ทดลองอ่าน ยอดหญิงเทพสมุนไพร เล่ม 1 ตอนที่ 2 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ยอดหญิงเทพสมุนไพร เล่ม 1 ตอนที่ 2

พอถึงเรือนพักของเหล่าไท่จวิน หลี่เมิ่งซีก็ลงจากเกี้ยว นางให้หงจูประคองเข้าประตูชั้นใน สองฝั่งเป็นระเบียงโอบรอบ ตรงกลางเป็นโถงทางเดิน มีฉากบังลมไม้ประดู่ลายหินอ่อนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เดินอ้อมฉากบังลมไปเป็นโถงใหญ่สามห้อง ด้านหลังโถงเป็นหมู่เรือนกลาง ตรงหน้าเป็นห้องเจ็ดห้อง ล้วนประกอบด้วยขื่อคานแกะสลักกับเสาวาดลวดลาย ตรงกลางเป็นแผ่นป้ายสีทอง บนแผ่นป้ายมีอักษรตัวใหญ่สามตัวเขียนว่า ‘เรือนโซ่วสี่’ สองฝั่งของห้องหลักล้วนมีห้องเล็ก ด้านข้างเป็นระเบียงทางเดินเชื่อมต่อกับเรือนปีกข้าง ทางทิศใต้ของเรือนปีกข้างก็มีห้องเล็กเช่นกัน

หลี่เมิ่งซีเข้าไปในห้องหลัก เดินอ้อมฉากบังลมไม้หนานมู่ลายทอง ลายต้นสนกับนกกระเรียนไป ก่อนจะเห็นเหล่าไท่จวิน นายท่านใหญ่ นายหญิงใหญ่ และคนอื่นๆ นั่งสง่างามอยู่ในห้องโถงแล้ว

หลี่เมิ่งซีก้าวไปข้างหน้าช้าๆ แล้วคุกเข่าลงตรงหน้าเหล่าไท่จวิน โขกศีรษะสามครั้ง สาวใช้ซึ่งเตรียมน้ำชาไว้ก่อนแล้วถือถาดเข้ามา หลี่เมิ่งซีหยิบน้ำชาและยกขึ้นสูงเหนือศีรษะ

“หลานสะใภ้คารวะเหล่าไท่จวิน ขอให้เหล่าไท่จวินมีความสุขสมบูรณ์เจ้าค่ะ”

เหล่าไท่จวินรับน้ำชา เปิดฝาถ้วยจิบคำเล็กและวางลงบนโต๊ะด้านข้าง “สกุลเซียวของข้านับตั้งแต่ก่อตั้งมาสร้างคุณงามความชอบมาทุกยุคทุกสมัย สืบทอดความมั่งคั่งสูงศักดิ์มาถึงห้ารุ่นแล้ว จวบจนบัดนี้มีอายุนับร้อยปี ไม่เหมือนกับสกุลเล็กทั่วไป จวิ้นเอ๋อร์จะเป็นประมุขรุ่นต่อไปของสกุลเซียวข้า ไม่อาจเกิดเหตุผิดพลาดได้แม้แต่น้อย ในเมื่อซีเอ๋อร์แต่งเข้ามาแล้วก็ต้องจดจำกฎธรรมเนียมของบรรพบุรุษเราให้แม่นยำ ปฏิบัติตามกฎธรรมเนียมอยู่เสมอ ระวังอย่าให้ผู้คนหัวเราะเยาะเอาได้ ถึงเวลานั้นอย่าหาว่าสกุลเซียวไม่ละเว้นเจ้า นับแต่นี้ไปซีเอ๋อร์ต้องกตัญญูพ่อแม่สามี ปรนนิบัติจวิ้นเอ๋อร์ เอ็นดูลูกๆ ของจวิ้นเอ๋อร์ เข้าใจหรือไม่”

แท้จริงแล้วคำพูดของเหล่าไท่จวินนั้นเข้าใจง่ายมาก เป็นการสั่งให้ ‘เจ้าหลี่เมิ่งซีนับแต่นี้ไปต้องกตัญญูพ่อแม่ ดูแลบุตร เห็นสามีเป็นดังท้องฟ้า เชื่อฟังคำสั่งสอนแต่โดยดี หาไม่แล้วจะถูกหย่า!’

“หลานจะเชื่อฟังคำสอนของเหล่าไท่จวินอย่างเคร่งครัด ขอบคุณเหล่าไท่จวินที่อบรม หลานจะจดจำไว้ในใจและปฏิบัติตามอยู่เสมอเจ้าค่ะ” หลี่เมิ่งซีโขกศีรษะตอบ

เหล่าไท่จวินโบกมือ สาวใช้ยกถาดใบหนึ่งเข้ามา เป็นของขวัญที่เหล่าไท่จวินเตรียมไว้ก่อนแล้ว กำไลหยกมันแพะ สีขาวคู่หนึ่งกับปิ่นเงินประดับเส้นทองฝังอัญมณี

หลี่เมิ่งซีโขกศีรษะขอบคุณและรับไว้ ส่งให้หงจูช่วยเก็บ จากนั้นจึงหันไปยกน้ำชาให้นายท่านใหญ่ และนายหญิงใหญ่ตามลำดับ

นายท่านใหญ่ นายหญิงใหญ่ก็อบรมนางเช่นกัน ไม่พ้นเรื่องกำชับว่าอย่าลืมกฎธรรมเนียมของบรรพบุรุษ ต้องกตัญญูต่อเหล่าไท่จวิน พ่อแม่สามี เกื้อหนุนสามี และอบรมบุตร หลี่เมิ่งซีกล่าวขอบคุณตามลำดับและรับของขวัญที่ผู้ใหญ่มอบให้ นายท่านใหญ่มอบปิ่นกับต่างหูให้คู่หนึ่งและหยกประดับชิ้นหนึ่ง นายหญิงใหญ่มอบตำรา ‘คำสอนสตรี’ เล่มหนึ่ง กับตำรา ‘ข้อห้ามสตรี’ อีกเล่มหนึ่ง ซึ่งหลี่เมิ่งซีล้วนรับไว้อย่างสำรวม

ยกน้ำชาให้เหล่าไท่จวิน นายท่านใหญ่ และนายหญิงใหญ่เสร็จแล้ว เหล่าไท่จวินก็สั่งให้บ่าวหญิงสูงวัยพาหลี่เมิ่งซีไปทักทายกับคนอื่นๆ ในครอบครัว ที่แท้นายท่านใหญ่ผู้นี้มีนามว่าเซียวเฉิน เป็นประมุขสกุลเซียวรุ่นที่ห้า มีหนึ่งภรรยาสามอนุ ภรรยาเอกคือชุยซื่อ อนุทั้งสามได้แก่ อี๋ไท่ใหญ่หวังซื่อ อี๋ไท่รองจางซื่อ และอี๋ไท่สามหลี่ซื่อ เซียวเฉินมีบุตรชายสามคนบุตรสาวสองคน บุตรสาวคนโตและบุตรชายคนรองเกิดจากนางชุยซื่อผู้เป็นภรรยาเอก บุตรชายคนโตเซียวชิงเกิดจากอี๋ไท่ใหญ่ ปีนี้อายุยี่สิบสอง บุตรชายคนที่สามเซียวอวิ้นเกิดจากอี๋ไท่รอง ปีนี้อายุสิบหก บุตรสาวคนรองเซียวหวาเกิดจากอี๋ไท่สาม ปีนี้อายุสิบเจ็ด แต่งเป็นภรรยาของซือถูโซ่วบุตรคนรองที่เกิดจากอนุของสกุลใหญ่ซือถู

บ่าวหญิงสูงวัยพาหลี่เมิ่งซีไปคารวะคุณชายใหญ่ สะใภ้ใหญ่จางซื่อ และคุณชายสาม จากนั้นอี๋ไท่ทั้งสามที่อยู่ด้านหลังชุยซื่อจึงเข้ามาคารวะหลี่เมิ่งซีตามลำดับ ขณะที่หลี่เมิ่งซีก็คารวะตอบ

กฎหมายต้าฉีกำหนดไว้ว่าบุรุษสามารถมีสามภรรยาสี่อนุ แต่มีเพียงภรรยาเอกเท่านั้นที่นับเป็นเจ้านายอย่างแท้จริง ภรรยาคนอื่นๆ ล้วนเป็นเพียงบ่าว แม้จะเป็นถึงอี๋ไท่ แต่ก็ต้องถือว่าหลี่เมิ่งซีเป็นเจ้านาย

ยกน้ำชาเสร็จ เหล่าไท่จวินจึงสั่งให้คนประคองหลี่เมิ่งซีไปนั่งฝั่งขวามือของสะใภ้ใหญ่ สาวใช้ก็ยกน้ำชามาให้หลี่เมิ่งซี

“ซีเอ๋อร์ ได้ยินว่าวันนี้เจ้าเข้าครัวต้มโจ๊กให้จวิ้นเอ๋อร์ด้วยตนเองหรือ” เหล่าไท่จวินรอให้หลี่เมิ่งซีนั่งเรียบร้อยแล้วจึงค่อยถามเสียงเย็น

หลี่เมิ่งซีตกใจ คฤหาสน์สกุลเซียวกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ เรื่องที่ตนเพิ่งทำไปกลับรู้ถึงหูเหล่าไท่จวินเสียแล้ว น้ำในคฤหาสน์สกุลเซียวหลังนี้ลึกเพียงใดกันแน่

นางรีบคุกเข่าลงกับพื้น “หลานเพิ่งเข้ามาในคฤหาสน์สกุลเซียว จึงยังไม่ทราบกฎธรรมเนียมภายในคฤหาสน์ ใจคิดแต่เพียงว่าคุณชายรองป่วยมานานเพิ่งหายดี แต่ม้ามและกระเพาะยังอ่อนแออยู่ ขึ้นชื่อว่ายาย่อมมีพิษอยู่สามส่วน แทนที่จะใช้ยารักษา มิสู้ใช้อาหารบำรุงร่างกาย ด้วยใจห่วงแต่สุขภาพของคุณชายรอง ไม่คิดว่าจะเป็นการฝ่าฝืนกฎธรรมเนียม เหล่าไท่จวินโปรดลงโทษด้วยเจ้าค่ะ”

นายท่านใหญ่ได้ยินว่าพอหลี่เมิ่งซีเข้ามา อาการป่วยของบุตรชายก็ดีขึ้น หลี่เมิ่งซีจะต้องมีดวงหนุนจวิ้นเอ๋อร์แน่ ในใจจึงยอมรับหลี่เมิ่งซีไปแล้วส่วนหนึ่ง วันนี้พบหลี่เมิ่งซีครั้งแรก เห็นท่าทางสุภาพสง่างามของนางยามยกน้ำชา บุคลิกสุขุมเยือกเย็น ไม่ประหม่าแม้แต่น้อย ทั้งยังวางตัวเหมาะสม กิริยาวาจาไม่หยาบคาย ไม่มีท่าทางเอาแต่ใจเหมือนที่ผู้คนเล่าลือกันแม้แต่น้อย ในใจเขาก็นึกชื่นชมขึ้นอีกสามส่วน ทั้งยังได้ยินนางบอกว่าใจคิดแต่จะบำรุงร่างกายให้บุตรชาย ความชื่นชอบในใจจึงยิ่งเพิ่มขึ้น การไปห้องครัวใหญ่โดยพลการหาใช่เรื่องใหญ่อันใด เขาไม่อยากลงโทษหลี่เมิ่งซีจริงๆ แต่ก็เกรงว่ามารดาจะวางระเบียบกับหลานสะใภ้คนใหม่ หากลงโทษหลี่เมิ่งซีจริงก็กลัวว่าจะทำให้นางหมดใจได้ เขาจึงเป็นฝ่ายชิงพูดขึ้นก่อน

“เจ้ารู้เรื่องยาและอาหารได้อย่างไร”

“เรียนนายท่าน บิดาที่บ้านเดิมร่างกายอ่อนแอมานานปี มารดามักทำโจ๊กสมุนไพรให้บิดาอยู่บ่อยครั้ง ลูกจึงเรียนรู้มาตั้งแต่เด็กๆ การปรุงโจ๊กสมุนไพรต้องอาศัยความรู้ โดยเฉพาะต้องปรับตามสภาพอากาศของแต่ละช่วง เป็นต้นว่าหน้าร้อนอากาศร้อน ร่างกายถูกไอร้อนและร้อนในได้ง่าย เหมาะจะกินโจ๊กที่ช่วยระบายความร้อน ขับพิษ ดับกระหาย เช่น โจ๊กถั่วเขียว โจ๊กเม็ดบัว โจ๊กถั่วเขียวมีรสหวานฤทธิ์เย็นจัด มีสรรพคุณระบายความร้อน ขับพิษ บรรเทาพิษจากความร้อนได้ โจ๊กเม็ดบัวบำรุงม้ามกับกระเพาะ บำรุงเลือดลม รักษาอาการท้องร่วง บรรเทาอาการนอนไม่หลับในช่วงหน้าร้อนได้เป็นอย่างดี

ฤดูใบไม้ร่วงอากาศแห้งต้องกินโจ๊กที่มีสรรพคุณเพิ่มความชุ่มชื้น อบอุ่นร่างกาย บำรุงปอด บำรุงเลือดลม เช่น โจ๊กเม็ดบัวช่วยให้สดชื่น เพิ่มสารอาหารแก่ร่างกาย โจ๊กถั่วแปบช่วยปรับสมดุลร่างกาย บำรุงอวัยวะภายใน โจ๊กหูเถา ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้ง โจ๊กเมล็ดสนเพิ่มความชุ่มชื้นให้ปอด บำรุงลำไส้ โจ๊กรังนกบำรุงปอด ระงับอาการไอ

ฤดูหนาวอากาศหนาวเย็นต้องกินโจ๊กเนื้อแกะที่ช่วยบำรุงธาตุหยาง ให้ความอบอุ่นและสกัดกั้นไอหนาว ตอนเช้าลูกได้ยินหมอบอกว่าคุณชายรองตับกระเพาะอ่อนแอ ใจคิดว่าตอนนี้ฤดูร้อน ไฟในตับลุกโหมได้ง่ายจึงคิดถึงโจ๊กซังจวี๋ที่มารดาต้มในฤดูร้อนทุกปี ใบหม่อนรักษาอาการตับพร่องได้ ดอกเบญจมาศบำรุงโลหิตและบำรุงสายตา ลูกยังเพิ่มชวนเป้ยหมู่ลงไปในโจ๊กด้วย สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ปอดและระงับอาการไอ”

Comments

comments

Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 1

บทที่ 1 สายฝน+ไหวพริบ ต้นฤดูใบไม้ผลิเมืองเซิ่งจิงมีฝนตกชุก ราวกับผ้าไหมผืนบางที่ปกคลุมผืนฟ้า ทำให้ลานที่รกร้างเงียบเหงาข...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 6

บทที่ 6 คณิกา+เมาสุรา หอคณิกาตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเซิ่งจิง เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘เป่ยหลี่’ ที่นี่ห่างจากที่ตั้งของ...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 2

บทที่ 2 ความสงสัย+คลื่นใต้น้ำ เจ้าเมืองหลี่ตามซูโม่อี้ออกไปแล้ว หลินหวั่นชิงเห็นเงาของเขาวิ่งอยู่ไกลๆ รู้สึกว่าชุดทางการ...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 3

บทที่ 3 ความผิดพลาด+ใต้แสงจันทร์ แม้สิ่งที่ไทเฮากล่าวจะเป็นประโยคคำถาม แต่ซูโม่อี้ก็รู้ว่านางไม่ได้มีความตั้งใจจะถามเขาเ...

community.jamsai.com