาออกไปแค่แป๊บเดียว ป้อมก็ถูกทำลายแล้ว เวลานี้จึงลุกลี้ลุกลน รีบร้อนปล่อยสกิลอัลติเมตที่ไม่มีใครสู้ได้เพราะคิดอยากกลับมาต่อสู้ที่เลนกลาง แต่หลินจื่อจะปล่อยอีกฝ่ายไปได้ยังไง เขาอาศัยจังหวะที่หานฝูปล่อยสกิลสองใส่ไอซ์ควีนเพิ่มผลของการลดความเร็วในการเคลื่อนที่เข้าไปด้วย หลิงถ่งปาลูกแก้วพลังที่สะสมพลังไว้อย่างดีแล้วออกไปหกลูก ตัดเลือดของไอซ์ควีนจนเหลือแค่นิดเดียว!
ผืนป่าโตแล้ว (ช่องแชตทีม) “แมรี่”
เขาตะโกนแค่คำเดียว แมรี่ก็เข้าใจ เข้ามาลาสต์ด้วยการโจมตีธรรมดา จัดการคนนี้ทิ้ง
ถึงแม้การยอมยกศัตรูยกทรัพยากรให้แบบนี้เป็นการกระทำพื้นฐานของซัพพอร์ต แต่สำหรับหลินจื่อที่เล่นเฉพาะจังเกิ้ลมานาน มีแต่คนอื่นยกให้เขา เขาไม่เคยยกให้คนอื่น นี่เป็นครั้งแรก และไม่แน่อาจเป็นครั้งสุดท้ายด้วย
เป็นแบบนี้ทุกคนก็เข้าใจเจตนาของหลินจื่อแล้วว่าเขาอยากให้แมรี่เก็บชีวิตที่มอบออกไปกลับคืนมาด้วยมือของตัวเอง ส่วนความแค้นครั้งนี้ต้องแก้แค้นกี่ครั้ง คงต้องดูฝ่ายตรงข้ามว่าจะเลือดร้อนจนสติหลุดต่อไปหรือเปล่า
ท่ามกลางบรรยากาศที่เร่าร้อนนี้ยังเกิดเรื่องตลกเรื่องหนึ่งขึ้น ดูเหมือนเมาอวี่จะเลือกช่องส่งเสียงพูดผิด ถึงได้ด่าด้วยคำที่หยาบคายมากในช่องพูดคุยรวม จากนั้นก็ทักทายสมาชิกครอบครัวของไอซ์ควีนจนครบ ไอซ์ควีนเองก็ไม่ยอมด้อยกว่า จัดการเปิดไมค์พ่นคำด่ากลับไป เขาเองก็เพิ่งร่วมทีมกับเมาอวี่เป็นครั้งแรก ฟังคำสั่งของอีกฝ่ายแล้วทำไมถึงต้องมาถูกด่า
ทางฝั่งนั้นกำลังทะเลาะกัน หลินเหว่ยอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงเยาะเย้ยออกมาทางจมูก เขาเพียงแค่หัวเราะเบาๆ แต่กลับมีเสน่ห์จนโดนใจบรรดาแฟนคลับสาวๆ เข้าอย่างจัง ซับกระสุนจึงเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้อง ‘อ๊ากกก’ ของพวกเธอ ในขณะที่แฟนคลับชายก็ชอบดูฉากตบหน้านี้ ตอนนี้จึงเริ่มโวยวายให้ลูกชายรีบพาแมรี่ไปตามฆ่าเมาอวี่
หลินเหว่ยเห็นข้อความนี้แล้วก็พูดว่า “เมื่อกี้ใครพูดว่าเล่นอีสปอร์ตคือต้องชนะ? หลักการคืออย่างนี้ ถ้าฝ่ายตรงข้ามสติหลุดพวกเราต้องไม่สติหลุดตามไปด้วย แต่ถ้าเขาไม่เจียมตัวอีกก็ต้องฆ่าแน่นอน ถ้าไม่รนหาที่ตายพวกเราก็จะทำเรื่องของตัวเองต่อไป”
พูดเสร็จก็ตะโกนอีกว่า “แมรี่ พวกเราไปกัน หนุนเลนบน เคลียร์เวฟเสร็จ เปิดบารอน จากนั้นก็ดันป้อม”
สุดท้ายเพิ่งพูดว่า ‘ถ้าฝ่ายตรงข้ามสติหลุดพวกเราต้องไม่สติหลุดตามไปด้วย’ จบ ขณะผ่านพื้นที่ป่าตอนบน เมาอวี่ก็กระโดดออกมาแสดงให้เห็นว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่า ‘สติหลุด’
แม้ว่ากานหนิงเลเวลสิบจะเข้าสู่ช่วงที่มีพลังแข็งแกร่ง แต่หานฝูของแมรี่เลเวลสิบสองแล้ว ระดับขั้นสูงสุดบวกทรัพยากรมากสุดของทั้งสนามแข่งขัน แถมยังมีหลิงถ่งที่อยู่เลเวลสิบคอยคุ้มกันอยู่ข้างๆ อีกคน
กานหนิงยังคงใช้วิธีเดิม เขาซ่อนอยู่ในพงหญ้า พอเห็นหานฝูผ่านไปก็รีบโยนค้อนดาวตกไปตรึงคนเอาไว้ คิดจะลากไปอินสตาคิลที่ด้านข้าง โดยทั่วไปแล้วหากเจอเข้ากับกานหนิงที่เบิร์สแดเมจสูงช่วงกลางและท้ายเกม ถ้าถูกตรึงเอาไว้ส่วนใหญ่เท่ากับรอความตาย ยิ่งนับประสาอะไรกับแมรี่ที่อยู่แค่แรงก์โกลด์กันล่ะ
เมาอวี่ผยองแล้วจริงๆ ในใจยังโอบกอดความคิดที่จะจู่โจมแมรี่ ฆ่าอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วจากนั้นถอยออกมา ซึ่งเขาเองนึกไม่ถึงเลยว่าหลินจื่อจะโต้ตอบเร็วถึงระดับนี้ ชั่ววินาทีที่หานฝูถูกลากเข้าไปในพงหญ้า อีกฝ่ายก็ตามเข้ามาทันที ลูกแก้วระเบิดพลังซึ่งเป็นสกิลที่สี่ล็อกเป้าไว้อยู่บนหัวของเมาอวี่แล้ว ต่อให้กานหนิงสามารถจัดการหานฝูได้ภายในสามวินาที แต่โดนลูกแก้วระเบิดพลังที่สะสมพลังไว้จนเต็มนี้ก็มีชีวิตรอดไปไม่ได้เหมือนกัน!
เวลานี้เมาอวี่มีความคิดหนึ่งว่าผืนป่าโตแล้วบ้าหรือเปล่า
ลูกแก้วระเบิดพลังของหลิงถ่งแข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งจนถึงขั้นที่ส่วนมากแล้วลูกแก้วระเบิดพลังเพียงลูกเดียวสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของการต่อสู้ได้เลย ดังนั้นคูลดาวน์จึงโหดมาก หากตอนนี้ใช้ลูกแก้วระเบิดพลังที่พลังเต็มเปี่ยมไปแล้ว อีกประมาณห้านาทีถึงจะเกิดขึ้นมาใหม่ โดยปกติถ้าไม่สุดวิสัย จะไม่มีคนใช้ลูกแก้วระเบิดพลังกับการต่อสู้ระดับนี้หรอก
เมาอวี่ไม่คาดคิดเลย ตอนที่เขายังอยู่โต้วหลงทีวี ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเจอกับหลินจื่อในการแข่งขันแบบทีม และไม่ใช่ว่าไม่เคยทำเรื่องยั่วยุเช่นนี้มาก่อน แต่ส่วนใหญ่พวกเขาต่อสู้กันแล้วจะผลัดกันแพ้ชนะ ท่าทีของผืนป่าโตแล้วที่มีต่อเขาพูดให้ชัดเจนหน่อยก็คือ ‘ไม่แคร์’ และจุดนี้เองที่ทำให้เมาอวี่ไม่สบายใจ ส่วนลูกแก้วพลังที่ล็อกเขาแน่นิ่งอยู่นี้ เป็นครั้งแรกที่ทำให้เมาอวี่รับรู้ได้ว่าตัวเองถูกพุ่งเป้า ขณะเดียวกันความรู้สึกโกรธแค้นและไม่ยินยอมก็เกิดขึ้นตามมา
แต่สถานการณ์การต่อสู้เป็นที่แน่นอนแล้ว
หานฝูเหลือเลือดอยู่ครึ่งเดียวตอนเข้าพงหญ้า แต่ขณะที่เมาอวี่ลังเลเขากลับปล่อยคอมโบสกิลหนึ่งสองสาม ดูดเลือดกลับมา เมาอวี่ติด DOT* ของหานฝู แล้วยังถูกลูกแก้วระเบิดพลังของหลิงถ่งล็อกไว้อีก ต่อให้อยากหนีก็ยากมาก
เมาอวี่ไม่ถอยแล้ว เขายืนต่อสู้อยู่ที่เดิมไม่หยุด เอาความโกรธแค้นทุกอย่างในหลายปีนี้รวมกับความไม่ลงรอยในวันนี้เปิดไมค์ด่าออกมาจนหมด
เมาอวี่ไม่พูด (ช่องพูดคุยรวม) “ผืนป่าโตแล้ว นับวันนายแม่งยิ่งต่ำช้าเข้าไปทุกที ไม่เล่นเกมดีๆ วันๆ เอาแต่ประจบนายทุน ตามเขาต้อยๆ เหมือนกับพี่เลี้ยงเพื่ออะไร ไม่ตะขิดตะขวงใจบ้างเหรอที่นายบอกว่านายชอบเกมนี้ นายแม่งให้เกียรติ Summon Spirits ให้เกียรติอีสปอร์ตบ้างไหม”
หลิงถ่งปล่อยลูกแก้วระเบิดพลังออกมาแล้ว แต่ควบคุมแดเมจได้อย่างชาญฉลาดมาก เมาอวี่เหลือเลือดเพียงนิดเดียว หานฝูเข้ามาลาสต์ด้วยการโจมตีธรรมดาเช่นเดิม เก็บชีวิตของกานหนิงไปได้อย่างสุขใจ พวกเขาประสานงานกันได้อย่างราบรื่นจนสำเร็จในรวดเดียว หากพูดว่านี่คือ ‘การประจบนายทุน’ ก็คงไม่ผิดนัก
ถึงแม้กานหนิงจะกลายเป็นซากศพแล้ว แต่เมาอวี่ยังคงด่าอยู่
เมาอวี่ไม่พูด (ช่องพูดคุยรวม) “เห็นเงินเป็นพระเจ้าจนถึงขั้นนี้มีแต่ทำลายบรรยากาศของการสตรีม ทำให้นักแข่งทั้งหมดเสื่อมเสีย!”
เมาอวี่ไม่พูด (ช่องพูดคุยรวม) “คนอื่นชมนายทุกวันว่าเป็นจังเกิ้ลอันดับหนึ่งของ Summon Spirits นายคงตัวลอยเลยสินะ เพื่อเงินแล้วทำเป็นพินอบพิเทาใช้หลิงถ่งแล้วยังยอมเป็นซัพพอร์ตให้นายทุนอีก เพื่อของขวัญแค่นิดหน่อยไม่รู้จักอายแล้วหรือไง ทำไมนายไม่ไปขายตูดเลยล่ะ ฉันยังพอยอมรับได้หน่อย อ้อ นายไม่เคยเปิดกล้องเลยนี่นา กลัวว่าหน้าตาขี้เหร่จนขายตูดแล้วก็ยังไม่มีคนเอา?”
คำพูดสกปรกของเขาพูดสะเปะสะปะออกมาโดยไม่คิด คน (จำนวนมาก) ของทั้งสองห้องสตรีมต่างได้ยินกันหมด ช่วงนี้แพลตฟอร์มดูแลเข้มงวดมากเรื่องการใช้ภาษาตอนเวลาสตรีมให้เป็นไปตามมาตรฐาน เมื่อคำพูดพวกนี้ออกมาส่วนใหญ่จะต้องถูกแอดมินออกมาเตือน หลินเหว่ยฟังแล้วยังรู้สึกบาดหู แต่ขำมากกว่า สามปีมานี้เขาได้ยินคำพูดก่อกวนไม่มีตรรกะประเภทนี้ไม่รู้กี่ครั้ง แค่ปล่อยให้เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาก็พอแล้ว ถ้ามัวแต่คิดเล็กคิดน้อยกับคนที่ตัวเองเคยเอาชนะจะส่งผลถึงอารมณ์ได้
แน่นอนว่าพวกแฟนคลับล้วนฟังไม่เข้าหู นี่มันพูดไร้สาระอะไร ฝีมือสู้เขาไม่ได้ก็มาด่าว่าคนอื่นประจบนายทุน แกเข้าใจอะไร นี่เรียกว่าความรักของแฟนคลับ! ชาวด้อมนกที่ถูกคำพูดนี้ทำจนโมโหเลยทุ่มเงินฟลัดของขวัญกัน แม้จะรู้ว่าหลินจื่อมีประสบการณ์มาโชกโชนไม่ได้จิตใจบอบบางขนาดนั้น แต่ก็ยังอยากจะใช้พลังอันน้อยนิดของตัวเองมาปลอบใจ
หลินเหว่ยเพิ่งปล่อยลูกแก้วพลังเสร็จ กำลังเตรียมจะบอกกับแมรี่ว่าไม่ต้องเก็บคำพูดของเมาอวี่มาใส่ใจ เขาเปิดไมค์เรียกแมรี่ แต่ไม่ได้รับการตอบกลับจึงเปลี่ยนมุมของกล้อง แล้วพบว่าแมรี่ยังยืนอยู่ตรงนั้น จึงเรียกซ้ำอีกรอบด้วยความแปลกใจ “แมรี่?”
จากนั้นเขาก็ได้ยินน้ำเสียงหนึ่งที่ไม่รู้จักแต่ก็คุ้นหูอยู่บ้างดังขึ้นในช่องของสนามแข่งขัน
ช่างประปาแมรี่1111 (ช่องพูดคุยรวม) “อย่ายั่วให้ฉันขำหน่อยเลย ระดับอย่างคุณอยากหานายทุนก็คงหาไม่ได้ อิจฉาขนาดนี้กลัวคนอื่นไม่รู้หรือไง ฉันมีเงินอยากทุ่มให้คนไหนก็ทุ่มให้คนนั้น แต่ยังไงก็ไม่ให้คนที่ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้แล้วยังปากเหม็นแบบคุณแน่ ความจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเสี่ยว* หลินจื่อของพวกเรา จังเกิ้ลอันดับหนึ่งของ Summon Spirits ต่อให้เล่นซัพพอร์ตก็เอาชนะคุณได้ การแข่งขันครั้งแรกของแพลตฟอร์มใหม่ก็ถูกฉันที่อยู่แค่แรงก์โกลด์ถล่มยับ ฉันแนะนำให้แฟนคลับกับเจ้านายของคุณหยุดความเสียหายให้ทันเวลา คิดใคร่ครวญให้ดีเรื่องที่จะเลี้ยงสวะคนหนึ่งให้สิ้นเปลืองเวลาและเงินทอง”
ไม่เปิดไมค์ก็แล้วไปเถอะ แต่พอเปิดไมค์มาแล้วก็ด่ายาวเหยียด หลายประโยคนั้นเต็มไปด้วยการเสียดสียั่วยุแต่ไม่มีคำหยาบเลยสักคำเดียว น้ำเสียงไพเราะน่าฟัง รื่นหูเป็นธรรมชาติ พูดรวดเดียวไม่หยุดพัก
เมาอวี่เซ่อไปเลย
หลินจื่อเองก็อึ้ง
เมาอวี่คิดไม่ถึงว่าสายเปย์ฝีมือห่วย นิสัยแปลกประหลาดไม่ยอมเปิดไมค์ตามที่เล่าลือกันคนนี้ ไม่เพียงฝีมือจะไม่แย่ (เขาเองก็ไม่เต็มใจยอมรับว่าตัวเองถูกฆ่าโดยคนที่ได้ชื่อว่าฝีมือห่วย) ซ้ำยังไม่ปิดไมค์ อยู่เฉยๆ พอเปิดมาก็เหน็บแนมแบบฟรีสไตล์ซะด้วย! เขาเกิดใหม่แล้ว แต่โมโหอยู่ในน้ำพุไม่อยากออกมา มิดเลนที่ถูกเมาอวี่ด่าอย่างเจ็บแสบคนนั้นก็อดไม่ไหวจนต้องเปิดไมค์หัวเราะ สะใจเหลือเกินที่เขาถูกเยาะเย้ย
หลินจื่อเองก็เงียบ…สำหรับเขาแล้ว แมรี่ด่าอะไรไม่สำคัญเลย จุดสำคัญก็คือแมรี่เปิดไมค์แล้วจริงๆ
ที่แท้แมรี่ก็เป็นผู้ชาย
ที่แท้เสียงของเขาก็เพราะขนาดนั้น
แม้ว่าน้ำเสียงที่ผ่านสัญญาณรบกวนจะไม่เหมือนเสียงจริงอยู่บ้าง แต่หลินจื่อรู้สึกอยู่ตลอดว่าเสียงของแมรี่คุ้นหู ทว่าก็อธิบายไม่ถูก
โดยภาพรวมเกมตานี้ตัดสินแพ้ชนะแล้ว หลังจากเมาอวี่ถูกด่าไปยกหนึ่ง และอาจเป็นเพราะเมื่อกี้ด่าคำหยาบแรงมากจึงถูกแพลตฟอร์มเตือน ไม่ได้เปิดไมค์อีก แมรี่พูดประโยคนั้นเสร็จก็ขี้เกียจปิดไมค์ เลยเปิดค้างเอาไว้เพื่อพูดคุยกับหลินจื่อ ถามว่าไปไหน ตีอะไร ให้ไปหนุนตรงไหน ทั้งสองคนสื่อสารกันลื่นไหล ประสานกันอย่างรู้ใจ จนดันป้อมในบ้านของศัตรูได้อย่างราบรื่น ตอนที่เสียงประกาศ Victory ดังขึ้นมา ในห้องสตรีมดีใจกันเป็นพิเศษ แต่หลินเหว่ยได้คุยกับแมรี่แล้ว เลยไม่ได้สนใจซับกระสุนมากนัก
เสียงของแมรี่เพราะมาก ต่อให้กั้นด้วยระยะทางที่ห่างไกลแต่ก็ฟังออกถึงเสน่ห์ในน้ำเสียง แม้จะเป็นการจับคู่แข่งขันที่คาดไม่ถึง แต่เพราะชนะเกมนี้ เขาเลยอารมณ์ดี ในน้ำเสียงที่พูดจึงกลั้วด้วยเสียงหัวเราะ แมรี่บอกว่าแข่งขันเพื่อความบันเทิงอีกสักตาแล้วจะออฟไลน์ ดังนั้นหลินจื่อจึงไปเข้าคิว cloning match*
ระหว่างเข้าคิวแมรี่ถึงแบ่งความสนใจไปดูซับกระสุน บนหน้าจอเต็มไปด้วยข้อความว่า
[แมรี่เปิดไมค์]
[แมรี่เปิดไมค์ได้ดีมาก]
[คิดไม่ถึงเลยว่าแมรี่จะเป็นผู้ชาย]
อย่างที่คิดไว้จริงๆ หลินเหว่ยเลือกบางข้อความอ่านให้แมรี่ฟัง
ช่างประปาแมรี่1111 “อคติ ทำไมชื่อแมรี่แล้วจะเป็นผู้ชายไม่ได้ แมรี่คนนั้นที่เป็นช่างประปาไม่ใช่คุณอาคนหนึ่งหรอกเหรอ*”
หลินจื่อตอบ “พวกเขาบอกว่าคุณคือคนที่เพอร์เฟ็กต์เหมือนแมรี่ซู…อ้อ ตอนนี้ต้องเป็นคนที่เพอร์เฟ็กต์เหมือนแจ็คซู**”
ช่างประปาแมรี่1111 “ที่ไหนกัน แค่ธรรมดาเท่านั้นล่ะ”
หลินจื่อถอนหายใจอย่างขบขัน “โชคดีที่คุณฝีมือแย่ ไม่อย่างนั้นด้วยระดับการโต้ตอบนี้ของคุณ ถ้ามาเป็นสตรีมเมอร์ ผมกลัวว่าผมคงตกงาน”
ซับกระสุนปลอบใจเขาบอกว่าต่อให้แมรี่เปลี่ยนงานมาเป็นสตรีมเมอร์ก็คงเป็นสตรีมเมอร์บันเทิง เจ้าลูกชาย ตำแหน่งสตรีมเมอร์ยอดฝีมือของนายไม่สั่นคลอนหรอก จากนั้นก็มีคนแย้ง ฉันไม่ได้มาดูลูกชายโชว์ฝีมือ! ฉันอยากดูลูกชายกับแมรี่คุยเรื่องตลก! ถึงแม้ท่านประธานแมรี่ไม่ต้องทำอาชีพเสริมนี้เพื่อหาเงิน แต่ไม่แน่คนเขาอาจมีความฝันเป็นสตรีมเมอร์เล่าเรื่องตลกก็ได้นะ? ขนาดประธานบริษัทยังเข้าวงการเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตเลย
เซี่ยงเซิง*** เป็นข้อเสนอที่ไม่เลว ต้องบอกว่าต่อให้เมื่อก่อนตอนที่ดูโอ้กับเตี๋ยอิ่ง หลินจื่อเองก็ไม่เคยคุยเล่นอย่างมีความสุขแบบนั้นมาก่อน แมรี่เป็นคนที่ไม่สร้างความกดดันให้ ตอนที่ไม่เปิดไมค์ก็เป็นแบบนี้ ตอนนี้เปิดไมค์แล้วก็ยังเป็นเหมือนเดิม
ไม่รู้ว่าเพราะอีคิวสูงหรือเพราะสาเหตุอะไรอย่างอื่น จะเป็นที่น้ำเสียงของแมรี่ก็ดี หรือวิธีการพูดก็ช่าง มันทำให้หลินจื่อรู้สึกสบายใจมาก
จู่ๆ เขาก็มีความคิดอย่างอื่น แม้จะเคยมีความคิดนี้มานานมากแล้ว แต่ตอนนี้มันเด่นชัดเป็นพิเศษ ฉับพลันนั้นหลินเหว่ยพลันอยากรู้มากๆ ว่าตกลงแล้วแมรี่เป็นคนยังไง เขารู้ว่าตอนแรกแมรี่เปิดแอ็กเคานต์รองมาติดตามเขา เกรงว่าคงไม่อยากเปิดเผยเรื่องของตัวเองมากเกินไป แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ หลินเหว่ยก็ยิ่งอยากรู้ ความอยากรู้นั้นพุ่งสูงขึ้นถึงขีดสุดในวันนี้
แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถเป็นฝ่ายถามก่อนได้ นอกเสียจากแมรี่จะบอกเขาด้วยตัวเอง
แมรี่เล่นเกมบันเทิงที่ไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรอีกหนึ่งตาจากนั้นก็ออฟไลน์ หลินจื่อยังต้องเล่นเพิ่มอีกหลายชั่วโมงถึงจะเสร็จภารกิจของเดือนนี้ เขาจึงต้องสตรีมต่อ บอกลาแมรี่แล้ว ในซับกระสุนมีบางคนยังคงจมอยู่กับเรื่องราวเมื่อครู่ที่พลิกผันสารพัด ที่ถกเถียงกันมากที่สุดก็คือเรื่องที่แมรี่เล่นหานฝูแล้วไม่ได้แย่ขนาดนั้น รวมถึงน้ำเสียงของแมรี่ที่เพราะขนาดนั้น
ในข้อความเหล่านั้น หลินเหว่ยสนใจซับกระสุนข้อความหนึ่งที่เลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ซับกระสุนนั้นบอกว่า
[ไม่มีใครรู้สึกเหรอว่าเสียงของแมรี่คล้ายลู่เหยาจือมาก]
หลินเหว่ยเห็นข้อความนี้แล้ว เขาย้อนคิดอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกว่าคล้ายอยู่บ้างเหมือนกัน แต่ก็แค่คล้าย วันนี้ตอนสตรีมเขาพูดถึงลู่เหยาจือมากเกินไป ทำเหมือนมีดีลอะไรกันอย่างนั้น ดังนั้นเขาจึงปล่อยข้อความนี้ผ่านไป ไม่ได้ตอบอะไร
เวลานี้หลินเหว่ยเองก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะซับกระสุนข้อความนี้หรือเพราะว่าแมรี่เปิดไมค์ แล้วต่อมาจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง…
* อินเวด หรือเวด คือการบุกป่าของอีกฝ่ายเพื่อแย่งชิงทรัพยากร ไม่ว่าจะเป็นมอนสเตอร์หรือบัฟ ทำให้ป่าของอีกฝ่ายเสียเปรียบทั้งเรื่องของเลเวล โกลด์ ไอเทม และการเดินเกม
* DOT (Damage Over Time) คือดีบัฟชนิดหนึ่งที่ส่งผลให้เป้าหมายที่ได้รับโดนแดเมจเล็กน้อยอย่างต่อเนื่อง (ทุกๆ 3 วินาที) จนกระทั่งหมดผลของดีบัฟชนิดนั้น
* เสี่ยว ในที่นี้ถูกใช้เป็นคำนำหน้าชื่อ มักใช้เรียกคนที่อายุน้อยกว่า
* cloning match เป็นการแข่งขันรูปแบบหนึ่ง โดยให้สมาชิกทุกคนในทีมเลือกใช้ฮีโร่ตัวเดียวกัน
* ช่างประปาแมรี่ เป็นชื่อที่ชาวจีนใช้เรียกเกมมาริโอ
** แจ็คซู เป็นตัวละครชายที่มีความสมบูรณ์แบบในทุกๆ ด้านเหมือนแมรี่ซู
*** เซี่ยงเซิง การแสดงตลกตามประเพณีดั้งเดิมของจีน มีลักษณะเดียวกันกับการทำทอล์กโชว์
บทที่ 6
ลู่เหยาจือถ่ายฉากสำคัญฉากสุดท้ายในกองถ่ายเรื่อง ‘กลียุคฉางอัน’ ตั้งแต่ตีสองจนถึงเที่ยงวัน
ถึงจะเป็นฉากพูดทั่วไปทั้งหมด ไม่ต้องใส่สลิงเดินเหินอยู่บนหลังคา แต่เพราะเป็นฉากไคลแมกซ์ที่อารมณ์รุนแรงมาก ทั้งหมดอาลัยร้องไห้หนัก ทั้งขว้างปาข้าวของ ทรมานคนมาก ดังนั้นรอจนถ่ายเสร็จสิ้นจริงๆ ไม่เพียงแค่ลู่เหยาจือ เมื่อผู้กำกับตะโกนว่าคัต ทั้งกองถ่ายต่างก็มีความรู้สึกโล่งอกอย่างหนึ่ง
แต่นี่ยังไม่ถือว่าปิดกล้อง วันนี้กลับไปพักผ่อนสักหน่อย พรุ่งนี้ยังต้องถ่ายซ่อมอีกบางส่วน
ขณะที่กองถ่ายเตรียมเปลี่ยนฉาก เหล่าผู้ช่วยช่างกล้องกำลังตรวจเช็กอุปกรณ์ ลู่เหยาจือที่ถ่ายทำมาหลายชั่วโมง เวลานี้พอออกจากตัวละครแล้วเขาก็เพียงนั่งอย่างเงียบสงบอยู่ข้างตำหนัก ปล่อยให้ผู้ช่วยฝ่ายคอสตูมช่วยปลดสายคาดเอว ถอดเสื้อคลุมตัวยาวหนาหนักออก เขายังไม่สามารถดึงอารมณ์ออกมาจากตัวละครได้ทั้งหมด นั่งเหม่อด้วยความงุนงงคิดว่าพรุ่งนี้ปิดกล้องอย่างเป็นทางการแล้วก็จะมีวันหยุดสิบกว่าวัน อีกสองสามเดือนถึงเปิดกล้องภาพยนตร์เรื่องต่อไป ในที่สุดก็มีเวลาได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ต่อไปเวลาเล่นกับเจ้าเด็กสตรีมเมอร์ก็ไม่ต้องเจียดเวลาระหว่างทำงานแล้ว…พอคิดๆ ไป แม้กระทั่งเสี่ยวหวังผู้ช่วยเข้ามายื่นส่งผ้าขนหนูกับน้ำให้ เขาก็ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง
เสี่ยวหวังเรียกเขาอยู่หลายครั้ง ลู่เหยาจือถึงค่อยๆ ได้สติกลับมา รับสิ่งของที่อีกฝ่ายส่งให้
เครื่องประดับศีรษะต้องกลับไปถอดออกที่ห้องแต่งตัว เครื่องสำอางก็ต้องค่อยๆ ลบ กว่าสี่เดือนเต็มของการถ่ายทำ ในที่สุดก็จะจบสิ้นแล้ว ลู่เหยาจือไม่มีความรู้สึกอาลัยหรือใจหายอย่างหาได้ยาก ครั้งนี้เขาเองก็รู้สึกว่าทำสำเร็จลุล่วงได้ไม่เลว บวกกับการรอคอยวันหยุดต่อจากนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะนั่งยิ้มขึ้นมาอยู่ตรงนั้น ทำเอาพี่สาวผู้ช่วยฝ่ายคอสตูมตกใจสะดุ้งโหยง ลู่เหยาจือเป็นชายงามหน้าเกลือที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ทำสีหน้าเรียบเฉยทั้งวันจนทุกคนชินแล้ว ชินจนเข้ากองมาสี่เดือน ผู้ช่วยฝ่ายคอสตูมไม่เคยเห็นเขายิ้มมีความสุขแบบนี้มาก่อน
หรือว่าดีใจที่กำลังจะปิดกล้องแล้ว? ก็มีส่วนจริงอยู่ เพราะผู้กำกับซูได้ชื่อว่าเข้มงวดเด็ดขาดไม่ไว้หน้า สามารถปิดกล้องอย่างราบรื่นก็ควรดีใจ…
ในใจลู่เหยาจือกำลังเฝ้ารอ แต่เสี่ยวหวังกลับมีท่าทีระวังเกรงกลัว รอจนลู่เหยาจือดื่มน้ำคำหนึ่งก็ได้สติกลับมา ชำเลืองมองแค่แวบเดียวก็มองออกถึงความผิดปกติของอีกฝ่าย
เขาย่นคิ้วถาม “เป็นอะไรเหรอ”
พูดเสร็จเขาก็นึกอะไรขึ้นได้ ปกติเวลาแบบนี้เสี่ยวหวังจะหยิบโทรศัพท์มือถือมาให้แล้ว แต่วันนี้กลับชักช้า
ลู่เหยาจือมีลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีขึ้นมาทันที บ่ายเมื่อวานตอนที่เขารอเข้าฉาก เดิมทีไม่ได้เตรียมจะออนไลน์เอง แต่บังเอิญเจอหลินจื่อเปิดสตรีมพอดี พอเล่นดูโอ้ด้วยกันก็เจอกับเรื่องที่มันขยายไปซับซ้อนจนไม่อาจคาดเดา แล้วเขาก็เปิดไมค์ด้วยความหุนหันพลันแล่นชั่วขณะ
หลังจากเปิดไมค์แล้วเขาไม่ได้เสียใจ เพราะที่ควรด่าก็ต้องด่า เขาเองไม่ใช่คนใจพระ เห็นคนที่ตัวเองชอบถูกด่าแล้วจะฝืนทนไว้ได้ ส่วนปัญหาเรื่องน้ำเสียง เสียงของลู่เหยาจือถือว่ามีเอกลักษณ์ แต่คงไม่ถึงขนาดถูกคนจำได้แบบนี้หรอก อย่างน้อยก็ดูเจ้าทึ่มหลินจื่อนั่นสิ ทั้งที่ก่อนเปิดเกมต่อสู้เอาแต่พร่ำรำพันถึงลู่เหยาจือๆ อยู่แท้ๆ แต่กลับฟังไม่ออกเลย…เมื่อวานลู่เหยาจือไม่สบอารมณ์เล็กน้อย แล้วก็บอกได้ไม่ชัดเจนว่าตกลงแล้วตัวเองคาดหวังอยากให้ถูกจำได้หรือไม่ได้กันแน่
แต่หลินจื่อจำได้หรือไม่ ก็เป็นเรื่องระหว่างเขากับหลินจื่อ
ไมค์ก็เปิดไปแล้ว ไม่ใช่ว่าลู่เหยาจือไม่คิดใคร่ครวญว่าบางทีอาจมีคนสงสัย แต่ไม่น่ามีผลกระทบมากนักหรอกใช่ไหม อย่างมากก็แค่มีคนคนหนึ่งที่น้ำเสียงคล้ายเขา ถึงเมื่อวานจำนวนคนที่ดูไลฟ์จะถือว่าเยอะ แต่ก็เรียกไม่ได้ว่า ‘ทุกคนให้ความสนใจ’ แล้วจะมีปัญหาอะไร
ลู่เหยาจือคิดถึงเรื่องที่ก่อนหน้านี้ผู้จัดการเคย ‘แจ้ง’ เขาขึ้นมาได้ทันที บอกว่ากำลังเจรจางานพรีเซ็นเตอร์ตัวหนึ่ง…เขาสั่นสะท้านในใจ พูดว่า “เอามือถือให้ฉัน”
เสี่ยวหวังถอนหายใจ พูดว่า “พี่ลู่ คุณอย่าโกรธนะ” พลางยื่นส่งมือถือไปให้เขา
ลู่เหยาจือปลดล็อกโทรศัพท์มือถืออย่างรวดเร็ว ล็อกอินเวยป๋อ แล้วก็เห็นชื่อของตัวเองกับหลินจื่อในอันดับค้นหายอดนิยมตามคาด เขากดเข้าไปอ่านเนื้อหาคร่าวๆ แล้วปิดทันที จากนั้นโทรศัพท์หาแจ็ค ผู้จัดการส่วนตัว
ไม่รอให้แจ็คเอ่ยปาก ลู่เหยาจือก็โพล่งถามตรงๆ ว่า “พวกคุณซื้ออันดับค้นหายอดนิยม?”
น้ำเสียงของเขาไม่ดี ทุกคำบ่งบอกถึงความโกรธ แจ็คเองก็รู้ชัดเจนว่าที่เขามีท่าทีดุดันเพราะอะไร จึงพูดอธิบาย “ถ้าผมบอกว่าไม่ใช่ คุณจะเชื่อไหม ผมไม่ได้เป็นคนซื้อ”
ลู่เหยาจือแววตาเข้มขึ้น สีหน้าย่ำแย่เข้าไปทุกที เสี่ยวหวังเห็นแล้วถึงกับตัวสั่น
แจ็คยังพูดอยู่ทางฝั่งนั้น “ผมเดาว่าโต้วหลงทีวีคิดจะเกาะกระแสของคุณ แต่คิดไม่ถึงว่าแฟนคลับของคุณจะไม่ยอมรับ…”
ลู่เหยาจือ “สถานการณ์ตอนนี้ คุณภูมิใจมากใช่ไหม”
ถึงแม้แจ็คจะปฏิเสธเสียงอ่อย แต่ความจริงลู่เหยาจือไม่คิดจะเชื่ออีกฝ่ายทั้งหมดอยู่แล้ว เขาพูดว่า “ไว้โทรหาใหม่” จากนั้นก็วางหูเลย
เทียบกับความโกรธแล้ว ตอนนี้ลู่เหยาจือเป็นห่วงมากกว่า
เจ้าเด็กสตรีมเมอร์เห็นพวกนี้หรือยัง ตอนนี้เขากำลังทำอะไร เขาคิดยังไง
#ผืนป่าโตแล้ว ลู่เหยาจือ# จู่ๆ คำค้นหายอดนิยมนี้ก็โผล่มาที่อันดับยี่สิบกว่าในช่วงเวลาไพร์มไทม์เมื่อคืน ที่จริงในช่วงเวลาเดียวกันยังมี #ผืนป่าโตแล้ว ลู่เหยาจือสตรีม# และ #ผืนป่าโตแล้ว ลู่เหยาจือ Summon Spirits# สองแท็กนี้ด้วย แต่อยู่ที่ประมาณอันดับห้าสิบหกสิบไม่ได้เลื่อนขึ้นข้างบน
ตอนเริ่มแรกที่เห็นคำค้นหายอดนิยมนี้ แฟนคลับส่วนใหญ่ของลู่เหยาจือล้วนงุนงง “ผืนป่าโตแล้วคืออะไรกัน”
ทุกคนต่างรู้กันดีว่าอันดับคำค้นหายอดนิยมมีวิธีการตัดสินหนึ่งซึ่งเป็นที่ยอมรับกันโดยปริยายว่า…ชื่อของใครอยู่ข้างหน้าก็คือคนนั้นซื้อ! เพราะกล่าวกันว่าตอนที่ทำสถิติข้อมูล คำค้นหายอดนิยมที่มีช่องว่างตรงกลางระหว่างสองชื่อ กระแสจะตกไปอยู่ที่ฝ่ายแรกอัตโนมัติโดยไม่แบ่งให้ฝ่ายหลัง ซึ่งกฎแบบนี้ทางออฟฟิเชียลไม่เคยยอมรับมาก่อน แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงกลายเป็นบรรทัดฐานที่ทะเลาะกันภายในกลุ่มแฟนคลับ แถมเป็นความจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่แฟนคลับยอมรับแบบนี้ก็พอแล้ว
ดังนั้นผืนป่าโตแล้วที่หน้าไม่อายคนนี้กล้าเอาชื่อวางไว้หน้าลู่เหยาจือแถมยังใส่ช่องว่างด้วย พอซื้อคำค้นหายอดนิยมก็ซื้อจนอยู่ที่อันดับยี่สิบกว่าแล้ว แถมอันดับยังเลื่อนขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาเป็นเทพมาจากไหน?
พวกแฟนคลับกดเข้าไปดูด้วยความสงสัยและความโกรธ พอเข้าไปดูก็เห็นพวกแอ็กเคานต์ปั่นกระแสที่มีเครื่องหมาย V สีเหลือง V สีฟ้าเป็นกอง มีทั้งที่โพสต์ข่าวเกม โพสต์ข่าวบันเทิง อย่างน้อยก็มียี่สิบกว่าโพสต์ ซึ่งทั้งหมดลงคลิปสั้นและเนื้อหาข่าวที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกัน
เนื้อหาข่าวนั้นชวนช็อกมาก อย่างเช่น ดูเหมือนว่าลู่เหยาจือนักแสดงวัยรุ่นที่กำลังโด่งดังจะหลงใหลสตรีมเมอร์หนุ่ม Summon Spirits เปิดเผยจากตอนดูโอ้แล้วเปิดไมค์คุยกัน! ได้ยินว่าเขาเปย์ให้ผืนป่าโตแล้วหลายแสน เปิดไมค์ด่าคนได้เยี่ยมมาก ที่แท้ไอดอลของพวกคุณก็เป็นติ่งของคนอื่น?
แล้วก็มีเนื้อหาอย่างอื่นอีก แต่ใจความสำคัญก็คือไม่กี่จุดนี้ Summon Spirits เกมนี้มีสตรีมเมอร์หนุ่มชื่อว่าผืนป่าโตแล้ว เขาเปิดไมค์ดูโอ้กับแฟนคลับ แฟนคลับคนนั้นเสียเงินให้เขาหลายแสน แถมยังเปิดไมค์ช่วยด่าคนให้เขาด้วย เสียงคล้ายลู่เหยาจือมาก อาจจะเป็นตัวลู่เหยาจือเอง
คลิปเป็นการตัดต่อจากเทปบันทึกการสตรีม แล้วยังใช้ตัวหนังสืออธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดด้วย เปิดเรื่องด้วยการอวย Summon Spirits ว่าเป็นเกมออนไลน์ที่นิยมที่สุดในเวลานี้ มีดาราหลายคนที่ชื่นชอบ แต่คิดไม่ถึงว่าลู่เหยาจือไม่เพียงแค่เล่นแต่ยังตามจีบสตรีมเมอร์หนุ่มด้วย แล้วตัดต่อภาพมาที่ ‘ช่างประปาแมรี่1111’ เล่นหานฝูมาเยอะมาก พร้อมกับบอกว่าน่าเสียดายที่ฝีมือแย่มาก จากนั้นก็เน้นย้ำส่วนสำคัญที่เมาอวี่ยั่วยุ แมรี่กับหลินจื่อร่วมมือกันตอบโต้ แมรี่เปิดไมค์ด่าเมาอวี่แบบฟรีสไตล์เป็นพรวน สุดท้ายถึงแม้ไม่ได้สรุปแน่นอนว่าตกลงแล้วเสียงนี้เป็นลู่เหยาจือหรือไม่ แต่พูดมาถึงขนาดนี้ก็เพียงพอแล้ว
ตำหนักเหยาฉือซึ่งเป็นแฟนคลับของลู่เหยาจือ อย่างแรกคือโดนคำค้นหายอดนิยมที่โผล่มากะทันหันทำจนวุ่นวาย จากนั้นก็ตกใจจนปวดหัวกับเนื้อหาข่าวที่ให้ความรู้สึก ‘เหยียบย่ำ’ เต็มเปี่ยม กดเปิดคลิปแล้วยังต้องอดทนที่ไอดอลของตัวเองถูกเยาะเย้ยว่าห่วยทั้งที่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันความจริง ยังมีที่น่าตกตะลึงยิ่งกว่าก็คือการกระทำที่ขาดสติ ‘เปิดไมค์เพื่อความรัก’ ปล่อยหมัดมาเป็นชุดแบบนี้ทำให้พวกตำหนักเหยาฉือโมโหเดือดดาล อดทนไม่ไหวแล้ว แหกมันเลยแล้วกัน!
แม้ลู่เหยาจือเพิ่งโด่งดังได้ไม่นานมาก แต่ไม่ว่าผลงานหรือระดับความมีชื่อเสียงต่างก็โดดเด่นเหนือกว่าคนในช่วงวัยเดียวกัน เป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไปขณะเดียวกันก็มีแฟนพันธุ์แท้เยอะมาก ไม่เพียงแค่เยอะ แต่พลังในการสู้ก็แข็งแกร่งมากด้วย เขาไม่ถึงขนาดเป็นที่นิยมระดับท็อปแต่ก็ถือว่าเป็นซูเปอร์สตาร์คนหนึ่ง
กลุ่มแฟนคลับจำนวนมากถูกยั่วให้โกรธจึงพากันลุยเข้าไปในเวยป๋อและแพลตฟอร์มโซเชียลอื่นของ ‘ผืนป่าโตแล้ว’ มีคนด่าตรงๆ ว่าไอ้พวกเกาะคนดังแม่ตาย มีคนที่พูดเหน็บแนมเชือดเฉือนว่าสตรีมเมอร์คนหนึ่งที่อยากดังจนคลั่งถึงได้ใช้วิธีสร้างกระแสแบบนี้จะต้องหมดความนิยมไปตลอดชีวิต แล้วก็มีคนที่แกล้งโง่ไม่รู้เรื่องถามว่านี่เกมผิดกฎหมายที่ไหนกัน สตรีมเมอร์เถื่อนจากไหนกันถึงได้กล้าเกาะกระแสลู่เหยาจือ ซึ่งในนั้นมีแฟนคลับส่วนหนึ่งที่บ้าคลั่งทำเกินเหตุและขาดสติไปมาก ถึงกับแท็กเจ้าตัว ด่าตั้งแต่หัวจรดเท้า ด่ายันครอบครัว จากนั้นก็ส่งข้อความส่วนตัวด่า มีทั้งที่วิตถาร มีทั้งที่ด่าหยาบคายยาวหลายหน้า ถ้าค้นหาคำว่าผืนป่าโตแล้วสี่คำ ผลที่ออกมาทั้งหมดคือเวยป๋อของตำหนักเหยาฉือที่ด่าคนจนไม่เห็นอย่างอื่นเลย ถ้าใช้ศัพท์เฉพาะของกลุ่มแฟนคลับก็คือ ‘หน้าคำค้นหา’ ถูกคนล้างแล้ว
และมีแฟนคลับที่พอมีสติอยู่บ้างหลังดูคลิปแล้วก็ถามเสียงอ่อยว่ามีแค่ฉันคนเดียวเหรอที่คิดว่านั่นคือเหยาเหยา? จากนั้นก็ถูกคนในด้อมด่าทันทีว่าหูหนวกหรือไง แม้แต่เสียงของเมนยังฟังไม่ออก! ไม่ใช่ของจริง!
เพียงไม่นานทีมตอบโต้แอนตี้ของลู่เหยาจือก็เคลื่อนไหว พวกเขาติดแท็ก super topic และแท็กแนะนำของลู่เหยาจือ อธิบายว่าเมื่อวานลู่เหยาจือกำลังถ่ายภาพยนตร์อยู่ในกองถ่ายไม่มีเวลามาเล่นเกม ลู่เหยาจือเป็นเด็กดีมีมารยาทไม่ด่าคนแบบนั้นแน่ หวังว่าสตรีมเมอร์บางคนจะรู้ตัวเองดี ไม่ใช้วิธีแบบนี้มาสร้างกระแส แล้วพวกเขาก็รีพอร์ตแอ็กเคานต์ที่โพสต์คลิปทีละแอ็กเคานต์ ขณะเดียวกันก็กระหน่ำล้างคำค้นหายอดนิยม เพียงพริบตาไฟสงครามก็ลุกโหมว่อนทั่วเวยป๋อ
เห็นได้ชัดว่าตำหนักเหยาฉือเห็น ‘ผืนป่าโตแล้ว’ เป็นคนไร้ตัวตนที่ทำทุกวิถีทางเพื่อมาเกาะสร้างกระแส แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่า Summon Spirits เป็นเกมที่โด่งดังซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างมาก ส่วน ‘ผืนป่าโตแล้ว’ ก็เป็นสตรีมเมอร์ที่คนทั่วไปชื่นชอบเยอะ ยิ่งแฟนคลับสาวๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แฟนคลับชายกลุ่มใหญ่ของผืนป่าโตแล้วไม่ค่อยเล่นเวยป๋อ แต่จะแฝงตัวอยู่ตามเว็บบอร์ดใหญ่ต่างๆ เดิมทีกระทู้พูดคุยสดเกี่ยวกับที่เมื่อวานหลินจื่อฉีกหน้าเมาอวี่ก็มีเป็นกองอยู่แล้ว พอมีคำค้นหายอดนิยมนี้ออกมา เหล่าผู้เล่น Summon Spirits ย่อมให้ความสนใจกันมาก ดังนั้นคนทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มแฟนคลับรวมถึงพวกผู้เล่นชายจึงถูกบังคับให้ดู ‘การแสดงการตอบโต้แอนตี้’ เห็นสตรีมเมอร์ที่พวกเขาชอบถูกลากบรรพบุรุษออกมาด่าสิบแปดชั่วโคตร จนถึงขั้นแช่งให้คลอดลูกชายที่ไม่มีรูทวาร ยิ่งกว่านั้นยังถึงกับด่าเกม Summon Spirits ว่ากำลังเกาะกระแสพี่ชายของพวกเขา เกรงว่าคนที่เล่น Summon Spirits คงไม่ใช่พวกกระจอกกันหมดหรอกนะ เริ่มโจมตีด้วยคำพูดขึ้นมา แล้วพวกผู้เล่นจะนั่งอยู่เฉยได้เหรอ
พวกเขาไม่ได้นิสัยดีขนาดนั้นกันอยู่แล้ว ตอนแรกมีแค่แฟนคลับพ่อแฟนคลับแม่ของหลินจื่อที่ถกแขนเสื้อมาโต้ตอบ แต่พลังไม่มากพอ ต่อมากลายเป็นการทุ่มเทอย่างสุดกำลังกันของผู้ใช้ตามเว็บบอร์ดเกมใหญ่ๆ หลายเว็บ ใช้บัญชีรองเวยป๋อมาเข้าร่วมสู้รบ พวกเขาจำนวนมากในนั้นเคยได้ยินเรื่องสายเปย์แสนห่วยกันมาแล้ว จึงด่าตอกกลับไปอย่างเจ็บแสบทีละข้อความ ทำไมแมรี่ถึงเป็นลู่เหยาจือไม่ได้ล่ะ รายได้ต่อปีของ Summon Spirits ตั้งหลายพันล้านทำไมต้องเกาะกระแส ทำไมคนที่เล่นเกมนี้ต้องเป็นสาวโรงงานกระจอกด้วย จะบอกเธอให้นะว่าผืนป่าโตแล้วเป็นตัวนำโชคของ Summon Spirits ถ้าพวกเธอยังปากสกปรกด่าเขาอีกก็ลองดู!
การทะเลาะกันอย่างครึกโครมนี้กระทบไปทั่ว ลามมาจนถึงขั้น ‘ขัดแย้ง’ ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งระหว่างนี้ผืนป่าโตแล้วไม่ได้ออกมาพูดเลย จนถึงตอนสี่ทุ่มครึ่ง พวกแอ็กเคานต์ปั่นกระแสที่ถูกรีพอร์ตไม่สำเร็จก็ปล่อยคลิปที่สองออกมา
ซึ่งครั้งนี้เนื้อหาเน้นไปทางหลินจื่อ คลิปตัดต่อเนื้อหาในห้องสตรีมวันนี้ที่หลินจื่อพูดคุยเรื่องลู่เหยาจือกับคนดู รวมถึงซื้อสินค้าที่อีกฝ่ายเป็นพรีเซ็นเตอร์ ชมว่าหล่อ แล้วยังบอกว่าหลิงถ่งคล้ายเขา ในเนื้อหาข่าวต่างบอกว่าคิดไม่ถึงสินะว่าที่แท้พวกเขาต่างฝ่ายต่างชอบกัน หลินจื่อเองก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งในตำหนักเหยาฉือ
ไม่รู้ว่าคนที่ลงมืออยู่เบื้องหลังอยากใช้เรื่องที่หลินจื่อก็เป็นแฟนคลับเหมือนกันมาลบภาพพจน์ที่ไม่ดีก่อนหน้า หรือว่าเป็นการราดน้ำมันลงบนกองไฟกันแน่ สรุปคือหลังนำเสนอเนื้อหาพวกนี้แล้ว พวกตำหนักเหยาฉือยิ่งระเบิด ถ้าเมื่อกี้ยังมีบางคนที่ไม่ได้ด่าหลินจื่อโดยตรง เวลานี้ก็พุ่งเป้าไปที่ตัวหลินจื่อแล้ว มีคนค้นเอาคลิปสตรีมฉบับเต็มมาดู แล้วบอกว่าหลินจื่อเป็นพวกชอบเกาะคนดังที่วางแผนไว้ล่วงหน้า หาคนที่เสียงคล้ายลู่เหยาจือมาเล่นเองกำกับเอง ก่อนหน้านี้ไม่เคยเอ่ยถึงลู่เหยาจือมาก่อน ทำไมอยู่ดีๆ วันนี้ถึงดื่ม Bernachon เมื่อก่อนเล่นแต่จังเกิ้ล ทำไมวันนี้ถึงใช้หลิงถ่งที่คล้ายลู่เหยาจือมาก นี่ไม่ใช่อาศัยช่วงที่ลู่เหยาจือยุ่งกับการถ่ายหนังไม่มีเวลามาแก้ข่าวลือมาสร้างกระแสหรือไง! หน้าไม่อาย! ไอ้พวกชอบเกาะ!
ทิศทางในการโจมตีของพวกเขาค่อยๆ เบี่ยงไป ถึงขนาดหาแรงบันดาลใจจากในเนื้อหาที่เมาอวี่ด่าในรีเพลย์สตรีม ผืนป่าโตแล้วไม่เคยเปิดกล้อง? ต้องเป็นโอตาคุน่ารังเกียจแน่ แล้วยังมาหลงรักพี่ชายอีก ทำให้คนอยากอ้วกจริงๆ เลย
ผู้เล่น Summon Spirits เองก็โต้ตอบกลับทันควัน มีไม่น้อยเลยที่เริ่มลามขึ้นไปที่ตัวลู่เหยาจือ บอกว่าเมื่อก่อนแฟนคลับของลู่เหยาจือเองยังคุยโม้เลยว่าหลิงถ่งลอกภาพลักษณ์ของลู่เหยาจือมา ตอนนั้น Summon Spirits ดังกว่าลู่เหยาจือร้อยเท่า เรียกว่าเกาะคนดังเหมือนกันหรือเปล่า ไม่ว่าหลินจื่อจะเปิดหรือไม่เปิดกล้องแต่ก็เป็นสตรีมเมอร์อันดับหนึ่งของ Summon Spirits จำเป็นต้องให้พวกติงต๊องบ้าดาราอย่างพวกเธอมาพูดพล่ามไร้สาระเหรอ
เวยป๋อแทบทุกโพสต์ที่สื่อความนัยให้ทะเลาะเบาะแว้งต่างมียอดแชร์ยอดไลค์ยอดคอมเมนต์เกินหมื่น ภาพพจน์ที่เชื่อมโยงถึงลู่เหยาจือซึ่งกว่าพวกแฟนคลับจะสร้างออกมาได้ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่าง ‘หนุ่มหล่อหน้าเกลือ’ ‘นักแสดงจิตใจดี’ ‘กลียุคฉางอัน’ ก็กลายเป็น ‘แมรี่’ ‘Summon Spirits’ ‘ผืนป่าโตแล้ว’ ‘ฝีมือห่วย’ เป็นต้น
คืนนี้ทีมตอบโต้ของตำหนักเหยาฉือทุ่มกำลังเต็มที่ ส่วนพวกหนุ่มสาวโอตาคุที่ยืนอยู่ฝั่งหลินจื่อก็ไม่ยอมแพ้ ผลัดกันฟลัดหน้าจอไปมา พอถึงตอนกลางวันที่ลู่เหยาจือเห็นก็ยังไม่สงบ นอกจากนี้ฟ้าสว่างแล้ว จึงมีคนเข้าร่วมตอบโต้มากขึ้น ตอนที่ลู่เหยาจือไถคำค้นหายอดนิยมก็เห็นแล้ว มีคนที่ใช้ไอดีชื่อว่า ‘เหยาซุ่น szd*’ แคปรูปมาโพสต์รูปหนึ่ง แถมยังพิมพ์ข้อความไว้อย่างต่ำทรามว่า
[เหยาเหยามีแต่ร่วมทีมกับซุ่นซุ่นเท่านั้น สตรีมเมอร์กระจอกที่ไหนกำลังติดสัด ลู่เหยาจือตัวจริงจะเปิดไมค์คุยกับแก? ไม่รู้จักตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองบ้างเลย]
ลู่เหยาจือไม่ต้องกดเปิดก็รู้ว่านั่นเป็นรูปที่แคปมาจากตอนปีที่แล้ว ที่เขากับเจียงซุ่นเซิงร่วมทีมเล่นเกมด้วยกันซึ่งถูก ‘แฉ’ ออกมา พอเขานึกถึงเจียงซุ่นเซิงก็จะคิดโยงไปถึงปีที่แล้ว หลังจากเขาร่วมรายการวาไรตี้โชว์กับเจียงซุ่นเซิงหลายเทปก็ถูกทีมงานรายการจับเป็นคู่จิ้นซึ่งสะบัดยังไงก็ไม่หลุด ไม่ว่าทำอะไรก็จะถูกล้อจนเขารู้สึกอึดอัดไม่สบายใจ
ถึงลู่เหยาจือจะชอบผู้ชาย แต่ก็ไม่ได้สนใจเจียงซุ่นเซิงและไม่คิดอยากมีการพัฒนาอะไรให้มากเกินไป ผู้จัดการบอกว่านี่เป็นสถานการณ์ที่ win-win ทั้งคู่ เขาไม่ให้ความร่วมมือก็ไม่มีประโยชน์ เพราะถ้าไม่ร่วมมือ ทีมงานและผู้จัดการส่วนตัวของอีกฝ่ายก็จะร่วมมือกันสร้างกระแส บวกกับวิธีการขุดความหวานของแฟนคลับคู่จิ้น ทั้งหมดนั้นสามารถทำให้คาดเดาไปได้อย่าง ‘สมเหตุสมผล’ กับการทำตัวเย็นชาของเขา
ถูกสร้างความรำคาญแบบนี้มานานหลายเดือน จนรายการวาไรตี้นั้นฉายจบ ลู่เหยาจือจึงรีบเข้ากองถ่ายเรื่องต่อไป หนีเข้าภูเขาป่าลึกถ่ายหนังไม่ออกมา
พอถ่ายหนังเสร็จออกมา เขากับเจียงซุ่นเซิงไม่ได้ติดต่อกันครึ่งค่อนปีแล้ว ลู่เหยาจือคิดว่าแบบนี้ดีเลย คงหยุดได้แล้ว ผลสุดท้ายไม่รู้ว่าสมองของแจ็คมีปัญหาหรือเปล่า เมื่อครึ่งปีก่อนถึงได้รับงานโปรโมตเกมมือถือของบริษัทหนึ่ง แถมเกมมือถือนั่นยังเคยถูกคนกล่าวหาว่าลอกเลียน Summon Spirits ด้วย
แผนการโปรโมตของบริษัทเกมมือถือ ‘อ่อน’ มาก ก็คือให้แอ็กเคานต์เปิดเผยข่าว ‘แฉ’ ว่าเจียงซุ่นเซิงกับลู่เหยาจือเคยร่วมทีมเล่นเกมมือถือนี้ด้วยกัน อาศัยการเป็นคู่จิ้นของพวกเขามาสร้างความสนใจ ความคิดดีมาก แต่ตัวลู่เหยาจือเองไม่เต็มใจ เขาชักสีหน้าใส่แจ็ค ตั้งใจแสดงออกมากว่าไม่อยากใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้องนี้มาหาเงินอีก เขามีเงินและดังพอแล้ว ทำไมต้องทำเรื่องหลอกลวงคนที่ไม่คุ้มแบบนี้ด้วย แต่แจ็คความโลภเข้าตาแล้ว หรืออาจเป็นเพราะสัมผัสถึงความหอมหวานของการปั่นกระแสคู่จิ้นถึงเห็นด้วยกับแผนนี้
แฟนคลับของคู่จิ้นเหยาซุ่นแตกตื่น มีนักข่าวหยิบรูปที่แคปนี้ไปถามความจริงกับเจียงซุ่นเซิง ตอนนั้นเจียงซุ่นเซิงมีผลงานใหม่กำลังจะฉาย เขาไม่ได้ตอบตรงๆ พูดเพียงว่าตัวเองกำลังเล่นเกมนี้จริง ดังนั้นทุกคนจึงถือว่าเขายอมรับไปโดยปริยาย พวกแฟนคลับคู่จิ้นจึงสร้างหัวข้อและคำค้นหายอดนิยมขึ้นมา ดัชนีไป่ตู้* ดัชนีเวยป๋อของเกมมือถือนั้นเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว ตัวลู่เหยาจือไม่ได้โพสต์อะไร แต่แจ็คใช้แอ็กเคานต์สตูดิโอของลู่เหยาจือที่ตัวเองดูแลไปกดไลค์การสัมภาษณ์ของเจียงซุ่นเซิงก่อนจะกดยกเลิก การกระทำที่เจตนาสร้างความลึกลับซับซ้อนนี้สุดท้ายก็กลายเป็นหลักฐานการ ‘ยอมรับ’ ของแฟนคลับคู่จิ้น จนพากันดีอกดีใจฟินกับความหวาน นอกจากนี้ยังยกยอเกมมือถือนั่นว่าเป็นแม่สื่อ ทั้งดาวน์โหลดทั้งเติมเงิน สนุกสนานครึกครื้นสุดๆ
วันนั้นแจ็คโอนเงินค่าโปรโมตหนึ่งแสนห้ามาให้ ลู่เหยาจือโมโหไม่รับโทรศัพท์ของเขา แจ็คเลยส่งข้อความเสียงมาว่า “คุณไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นก็ได้รับเงินฟรีๆ หนึ่งแสนห้า ไม่ดีเหรอ เหยาเหยา คุณอย่าตรงไปตรงมานักเลย”
ลู่เหยาจือหัวเราะเยาะแล้วพูดว่า “เงินนี่ผมไม่ต้องการ แต่ในเมื่อพวกคุณถือว่าใช้ประโยชน์จากผมแล้ว ผมก็จะไม่โอนกลับไป”
เขาสุ่มเปิดคลิปสตรีมหนึ่งบนไอแพด กดเปิดห้องสตรีมหนึ่งที่อยู่ด้านบนสุด เข้าไปแล้วก็เริ่มส่งของขวัญ เปย์ครั้งหนึ่งก็แคปรูปโชว์ให้แจ็ค
พอเปย์ไปเปย์มาลู่เหยาจือก็พบว่าสตรีมเมอร์คนนี้น่าสนใจ ซับกระสุนเรียกกันมั่วซั่วไปหมดว่าลูกชาย ลูกรัก ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้โกรธจริงๆ โชว์การทำควอดราคิล เพนตาคิล** พลางทะเลาะกับซับกระสุนอย่างไม่ใส่ใจ “ถ้าคุณมีลูกชายอยู่แรงก์ออบซิเดียนที่ทำเพนตาคิลได้ถือว่าโชคดีแล้วนะ” ลู่เหยาจือส่งกล่องของขวัญราคาสองพันแค่ไม่กี่กล่องเท่านั้น สตรีมเมอร์คนนั้นก็ตกตะลึงจนพูดว่า “เพื่อน คุณทำอะไรน่ะ มีอะไรที่คิดไม่ตกก็พูดมาตรงๆ อย่าทำให้ผมตกใจสิ”
ลู่เหยาจือคิดในใจ เจ้าเด็กสตรีมเมอร์คนนี้น่ารักนิดหน่อยแฮะ น่ารักกว่าเจียงซุ่นเซิงบวกกับแจ็คหลายร้อยเท่า ทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาเยอะ
ตั้งแต่นั้นมาลู่เหยาจือก็เล่นเกมอย่างจริงบ้างหลอกบ้างกับหลินจื่อ ยิ่งรู้จักเขา ก็ยิ่งชอบและนับถือทัศนคติในการทำงานและท่าทีในการวางตัวของเจ้าเด็กสตรีมเมอร์คนนี้ ‘แมรี่’ กลายเป็นอีกหนึ่งตัวตนที่ลู่เหยาจือใช้ระบายความกดดันของตัวเอง
ทว่าตอนนี้…ตัวตนและการมีอยู่ของ ‘แมรี่’ กลับกลายเป็นคมมีดที่ทำร้ายเจ้าเด็กสตรีมเมอร์
* szd ย่อมาจาก shì zhēn de แปลว่าเป็นเรื่องจริง
* ไป่ตู้ เป็นเสิร์ชเอ็นจิ้นอันดับหนึ่งของประเทศจีน
** ควอดราคิล (Quadra Kill) คือการฆ่าสี่ตัวติดต่อกัน และเพนตาคิล (Penta Kill) คือการฆ่าห้าตัวติดต่อกัน
โปรดติดตามตอนต่อไป…
Comments
comments
No tags for this post.