กลายเป็นที่จับตามองมากๆ โดยเฉพาะเหล่าโอตะทั้งหลาย สำหรับ Be My Boy The Series ที่หยิบเอานิยายเรื่องดังของแสตมป์เบอรี่ นักเขียนสุดฮอตของ สำนักพิมพ์แจ่มใส มาสร้าง และเตรียมออกฉายทางช่อง 5 ถือเป็นการกลับมาทำละครอีกครั้งของช่องเลยนะ
เพราะงานนี้ได้ลูกพี่เจนนิษฐ์ แห่งวง BNK48 มารับบทโพนี่ นางเอกสายแบ๊วของเรื่องเป็นครั้งแรกด้วยล่ะ โดยจะประกบกับสองพระเอกวัยรุ่นอย่างกันกันและฟีฟ่า เรื่องรักวุ่นๆ ครั้งนี้จะลงเอยยังไง งานนี้ต้องรอติดตามกันในซีรี่ส์ จะออนแอร์ทุกคืนวันศุกร์ เริ่ม 2 มีนาคมนี้! และเพื่อให้อิน ฟิน จิ้นกันก่อนใคร วันนี้จะขอพาไปส่องโมเมนต์กร๊าวใจยัยโพนี่จากเวอร์ชั่นนิยายกันก่อนไงล่ะ
โมเมนต์ร่มหนึ่งคัน และสองเรากลางสายฝน
มองซ้าย (‘’ ) มองขวา ( “)
อ่ะ! นั่นไง ขวดน้ำพลาสติก เอากระดาษไปยัดไว้ในขวด แล้วเอามาวางไว้บนเบาะรถแทนดีกว่า มันจะได้ไม่เปียกไง โฮะๆ ฉันนี่ฉลาดหลักแหลม มองเห็นแววสอบติดคณะสถาปัตย์มารำไรๆ #ไม่น่าเกี่ยว
ฟุ่บ~
ยัดกระดาษลงไปในขวดละ จากนั้นก็เดินเอาขวดไปวางแบบนี้ ~แหมะ~ แล้วก็...
เอ๋? ฝนหยุดตกแล้วเหรอ ทำไมอยู่ดีๆ ฉันก็รู้สึกเหมือนร่างกายไม่ได้สัมผัสกับน้ำฝนเลยอ่ะ แต่ก็ยังได้ยินเสียงฝนตกอยู่นะ ผีหลอกฉันเหรอ นี่ยังไม่ทุ่มเลยน่ะ พระจันทร์ยังไม่ออกมาเดินเพ่นพ่านเลยด้วยซ้ำ
“ทำอะไรน่ะ”
จ๊ากกกกกก =[]=
แงๆๆๆ รู้แล้วว่าทำไมตัวฉันถึงไม่เปียก TOT ก็พี่คิณน่ะสิ เดินกลับมาตอนไหนไม่รู้ แถมยังเอาร่มมากางกันฝนให้ฉันอีกต่างหาก น่าอายกว่านี้มีอีกมั้ย ฮือๆๆๆๆ
“อ่ะ...เอ่อ คือ”
โอ๊ยยย~ ฟินเหลือเกินฉากนี้ พระเอกกางร่มให้นางเอก เราต่างสบตากันกลางสายฝน นี่มันมิวสิควิดีโอเพลงรักชัดๆ ใบหน้าของพี่คิณ ยิ่งดูใกล้ๆ ก็ยิ่งหล่อ ไม่มีริ้วมีรอยอะไรเลย หน้าใสกิ๊ง ผมเปียกเล็กน้อยแต่ก็ยังดูเท่ขาดใจ แบบนี้ฉันยิ่งไม่อยากจะตัดใจเข้าไปใหญ่เลย ฉันไม่ได้คิดจะแย่งแฟนใคร ทำไมต้องตัดใจด้วย...
“จะขโมยมอเตอร์ไซค์เหรอ”
ตรึงงงงง~
โมเมนต์ดื่มน้ำร่วมสาบาน
“งั้นเราต้องมีการดื่มน้ำร่วมสาบานด้วย ฮิๆๆๆ” ฉันเริ่มคิดอะไรแผลงๆ ได้แล้ว
“น้ำร่วมสาบาน???”
“ช่าย ทำแบบนี้ไง” ฉันดึงแก้วกาแฟในมือของพี่คิณมาถือไว้ แล้วเทนมเย็นที่เหลือในแก้วของตัวเองลงไปรวม ก่อนจะใช้หลอดคนๆๆๆ ให้เข้ากัน
“เฮ้! ทำอะไรของเธอเนี่ย O_o”
“ทำน้ำร่วมสาบานไง ^^”
“-*-“
พอน้ำทั้งสองผสมเข้ากันดีแล้ว ฉันก็เอาหลอดจากแก้วของฉันมาปัก เท่ากับว่าในแก้วกาแฟผสมนมเย็นนี้ จะมีหลอดปักอยู่สองหลอด คือหลอดของพี่คิณ และหลอดของฉัน
“ทีนี้เราสองคนก็ต้องช่วยกันดูดให้หมด เพื่อให้น้ำแก้วนี้แทนคำสัญญาว่าเราจะรักกันตลอดไป”
“หืม?”
อุ๊บส์! ตายละ หลุดจิตใต้สำนึกออกไปเฉยเลย เอาใหม่ๆๆๆ
“เอ่อ...หมายถึงแบบพี่น้องไงคะ ^^”
“อ้อ! งั้นก็โอเค”
“เอ้า...ดูดดดดด~”
พอพูดจบ เราสองคนก็ก้มลงดูดน้ำในแก้วพร้อมๆ กัน หัวของเราชนกัน จมูกก็ชนกัน แต่เพราะคำว่าพี่น้อง ทำให้พี่คิณไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องเสียหายอะไร แต่สำหรับฉัน นี่มันคือความฟินระดับชาติเลยจ้า ฉันค่อยๆ ดูดน้ำที่ผสมเองขึ้นมา พลางมองตาพี่คิณไปด้วย รสชาติของมันน่ะเหรอ ก็เหมือนกับความรู้สึกของฉันในตอนนี้น่ะแหละ ทั้งหวาน ทั้งขม ปนเปกันไปหมดจนแยกออกไม่ได้ ลิ้นของฉันแทบไม่รับรู้รสชาติอะไรแล้ว เพราะความฝันเริ่มเป็นจริงขึ้นมาทีละนิด โดยที่ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าจะทำได้ เราได้ดื่มน้ำแก้วเดียวกัน ได้ใกล้ชิดกัน จับมือกันผ่านแก้ว จมูกชนกัน มองตากัน ทุกอย่างมันยิ่งกว่าฝันซะอีก อยากอยู่ตรงนี้ให้นานกว่านี้ อยากให้น้ำในแก้วนี้มีสักสองลิตร เราจะได้ใกล้ชิดกันอย่างนี้ไปนานๆ
โมเมนต์ถ้าโลกนี้มีแค่เราสองคน
พี่คิณลุกขึ้นแล้วกลับหลังหันทำท่าจะเดินออกไป แต่ก็ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันไม่หยุดยั้งแค่นั้น สงสัยการที่ฉันไปที่สตรองคลับนั่น มันทำให้ฉันรู้สึกว่า หลังจากนี้ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว อยากจะทำอะไรก็ทำ ต่อให้ต้องมาเสียใจที่หลังก็ยอม
ฟุ่บ!
ฉันรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายลุกขึ้นมาแล้วพุ่งเข้าไปกอดพี่คิณไว้จากด้านหลัง เขาถึงกับยืนชะงักตัวแข็งทื่อไปเลย คงไม่คิดว่าฉันจะจู่โจมหนักหน่วงขนาดนี้สินะ
“พี่คิณ...ฉันคิดถึงพี่...คิดถึงมากด้วย”
พี่คิณยืนนิ่ง ไม่ได้สะบัดตัวออก แต่ก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ดูไม่ออกเลยว่าคิดอะไรอยู่
“ทำแบบนี้ไม่ดีหรอก ปล่อยเถอะ”
“ไม่ดีตรงไหนคะ การคิดถึงคนที่ตัวเองรัก มันผิดด้วยเหรอ ไม่ได้ไปแย่งใครมาสักหน่อย แล้วก็ไม่ได้นอกใจใครแล้วด้วย”
“มันก็ใช่...แต่ว่ายังไง พี่บอนด์เค้าก็...”
“ลองไม่พูดถึงคนอื่นดูบ้างสักวันได้มั้ย พี่ก็รู้ว่าฉันเลิกกับพี่บอนด์แล้วอ่ะ ขอถามอะไรสักอย่างเถอะนะ ถ้าโลกนี้มีแค่เราสองคนเท่านั้น พี่อยากจะพูดอะไรกับฉันบ้าง ความรู้สึกจริงๆ ของพี่ บอกฉันรู้บ้างได้มั้ย อย่าให้ฉันเป็นฝ่ายพูดอยู่คนเดียวเลย มันเจ็บ”
“โพนี่...”
“บอกมาสิคะว่าพี่ก็คิดเหมือนกัน บอกให้ฉันรู้บ้าง หรือถ้าสุดท้ายแล้ว พี่ไม่คิดอะไรเลยจริงๆ ฉันก็จะได้เลิกบ้าสักที”
ฟุ่บ~
โอ๊ะ O_o พี่คิณพลิกตัวกลับมาประจันหน้ากับฉัน แล้วเป็นฝ่ายดึงฉันเข้าไปกอดแนบอกเขาเอาไว้แทน
“คิดถึงสิ...ฉันก็คิดถึงเธอ”
อ๊ะๆ ยังมีอีกหลายโมเมนต์ที่กร๊าวใจยิ่งกว่านี้ ถ้าอยากรู้ว่าจะอิน ฟิน จิ้นเว่อร์ไปกับฉากไหนบ้าง ก็ต้องหยิบนิยายเรื่องนี้ Be My Boy รักแล้วไง...หยุดไม่ได้แล้วล่ะ ขึ้นมาอ่านกันโดยเร็วพลัน แล้วเรามารอลุ้นกันนะว่าจะได้เห็นฉากเหล่านี้บนจอทีวีมั้ยยย
สามารถหาซื้อ Be My Boy รักแล้วไง...หยุดไม่ได้แล้วล่ะ ได้แล้ววันนี้ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ, JamClub หรือสั่งซื้อได้ที่ JamShop นะคะ
Comments
comments
No tags for this post.