ทดลองอ่าน เรื่อง Psychic ปริศนาลับ สัมผัสวิญญาณ เล่ม 2
ผู้เขียน : 风流书呆 (Feng Liu Shu Dai)
แปลโดย : ปราณหยก
ผลงานเรื่อง : 灵媒 (Ling Mei)
ถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์เอเวอร์วายในการเผยแพร่ผลงาน
จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว
หากผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
– – – – – – – – – – – – – – – – –
Trigger Warning
※ เนื้อหามีประเด็นอ่อนไหวเกี่ยวกับความรุนแรง ปัญหาในครอบครัว
มีการกล่าวถึงอาการป่วยทางจิต การทำร้ายเด็ก การทำร้ายทางร่างกายและจิตใจ
การบังคับหรือโน้มน้าวให้ทำบางอย่างโดยไม่เต็มใจ การข่มขืน
การฆ่าตัวตาย และการใคร่เด็ก ซึ่งอาจส่งผลกระทบทางจิตใจ
สำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
※ Trigger ที่ระบุข้างต้นไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวละครหลักทั้งหมด
※ นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ
** หมายเหตุ: ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **
– – – – – – – – – – – – – – – – –
บทที่ 57 คำให้การของโจรเรียกค่าไถ่
นิ้วของลูกถูกโจรตัด แล้วจะไม่ให้เสิ่นโหย่วเฉวียนร้อนใจได้ยังไง เขากับพวกหลันฉี่กลับไปที่ห้องหนังสืออีกครั้งเพื่อเร่งดำเนินการขายทรัพย์สิน จังหวะนี้เองหลงเฉิงเซิงหลบออกไปนอกคฤหาสน์ หยิบมือถือเก่าๆ เครื่องหนึ่งออกมา เขาโทรไปที่เบอร์เบอร์หนึ่งครั้งแล้วครั้งเล่า แต่กลับโทรไม่ติด
“แม่งเอ๊ย มือถือบ้าบออะไรวะ!” เขาทั้งโมโหทั้งร้อนใจ แทบจะปามือถือใส่กำแพง
จงฮุ่ยลู่ลอบออกมาเหมือนโจร เธอหาอยู่นานกว่าจะเจอตัวหลงเฉิงเซิง พออ้าปากก็ถามอีกฝ่ายด้วยเสียงสะอื้น “นายบอกว่าเหราเหราจะปลอดภัยไม่ใช่เหรอ ทำไมพวกนั้นถึงตัดนิ้วเขาได้ นายรีบให้พวกนั้นปล่อยเหราเหราเลยนะ! คืนเหราเหรามาให้ฉันเดี๋ยวนี้! หลงเฉิงเซิง นายมันใจร้าย! เหราเหราเป็นลูกแท้ๆ ของนาย ทำไมนายถึงทำได้ลง”
“คุณเบาเสียงหน่อย!” หลงเฉิงเซิงเหลียวซ้ายแลขวา เมื่อแน่ใจว่ารอบๆ ไม่มีคนก็พูดต่อด้วยเสียงร้อนรน “คุณแน่ใจเหรอว่านั่นคือนิ้วของเหราเหรา ฟางหู่เป็นพี่น้องร่วมสาบานของผม เขาไม่มีทางทำร้ายเหราเหราแน่ ผมไม่เชื่อ!”
ไหนเลยที่จงฮุ่ยลู่จะกล้าแตะนิ้วนั้น แต่ความกลัวกับความเป็นห่วงสุดขีดทำให้เธอไม่สามารถคิดเป็นอื่น “นั่นมันนิ้วของเหราเหราแน่ๆ มีหรือฉันจะจำไม่ได้ หลงเฉิงเซิง นายรีบให้พวกนั้นปล่อยคนเลยนะ ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจจับนาย! นายรับปากฉันว่าเหราเหราจะปลอดภัย แล้วตอนนี้มันอะไร นิ้วของเหราเหราถูกตัด! ฉันบ้าไปแล้วจริงๆ ถึงได้ยอมรับแผนของนาย!”
“ถ้าคุณกล้าแจ้งตำรวจ ผมก็จะลากคุณไปด้วย อย่าลืมสิว่าคุณก็มีส่วนอยู่ในแผนนี้เหมือนกัน ผมอัดเสียงไว้แล้ว! เราสองคนลงเรือลำเดียวกัน อย่ามาขู่กันเลย! เดินกันมาเก้าสิบเก้าก้าว ตอนนี้เหลือแค่ก้าวสุดท้าย ผมไม่มีทางยอมแพ้ แค่นิ้วนิ้วเดียวค่อยต่อทีหลังก็ได้ เสิ่นโหย่วเฉวียนมีเงิน มีหรือเขาจะเลี้ยงเหราเหราไม่ได้ เงินห้าสิบล้านนั่นเป็นของผม ใครก็ห้ามทำลายแผนของผม รวมถึงคุณด้วย!” หลงเฉิงเซิงบีบคอจงฮุ่ยลู่ ขู่เสียงต่ำ สีหน้าเต็มไปด้วยความดุดัน
จงฮุ่ยลู่มองเขาอย่างหวาดผวา ไม่กล้าส่งเสียงแม้แต่น้อย
จังหวะนี้เอง การ์ดสองคนที่ทำหน้าที่เฝ้ากระเป๋าพลันโผล่มาทางด้านหลังของหลงเฉิงเซิง ล็อกแขนสองข้างของเขาและเตะข้อพับให้ลงไปคุกเข่า ก่อนสวมกุญแจมือ
จงฮุ่ยลู่เหวอ เพราะเธอก็ถูกสวมกุญแจมือเช่นกัน
ซ่งรุ่ยในชุดสูทโอ่อ่าเดินออกมาจากมุม ในมือถือเครื่องรบกวนสัญญาณที่กำลังมีไฟสีแดงปรากฏอยู่ มีของชิ้นนี้ หลงเฉิงเซิงจะต่อสายมือถือหาคนข้างนอกได้ยังไง
“เอาพวกเขากลับไปสอบปากคำ” ซ่งรุ่ยเดินช้าๆ เข้ามาที่ข้างตัวทั้งคู่เพื่อดึงเครื่องดักฟังขนาดเท่าเมล็ดข้าวสองอันออกมาจากใต้เสื้อผ้าของพวกเขา เสี่ยวหลี่แอบติดพวกมันบนตัวทั้งคู่ตอนที่เดินสวนกัน บทสนทนาทั้งหมดเมื่อครู่ได้รับการบันทึกเอาไว้เรียบร้อย กลายเป็นหลักฐานชั้นดี
หลงเฉิงเซิงเหมือนจะเดาอะไรได้ หน้าจึงซีดลงอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งคู่ถูกนำไปสอบปากคำในห้องสอบสวนคนละห้อง เด็กยังอยู่ในมือคนร้ายอีกสองคน การสอบถามเบาะแสของเด็กจึงเป็นเรื่องเร่งด่วน ในขณะที่เรื่องอื่นสามารถรอได้ โชคดีที่แผนโจมตีจิตใจและทำให้แตกคอของซ่งรุ่ยให้ผลชะงัด จงฮุ่ยลู่เข้าใจว่านิ้วของลูกชายถูกตัดจริงๆ จึงสารภาพเรื่องที่ตนรู้ออกมาอย่างรวดเร็ว
คนร้ายอีกสองคนที่ซ่อนตัวอยู่ข้างนอกเป็นชายหนึ่งคนหญิงหนึ่งคนจริงๆ ผู้ชายชื่อฟางหู่ ผู้หญิงชื่อโจวย่วน ทั้งสองเป็นคู่รักกัน พวกเขาเคยติดคุกด้วยคดีปล้นชิงและฆ่าคน เป็นคนบ้านเดียวกับหลงเฉิงเซิง ส่วนเรื่องที่ตอนนี้พวกเขาซ่อนตัวอยู่ที่ไหน เธอไม่แน่ใจ เพราะมีแต่หลงเฉิงเซิงที่รู้ พวกเขามีหน้าที่ดูเด็ก เมื่อถึงเวลาก็ปล่อยตัว ไม่ได้รับผิดชอบเรื่องรับเงินค่าไถ่
หลงเฉิงเซิงจะเป็นคนรับเงินค่าไถ่เอง ช่วงสุดท้ายเขาจะให้โจวย่วนโทรสั่งเสิ่นโหย่วเฉวียนให้แลกเงินสกุลเหรินหมินปี้ เป็นดอลลาร์สหรัฐแล้วนำไปวางไว้ในกล่องหนึ่งใบ ระหว่างนั้นจงฮุ่ยลู่จะแอบไปซื้อกระเป๋าเดินทางหน้าตาเหมือนกันมาสองใบเพื่อหลอกให้สามีใส่เงินดอลลาร์สหรัฐไว้ในกระเป๋าหนึ่งใบ และอีกหนึ่งใบใส่กระดาษเปล่ากับเงินสกุลเหรินหมินปี้จำนวนหลักพันเอาไว้ เมื่อสบโอกาสก็สลับกระเป๋าสองใบ ให้เสิ่นโหย่วเฉวียนถือกระเป๋าใส่กระดาษเปล่าไป และส่งกระเป๋าที่ซ่อนเงินดอลลาร์สหรัฐให้หลงเฉิงเซิง
จุดส่งมอบเงินค่าไถ่อยู่ที่ทางยกระดับแห่งหนึ่ง ใต้ทางยกระดับเป็นแหล่งเสื่อมโทรมที่สับสนวุ่นวายที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง เสิ่นโหย่วเฉวียนเป็นห่วงสวัสดิภาพของลูกชาย เขาจึงทำตามที่คนร้ายบอกด้วยการเอากระเป๋าไปโยนไว้ใต้สะพานอย่างไม่มีอิดออด ทว่าหลังกระเป๋าหล่นลงไปกลับไม่เห็นโจรไปรับ และถูกคนในสลัมฉวยโอกาสเก็บไป ในกระเป๋ามีเงินอยู่หลายพัน คนพวกนั้นอย่างมากก็เป็นพวกติดยาหรือคนร้ายหนีคดีที่สามารถก่ออาชญากรรมเพื่อเงินไม่กี่สิบ นับประสาอะไรกับเงินหลักพัน
ความคุ้นชินในการทำลายหลักฐานอยู่ในกมลสันดานของพวกเขา หลังแบ่งเงินกัน พวกเขาย่อมต้องเผากระเป๋ากับกระดาษเปล่าให้เป็นจุณ พอตำรวจมาถามก็ไม่มีใครให้เบาะแส เป็นวิธีที่สามารถทำให้เรื่อง ‘เงินเจ็ดล้านกว่าดอลลาร์สหรัฐ’ หลอกๆ นั้นหายไปได้อย่างไร้ร่องรอย และไม่สร้างปัญหาให้แก่หลงเฉิงเซิงแม้แต่น้อย แผนนี้เรียกได้ว่าแยบยลมาก
หลังได้คำให้การของจงฮุ่ยลู่ ซ่งรุ่ยรีบไปพบหลงเฉิงเซิง และในขณะเดียวกัน เสี่ยวหลี่ก็สอบคดีของฟางหู่กับโจวย่วน ทำให้รู้ว่าพวกเขาเป็นพวกใจโฉดแค่ไหน
“ผมบอกความจริงคุณได้หนึ่งเรื่องว่านิ้วที่ถูกตัดอันนั้นเป็นของลูกคุณจริง” ซ่งรุ่ยจ้องตาหลงเฉิงเซิง พูดทีละคำ ทีละประโยค “คุณน่าจะรู้จักฟางหู่กับโจวย่วนดีกว่าผม คุณคิดว่าพวกเขาจะปรานีเด็กเพราะเห็นแก่หน้าคุณเหรอ เมื่อก่อนฟางหู่ฆ่าคนเพื่อเงินไม่กี่ร้อยได้ แล้วคุณว่าถ้าเทียบกันระหว่างเงินห้าสิบล้านกับความเป็นพี่น้องของพวกคุณ เขาจะเห็นว่าอะไรสำคัญกว่า แผนของคุณเพอร์เฟ็กต์มาก ผมซูฮกความเฉียบแหลมของคุณจริงๆ”
พูดมาถึงตรงนี้ ซ่งรุ่ยจงใจนิ่งไปหลายวินาที สิ่งที่เขาชำนาญที่สุดคือการโจมตีจิตใจ และในสายตาเขา สภาพจิตใจของคนคนนี้ไม่สามารถทนรับการโจมตีได้แม้แต่ครั้งเดียว
หลงเฉิงเซิงทำหน้ากึ่งภาคภูมิกึ่งเยาะหยัน คล้ายไม่เชื่อคำพูดของตำรวจจึงไม่ยอมขายพี่น้องของตัวเอง
ซ่งรุ่ยคอยให้เขาเชิดพอแล้วค่อยบอก “แต่แผนของคุณมีช่องโหว่ใหญ่มากจุดหนึ่ง”
หลงเฉิงเซิงยังคงทำท่าไม่แยแส แต่ใบหูกลับสั่นน้อยๆ
ซ่งรุ่ยหัวเราะเบาๆ “ความผิดพลาดใหญ่ที่สุดของคุณคือการเอาชิปที่มีความสำคัญที่สุดไปไว้ในมือคนอื่น พวกคุณลักพาตัวเพื่อเงิน เสิ่นอวี้เหราคือชิปในการแลกเงิน ในมือคุณไม่มีชิปอันนี้แต่กลับได้เงินห้าสิบล้าน ในขณะที่ฟางหู่กับโจวย่วนกับมีชิปตัวนี้อยู่แต่กลับต้องฟังคำสั่งคุณ คุณว่าพวกเขาจะยอมเหรอ ถ้าคุณโลภมากกว่านี้อีกนิด คอยจนเด็กถูกปล่อยตัวแล้ว พวกเขาจะได้ส่วนแบ่งค่าไถ่ในมือคุณแน่เหรอ และถ้าคุณเหี้ยมกว่านี้อีกนิด แค่ใช้เงินจ้างคนไปเก็บพวกเขา พวกเขาก็มีแต่ต้องตายอย่างเดียว คุณว่าพวกเขาจะเชื่อใจคนแบบคุณเต็มร้อยมั้ย”
ซ่งรุ่ยโน้มตัวไปข้างหน้า ถามเสียงเนิบ “หลงเฉิงเซิง คุณยังคิดว่าแผนของคุณแนบเนียนเหมือนภูษาฟ้าไร้ตะเข็บอยู่อีกหรือเปล่า คุณยังคิดว่าสองคนนั้นจะไม่ทำอะไรลูกคุณอีกเหรอ คุณอุตส่าห์คิดทุกอย่างอย่างละเอียด แต่กลับลืมคิดถึงใจคน ตราบใดที่ยังมีชิปแลกเงิน พวกเขาจะทำอะไรกับคุณก็ได้ และถ้าพวกเขารู้ว่าคุณถูกจับ คุณลองเดาซิว่าฟางหู่กับโจวย่วนจะทำยังไง”
หลงเฉิงเซิงเริ่มเหงื่อตก สมัยก่อนสองคนนั้นฆ่าคนเพื่อเงินหลักร้อยได้จริง เวลานี้มีเงินห้าสิบล้านมาอยู่ตรงหน้า พวกเขาย่อมกล้าทำทุกอย่าง บางทีพวกเขาอาจตัดนิ้วคนจริง คนที่พวกเขาต้องการข่มขู่มากที่สุดไม่ใช่เสิ่นโหย่วเฉวียน แต่เป็นตัวเขาเอง! เพราะพวกเขารู้ว่าใครคือพ่อแท้ๆ ของเสิ่นอวี้เหรา พวกเขาจึงใช้วิธีตัดนิ้วมาบอกว่าลูกชายของหลงเฉิงเซิงอยู่ในมือเรา ดังนั้นนายจงแบ่งเงินค่าไถ่มาแต่โดยดี อย่าได้กินรวบคนเดียวเด็ดขาด! หรืออาจพูดได้ว่าพวกเขาอาจไม่มีแผนปล่อยเด็ก แต่ตั้งใจจะเก็บเด็กไว้จนกว่าตัวเองจะได้เงินค่าไถ่ทั้งหมด!
พวกเขาตั้งใจเอาดำกินดำ! ถ้ารู้ว่าตนถูกจับ พวกเขาต้องฆ่าเด็กทิ้งแล้วเผ่นหนีแน่!
พอคิดมาถึงตรงนี้ กลไกการป้องกันทางจิตของหลงเฉิงเซิงก็พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง เขาเห็นเสิ่นอวี้เหราเติบโตขึ้นมา ได้ใช้เวลาร่วมกับเขามากกว่าเสิ่นโหย่วเฉวียน แล้วจะไม่มีความผูกพันกับเด็กน้อยได้อย่างไร เขาไม่กล้าคิดต่อ รีบบอกเบาะแสของฟางหู่กับโจวย่วนออกมาแบบไม่ต้องหยุดคิด
ที่แท้โจวย่วนก็พาเด็กไปให้ฟางหู่ที่ลานจอดรถตรงข้ามโรงเรียนอนุบาล จากนั้นตัวเองก็ขับรถไปที่ลานจอดรถเฉาอันเพื่อเปลี่ยนเป็นรถที่ติดป้ายทะเบียนปลอมเพื่อขึ้นทางยกระดับ เวลานี้จอดอยู่นอกเมือง จากนั้นก็ใช้เครื่องเปลี่ยนเสียงเพื่อโทรแบล็กเมล์เสิ่นโหย่วเฉวียน เพื่อป้องกันการตามรอยของตำรวจ
การช่วยอำพรางของแฟนสาวทำให้ฟางหู่พาเด็กไปได้อย่างสะดวกราบรื่นและเงียบเชียบ เวลานี้เขาซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในตัวเมืองเพื่อคอยเวลาปล่อยเด็ก เขาไม่ต้องทำอะไรเลยจริงๆ แค่ต้องคอยดูเรื่องการกินอยู่ของเด็กเท่านั้น
พอได้ที่อยู่แน่นอน เด็กน้อยก็ได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ฟางหู่ไม่ได้ปะเหลาะให้เขากินดื่มอย่างเอาอกเอาใจ แถมยังมัดมือมัดเท้า โยนเด็กน้อยเข้าไปอยู่ในห้องน้ำ พอเห็นหลานชายกลับมาอย่างปลอดภัย คุณพ่อเสิ่นกับคุณแม่เสิ่นก็โผเข้าไปจูบแก้มหลานชายอย่างดีอกดีใจ
ทว่าเสิ่นโหย่วเฉวียนกลับไม่แม้แต่จะกอดเขา เขาส่งเด็กให้ตำรวจเพื่อให้ตำรวจพาเสิ่นอวี้เหราไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล จากนั้นก็เปิดประตูรถ เอ่ยกับพ่อแม่ด้วยเสียงหนัก “พ่อครับ แม่ครับ จงฮุ่ยลู่กับหลงเฉิงเซิงถูกตำรวจจับแล้ว การลักพาตัวครั้งนี้เป็นแผนของพวกเขา เราไปฟังคำให้การที่กรมตำรวจกันหน่อยดีกว่า”
เขาไม่รู้ว่าจะบอกเรื่องชาติกำเนิดของเสิ่นอวี้เหราให้ผู้อาวุโสทั้งสองคนฟังอย่างไร จำต้องให้จงฮุ่ยลู่กับหลงเฉิงเซิงพูดเอง
คุณพ่อเสิ่นกับคุณแม่เสิ่นขึ้นรถอย่างโมโหระคนแปลกใจ เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมจงฮุ่ยลู่ถึงร่วมมือกับคนนอกมาลักพาตัวลูกชายตัวเอง เธอร้อนเงินถึงขนาดนี้เชียวหรือ สกุลเสิ่นไม่เคยเอาเปรียบเธอเลยนะ!
ทั้งสามเดินเข้าไปในห้องสังเกตการณ์ยืนอยู่หน้ากระจกทางเดียว
แค่ซ่งรุ่ยพูดประโยคเดียวก็ทำลายปราการในจิตใจของฟางหู่สำเร็จ “คุณคงไม่รู้ว่าหลงเฉิงเซิงไม่เคยคิดจะแบ่งเงินให้คุณเลย เขาเตรียมเส้นทางเพื่อหนีไปคนเดียวและเตรียมจ้างคนไปเก็บพวกคุณด้วย พวกคุณน่าจะสังเกตเห็นท่าทางผิดปกติของเขาที่ทำให้เราตามเถาหาแตง สาวมาจนถึงตัวพวกคุณได้ ตอนนี้เขาชี้ว่าคุณเป็นคนบงการ คุณมีอะไรจะพูดหรือเปล่า”
“ผมรู้อยู่แล้วว่าไอ้เดรัจฉานหลงเฉิงเซิงตั้งใจเอาดำกินดำ! ตอนนั้นไม่น่าเห็นดีเห็นงามกับแผนตูดหมา ของมันเลย! คุณตำรวจครับ ผมจะฟ้องเขา เขาต่างหากที่เป็นคนบงการ!” ฟางหู่ถูกจับเข้าคุกมาหลายรอบ ย่อมรู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะได้ลดโทษของตัวเองได้ เขาจึงสารภาพ “อันที่จริง แผนของหลงเฉิงเซิงไม่ได้มีแค่นี้ พวกคุณก็รู้ว่าเสิ่นอวี้เหราเป็นลูกชายเขา เขาย่อมไม่ทำอะไรเสิ่นอวี้เหราอยู่แล้ว”
ตอนที่ได้ยินประโยคนี้ ท่าทีของเสิ่นโหย่วเฉวียนนิ่งมาก ในขณะที่คุณพ่อคุณแม่เสิ่นเหมือนโดนฟ้าผ่า มึนงงจนตาลาย
“เมื่อกี้เขาพูดว่าอะไรนะ เหราเหราเป็นลูกใคร” คุณแม่เสิ่นจับคอเสื้อตัวเอง หน้าซีดเผือดเหมือนหายใจไม่ออก
เสิ่นโหย่วเฉวียนประคองแผ่นหลังบอบบางของคุณแม่เสิ่นเงียบๆ ไม่พูดสักประโยค
คุณพ่อเสิ่นร้อนใจ อยากลองเคาะกระจก แต่ถูกตำรวจที่อยู่ด้านข้างห้ามไว้
“นี่เป็นรูปถ่ายของเสิ่นอวี้เหรากับหลงเฉิงเซิงตอนเด็ก พ่อกับแม่ลองดูสิครับ” เสิ่นโหย่วเฉวียนส่งภาพถ่ายสองใบที่มีความละม้ายคล้ายคลึงกันอย่างที่สุดให้
คุณพ่อเสิ่นรับไปด้วยมือสั่นเทา ปากอ้ากว้างมีเสียงอึกอักคล้ายมีก้อนเลือดไปจุกคอหอย คายไม่ออกกลืนไม่ได้
ฟางหู่เล่าต่อ “เพราะแบบนั้นเป้าหมายเดิมของเขาจึงเป็นเสิ่นอวี้หลิง เสิ่นอวี้เหราเป็นแค่ระเบิดควัน พูดแล้วก็แปลก เด็กสองคนมีแม่คนเดียวกัน คนหนึ่งเหมือนเสิ่นโหย่วเฉวียนเป๊ะ ส่วนอีกคนถอดแบบหลงเฉิงเซิงตอนเด็กๆ มา พวกคุณว่าอัศจรรย์มั้ยล่ะ พอเห็นเสิ่นอวี้เหรายิ่งโตยิ่งเหมือนตัวเอง หลงเฉิงเซิงก็เริ่มเอะใจเลยแอบขโมยผมเด็กไปพิสูจน์ดีเอ็นเอ ฮ่าๆ พวกคุณว่าแปลกมั้ยที่เด็กคนนั้นเป็นลูกของเขาจริงๆ! ตอนนั้นเขาดีใจเป็นดอกไม้บาน! พวกคุณก็รู้ว่าเสิ่นโหย่วเฉวียนมีเงิน รายได้รายปีเป็นสิบล้าน แถมยังลงทุนอีกหลากหลายรูปแบบ สกุลเสิ่นของพวกเขาให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว เลยถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงลูกชายของหลงเฉิงเซิงเหมือนเป็นแก้วตาดวงใจ ต่อไปเมื่อเด็กโตขึ้น ทรัพย์สมบัติของสกุลเสิ่นจะต้องถูกส่งต่อให้เสิ่นอวี้เหรา หลงเฉิงเซิงกำลังคอยให้ถึงวันนั้น แต่เขาเป็นพวกโลภมาก โลภมากสุดๆ! เพราะเสิ่นโหย่วเฉวียนยังมีลูกสาวอีกหนึ่งคนไม่ใช่หรือไง ถ้าเด็กคนนั้นโตขึ้น ก็ต้องแบ่งทรัพย์สินไปส่วนหนึ่งด้วยไม่ใช่หรือ”
ฟางหู่หัวเราะหึๆ ด้วยน้ำเสียงเยาะหยันก่อนพูดต่อว่า “สกุลเสิ่นให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว ต่อให้มีการแบ่งสมบัติไปก็คงไม่มาก แต่หลงเฉิงเซิงกลับรับไม่ได้ เขาบ่นเสมอว่าจะเก็บเด็กคนนี้เอาไว้ไม่ได้เพราะจะเป็นอุปสรรคของลูกชายเขา ต้องหาทางกำจัดทิ้ง”
พูดมาถึงตรงนี้ ใบหน้าของเสิ่นโหย่วเฉวียนที่ดูสงบนิ่งมาตลอดก็เปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยว
คุณพ่อเสิ่นกับคุณแม่เสิ่นจับแขนกันแน่น ขาทั้งสองข้างสั่นระริกเกือบยืนไม่อยู่! ไม่นะ เรื่องที่พวกเขาได้ยินจะต้องไม่ใช่ความจริง คนคนนี้พูดจาเพ้อเจ้อเหลวไหล!
ฟางหู่พูดต่ออย่างไม่รู้สึกอะไร “ตอนที่ผมได้ยินก็แค่ปล่อยผ่าน ไม่ได้คิดอะไร ไหนเลยจะรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดจะเป็นเรื่องจริง เพราะมีลูกชายเป็นที่พึ่งในอนาคต เขาเลยใช้เงินมือเติบขึ้นทุกวัน ตอนไปเอ้าไห่ก็เสียเงินพนันหลายล้าน แล้วยังทำให้เสิ่นโหย่วเฉวียนโกรธจนเกือบถูกไล่ออก ถ้าไม่ได้ทำงาน เขาย่อมไม่ได้เจอลูกชาย และถ้าไม่ได้เจอลูกชาย เขาก็ไม่สามารถสร้างความผูกพันกับเด็ก และถ้าไม่มีความผูกพัน เมื่อเด็กโตขึ้น ใครจะจ่ายเงินให้เขา ใครจะเลี้ยงเขาตอนแก่ เขาเป็นพวกไม่ทำยังพอว่าแต่ทำแล้วต้องทำให้ถึงที่สุด เลยลักพาตัวเด็กสองคนเพื่อขู่เอาเงินจากเสิ่นโหย่วเฉวียนทีเดียวห้าสิบล้าน
ผมรับหน้าที่ดูแลลูกชายเขาอยู่ในเมือง ส่วนแฟนผมรับหน้าที่พาลูกสาวแท้ๆ ของเสิ่นโหย่วเฉวียนไปนอกเมือง คอยให้หลงเฉิงเซิงได้เงินแล้ว ผมจะปล่อยตัวเสิ่นอวี้เหรา ส่วนแฟนผมจะฆ่าเสิ่นอวี้หลิงโยนไว้บนทางด่วนเพื่อดึงดูดความสนใจของตำรวจ กว่าตำรวจจะไปถึงนอกเมือง พวกเราก็แยกหนีกันไปหมดแล้ว เสิ่นโหย่วเฉวียนใช้เงินห้าสิบล้านมาแลกเอาลูกชายกำมะลอกลับไปหนึ่งคน แต่เขาไม่มีวันรู้ความจริงไปตลอดชีวิต แถมยังจะเอาความรักของพ่อที่มีต่อลูกสาวมอบให้ลูกชายที่รอดกลับมาอีก แบบนี้ทรัพย์สินทั้งหมดของสกุลเสิ่นย่อมตกเป็นของลูกชาย ไม่มีใครแย่งไปจากเขาได้
หลงเฉิงเซิงยังอยากใช้การลักพาตัวครั้งนี้โชว์พาวให้เสิ่นโหย่วเฉวียนเห็นเพื่อจะได้ทำงานเป็นคนขับรถต่อและอยู่กับลูกชายเงียบๆ ไปจนโต ถึงตอนนั้นทั้งเมีย ลูก และทรัพย์สินทั้งหมดของเสิ่นโหย่วเฉวียนก็ต้องเป็นของเขา เสิ่นโหย่วเฉวียนเหนื่อยยากมาทั้งชีวิต แต่นั่นกลับเป็นการทำเพื่อคนขับรถตัวเล็กๆ ของตัวเอง คุณว่าละครเรื่องนี้มันส์ดีมั้ยล่ะ เสียดายที่ต่อให้แผนของหลงเฉิงเซิงดีแค่ไหนก็ตามไม่ทันความเปลี่ยนแปลง ตอนที่แฟนผมไปถามครูโรงเรียนอนุบาลถึงเพิ่งรู้ว่าเสิ่นอวี้หลิงถูกเสิ่นโหย่วเฉวียนรับตัวไปแล้ว! ทำให้พวกเราต้องเปลี่ยนแผนหน้างาน ทำได้แค่ลักพาตัวลูกชายของหลงเฉิงเซิง พวกคุณว่านี่มันใช่สวรรค์ลิขิตหรือเปล่า สวรรค์ไม่พอใจแผนของคนอย่างหลงเฉิงเซิง! ฮ่าๆๆ…”
เสียงหัวเราะเยาะหยันของฟางหู่ต้องขาดไปเพราะเสียงทุบที่ดังมาจากกระจกด้านซ้าย แรงทุบหนักหน่วงและรัวขึ้นเรื่อยๆ เหมือนสัตว์ป่าที่กำลังคลุ้มคลั่ง เตรียมกระชากเครื่องพันธนาการเพื่อทะลุกระจกออกมากัดฟางหู่ให้ตาย
โปรดติดตามตอนต่อไป…
ติดตามบทต่อไป ได้ในวันที่ 8 พ.ย. 64
Comments
comments
No tags for this post.