X
    Categories: LOVEทดลองอ่านเพลง (รัก) ของเจ้าชายอสูร

ทดลองอ่านนิยาย เพลง(รัก)ของเจ้าชายอสูร บทที่ 3 – บทที่ 4

หน้าที่แล้ว1 of 12

บทที่ 3…เมื่อเธอกับเขาพบกันอีกครั้ง

 

เสียงเพลงคลาสสิกแผ่วๆ บรรเลงคลอไปเบาๆ ขณะเจ้าบ่าวเจ้าสาวกำลังเดินทักทายแขกที่รายล้อม…พี่สาวเธอสวยราวกับเจ้าหญิง ท่านชายก็งามสง่าเหมือนกับเจ้าชาย ท่าทีที่เจ้าบ่าวปฏิบัติกับเจ้าสาวก็ช่างอ่อนหวาน รักใคร่ จนเพลงพิณแอบยกนิ้วชี้ขึ้นกรีดเช็ดน้ำตาจากความซาบซึ้ง…เฮ้อ เห็นแบบนี้แล้วชักอิน อยากแต่งงานบ้างจัง สมัยอยู่ ม.ต้น เธอเคยคิดธีมงานคร่าวๆ แบบชุด และเตรียมเพลงประกอบไว้แล้วด้วยซ้ำ ขาดก็แต่คนที่จะเป็นเจ้าบ่าวนี่แหละ นี่ถ้ารู้ว่าการแต่งงานจะเป็นหนึ่งในทางเลือกของแม่ล่ะก็ เธอคงพยายามมากกว่านี้ในการหาแฟนสักคน…

หญิงสาวรู้สึกเซ็งและหิวขึ้นมานิดๆ อาหารคอร์สห้าอย่างฝีมือนานาและพี่ชารียา เพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นเจ้าของร้านอาหารอิตาเลียนชื่อดังที่เธอรอคอยกว่าจะได้เสิร์ฟก็อีกเป็นชั่วโมง หญิงสาวเลยชะเง้อมองอาหารเรียกน้ำย่อยในซุ้มที่จัดไว้เป็นของกินง่าย จำพวกคานาเป้ชิ้นน่ารักๆ เซวิเช่ หรือพวกของทอดนานาชาติ พร้อมกับเครื่องจิ้มหลายสิบชนิด เธอลูบท้องเมื่อเห็นว่ายังมีมากมายเหลือเฟือ แต่ที่มีไม่ค่อยมากพอคือพื้นที่ที่จะกิน จะเดิน เพราะวันนี้มีแขกมาร่วมงานนับพัน

วังชิดชล วังของคุณยายของเจ้าบ่าววันนี้ถูกใช้งานเต็มพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นลานหน้าตำหนัก สนามหญ้าด้านข้าง ชายหาดส่วนตัวที่ทอดยาว พื้นที่ด้านในตัวตำหนัก เรียกได้ว่ามีแต่ผู้คนไปทุกจุด แขกในงานล้วนแล้วแต่น่าสนใจ มีทั้งนักวิชาการชื่อดัง นักการเมือง นักธุรกิจ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ส่วนญาติๆ ของเจ้าบ่าวเจ้าสาวอย่างอเล็กซิสกับณิชาคู่สามีภรรยาหมาดๆ ที่มาร่วมฉลองด้วยก็ล้วนน่าสนใจ อย่างเช่นคุณลุงของคุณอเล็กซิสที่เป็นถึงท่านมาร์ควิสตระกูลเก่าแก่ของอังกฤษ หรือ…คอนสแตนตินพี่ชายของอเล็กซิสที่เป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดในกรีซ และติดอันดับหนึ่งในยี่สิบของโลก…แต่มนุษยสัมพันธ์คงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะเอาแต่ยืนจิบไวน์ มองนั่นมองนี่เฉย ไม่สนทนากับใคร

แขกของฝั่งเธอก็หลายกลุ่ม ทั้งคุณตาคุณยายและลุงที่เป็นนักธุรกิจมีชื่อ คุณย่าชาวฝรั่งเศสที่เป็นอดีตนางงาม ลุงพอลที่เป็นจิตรกรโด่งดัง พิพพาลูกพี่ลูกน้องของเธอที่ทำงานในกองบรรณาธิการนิตยสารชื่อดังที่เป็นเบอร์หนึ่งในการเจาะชีวิตคนดังและสัมภาษณ์เหล่าเซเลบต่างๆ …ส่วนแขกของท่านชายนอกจากพระญาติที่เป็นท่านชาย ท่านหญิง ท่านผู้หญิงแล้ว ยังมีบุคคลที่ใครๆ ก็ว่าฮอต ไฮโซที่สุด นั่นก็คือเจ้าชายจากประเทศเอเดน เจ้าชายเพลย์บอยเจ้าของเหมืองเพชร ที่บังเอิญบริจาคเงินทุนเพื่อการวิจัยให้กับองค์กรที่ท่านชายทำงานวิจัยอยู่…ตอนนี้เจ้าชายยังเสด็จมาไม่ถึง ปล่อยให้แขกสาวๆ ที่วุ่นวายแทบตายกับการแต่งตัวและฝึกจริตให้ดูดีน่าสนใจต้องคอยชะเง้อมองทางกันอย่างใจจดใจจ่อ

เพลงพิณแยกตัวออกมาจากกลุ่มเพื่อนและญาติๆ ที่อยู่รายรอบคู่แต่งงานทั้งสองคู่มาเมื่อครู่ เธออ้างว่าจะไปเข้าห้องน้ำ แต่ที่จริงแล้วอยากแวบหลบเพราะหัวหมุนไปหมด คนนั้นคนนี้เข้ามาอวยพร โดยเฉพาะนักธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกิจการของบ้านเธอ ซึ่งมารดารีบแนะนำตัวเธอและบอกให้เธอกล่าวฝากเนื้อฝากตัวไว้

“เพลง…หิวหรือยังลูก” เสียงนุ่มอ่อนโยนดังขึ้นข้างหู เพลงพิณที่กำลังคิดอะไรวุ่นวายหันไปยิ้มหวานให้กับชายลูกครึ่งไทยฝรั่งเศสอายุห้าสิบปีที่ยังดูหล่อเหลาด้วยรูปร่างสูงเพรียว ผมและตาสีน้ำตาลเข้ม

“ปาปา…” หญิงสาวเข้าไปกอดแขนบิดาเหมือนเด็กน้อยขี้อ้อน แล้วพูดกระเง้ากระงอด “เพลงไม่มีอารมณ์จะกินอะไรหรอกค่ะ อนาคตหดสั้นลงเหลือแค่เนี้ย” หญิงสาวทำท่านิ้วชี้ประกบกับนิ้วหัวแม่มือ ก่อนจะสบถเป็นภาษาอังกฤษ “…นรกแตกชัดๆ”

“เพลง! พูดเบาๆ หน่อยสิลูก…ดูสิคนเขามองมากันใหญ่แล้ว…แล้วเดี๋ยวแม่ได้ยินก็เป็นเรื่องอีก” พันธรกระซิบเครียด ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับสายตาของแขกหลายคนที่มองมา ก่อนจะโอบไหล่ลูกสาวแล้วพาเดินเลี่ยงมาอีกทางหนึ่ง

เพลงพิณลอบยิ้ม…ที่แม่หาว่าพ่อชอบให้ท้ายเธอ มันก็จริง…อย่างเมื่อครู่ แทนที่จะห้ามไม่ให้เธอพูดสบถ เขากลับบอกให้เธอพูดเบาๆ แทน…อิๆ รักปาปาจังเลย

“ก็เพลงกลุ้มนี่คะ…ไม่อยากไปทำงานกับแม่เลย กว่าตาพีทจะเรียนจบก็อีกตั้งสามสี่ปี เพลงต้องเฉาตายแน่เลยปาปา…แล้วความรู้ที่เรียนมาก็คงหมดอายุไปแล้วมั้ง” หญิงสาวโอดครวญ มือเรียวคว้าแก้วไวน์จากถาดของบริกรที่เดินสวนมา

พันธรบีบไหล่ลูกสาวอย่างเห็นใจ แต่เขาก็ค่อนข้างเห็นด้วยกับภรรยาว่าเพลงพิณน่าเป็นห่วง ถ้าไม่มีใครจัดการอนาคตให้เข้ารูปเข้ารอยเสียบ้าง เพลงพิณก็ไม่ต่างกับพวกศิลปินพเนจรในสมัยก่อน คืออยากทำอะไรก็ทำ อยากเดินทางไปไหนก็ไป ใช้ชีวิตตามความพอใจ…ลูกควรจะได้เรียนรู้ว่าชีวิตไม่ใช่เรื่องเล่นๆ

“พูดเกินจริงไปแล้วลูก ความรู้ไม่ใช่อาหารนะ จะได้หมดอายุ…เฮ้อ เราก็เป็นเล่นแบบนี้ไงล่ะ แม่เขาถึงหาว่าไม่เป็นผู้ใหญ่ซะที”

เพลงพิณถอนหายใจแล้วจิบไวน์ “ความจริงคือแม่ไม่ปล่อยให้เพลงโตต่างหากล่ะปาปา เพลงรู้นะว่าแม่น่ะรักเพลง หวังดี อีกอย่างเขาก็รู้สึกผิดด้วยแหละที่ไม่ได้ดูแลเพลงอย่างใกล้ชิด ตอนนี้ก็เลยต้องมากวดขัน แม่อาจจะมองไปถึงอีกห้าหกปีจากนี้ก็ได้ ตอนที่เพลงอายุจะสามสิบแล้ว แต่ยังโนเนม ไม่ประสบความสำเร็จ ในขณะที่เพลินเขาคงจบด็อก มีหน้าที่การงานเจ๋งๆ มีลูกมีเต้า…แม่เขากลัวว่าเพลงจะคิดมาก กลัวว่าตอนนั้นจะสายเกินไป ก็เลยรีบปูทางไว้เสียตั้งแต่ตอนนี้…ถ้างานออกแบบของเพลงมันไม่รุ่ง อย่างน้อยก็มีตำแหน่งในบริษัทคุณตาไว้เลี้ยงตัวได้”

พันธรเลิกคิ้วเมื่อได้ฟังลูกสาวพูดเป็นชุด…เขาไม่คิดเลยว่าเพลงพิณจะมองอะไรทะลุปรุโปร่งขนาดนี้ เห็นแต่ลูกสาวโวยวายโต้เถียง เขายังคิดในใจว่าลูกคงมองไม่เห็นความหวังดีของพ่อแม่

…ถึงไอคิวจะไม่สูงเท่าพี่สาว แต่เพลงพิณก็ฉลาดมากๆ เลย

“ปาปาดีใจนะที่เพลงเข้าใจปาปากับแม่…รู้แบบนี้แล้ว ลูกก็เข้าไปช่วยงานที่บริษัทสักสามปีนะลูก แล้วค่อยออกมาทำอะไรๆ ของตัวเอง” พันธรได้ทีหว่านล้อม

เพลงพิณจิบไวน์จนหมดก่อนจะหัวเราะน้อยๆ “ปาปาไม่เคยได้ยินที่เขาว่ากันเหรอว่ามรดกมันจะทำลายความทะเยอทะยาน…อย่างเพลงเงี้ย ถ้าไปทำงานที่บริษัทคุณตาถึงสามปี ก็ทำไปเรื่อยๆ มีกินมีใช้…ไฟของเพลงที่อยากจะทำอะไรๆ มันก็คงมอดไปหมดแล้วล่ะ แล้วก็จะพอใจกับชีวิตในขณะนั้น…ทำไมปาปากับแม่ไม่ปล่อยให้เพลงแสวงหาความก้าวหน้า หาช่องทางของตัวเองตามกำลังที่มีอยู่ตอนนี้ก่อนล่ะคะ”

พันธรนิ่งคิด มองลูกสาวอย่างเข้าใจอะไรมากขึ้น…เพลงพิณอาจดูไม่ค่อยได้เรื่องได้ราว ไม่คงเส้นคงวา แต่เขาเกิดความเชื่ออย่างประหลาดว่าลูกจะเอาตัวรอดได้…

“ปาปาจะลองพูดกับแม่ดูอีกครั้งนะลูก…ไม่รู้จะสำเร็จหรือเปล่า แม่เขาเป็นห่วงเพลงมากจริงๆ”

หญิงสาวพยักหน้าน้อยๆ แต่ในใจเธอไม่หวังหรอกว่าจะสำเร็จ เพราะหลังจากเรื่องในห้องนั่งเล่นวันนั้น แม่ของเธอก็เริ่มจริงจังมากขึ้น ซ้ำยังทำเรื่องฝึกงานของเธอไว้เรียบร้อยแล้ว…

เสียงหัวเราะแหลมสูงของแขกผู้หญิงสองคนที่กรี๊ดกร๊าดทักทายกันทำให้หญิงสาวหลุดจากภวังค์และสั่นหัวสลัดเรื่องเครียดที่เกาะหนึบอยู่ออกไป…เธอจะมามัวคุยเรื่องซีเรียสกับพ่ออยู่ในมุมหนึ่งของงานทำไมกัน นี่มันวันแต่งงานของพี่สาวเธอ แล้วไหนจะคู่ของณิชากับคุณอเล็กซิสอีก…มีอะไรน่าสนุกสนานกว่านี้อีกเยอะที่รออยู่ในคืนนี้

“ฮ้า ไม่เอาล่ะ…คุยเป็นงานเป็นการมากไปเพลงชักเวียนหัว…ปาปา ที่บอกไม่หิว ไม่มีอารมณ์กินเมื่อกี้อ่ะ เพลงดราม่านะ ที่จริงเพลงหิวมากเลย” หญิงสาวลูบท้อง

พันธรโยกหัวของลูกที่วันนี้ดูดีขึ้นมาหน่อยด้วยฝีมือช่างแต่งหน้าทำผมมีชื่อ “ก็ถึงว่าน่ะซี้…คนอย่างเพลงพิณน่ะเร้อจะไม่หิว ไม่อยากกินอะไร…หึๆ แล้วลูกจะให้ปาปาไปหาอะไรมาให้ไหมล่ะ” คนพูดมองไปยังซุ้มอาหาร

เพลงพิณฉวยไวน์อีกแก้วมาจากถาดบริกร…ดื่มไปก็ชักเพลินดีนะเนี่ย “ปาปาไม่ต้องเป็นห่วงเพลงหรอก อีกไม่นานก็ได้เวลาอาหารแล้วล่ะ ตอนนี้เพลงจะหานั่นหานี่กินรอไปก่อน…อุ๊ย นั่น รู้สึกว่าแขกไฮโซของงานจะมาถึงแล้วมั้งคะ พ่อเจ้าสาวคงต้องไปรับแขกแล้วล่ะค่ะ” หญิงสาวทำท่าบุ้ยใบ้ไปยังลานจอดรถที่มีรถคันหรูมาจอดและบอดี้การ์ดในชุดสูทดำเดินลงมาก่อน

พันธรรีบพยักหน้าเมื่อเห็นเจ้าชายเอเดรียนลงมาจากรถพร้อมด้วยคู่ควงนางแบบสวย เพลงพิณนั้นเมื่อพ่อผละไปแล้วก็เดินเอื่อยๆ ไปจิ้มนั่นจิ้มนี่ใส่จานกิน เพราะผู้คนโดยเฉพาะสาวๆ พากันกรูไปยังทางเข้า ต่างให้ความสนใจกับผู้มาใหม่เต็มที่

หญิงสาวพอกินอะไรเล่นไปได้สักพักก็ชักรู้สึกหิวขึ้นมาจริงๆ และอาหารชิ้นเล็กชิ้นน้อยเหล่านี้ก็ไม่ช่วยเติมเต็มท้องของเธอได้ดีเท่าที่ควร ขณะเดียวกันหางตาเธอก็แวบเห็นแม่กำลังยืนอยู่ข้างเจ้าชายที่เพิ่งเสด็จมาและทำท่าเหมือนกำลังมองหาใคร เพลงพิณคอย่น คิดถึงที่แม่เคยเปรยๆ เล่นๆ ว่าถ้าลูกคนโตเป็นหม่อมแล้ว มีลูกคนเล็กเป็นเจ้าหญิงก็จะเหมือนกับได้โชคมหาศาล ไม่ไยที่เธอจะกรี๊ดแตกและบอกถึงข้อเสียอันยาวเหยียดของเจ้าชายนั่นให้แม่รู้ ตามที่ฟังมาจากนานาซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมที่เจ้าชายนั่นมาประทับและต้องดูแลอำนวยความสะดวกให้เจ้าชายบ้าอำนาจ เอาแต่ใจตัวเองนั่นตลอดเวลา…สงสัยแม่คงกำลังมองหาเธอเพื่อจะแนะนำตัวเธอกับเจ้าชายนั่นแน่ๆ

หญิงสาวยักไหล่ วางจานเล็กลงยังที่ที่จัดไว้ คิดจะแอบดอดไปยังส่วนเตรียมอาหารที่อยู่ด้านหลังตำหนักเพื่อหาอะไรกินให้หัวใจมันชุ่มชื่นขึ้น พอเธอหมุนตัวมายังทางเข้าตำหนัก สายตาก็ไปสบกับดวงตาเข้มสีน้ำเงินลึกล้ำมีอำนาจของคอนสแตนตินที่มองมาพอดี คนมองอยู่ห่างออกไปหลายเมตร แต่เพลงพิณรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ อย่างประหลาด หญิงสาวจึงสะบัดหน้าพรืดแล้วเดินลิ่วๆ มายังทางอีกทางหนึ่งที่จะไปยังส่วนเตรียมอาหารด้านหลังทันที

เพลงพิณเดินลัดเลาะผ่านสนามหญ้าที่เต็มแน่นไปด้วยผู้คนมายังข้างวัง…หญิงสาวเบ้หน้าเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักน่าปวดหัวของกลุ่มคู่อริเก่าตั้งแต่สมัยเรียน…พวกสี่สาวเลดี้มาร ที่จริงพี่สาวเธอกับณิชาคงไม่ได้เชิญมาแน่ๆ ยายพวกนี้คงติดสอยห้อยตามญาติๆ มามากกว่า…แล้วดูสิ เดาะแต่งชุดขาวงี้ แต่งชุดแดงงี้…นี่คงคิดจะมาเด่นข่มเจ้าสาวแน่ๆ…บ้าบอจริงๆ

“พวกไร้สติเอ๋ย…นี่คงสนใจเจ้าชายนั่นกันใหญ่สินะ ไม่รู้อะไรซะเล้ยว่านั่นน่ะเจ้าชายกบแท้ๆ จูบจนปากเปียกปากแฉะก็ไม่กลายร่างหรอก อืม แต่จะว่าไปก็เหมาะกันดีกับพวกนี้แล้ว…แต่สาธุ ขออย่าให้ญาติๆ คุณอเล็กซิสที่มาจากอังกฤษไปหลงเสน่ห์ยายบ้าพวกนี้ก็แล้วกัน เสียดายคนดีๆ หมด” เพลงพิณบ่นพึมพำ ร่างบางลัดเลาะไปตามทางเดินเล็กๆ เลียบสวนที่ค่อนข้างสลัว แต่มีกลิ่นดอกไม้ไทยๆ หอมฟุ้งไปทั่วบริเวณ

ป่านนี้ที่เตรียมอาหารด้านหลังคงค่อนข้างวุ่นวาย ถึงแม้ว่าอาหารส่วนใหญ่จะเตรียมมาจากห้องครัวของโรงแรมนานาที่อยู่ไม่ไกลแล้วก็ตาม พี่ชารียาคงกำลังเอียงคอมองหาจุดบกพร่องในจานอาหารที่ถูกตกแต่งอย่างสวยเลิศไร้ที่ติตามประสาคนนิยมความสมบูรณ์แบบ คุณไพลินแม่นมของท่านชายภวินนุพันธ์และเป็นผู้ดูแลวังชิดชลนี้คงกำลังสั่งงานผู้หญิงทั้งสาวไม่สาวหลายรุ่นที่เคยมาเรียนการเรือนกับเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาและอาสามาช่วยงาน…อาหารรสเลิศมากมายอลังการคงจะชุมนุมกันอยู่ที่นั่น…ฮื้มมม แค่นึกก็น้ำลายสอ โอ้ นั่นล่ะที่ของเธอล่ะ

“เมี้ยว…เมี้ยว”

เพลงพิณที่กำลังก้าวเท้ายาวๆ ชะงักกึก…เสียงแมวที่ไหนกัน

เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง หญิงสาวจึงขมวดคิ้ว ก้มๆ เงยๆ มองหาตามกอไม้ประดับและหลังต้นไม้…คนเตรียมงานคงไม่คิดว่าจะมีใครอุตริมาเดินแถวนี้ จึงเปิดไฟไว้เพียงสลัวๆ เธอส่งเสียงจิ๊จ๊ะในคอเมื่อผมสั้นซึ่งถูกตรึงไว้ด้วยกิ๊บนับสิบตัวถูกกิ่งยี่เข่งเกี่ยวจนหลุดลุ่ย พอเดินลึกเข้าไปอีกหน่อยก็เห็นว่าบนต้นจำปีต้นใหญ่มีอะไรขาวๆ วอบแวบ เลยเขม้นมอง

“อ้าวคาลิสต้า ทำไมขึ้นไปอยู่บนนั้น” หญิงสาวส่งเสียงเรียก…ลูกแมวเปอร์เซียสีขาวบริสุทธิ์ ตาสีฟ้าใสแจ๋วตัวนี้เป็นของ ม.ร.ว. โสภิตกัลยาเพื่อนรักอีกคนของเธอ…ครอบครัวของโสภิตกัลยาและครอบครัวของท่านชายภวินนุพันธ์เป็นญาติเกี่ยวดองกัน โสภิตกัลยาและครอบครัวจึงมาค้างที่วังนี้หลายวันแล้วเพื่อช่วยเตรียมงาน…เจ้าคาลิสต้าก็เลยได้มาด้วย

“ฝนไปไหนล่ะ ทำไมหนูมาอยู่ตรงนี้ตัวเดียว เดี๋ยวก็ยุงกัดหรอก” เพลงพิณคุยกับแมวน้อยเป็นเรื่องเป็นราว ฝนเป็นคนสนิทของโสภิตกัลยาและรับหน้าที่ดูแลเจ้าแมวขนฟูควบคู่ไปด้วย

แมวน้อยร้องครางแฝงแววไม่สบายใจจนรู้สึกได้ เพลงพิณถอนหายใจ หันหน้าหันหลังเพื่อมองหาความช่วยเหลือ “…ลงไม่ได้เหรอเนี่ย…นี่หนูเป็นแมวชนิดไหนกันฮึ อ่อนหัดมาก” หญิงสาวบ่น “…ตอนนี้แม่ของหนูเขากำลังยุ่งอยู่ในงานน่ะ แต่เดี๋ยวพี่เพลงจะไปตามคนมาช่วยหนูนะ”

หญิงสาวมองทางสลัวๆ ที่มุ่งไปสู่ที่เตรียมอาหารด้านหลัง…ทุกคนคงจะงานล้นมือ ไม่ว่างมาช่วยแน่ แต่ถ้าเธอเดินกลับไปในงาน ไปตามพวกเพื่อนๆ ญาติๆ ผู้ชาย แล้วคาลิสต้าเกิดใจร้อนกระโดดลงมาเองจนแข้งขาหักล่ะ…เธออยากเลี้ยงแมวมาตั้งแต่เด็ก แต่เพลินพิศแพ้ขนสัตว์ พอเพื่อนมีแมวเธอก็รักไม่ต่างกับเป็นแมวของตัวเอง…ถ้าคาลิสต้าเป็นอะไรไปเธอคงรู้สึกไม่ดีไปตลอดแน่ๆ

แมวน้อยร้องอีกแล้ว ดวงตาสีฟ้าที่มองเห็นเป็นสีเทาๆ ในแสงสลัวดูหวั่นกลัวและวิงวอน เพลงพิณเห็นแล้วใจอ่อนยวบ

“เอาวะ” หญิงสาวก้มมองชุดเดรสยาวของตัวเอง แล้วประเมินจุดที่แมวน้อยติดอยู่…สูงแค่นี้นับว่าชิลเดร้นมากๆ กิ่งก็ปีนง่ายแบบหมูๆ รับรองว่าชุดยังไม่ทันยับ เจ้าคาลิสต้าก็ลงมาอย่างปลอดภัยแล้ว “งานเข้าแล้วล่ะเพลงเอ๋ย…ยอมรับเถอะว่าเธอคือซูเปอร์เกิร์ล ไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่ไหน เวลาอะไรก็ต้องพร้อมกู้โลกเสมอ”

เพลงพิณบ่นปลงๆ ถกชุดราตรีบานพลิ้วขึ้นมาจนถึงต้นขา พันๆ ม้วนๆ อยู่ชั่วครู่ ชุดท่อนล่างก็กลายสภาพเป็นโจงกระเบนจำเป็น

หญิงสาวถูมือด้วยอาการหมายมาด แล้วเหนี่ยวตัวเองขึ้นไปอยู่บนกิ่งล่างสุด

 

คอนสแตนตินคว้าแก้วไวน์แดงจากถาดของบริกรที่เดินผ่านมา แล้ววางแก้วเปล่าในมือลงไปแทนที่…สายตาคมเข้มสีน้ำเงินมองน้องชายและณิชาที่เดินคล้องแขนทักทายแขกในงาน วันนี้ณิชาสวยมากจริงๆ จะว่าไป ตั้งแต่แต่งงานกับน้องชายเขาเมื่อเดือนก่อน ณิชาก็ยิ่งเปล่งปลั่งขึ้นเรื่อยๆ…ชายหนุ่มจิบไวน์ เดินเอื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่มุมหนึ่งของงาน

จากมุมนี้เขาสามารถเห็นภาพบรรยากาศในงานได้ถนัดขึ้น เท่าที่สังเกตดู แขกส่วนใหญ่จะมีผู้หญิงเยอะกว่าผู้ชาย และพวกเธอหลายคนก็ทำตัวเป็นจุดสนใจเสียด้วย จุดประสงค์ก็คงเรียกร้องความสนใจจากเจ้าชายหน้าตาดีแต่ที่จริงเป็นฉลามร้าย กับญาติๆ ทางฝ่ายมารดาของน้องชายเขา ซึ่งมีบางคนเป็นผู้มีบรรดาศักดิ์…

ฮึ ผู้หญิง ที่ไหนๆ ก็เหมือนกันหมด ขนาดเขาทำหน้าตาไม่รับแขก ก็ยังมีพวกเธอบางคนใจกล้าส่งสายตาชวนเชิญอย่างเปิดเผยมาให้

ความเคลื่อนไหวของร่างเล็กบางใส่ชุดสีฟ้าอ่อนกระตุ้นความสนใจของคอนสแตนติน แววตานิ่งสนิทแวววับขึ้น…ยายเพลงพิณตัวแสบ เขามองเธอมาตลอดตั้งแต่หัวค่ำ (โดยไม่ได้ตั้งใจ) ดูเหมือนว่าแม่ตัวน้อยนี่จะไม่ใช่ลูกรักของมารดาเท่าไหร่ เพราะเขาเห็นเธอโดนมารดาหยิกไปตั้งสองสามครั้งตั้งแต่งานเริ่มเมื่อตอนเย็น

…คงไปดื้อไปซนอะไรมาสิท่า ชายหนุ่มคิดเยาะๆ ในใจ

คอนสแตนตินออกเดินตามหลังเพลงพิณมาห่างๆ อยากจะหลุดหัวเราะน้อยๆ ออกมาเมื่อคนตัวเล็กหันมาเบ้หน้าใส่พวกสาวๆ สี่คนที่แต่งกายเปรี้ยวจี๊ดระหว่างเดินผ่าน

คอนสแตนตินขมวดคิ้ว เพราะบริเวณที่หญิงสาวลับกายไปนั้นเป็นส่วนของสวนร่มครึ้มประกอบไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่…สติดีหรือเปล่าเนี่ย ถ้าไม่มีงูหรือแมลงร้ายๆ มาทำอันตราย ก็อาจมีผู้ชายที่เริ่มเมาๆ บางคนตามเข้าไปทำอะไรยายเด็กบ้าปัญญาอ่อนนั่นก็ได้…หาแต่เรื่องจริงๆ

ร่างสูงในชุดสูทสีดำสนิทถอนหายใจ วางแก้วไวน์ที่หมดแล้วลงบนโต๊ะตัวหนึ่งก่อนจะเร่งฝีเท้าตามไป

 

มือขาวเล็กเรียวดึงเจ้าแมวน้อยลงมาจากกิ่งไม้ที่อยู่เหนือเธอขึ้นไปได้สำเร็จ…ขณะที่เธอพยายามจะช่วยมัน เจ้าคาลิสต้าคงสับสนกับคำว่าลงและขึ้น เพราะแทนที่มันจะปีนลง มันกลับไต่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ และร้องครางไปด้วย เพลงพิณหัวเสียเล็กน้อยที่ต้องปีนสูงกว่าที่คิดไว้ แต่ก็ไม่มีอะไรเกินกำลังความสามารถของเธอไปได้หรอก…ขนาดต้นมะพร้าวเธอยังปีนได้เลย…ยากหน่อย แต่ก็ปีนได้

“อ้าว เฮ้ๆ คาลิสต้า ข่วนพี่เพลงทำไมเนี่ย…นิ่งๆ เลยนะ พี่ต้องจับเราไว้มือหนึ่ง อีกมือหนึ่งก็ต้องเหนี่ยวกิ่ง ไอ้ชุดบ้าๆ นี่ก็เริ่มจะคลายออกแล้ว…รุงรังจริงวุ้ย” หญิงสาวบ่น ถูต้นแขนกับลำต้นจำปีเพราะรู้สึกคันๆ จากยุง แล้วก็รู้สึกเจ็บจี๊ดที่คอเมื่อยุงตัวใหม่มากัดเธออีก หญิงสาวเลยเอาหลังพิงต้นไม้ไว้ มือข้างที่ว่างก็ตบยุงแล้วก็เกาคออย่างไม่กลัวผิวถลอก…จัดการกับอุปสรรคเล็กๆ น้อยได้ เพลงพิณก็จับแมวกับกิ่งไม้ไว้แน่นแล้วหย่อนขาลงมายังกิ่งที่ต่ำลงไป

“นี่! ขึ้นไปทำอะไรบนนั้นน่ะ”

เสียงห้าวลึกที่ดังขึ้นทำให้คนที่กำลังใจจดใจจ่อเสียสมาธิ หญิงสาวร้องกรี๊ด เมื่อรู้สึกว่าตัวเองเสียหลัก มือหลุดออกจากกิ่งที่เหนี่ยวไว้

ร่างเล็กๆ ร่วงลงมาจากกิ่งจำปี เพลงพิณหลับตาปี๋กอดแมวน้อยไว้แนบอกและคิดว่าต้องจุกแอ้กอยู่บนพื้นในไม่กี่วินาทีนี้แน่ๆ แต่เธอคาดผิด เธอตกลงมาอยู่ในอ้อมกอดของคอนสแตนตินพอดี…แต่ไม่ใช่อ้อมกอดที่นุ่มนวลนัก เป็นลักษณะที่เธอตกลงกระแทกตัวเขาจนร่างใหญ่ต้องเซไปปะทะกับลำต้นของต้นไม้ แต่แขนแข็งแรงก็ยังรวบกอดเธอไว้แน่นไม่ปล่อยให้เธอกลิ้งหลุนๆ ไปที่พื้น

“เมี้ยว แควก” คาลิสต้าที่ตกอยู่ระหว่างกลางคนทั้งสองร้องอย่างตกใจ ตะกุยตะกายดิ้นรนหนีจากอ้อมกอดของเพลงพิณและวิ่งหายไปในสวนด้วยหางที่ชี้ฟู…และก็ก่อความเสียหายไว้ด้วย

“ว้าย…” เพลงพิณตาเหลือกเมื่อช่วงอกของชุดราตรีเกาะอกสายเดี่ยวของเธอขาดเป็นทางยาว มือเล็กเรียวรีบปกปิดหน้าอกที่อยู่ในบราแบบไร้สายสีเนื้อและดิ้นขลุกขลักออกจากอ้อมกอดของคนตัวใหญ่ที่เธอถือเป็นคู่อริ

คอนสแตนตินอึ้ง ตะลึงเลยก็ว่าได้…เขาไม่คิดว่ายายปีศาจตัวแห้งนี่จะ…ซุกซ่อนรูปร่างอะไรแบบนี้ไว้ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาหน้ามืดหรืออะไร กลับยิ่งรู้สึกฉุนมากกว่า…รู้จักสำนึกบ้างไหมว่าตัวเองเป็นผู้หญิง ไม่ใช่ลิงค่างที่ไหน!

“เธอทำอะไรของเธอฮึ…ไม่ชอบอยู่บนพื้นดินดีๆ รึไง ไม่ปีนปราสาทก็ปีนต้นไม้…ลิงหรือคนกันแน่” เสียงห้าวทุ้มพูดออกมาเป็นชุด ตาดุๆ มองคนตัวเล็กที่พยายามรวบชุดที่ขาดไว้ด้วยกัน

“ยุ่ง!” เพลงพิณขึ้นเสียงสูงใส่ และทำท่าจะผละจากไป แต่คอนสแตนตินที่ฉุนขาดกระตุกแขนเอาไว้เสียก่อน ซึ่งก็ทำให้เรื่องยิ่งแย่…เพราะชุดขาดๆ นั้นไม่มีสิ่งใดมารวบยึดไว้อีกต่อไป หญิงสาวร้องกรี๊ด…แต่น่าแปลกที่เสียงกรี๊ดกลับมีหลายเสียง

“กรี๊ดดดด!…”

“อ๊ายยยย!…”

“ว้าย! ตายแล้ว”

วิมลรัตน์กับวิมาลา สองในสี่คู่ปรับตลอดกาลของเพลงพิณและเพื่อนๆ ร้องกรี๊ดๆ เหมือนเจอเรื่องร้ายแรงถึงชีวิต เสียงคู่อริของเพลงพิณเรียกแขกในงานที่อยู่ไม่ไกลนักให้วิ่งมาเป็นกลุ่มใหญ่ คอนสแตนตินเห็นดังนั้นก็สบถดุเดือด พอจะมองเห็นความหายนะที่กำลังจะเกิด จึงรีบถอดเสื้อสูทมาคลุมร่างเล็กที่ยืนอึ้งกุมชุดตัวเองไว้แน่น

“ยายเพลง!” ทัศนียาร้องอุทาน แทรกตัวผ่านแขกหลายคน ปราดเข้าไปหาลูกสาวที่อยู่ในสภาพที่น่าอับอายที่สุด…ผมเผ้ายุ่งเหยิง ชุดด้านหน้าฉีกขาด ที่เหลือก็ยับย่นเหมือนถูกขยำขยี้ ส่วนตามลำคอและเนินอกก็เป็นรอยแดงจ้ำๆ เต็มไปหมด…เพลงพิณทำเกินไปแล้ว นี่มันงานแต่งงานของพี่สาวตัวเองที่มีแขกนับพัน รวมถึงคนสำคัญทั้งเจ้าชาย นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และผู้มีเชื้อสายต่างๆ รวมถึงสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างชาติอีกหลายสิบสำนัก…แต่ลูกเธอกลับมาทำเรื่องงามหน้าในสวนนี่

“แกทำอะไรฮะยายเพลง แก…เป็นบ้าไปหรือไง…ทำไมถึงทำตัวอย่างนี้” ทัศนียาโวยวายปากคอสั่น ใบหน้าที่แต่งอย่างดีบิดเบี้ยวแดงก่ำและทำท่าจะร้องไห้ออกมาอยู่รอมร่อ

พันธรที่วิ่งตามมาทีหลังกับพิธวินธ์ลูกชายคนเล็ก เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นก็ร้องอุทานเป็นภาษาฝรั่งเศสหยาบคายอย่างลืมตัว สองหนุ่มต่างวัยต่างปราดเข้าหาคนที่คิดว่าน่าจะเป็นต้นเหตุ พันธรชกเปรี้ยงเข้าไปที่ใบหน้า คอนสแตนตินซึ่งเบี่ยงหลบแต่ก็ยังพลาดถูกที่มุมปาก พิธวินธ์น้องชายเพลงพิณวัยสิบแปดปีถลาเข้าใส่บ้าง แต่ก็ถูกคอนสแตนตินผลักกระเด็นไป คนตัวโตที่ร่างกายเต็มไปด้วยมัดกล้ามหันกลับมาจับแขนชายอายุมากกว่าที่กำลังจะต่อยเขาอีกครั้งไว้ ขณะที่เพลงพิณที่เพิ่งหายตะลึงร้องห้ามเสียงหลง

“ปาปา พีท อย่าทำเขาค่ะ…เขาไม่ผิด เขาแค่…” การอธิบายของหญิงสาวสะดุดเพราะแสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปมากมาย พอเธอมองไปรอบๆ ก็เห็นว่าผู้คนนับร้อยกำลังเบียดเสียดมองมา พวกเลดี้มารตัวดีกำลังซุบซิบเยาะเย้ย แขกผู้ใหญ่หลายคนตำหนิด้วยสายตา พวกนักข่าวก็ถ่ายรูปกันไม่หยุด

นรกแตกซะแล้ว…

หญิงสาวกระชับเสื้อสูทสีดำตัวใหญ่เบ้อเร่อจนหุ้มตัวเธอซะมิด เดินเข้าไปหาพ่อของเธอที่คุมเชิงกับคอนสแตนตินด้วยสีหน้ากินเลือดกินเนื้อพร้อมด้วยน้องชายที่ดูเลือดร้อนผิดนิสัย หญิงสาวมองแม่ที่หน้าตาแดงก่ำไปด้วยความโกรธ คุณตาที่ทำท่าเหมือนหัวใจจะวาย เท่านั้นไม่พอ ญาติๆ ฝ่ายพ่อของเธอที่มาจากฝรั่งเศส รวมถึงคู่บ่าวสาวทั้งสองที่เพิ่งมาถึงเหตุการณ์ต่างก็ถึงกับอึ้งตะลึงไป ก่อนที่เพื่อนๆ ของเธอจะร้องออกมาอย่างช็อกๆ

“เพลง คุณคอนสแตนติน…เอ่อ โอ๊ย ตายล่ะ”

เพลงพิณมองไปรอบๆ อีกครั้ง สมองเล่นจี๋หาทางออกอย่างสุดชีวิต สูดลมหายใจเฮือกใหญ่แล้วยิ้มแหยๆ ก่อนจะพูดเสียงเจื่อนๆ “แม่คะ ปาปา พีท…นี่แฟนเพลงเอง”

คอนสแตนตินที่กำลังปวดหัวกับแสงแฟลชมากมายและกำลังจะคำรามให้บอดี้การ์ดเคลียร์สถานการณ์ถึงกับอึ้งไป ขณะที่ทุกคนในงานส่งเสียงกันขึ้นมาอย่างระเบ็งเซ็งแซ่ พวกนักข่าวกลายเป็นสุนัขหิวกระหาย กระหน่ำกดชัตเตอร์รัวเร็วราวกับปืนกลและตะโกนถามคำถามทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทยให้แซดไปหมด

“เป็นไปไม่ได้…เพลง” ณิชาในชุดแต่งงานร้องออกมาเบาๆ ฟ้าใส โสภิตกัลยา และพี่สาวเธอต่างก็ช็อก พากันส่ายหน้าอย่างพูดอะไรไม่ออก

สติของคอนสแตนตินกลับมาในที่สุด ชายหนุ่มหลับตาเพื่อไล่ความเครียดและอาการปวดศีรษะซึ่งเกิดขึ้นทุกครั้งที่เขาตกเป็นเป้าของกล้องมากมาย เจ้าชายอสูรตามฉายาหน้าตาทะมึนไปด้วยโทสะ ตวาดให้พวกกระหายข่าวหยุดการกระทำต่างๆ ด้วยเสียงแผดก้อง ก่อนสั่งการบอดี้การ์ดส่วนตัวที่ยืนกระจายตัวอยู่ “บัดซบ…กันคนพวกนี้ไว้ซิ…ไม่รู้จะอยากรู้อะไรนัก”

น้ำเสียงน่ากลัวและดังลั่นเหมือนฟ้าผ่าทำให้บางคนผงะถอยไปก้าวหนึ่ง ใบหน้าคร้ามเข้มที่เต็มไปด้วยโทสะตวัดไปมองเพลงพิณเขม็ง ก่อนจะตรงเข้าไปลากข้อมือของหญิงสาวแล้วก้าวพรวดๆ ไปยังสถานที่สำหรับเตรียมอาหารด้านหลัง

“แค่ครอบครัวของเพลงพิณเท่านั้นที่ตามมา…คนอื่นถ้าขยับ…พวกนายจัดการได้” คอนสแตนตินสั่งการบอดี้การ์ดเสียงกระด้างเย็นชาจนผู้คนที่ทำท่าจะตามมาหน้าตาซีดเผือด ขณะชายร่างใหญ่หน้าตานิ่งสนิททั้งห้าก็มายืนเรียงกันเพื่อทำตามคำสั่งของเจ้านายอย่างเคร่งครัด

ฝ่ายเพลงพิณก็ต้องร้องโอดโอยเมื่อข้อมือเล็กๆ ถูกมือแข็งราวกับคีมเหล็กหนีบไว้แน่น ร่างบางขืนตัวจากการถูกลากถูลู่ถูกังแต่ไม่เป็นผล คนก่อเรื่องร้องโวยวายออกมาตลอดทาง ขาเล็กๆ พยายามเตะขาคนที่เดินนำแต่ก็ไม่ทำให้เกิดปฏิกิริยาอะไร นอกจากข้อมือเธอที่แทบแตกละเอียดเพราะแรงกดที่มากขึ้น

“โอ๊ย…ฉันเจ็บนะ…บ้าๆ ไอ้บ้า ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”

คอนสแตนตินรำคาญกับการกวนใจนั้น จึงรวบร่างบางเข้ามาหนีบไว้กับเอวอย่างตัดปัญหา ผู้โดยสารที่ไม่เต็มใจยังคงส่งเสียงกรีดร้อง ดิ้นเร่าๆ ให้เขาปล่อยลง ส่วนครอบครัวและพี่สาวของเพลงพิณที่อยู่ในชุดแต่งงานรุ่มร่ามซึ่งวิ่งตามมาก็ส่งเสียงห้ามกันไม่ได้หยุด

บทที่ 4…การแต่งงานคือการลงทุนที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง…โปรดใช้วิจารณญาณก่อนตัดสินใจ และ…ทำใจหลังจากนั้น

 

ไม่กี่นาทีต่อมาคอนสแตนตินก็บุกเข้ามาถึงส่วนที่เตรียมอาหาร เขาไม่สนใจกับสายตาตกตะลึงหลายคู่ของผู้คนในโรงครัวแม้แต่น้อยขณะจับเพลงพิณยัดเข้าไปในห้องเก็บอาหารแห้งที่เปิดอ้าอยู่ ก่อนจะก้าวตามเข้าไปในนั้นแล้วปิดประตูตามหลังดังสนั่นพร้อมกดล็อก

“พูดมา…อธิบายมา…ทำไมถึงได้พูดอะไรนรกๆ นั่นออกไป” เสียงดุเหี้ยมตะคอก

เพลงพิณหน้าแหย ใจเธอเต้นแรงด้วยความหวาดหวั่น คอนสแตนตินกำลังเท้าแขนกับผนังอยู่เหนือหัวเธอ ใบหน้าที่มีเคราครึ้มกับดวงตาสีน้ำเงินเข้มจัดที่เหมือนมีไฟลุกอยู่ข้างในแนบเข้ามาแทบจะชิดใบหน้าเธอ…นี่เธอทำอะไรลงไปเนี่ย

หญิงสาวทำท่าจะมุดลอดใต้แขนเขา คราวนี้คนตัวโตที่ไวอย่างเหลือเชื่อก็จับแขนเธอบิดไขว้หลังแล้วรวบไว้ด้วยมือเดียว เธอร้องกรี๊ดออกมาด้วยความเจ็บ ทำให้ครอบครัวที่รออยู่ด้านนอกพากันตบประตูแรงขึ้นและตะโกนถามด้วยความเป็นห่วงกันเสียงขรม

เพลงพิณกลืนน้ำลาย แล้วส่งเสียงออกไป “เอ่อ…ทุกคน…เพลงโอเค ไม่ต้องเป็นห่วง…เอ่อ คือเพลงกับแฟนมีเรื่องขัดใจกันนิดหน่อยน่ะ”

คอนสแตนตินหายใจเข้าฟืดใหญ่เหมือนกับไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบๆ อย่างคนที่โกรธจัดเต็มที่

“ทำไมพูดออกไปแบบนั้น ฮึ…คิดจะทำอะไร” เสียงใหญ่ตะคอกดังลั่น ถ้าคนที่อยู่ด้านนอกไม่มัวแต่ทุบประตูและตะโกนเข้ามาก็คงได้ยินชัดเจนว่าเขาพูดอะไร

“ชู่ว์…เบาๆ หน่อยสิ…รู้ล่ะว่ากล่องเสียงใหญ่ แต่ว่าไม่ต้องใช้ให้เต็มประสิทธิภาพก็ได้นะ” เพลงพิณต่อปากต่อคำ…เธอเริ่มแน่ใจแล้วว่าคอนสแตนตินคงยังไม่ฆ่าเธอ…อย่างน้อยก็จนกว่าจะสอบสวนเสร็จล่ะ…เวลาที่เธอกำลังประหม่าหรือกลัว เธอมักจะพูดอะไรเรื่อยเปื่อยเฉไฉเพื่อเบี่ยงเบนความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองเสมอ

คอนสแตนตินกะพริบตาสองที…เขาไม่เข้าใจผู้หญิงคนนี้จริงๆ ให้ดิ้นตายเถอะ ชายหนุ่มปล่อยให้ร่างน้อยเป็นอิสระ ถอยไปเล็กน้อยก่อนจะยืนแยกขากอดอกรอฟังคำอธิบาย

เพลงพิณกลืนน้ำลาย เหลือบมองคนตัวโตที่หน้าตาถมึงทึงชนิดที่คงทำให้เด็กร้องไห้แม้เห็นในระยะไกล “คุณก็เห็นนี่ว่าทุกคนเข้าใจเรื่องในสวนผิดไปขนาดไหน…เขาคงคิดว่าเรา เอ่อ ฉันกับคุณ…เรามา…อ่ะแฮ่ม…ยังงั้นกันน่ะ”

คนฟังเม้มปาก…ใช่ และป่านนี้ก็คงรู้กันไปทั่วทั้งงาน บางคนก็คงโทรไปเล่าให้คนรู้จักฟัง พร้อมกับรูปที่ถ่ายจากมือถือด้วย พวกนักข่าวก็รีบเขียนข่าวคร่าวๆ กันใหญ่ และรูปที่ถ่ายกันไปเป็นร้อยๆ ชอตน่ะ พวกนั้นก็คงคัดรูปที่ดูฉาวโฉ่ที่สุดขึ้นปกแท็บลอยด์ชื่อดัง หรือไม่ก็ลงเว็บ…แค่คิด เส้นเลือดในหัวก็ทำท่าจะระเบิด

เพลงพิณเห็นหน้าตาเขาก็ชักกลัว แต่ก็ยังทำเป็นใจดีสู้เสือ “แล้วแขกที่มาในงานน่ะ โห ไฮโซ มีชื่อเสียง เจ้าชายงี้ นายกฯ งี้…ฉันกลัวพ่อแม่ฉันขายหน้าก็เลยพูดออกไปแบบนั้นน่ะสิ…คนเขาเข้าใจว่าเราเป็นแฟนกันก็ยังดีกว่าเป็นผู้หญิงใจง่ายกับผู้ชายบ้ากามไม่เลือกที่ล่ะนะ”

คอนสแตนตินยิ้มเยาะ…ต่อให้เขาบ้ากามจริงก็ไม่หน้ามืดทำอะไรเธอหรอก “นั่นมันเรื่องของคุณ…ผมไม่เคยแคร์สื่อ”

“แต่คุณแคร์ย่าของคุณนี่นา…ณิชาบอกว่าคุณรักย่าของคุณมาก…ไม่แน่นะ ถ้าย่าคุณเห็นข่าวที่คุณทำตัวแย่ๆ แบบนี้ อาจจะช็อก…หรืออะไรก็ได้”

นั่นสินะ…โซเฟีย ย่าของเขาคงเสียใจมากแน่ๆ …

คอนสแตนตินเป็นนักธุรกิจ เขาลงทุนในหลายทวีป เข้าถือหุ้นบริษัทต่างๆ นับร้อย วันๆ มีเรื่องที่ต้องพิจารณาและตัดสินใจมากมาย เพราะฉะนั้นสมองของเขาต้องฉับไว และประมวลสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ออกมาในรูปของผลประโยชน์ที่คุ้มค่าที่สุด…ตอนนี้สมองของคอนสแตนตินก็กำลังทำงานเต็มที่ ขณะสายตามองใบหน้ารูปหัวใจที่ดูเยินๆ ไปด้วยรอยยุงกัด รอยเปื้อน ซึ่งล้อมกรอบไปด้วยเส้นผมหยิกขอดที่หลุดลุ่ยออกมาจากกิ๊บที่ติดตรึงไว้…ฮึ ก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ แล้วก็นิสัยแสบๆ แบบเด็กๆ คนหนึ่งเท่านั้นล่ะ…แบบนี้ถึงจะน่ารำคาญหน่อย แต่เขาคิดว่าคอนโทรลได้…ดีกว่าพวกผู้หญิงกร้านโลกที่ชอบสร้างแผนในใจและทะเยอทะยานกับสมบัติของเขาเยอะเลย

เขาหาทางออกให้กับตัวเองแบบชั่วคราวได้แล้ว

“ดี…งั้นเรามาแต่งงานกัน เอาสักสามปีก็พอแล้วค่อยหย่า” เสียงกระด้างเปลี่ยนเป็นราบเรียบเป็นงานเป็นการ

“อะไรนะ…” เพลงพิณอุทานออกมาเสียงดัง มองหน้าคนพูดเหมือนกับว่าเขาถูกปีศาจเข้าสิง…โอเค เธอเคยคิดเล่นๆ ว่าวันหนึ่งคงมีใครสักคนขอเธอแต่งงาน…แต่นั่นเธอหมายความว่าคนจริงๆ นะ ไม่ใช่ครึ่งคนครึ่งแวมไพร์ที่โหดร้ายเลือดเย็นบ้าอำนาจตรงหน้านี่

คอนสแตนตินแสยะยิ้ม แล้วสะบัดผมดำสนิทเป็นคลื่นน้อยๆ ระต้นคอออก แปลกใจนิดๆ ที่ในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนรูปเม็ดอัลมอนด์ของคนปากเก่งมีแววเกรงกลัวเขาแวบหนึ่ง “คุณอยากได้อะไรเป็นการแลกเปลี่ยน บอกมาเลย”

สมองของเพลงพิณก็ฉับไวไม่แพ้กัน เพราะฉะนั้นก่อนที่เธอจะโพล่งด่าคนยื่นข้อเสนอบ้าๆ เธอก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ถึงสถานการณ์ตัวเอง…หาเงินสามล้านมาคืนแม่…แต่งงานซะ…ไม่อย่างนั้นก็ต้องปรับปรุงตัวขนานใหญ่ แต่งหน้าทาปาก ใส่กระโปรงหญิงๆ ไปทำงานนี่บริษัทคุณตา

…เฮ้ งั้นที่นายลูกครึ่งแวมไพร์เสนอมานี่มันก็เข้าล็อกพอดีเลยนี่

“ฉันต้องการเงินสามล้าน…” เพลงพิณตอบ ดวงตาเล็กเรียวหรี่ลงอย่างใช้ความคิด

ดวงตาสีน้ำเงินมีแววเยาะเมื่อได้ยินคำตอบที่แสดงให้เห็นว่าคนตรงหน้านี้ก็ไม่ต่างจากคนอื่นๆ…ชายหนุ่มถามกลับมาเสียงเย็นชา “บาท ดอลลาร์ หรือยูโร”

“บา…เอ่อ ยูโรสิ…ใช่ ยูโรแน่นอน” หญิงสาวคำนวณในใจ แล้วก็ฮิฮะ…สามล้านยูโร กรี๊ดดด นั่นมันร้อยกว่าล้านบาทเลยนะ…โอ๊ย ตาย ความรวยมาเยือนเพลงพิณเข้าแล้ว

คอนสแตนตินนิ่งไป ในใจกำลังคำนวณว่าถ้าเขาแต่งงานกับผู้หญิงหิวเงินสักคน เขาต้องเสียเงินมากกว่าหรือน้อยกว่าแต่งงานหลอกๆ กับยายหน้าเลือดตรงหน้านี้กันแน่…

ไม่ทันที่ทั้งสองจะเจรจาจะตกลงอะไรกันได้ประตูก็เปิดออก คุณไพลินซึ่งเป็นข้าหลวงเก่าแก่และเป็นผู้ดูแลวังนี้ถือกุญแจพวงใหญ่ไว้ในมือ ด้านหลังเป็นญาติพี่น้องนับสิบของเพลงพิณที่กำลังกรุ่นโกรธ ร้อนใจ…ฝ่ายเพลงพิณที่กลัวว่าการเจรจาซึ่งกำลังไปได้สวยจะต้องล้มเลิกลงกลางคันก็รีบปราดเข้ามายืนใกล้ๆ ร่างสูงใหญ่ แต่เธอขาดความระมัดระวังมากไปหน่อย สาบเสื้อสูทที่คลุมตัวอยู่เลยแยกออก เผยหน้าอกที่มีเพียงบราแบบครึ่งทรวงปกปิดอยู่เท่านั้น…แม่ของเธอกรี๊ด คุณไพลินทำท่าเหมือนจะเป็นลม ส่วนพ่อ น้องชาย และญาติๆ คนอื่นของเธอมีสีหน้ากระดากแล้วเมินไปทางอื่น

เพลงพิณรีบจัดการตัวเองให้รัดกุม ก่อนจะยิ้มแหยๆ “พวกเราโอเคค่ะ…แล้ว…โอ๊ย ตาย ตื่นเต้นจังเลย ทุกคนมีเรื่องต้องฉลองกันแล้วล่ะค่ะ…คอนที่รักเขาขอเพลงแต่งงานค่ะ ปาปา แม่” หญิงสาวฉีกยิ้ม เอื้อมมือไปจับลูกบิดประตู มองหน้าทุกคนที่ช็อกสนิทก่อนจะแสร้งทำท่าเขินๆ “…ขอตัวคุยเรื่องสินสอดทองหมั้นกันสักแป๊บนะคะ”

พอประตูปิดลงแล้วเพลงพิณก็หันมาหาคู่เจรจาของตัวเองอีกครั้ง…เมื่อกี้เธอถึงไหนแล้วนะ…อ๋อ เธอตอบไปว่าสามล้านยูโร แต่นายลูกครึ่งแวมไพร์นี่กลับนิ่งงัน…ชิชะ รวยเป็นพันๆ ล้านยูโรทำเป็นตึ๋งหนืดไปได้…คนอย่างเพลงพิณไม่ใช่จะแต่งงานกับใครง่ายๆ นะ (…ถ้าไม่จนตรอกและต้องการเงินไปทำธุรกิจส่วนตัว)

“อืม” เสียงทุ้มลึกเอ่ยเป็นการตกลงแบบสั้นๆ

เพลงพิณแทบลืมตัวร้องกรี๊ดปรบไม้ปรบมือ…แต่สักพักก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังทำอะไรบ้าระห่ำอยู่ “เฮ้ ที่ว่าสามปีเนี่ย ก็โอเคนะ…แต่ว่าระหว่างนั้นคือเราจะไม่มีอะไรกันใช่ไหม ก็เพราะคุณน่ะชอบ…” หญิงสาวรู้สึกว่าคงไม่เวิร์กถ้าเธอไปเน้นรสนิยมทางเพศของเขา ซึ่งนั่นจะแสดงว่าเธอเคยสอดรู้สอดเห็นเรื่องเขามาก่อน “…เอ่อ มันเป็นการตกลงทางธุรกิจล้วนๆ นะ”

คอนสแตนตินหรี่ตาอย่างครุ่นคิด ก่อนจะจำใจพยักหน้า…เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังเริ่มจะขาดทุน ไหนจะต้องทนกับผู้หญิงที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย ซ้ำยังไม่ได้ตักตวงความสุขจากเรือนร่างที่ต้องจ่ายเงินสามล้านนี่อีก…ถูกล่ะว่าคนตัวเล็กๆ มอมๆ ตรงหน้านี้ไม่มีอะไรน่าพิศวาสสักนิด แต่สำหรับร่างไหนๆ ที่อยู่ในความมืดก็เหมือนกันไปหมดนั่นแหละ…แต่เอาเถอะ ถ้าเธอมีอะไรกับเขา คงทำให้ชีวิตส่วนตัวเขาวุ่นวายแน่ๆ ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า…สามปี พอที่จะให้เขาได้หายใจหายคอ หาผู้หญิงดีๆ เตรียมแต่งงาน ย่าเขาก็จะได้ไม่ต้องเครียดเรื่องเขาอีก

“แล้วฉันจะอยู่เมืองไทย…คุณอยู่ที่กรีซนะ” เสียงเล็กๆ พูด เหมือนกับตัวเองกำลังเป็นต่อในการเจรจา

“บ้าหรือไง…คุณต้องไปอยู่ที่กรีซ ทำตัวให้สมกับเป็นมิสซิสอันเกลอสทุกอย่าง ต่อหน้าคนอื่นก็ต้องทำเป็นรักใคร่สนใจไยดีผมให้เหมาะสมด้วย โดยเฉพาะเวลาอยู่กับคุณย่าและครอบครัวผม”

เพลงพิณนิ่งคิด…เธอต้องไปอยู่ปราสาทเขาเหรอเนี่ย แล้วแบบนี้เธอจะเริ่มธุรกิจของเธอได้ยังไงเล่า เสียเวลาตายชัก…อยู่ที่นั่นเธอคงต้องเฉาตายแน่ ก็มันมีแต่ที่รกร้าง ปราสาททึมๆ ไม่น่าอยู่

แต่เอ๊ะ…อยู่ๆ สมองประสิทธิภาพสูงของเธอก็ผลิตไอเดียกิ๊บเก๋ออกมา หญิงสาวถึงกับเผลอยิ้มและทำตาวาว จนคนที่มองอยู่ถึงกับงงไปกับความปุบปับทางอารมณ์ของเธอ

เสียงเล็กปิดแววกระหยิ่มแทบไม่มิด “ก็ได้…แต่ต้องแลกกับการให้ฉันได้ตกแต่งปราสาทของคุณ” หญิงสาวเห็นกองไฟสีน้ำเงินในแววตาเขาทำท่าจะลุกขึ้นมาอีกก็รีบอธิบาย “…ก็มันเก่าแก่ น่าเบื่อ โล่งโจ้ง…น่านะ ฉันไม่คิดเงินด้วยซ้ำ…นี่ๆ ขอบอกให้รู้นะ ฉันจบสถาปัตย์มา แล้วก็จบหลักสูตรการออกแบบเพิ่มเติมจากแพรทท์มาด้วย…ชื่อดังไหมล่ะ…รับรองฉันจะแต่งปราสาทของคุณให้เริดสุดเลย”

คอนสแตนตินใช้ความคิด…ความจริงปราสาทเขามันก็เป็นอย่างที่เธอว่า เพียงแต่เขาวุ่นวายเกินกว่าที่จะจัดการและไม่ชอบให้คนแปลกหน้ามาพลุกพล่านในที่ส่วนตัวเป็นปีๆ แต่นี่คงถึงคราวที่ต้องจัดการแล้วเหมือนกัน เพราะย่าเขาเองก็บ่นทุกครั้งที่มา แล้วถ้าเขาจะแต่งงานในวันหนึ่งข้างหน้าจริงๆ เขาก็อยากให้ปราสาทน่าอยู่ ดูดี และสุขสบาย…ยังมีผลดีอีกอย่างก็คือยายตัวน่าปวดหัวนี่ก็จะได้ยุ่งกับการตกแต่งปราสาท ไม่มากวนใจเขาไง…เผลอแป๊บเดียวก็ครบสามปี แล้วทุกอย่างก็ลงตัว…สามล้านยูโรน่ะมากก็จริง แต่ถ้าจ้างบริษัทตกแต่งชื่อดังมาจัดการก็คงเสียมากกว่านี้อีกสามสี่เท่า แล้วพวกนั้นก็คอยมากวนใจ ถามความเห็น มาจุกจิกเพื่ออยากเอาใจเขา…น่ารำคาญ

“ตกลง”

เพลงพิณยิ้มจนมุมปากเผยลักยิ้มทั้งสองข้าง ดวงตาสีน้ำตาลใสเปล่งประกายระยิบดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที…เธอจะตกแต่งปราสาทเขาให้วิลิศมาหราที่สุด แต่…

“เอ่อ…งบน่ะ ไม่ใช่เงินสามล้านของฉันใช่ไหม…” หญิงสาวถามเพื่อความแน่ใจ

คอนสแตนตินเห็นคนที่ตัวเตี้ยกว่าเขาเป็นฟุตแต่ทำตัวเก่ง ทำท่าเป็นนักธุรกิจ นักเจรจาต่อรองฝีมือเทียบชั้นกับเขาก็นึกเยาะในใจ…

“ไม่ใช่…งบตกแต่งไม่จำกัด แต่ต้องให้ผมเห็นชอบเป็นรายการๆ ไป ผมยังมีทีมผู้ช่วยให้คุณ จ่ายค่าดำเนินงานที่เกี่ยวข้องให้ด้วย…เรียกว่าคุณไม่ต้องเสียอะไรเลย”

“นอกจากเสียพลังความสามารถและความคิดสร้างสรรค์…แน่นอน” เพลงพิณสำทับไป เดี๋ยวเขาจะหาว่าเธอเป็นพวกเด็กจบใหม่ ไม่เก๋า ไม่มีทางเลือก…ไม่จริงทั้งนั้น

หญิงสาวไม่สนใจสายตาที่มองมาอย่างหมิ่นๆ พอรู้ว่างบตกแต่งไม่อั้นแล้ว เธอก็แทบจะลงไปกรี๊ดกับพื้น ดิ้นให้หัวสั่นหัวคลอนด้วยความดีใจ…เธอจะได้หาตำแหน่งของห้องลับทางลับที่กัดกินใจเธอมาสองสามปีเสียที แล้วพอเธอตกแต่งปราสาทเขาเสร็จเมื่อไหร่ จะถือโอกาสที่คอนสแตนตินเป็นคนดังที่ลึกลับที่สุดในโลก เปิดปราสาทให้พวกสื่อเข้ามาชม ลงนิตยสารสักสามสี่ฉบับ เธอจะได้โด่งดัง ได้โชว์ผลงานตัวเองทุกซอกทุกมุม บางทีอาจแถมบทสัมภาษณ์สักเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องส่วนตั๊วส่วนตัวของคอนสแตนตินที่ทุกคนอยากรู้นักหนา เธออาจจะได้เงินสักล้านสองล้านด้วยซ้ำ โอ้…เสร็จภารกิจปุ๊บเธอก็หอบเงินกองโตไปตั้งบริษัทที่ไหนก็ได้ในโลก แถมยังมีรายชื่อลูกค้าเจ๋งๆ ดังๆ รออยู่เป็นหางว่าว…อ๊ายยย มีความสุข

คอนสแตนตินเห็นตาวิบวับราวกับยิ้มได้ของคนตรงหน้าก็รู้สึกแปลกๆ…อย่างเช่น หมั่นไส้กับความดีใจนั้น…ฮึ่ม คงจะดีใจสินะที่ได้แต่งงานกับคนมีเงินอย่างเขา หรือไม่ก็อาจจะวางแผนแก้เผ็ดเขาอย่างที่เคยบอกคนนั้นคนนี้มาตลอดก็ได้ แต่ไม่ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ มันไม่สำเร็จง่ายๆ หรอก ถึงเขาจะไม่มีเวลามาสอดส่องจัดการกับเธอ แต่เขาก็มีทีมงานอีกมากมายที่จะคอยดูให้เพลงพิณอยู่ในลู่ในทาง…ไปอยู่ในสถานที่ของเขา เธอก็ไม่ต่างกับเป็นลูกไก่ในกำมือเขาหรอก

“เป็นอันว่าเราตกลงกันได้แล้วใช่ไหม…แล้วเราจะแต่งงานกันเมื่อไหร่ดีล่ะ” หญิงสาวถาม ตอนนี้แผนงานมันฟุ้งในหัวเธอไปหมดแล้ว คันไม้คันมืออยากเริ่มงานเต็มที

คนถูกถามหรี่ตา…กระตือรือร้นไปหรือเปล่า “ก็แล้วแต่ฝ่ายคุณเถอะ”

เพลงพิณเสยผมยุ่งๆ ที่ปรกใบหน้าออก แววตาวาววับ “ได้เลย…ฉันเปิดประตูล่ะนะ”

ชายหนุ่มถอนใจอย่างรำคาญ คนตัวเล็กจึงยักไหล่ เปิดประตูออก แล้วบอกกับครอบครัวที่ยืนอออยู่ด้วยท่าทางกระวนกระวายว่า

“เพลงกับคุณคอนสแตนติน…เราตกลงจะแต่งงานกันอาทิตย์หน้าค่ะ”

ทุกคนอ้าปาก เบิกตาโต แล้วร้องประสานเสียง “อะไรนะ…”

เพลงพิณยิ้มแล้วพยักหน้า ดวงตาเจิดจรัสเหมือนคนที่กำลังดีใจและมีความสุขที่สุด แต่คนในครอบครัวยังงงงัน จับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรรู้สึกยังไงในตอนนี้…ได้แต่หันไปถามกันเองว่าตกลงคอนสแตนตินเป็นแฟนกับเพลงพิณมาก่อนใช่ไหม…ทำไมไม่มีใครรู้เลย

หญิงสาวตอบข้อสงสัยยิ้มๆ “เรา เอ่อ…คบกันตอนที่เพลงไปเรียนอยู่นิวยอร์กน่ะค่ะ แต่งอนกันนิดหน่อย เพลงเลยหนีกลับมาเมืองไทย ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง…ส่วนเรื่องในสวนเมื่อกี้นี้ เอ่อ เราไม่ได้ทำอะไรบ้าๆ อย่างที่ทุกคนคิดนะคะ…คุณคอนเขาแค่…” หญิงสาวทำท่าประสานมืออย่างอายๆ ก่อนจะแอบหลิ่วตาให้ว่าที่สามี “…เห็นเพลงคุยกับผู้ชายในงานมากไป ก็เลยหึงไปนี้ดดด…นึง”

ทุกคนร้องกันอย่างตกอกตกใจ มองชายรูปร่างสูงใหญ่กว่าเพลงพิณเกือบเท่าตัวด้วยสีหน้าปั้นยาก

คอนสแตนตินชักเริ่มปวดหัว และรู้สึกว่าเขากำลังจะทำให้ชีวิตตัวเองหายนะ มือเล็กๆ กระตุกเสื้อเชิ้ตสีดำของเขาและทำท่ากระซิบกระซาบอะไรบางอย่าง เขาจึงก้มลงไปฟัง

“ข้อเสนอเนี่ยรวมถึงอาหารการกินไม่อั้นด้วยใช่มะ”

…เธอถามอะไรประสาทๆ แบบนี้ทำไมเนี่ย

“อือ”

“เยี่ยมกู้ด” เพลงพิณร้องออกมาอย่างดีใจ

 

ทัศนียาและพันธรปฏิเสธเสียงแข็งกับวันแต่งงานที่เพลงพิณแจ้งกับทุกคน ผู้เป็นแม่โวยวายชี้แจงว่าหากแต่งงานกันภายในอาทิตย์เดียวหลังจากเรื่องฉาวโฉ่ ผู้คนคงพากันนินทาว่าเพลงพิณท้องจนครอบครัวต้องบังคับให้ฝ่ายชายรับผิดชอบ ส่วนพันธรผู้เป็นพ่อนั้นก็ใจหายที่อยู่ๆ ลูกสาวคนเล็กจะสละโสดแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย หลังจากที่ลูกสาวคนโตเพิ่งจะเข้าพิธีแต่งงานและกำลังจะย้ายไปอเมริกา

ดังนั้นงานแต่งของเพลงพิณจึงจัดขึ้นในอีกสองเดือนต่อมา เป็นงานพิธีเล็กๆ เรียบง่ายที่เสร็จสิ้นภายในช่วงเช้า มีคนมาร่วมงานเฉพาะญาติๆ และเพื่อนสนิทเท่านั้น

และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่เพลงพิณได้พบกับคนในครอบครัวของคอนสแตนตินนอกจากอเล็กซิส…ย่า อา และอาเขยของคอนสแตนตินที่บินมาร่วมงานแต่งงาน ทำให้หญิงสาวรู้สึกว่าโชคดีที่เธอจะไปพักอยู่ที่ปราสาท ไม่ได้พักอยู่ที่บ้านในเมือง เพราะเธอคงไม่มีความสุขกับท่าทางผู้ดีจัด จะพูดจะจาอะไรก็เหมือนกับกลัวว่าดอกไม้จะร่วงจากปากของย่าเขา และท่าทางคอยตรวจตราจับผิด หัวสูงของอาผู้หญิง รวมถึงสายตาที่ลอกแลก ประเมินราคาทุกสิ่งทุกอย่างของอาเขย

เพื่อนๆ ของเพลงพิณเป็นกำลังใจและสนับสนุนการตัดสินใจของหญิงสาวเหมือนเคย ทุกคนต่างมีส่วนช่วยในการเตรียมงานและพยายามแปลงโฉมทอมบอยตัวเล็กให้กลายเป็นผู้หญิง ซึ่งล้มเหลวอย่างน่าเศร้า…ทั้งกลุ่มพยายามรีดเค้น หว่านล้อม ซักฟอกถึงเบื้องลึกเบื้องหลังการคบหาของหญิงสาวกับคอนสแตนตินคู่กัด ซึ่งเจ้าตัวก็เล่าปัดๆ ไปว่าเธอกับเขาพบกันบ่อยสมัยที่เธอยังเรียนอยู่ที่นิวยอร์ก เธอเองก็ไม่คิดว่าเรื่องจะจริงจังขนาดนี้ แต่อยู่ๆ คอนสแตนตินที่เพิ่งได้เห็นหน้าเธอครั้งแรกหลังจากไม่ได้พบกันสี่ห้าเดือนก็ราวกับจะคลุ้มคลั่ง ลากเธอไปรำลึกความหลังในสวนจนเกิดเรื่องขึ้น แรกๆ ก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะเพลงพิณไม่ใช่คนที่จะมีความลับกับเพื่อนได้ ที่สำคัญเธอไม่ชอบคอนสแตนตินอย่างรุนแรง ก่อนหน้านี้ขนาดใครเอ่ยชื่อเขาขึ้นมาเธอก็บังคับให้ถอนคำพูด…แต่เมื่อเจ้าตัวยังยืนยันกระต่ายขาเดียว ทุกคนก็เลยเริ่มเชื่อ จนงานแต่งงานเริ่มใกล้เข้ามา และเพลงพิณที่มักทำตาวิบวับ ปากเป็นกระจับยิ้มแย้ม และร้องเพลงหงุงหงิงตลอดเวลาราวกับคนที่มีความสุขจนแทบบ้า ก็ทำให้ผู้คนรอบข้างเชื่อได้ในที่สุดว่าหญิงสาวกำลังตกอยู่ในห้วงรักจริงๆ

ไม่มีใครรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วสิ่งที่ทำให้เพลงพิณมีความสุขจนแทบอยากเร่งกำหนดวันงานแต่งงานให้มาถึงเร็วๆ นั้นคือการวาดภาพว่าเธอเดินไปเดินมาอยู่หน้าปราสาทขนาดใหญ่ที่งดงามหรูหราราวกับพระราชวัง สื่อมวลชนมากมายพากันเดินถ่ายภาพทั้งเธอทั้งส่วนต่างๆ ของปราสาทไม่มีหยุดพัก เธอคอยยิ้มแย้มตอบคำถามของคนที่กำลังสัมภาษณ์ ขณะเดียวกันก็ผายมือไปยังผลงานของเธอเองพร้อมกับอธิบายไปด้วย ส่วนเจ้าของปราสาทที่ไม่น่าเจริญหูเจริญตา เธอก็คิดไว้เสร็จสรรพว่าเธอได้หาห้องลับปริศนาเจอเรียบร้อยแล้ว และจับคอนสแตนตินไปขังไว้เพื่อกันไม่ให้เขามาทำอันตรายผู้คน…ภาพคนตัวโตหนวดเครารุงรังเต็มหน้าตะโกนอย่างเดือดดาลอยู่หลังประตูลูกกรงเหล็ก โดยมีเธอยืนแกว่งกุญแจท้าทายอยู่ตรงหน้า สร้างความสุขให้หญิงสาวเสียจนเผลอหัวเราะออกมาขณะเลือกชุดแต่งงานท่ามกลางเพื่อนๆ ที่รายล้อม

หญิงสาวตกอยู่ในภวังค์ของความสุขจนไม่คิดอะไรทั้งนั้น ใจจดจ่อกับโครงการที่เหมือนกับเป็นใบเบิกทางไปสู่ความรุ่งโรจน์ของอาชีพ จนไม่สนว่าการแต่งงานปลอมๆ นั้นจะเปลี่ยนชีวิตเธออย่างไร การที่เธอต้องเดินเคียงข้างต่อหน้าสาธารณชน และต้องอยู่ร่วมกันในที่รโหฐานกับผู้ชายที่ร่ำรวยมีชื่อเสียงและมีนิสัยแตกต่างกับเธอเหมือนฟ้ากับมหาสมุทรนั้น เธอจะต้องเตรียมตัวอย่างไร เธอยังคงสนุกสนานแม้หลังจากพิธีแต่งงานซึ่งคอนสแตนตินต้องบินกลับไปทำธุระด่วน ส่วนเธอเองก็ต้องเตรียมตัวสำหรับการย้ายไปอยู่ที่เกาะมิครอส เจ้าสาวหมาดๆ ที่ยังคงเป็นทอมบอยแสบสันวิ่งวุ่นกับการเตรียมข้าวของเครื่องใช้มากมาย รวมถึงของแห้งของกินจำนวนมหาศาลที่ตระเวนซื้อหาและจัดเตรียมไว้เต็มบ้านไปหมด

 

โปรดติดตามตอนต่อไป…

หน้าที่แล้ว1 of 12

Comments

comments

Jamsai Editor: