X
    Categories: นิยายอินไซด์

5 แรงกระตุ้นชั้นดีที่ทำให้เราต้องหันกลับมาดูแลตัวเองมากยิ่งขึ้น

อากาศร้อน ขอกินน้ำอัดลมก่อนเดี๋ยวค่อยงดวันหลัง… เหงื่อออกง่ายเลยไม่ทาครีมกันแดด… เหล่านี้แหละคือข้ออ้างบางส่วนที่คอยสกัดดาวรุ่งอย่างเราอยู่

เพราะการดูแลรักษารูปร่างหน้าตา รวมไปจนถึงผิวพรรณของตัวเองน่ะ สำหรับคุณผู้หญิง หรือคุณหนุ่มๆ ก็ตาม ถือเป็นเรื่องที่ควรทำกันเป็นประจำอยู่เสมอ แน่นอนว่าผลดีไม่ได้ตกอยู่ที่คนอื่น แต่ตกอยู่กับตัวเราเต็มๆ ทว่าน้อยคนนักที่ยังคิดผลัดวันประกันพรุ่งที่จะเริ่มหันมาดูแลตัวเองกันอยู่

 

วันนี้เลยขอนำเสนอ 4 แรงกระตุ้นชั้นดีที่จะทำให้เราต้องอยากหันกลับมาดูแลรูปร่างหน้าตาของตัวเราเองมากยิ่งขึ้นได้อย่างแน่นอน

 

1.เพื่อให้เล่นโซเชียลได้อย่างเป็นสุข

ไม่ต้องพะว้าพะวงว่าเพื่อนจะแท็กรูปมาหาเราตอนไหนแล้ว เพราะกลัวเพื่อนในโลกโซเชียลจะเห็นรูปจริงที่เพื่อนแท็กมา แต่เอาดีๆ การที่เราลงรูปสวยกว่าตัวจริง ก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกเลยนะเออ เฟซบุ๊กเรา ทวิตเตอร์เรา อินสตาแกรมเรา เราก็ต้องมีสิทธิ์ในการลงรูปในแบบที่เราชอบและเราอยากเห็นอยู่แล้ว แต่ก็นั่นล่ะ ในกรณีที่บางคนปากไม่ดี ก็อาจจะมีการเม้าท์กันได้หากเห็นว่ารูปที่เราถูกแท็กต่างจากรูปโปรไฟล์ ฉะนั้นแค่เราหันมาดูแลเรื่องรูปร่างหน้าตาของตัวเองให้มากเข้าไว้ รับรองจะหมดปัญหาเรื่องกลัวเพื่อนจะแท็กรูปมาหาไปได้เลย

 

2.เพื่อจะได้มีรูปสวยๆ ในวันสำคัญ

แน่นอนว่าในวันสำคัญต่างๆ นานา เช่น วันรับปริญญา ปาร์ตี้วันเกิด วันคอนเสิร์ตนักร้องเกาหลี วันแฟนมีตนักร้องที่ชื่นชอบ ถ้าเราได้ไป เราก็ต้องขอถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกอยู่แล้ว และการจะมีรูปในสำคัญแบบนี้ทั้งที ก็ต้องอยากสวยและหุ่นดีกันเป็นธรรมดา เพื่อให้วันสำคัญนี้ เราสวยที่สุด หรืออาจจะดูสวยในสายตานักร้องที่เราไปงานแฟนมีตเลยก็ได้ ทำสำคัญยังสามารถนำภาพถ่ายของเราในงานเหล่านี้ไปอวดใครก็ได้ หรือจะลงเฟซบุ๊กก็ไม่ต้องเสียเวลาเลือกมาด้วย ฉะนั้นถ้ารู้กำหนดวันสำคัญต่างๆ เหล่านี้แล้วก็ต้องเร่งทำสวยให้ไวนะ

 

3.เพื่อลบคำว่าร้ายหรือคำสบประมาท

เชื่อเลยว่าการถูก Bully (กลั่นแกล้ง) น่ะเกิดขึ้นในทุกสังคม และหากเราเป็นหนึ่งคนที่เคยเจอคำพูดร้ายกาจที่ดูถูกเราในเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก ขอให้จำไว้เลยว่าคนเรานั้นเค้าก็คงไม่พอใจในรูปลักษณ์ตัวเองเหมือนกัน เลยเลือกที่จะเอาคำพูดไม่ดีเหล่านั้นมาโยนใส่ใครสักคนเพื่อให้พวกเค้าสบายใจ ซึ่งเราก็อาจจะเก็บมาใส่ใจได้ แต่อย่าไปจำฝังใจ แน่นอนว่าเราต้องอย่าให้ค่ากับคำคนเหล่านั้น เลือกที่จะดูแลตัวเองในแบบที่เราตั้งใจต่อไปดีกว่า จงแปรเปลี่ยนคำว่าร้ายเหล่านั้นให้กลายเป็นแรงผลักดันให้เราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นดีกว่านะเออ

 

4.เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง

ขีดเส้นใต้เรื่องนี้แบบเน้นย้ำไว้เลย เพราะมันสำคัญมากจริงๆ เรื่องสุขภาพน่ะเราไม่ควรมองข้าม จริงอยู่ว่าเราอาจจะเผลอดูแลตัวเองน้อยไปในช่วงที่วุ่นๆ ยุ่งๆ บางทีก็เผลอเดินกลางแดดจ้า ไม่ทาครีม บางทีก็เผลอกินเยอะ เพราะหิวจัด ซัดน้ำอัดลมไปอีก บางทีก็เผลอล้างเครื่องสำอางแล้วนอนเลย ทีนี้เป็นไงล่ะผิวเป็นสองสี น้ำหนักขึ้น สิวขึ้นอีกต่างหาก แล้วภัยร้ายที่ซ่อนอยู่ก็ตามมาด้วยโรคมะเร็งจากที่โดนแดดเยอะๆ หรืออาจจะเป็นเบาหวานเพราะกินเยอะ เป็นต้น ฉะนั้นเราควรหันมาดูแลสุขภาพกายโดยด่วนนะเออ รับรองพอสุขภาพร่างกายดี เราก็จะดูสดใสผุดผ่องตามไปด้วยยังไงล่ะ

 

5.เพื่อใครบางคนโดยเฉพาะ

บอกเลยว่าประเด็นนี้นี่แหละถือเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีที่สุด ก็ถ้าเราเริ่มรู้สึกหวั่นไหวกับใครบางคนเข้าให้แล้ว เราก็ต้องอยากดูดีที่สุดในสายตาของอีกฝ่ายใช่มั้ยล่ะ แม้ว่าเฟิร์สตอิมเพรสชั่นอาจจะไม่ทันละ แต่เราก็ยังมีโอกาสสานสัมพันธ์กันได้ หากก็ต้องใช้เวลาเรียนรู้กันไป แน่นอนว่าสมัยนี้จะคบใคร ถ้าอยากพิสูจน์รักแท้ก็ต้องมองที่ใจ ทว่าเรื่องรูปร่างหน้าตาใครบางคนก็ยังตัดสินกันอยู่ เพราะฉะนั้นเราควรเริ่มดูแลตัวเองไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ อาจจะไม่ต้องเพอร์เฟ็กต์เหมือนคนอื่น ขอแค่ไม่ปล่อยตัวเองให้ดูแย่เกินไปก็เยี่ยมแล้ว

 

อ๊ะๆ บอกเลยว่าในนิยายรักแนว Love เรื่องล่าสุดของพี่อัญชรีย์อย่าง ‘เสพเสน่หา’ ก็ได้พูดถึงประเด็นอยากเปลี่ยนตัวเองให้สวยเพื่อใครบางคนเอาไว้ด้วย ซึ่งบอกเลยว่าถ้าได้ลองอ่านแล้วจะอินและฟินกับเรื่องราวความรักในเล่มนี้มากๆ เพราะ ‘โมลี’ นางเอกน่ะเจอเรื่องหดหู่บางอย่างที่ทำให้เธอมัวหมองจนเผลอปล่อยตัวให้เผละ แต่เมื่อสวรรค์ส่ง ‘รดิศ’ ชายหนุ่มรูปหล่อเข้ามาเยียวยาความเศร้าของเธอ ก็ดูเหมือนว่าเขาจะทำให้อยากฮึดลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเองให้สวยเลยล่ะ ระหว่างนี้เธอจะทำยังไงให้เขาหันมาเหลียวมองเธอที่ยังไม่สวยแบบคนรักได้ล่ะ ต้องลองไปอ่านเสพเสน่หากันดูน้า รับประกันว่าต้องฟินจนอยากเปลี่ยนตัวเองให้สวยเพื่อนายรดิศแน่นอน!

 

สามารถหาซื้อ ‘เสพเสน่หา’ ได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำ ร้าน JamClub หรือคลิกสั่งซื้อกับ JamShop ด้านล่างได้เลย

Comments

comments

Jamsai Editor: