X
    Categories: นิยายอินไซต์ everY/overgraYเรื่องเด่นวันนี้

Psychic ปริศนาลับ สัมผัสวิญญาณ โดย เฟิงหลิวซูไต นิยายวายแปลจีนลึกลับสืบสวนความสนุกส่งท้ายปี 2564 ที่ไม่ควรพลาด!

     หลายคนเชื่อว่าบนโลกนี้มีเรื่องราวลึกลับที่ไม่สามารถหาคำตอบได้อยู่มากมาย บ้างกลัวถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาจึงเลือกจะนิ่งเฉยกับเรื่องราวนั้น บ้างไม่เชื่อจึงไม่ใส่ใจ เรื่องราวของชายหนุ่มผู้มีดวงหน้างดงาม ไม่ว่าชายหรือหญิงหากใครได้เจอเขาจะต้องเกิดความรู้สึกหลงใหลและชื่นชม ทว่าภายใต้ความงดงามกลับซ่อนเรื่องราวลึกลับเอาไว้จนยากจะค้นหาคำตอบ Psychic ปริศนาลับ สัมผัสวิญญาณ นิยายวายแปลจีนที่จะพานักอ่านไปร่วมกันไขปริศนาลึกลับและเต็มไปด้วยคำถาม ความหวาดกลัว ตื่นเต้น สะเทือนอารมณ์ ซึ้ง และอีกมากมาย...

ทดลองอ่านคลิก l ดูรายละเอียดหนังสือคลิก l อ่านบทสัมภาษณ์นักแปล

     Psychic ปริศนาลับ สัมผัสวิญญาณ (มีเจ็ดเล่มจบ) ขณะนี้ออกมาแล้วสองเล่ม เป็นผลงานของ เฟิงหลิวซูไต แปลโดย ปราณหยก (คลิกอ่านบทสัมภาษณ์) เรื่องราวเริ่มต้นที่วง Star วงไอดอลที่กำลังมีชื่อเสียง สมาชิกของวงนี้มีด้วยกันสามคน ได้แก่ ‘เกาอี้เจ๋อ’ เขาเป็นหัวหน้าวง เป็นคนที่หน้าตาหล่อเหลาถ้าหากพูดถึงความดีงามทุกอย่างล้วนมีอยู่ในตัวของชายหนุ่ม ในทางตรงกันข้ามถ้านึกถึงเรื่องราวเสื่อมเสียชื่อเสียงนิสัยด้านมืดจะต้องนึกชื่อ ‘ฟั่นจยาหลัว’ หนึ่งในสมาชิกของวงซึ่งเวลานี้เขากำลังถูกกระแสในโลกโซเชียลถล่มอย่างหนัก ทั้งข่าวการติดสารเสพติด อาการทางจิต พฤติกรรมไม่เหมาะสม หรือข่าวที่ว่าฟั่นจยาหลัวไม่ใช่ลูกชายแท้ๆ ของผู้นำตระกูลฟั่นคนปัจจุบัน สำหรับสมาชิกคนที่สามของวงคือ ‘ซุนอิ่ง’

    ฟั่นจยาหลัวมีอาการของโรคหลายบุคลิก แท้จริงแล้วมันไม่ใช่อาการทางจิตตามหลักการแพทย์ทั่วไปที่อธิบายถึงสิ่งที่เขาแสดงออกมา แต่เป็นเพราะภายในร่างของเขาคือภาชนะที่ดึงดูดวิญญาณไว้หลายดวง วิญญาณเหล่านั้นแสดงตัวตนออกมาจึงทำให้เขากลายเป็นคนหลายบุคลิก ทุกครั้งที่เขาต่อสู้กับร่างอื่นๆ เพื่อกดข่มดวงวิญญาณเหล่านั้นเอาไว้ ในมโนภาพของความฝันจะทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสซึ่งเขาจะต้องแช่น้ำเย็นจัดเพื่อรักษาร่างไปอีกหลายวัน ครั้งนี้ก็เช่นกันหลังจากที่พบกับจิตแพทย์ซึ่งเป็นวิธีการอย่างหนึ่งเพื่อควบคุมดวงวิญญาณอื่นในร่างของเขา ฟั่นจยาหลัวถึงกับนอนหลับไปเป็นเวลากว่าสามวัน ในขณะที่โลกภายนอกกำลังวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงข่าวเสียหายที่เกิดขึ้นกับเขา ทางต้นสังกัดของเขาอย่าง บริษัท สเตลล่าร์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ก็มีวี่แววจะตัดเขาออกจากวงการ
     หากเป็นเมื่อก่อนที่นายหญิงแห่งตระกูลฟั่นซึ่งเป็นแม่แท้ๆ ของฟั่นจยาหลัวยังมีชีวิตอยู่ ข่าวเสียหายที่เกิดขึ้นก็จะมีคนคอยจัดการให้เขาอย่างเรียบร้อย ทว่านับตั้งแต่ที่นายหญิงตะกูลฟั่นเสียชีวิต นายใหญ่ของตระกลูฟั่นที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดจึงต้องการตัดเขาออกจากตระกูลและเวลานั้นก็มาถึง ฟั่นลั่วซานได้ประกาศต่อหน้าสื่อใหญ่แบบอดรนทนไม่ไหวว่าฟั่นจยาหลัวไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของเขาแต่เป็นลูกเลี้ยงที่ไม่ได้มีความเกี่ยวพันทางสายเลือด เวลานี้อีกฝ่ายบรรลุนิติภาวะแล้ว สมควรออกจากตระกลูไปใช้ชีวิต ซึ่งหลังจากที่มีประกาศก็มีข่าวเสียหายเกี่ยวกับตัวเขาออกมามากมายนับไม่ถ้วนถาโถมเข้าใส่ ซึ่งหากเป็นคนปกติคงไม่สามารถแบกรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ 

     แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์สะเทือนฟ้าสะเทือนดินเมื่อลีดเดอร์ของวง Star ‘เกาอี้เจ๋อ’ ตกจากตึกสูงลงมาตายอย่างสยดสยอง ฟั่นจยาหลัวจึงตกเป็นผู้ต้องสงสัยในทันที เนื่องจากที่ผ่านมาฟั่นจยาหลัวมีข่าวไม่ลงรอยกับเกาอี้เจ๋อและซุนอิ่ง อีกทั้งก่อนที่เกาอี้เจ๋อจะตกตึกลงมาเสียชีวิต เขาได้วาดรูปเกาอี้เจ๋อนอนจมกองเลือดซึ่งเป็นภาพคล้ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเขามอบมันให้กับเก๋าอี้เจ๋อก่อนที่เจ้าตัวจะเสียชีวิต นอกจากนั้นเขายังโพสต์ข้อความที่เหมือนกับรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น

‘ความตายเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ เพราะฉะนั้นอย่าไปเดินบนที่สูง...’

     ฟั่นจยาหลัวถูกเชิญไปสอบปากคำแต่ก็ไม่พบหลักฐานที่เชื่อมโยงว่าเขาเป็นฆาตกรจึงไม่สามารถจับกุมตัวเขาได้ ทว่าตำรวจยังคงปักใจเชื่อว่าเขาคือฆาตกรและพยายามหาหลักฐานเพื่อมัดตัวเขา

‘คนที่สอง’

     ข้อความได้ถูกโพสต์ลงเวยป๋ออีกครั้งโดยฟั่นจยาหลัวทำให้ตำรวจต้องทำงานหนักเพราะไม่ต้องการให้มีเหยื่อรายที่สอง ทว่าบุคคลที่ตำรวจคาดว่าจะเป็นผู้เสียชีวิตรายต่อไปยังคงมีชีวิตอยู่กันครบทุกคน

‘คนที่สาม’
‘คนที่สี่’

     มีเหยื่อเคราะห์ร้ายเสียชีวิตเพิ่มขึ้นตำรวจสันนิษฐานว่าฟั่นจยาหลัวคือฆาตกรต่อเนื่อง ทว่าตำรวจก็ยังไม่สามารถหาหลักฐานมามัดตัวเขาได้อยู่ดี ทว่าเรื่องราวกลับตาลปัตรเมื่อฟั่นจยาหลัวให้ปากคำกับตำรวจว่าเขาคือ ร่างทรงวิญญาณ ซึ่งเป็นผู้ที่มีจิตสัมผัส สามารถเห็นเหตุการณ์ในอนาคตว่าผู้ตายจะถูกฆาตกรรมเขาจึงโพสต์ข้อความเตือนล่วงหน้าเอาไว้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไม่คล้อยตาม พวกเขาได้เชิญ ‘ดร.ซ่งรุ่ย’ นักจิตวิทยาผู้เลื่องลือในหมู่ตำรวจว่าสามารถจัดการคนร้ายด้วยการสอบปากคำมานักต่อนักแล้วมาร่วมฟังคำให้การด้วย

     ร่างทรงวิญญาณ กลายเป็นคำพูดที่ไม่น่าเชื่อถือ ทว่าเขาสามารถสั่นคลอนความคิดของตำรวจด้วยการบอกตำแหน่งของตำรวจซึ่งอยู่ที่ผนังฝั่งตรงข้ามได้อย่างชัดเจน และบอกรายละเอียดเกี่ยวกับตำรวจแต่ละนายได้ถูกต้องราวกับว่าฟั่นจยาหลัวมองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด รวมถึงล่วงรู้ความคิดในใจของเหล่าเจ้าหน้าที่อีกด้วย

     ในด้านคดีฟั่นจยาหลัวช่วยให้เบาะแสเล็กๆ น้อยๆ กับตำรวจ ทำให้พวกเขาตามสืบจนได้เบาะแสใหม่ที่เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมของเกาอี้เจ๋อ ศพที่สอง สาม และสี่

     ในระหว่างที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยและมีข่าวเสื่อมเสียเขาถูกตัดค่าใช้จ่ายจากตระกูลฟั่น ฟั่นจยาหลัวจึงหาที่พักแห่งใหม่ทำให้เขาได้พบกับ ‘ไป๋มู่’ เจ้าของคอนโดมูนไลต์เบย์การ์เด้น และบริษัทติ่งเซิ่งเป็นธุรกิจที่ตระกูลไป๋ก่อตั้งขึ้นมา ไป๋มู่เป็นนายใหญ่คนใหม่ของตระกูลไป๋ ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่าตลอดชีวิตที่ผ่านมาชีวิตของไป๋มู่ถูกผูกติดเอาไว้กับ ‘ไป๋หลิน’ ลูกบุญธรรมที่พ่อแม่ของเขารับมาเลี้ยงดูตั้งแต่เด็ก ไป๋มู่เกิดมาพร้อมกับดวงไม่ดีอย่างรุนแรงเขาอาจจะตายได้ทุกเวลา ดวงของไป๋หลินมาช่วยคำจุนดวงของไป๋มู่ให้เขามีชีวิตที่มีความสุขสมบูรณ์ แม้ว่าพ่อและแม่ของไป๋มู่จะเลี้ยงดูไป๋หลินเป็นอย่างดี ทว่าใจคนนั้นซับซ้อน ไป๋หลินไม่คิดถึงบุญคุณทั้งยังคงหาทางตอดเล็กตอดน้อยจากตระกูลไป๋ตลอด จนในที่สุดทั้งสองคนก็ตัดขาดจากกัน ถึงแม้ว่าจะต้องพบกับความตายไป๋มู่ก็ไม่อาจยอมรับเงื่อนไขที่ไป+หลินกำหนดให้กับเขา การมาของฟั่นจยาหลัวเหมือนเขาได้พบกับชีวิตใหม่ เขาไม่จำเป็นต้องอาศัยดวงของไป๋หลินเพื่อทำให้ตนมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ทว่าแท้จริงแล้วฟั่นจยาหลัวก็ได้ประโยชน์จากการมีดวงไม่ดีอย่างรุนแรงของเขาเช่นกัน ฟั่นจยาหลัวดูดซับดวงไม่ดีของไป๋มู่เพื่อหล่อเลี้ยงร่างกายของเขา

     นอกจากนั้นฟั่นจยาหลัวได้เข้าไปข้องเกี่ยวกับครอบครัวของ ‘เสิ่นโหย่วเฉวียน’ ผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ของเอเชีย ครอบครัวนี้มีลูกฝาแฝดชายหญิงสองคน ทั้งปู่ย่าและพ่อแม่ต่างรักเด็กผู้ชายมากกว่า ฟั่นจยาหลัวจึงเตือนเสิ่นโหย่วเฉวียนว่าให้ระวังลูกชายหญิงฝาแฝดให้ดี ไม่อย่างนั้นหากยังไม่รู้ตัว เขาจะต้องสูญเสียลูกคนเดียวของเขาไป ฟั่นจยาหลัวล่วงรู้ความลับอะไรจากครอบครัวนี้ เป็นความลับที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่รับรู้

     เข้าสู่เล่มที่สองเป็นเรื่องราวของ ‘เสิ่นโหย่วเฉวียน’ และครอบครัวของเขากับความลับที่ไม่มีใครล่วงรู้กระทั่งเขาได้พบกับฟั่นจยาหลัว ความลับที่ถูกปิดเอาไว้ถูกเปิดเผยออกมาเขาทั้งโกรธ แค้น แต่เขาจะทำอย่างไรเมื่อรับรู้เรื่องที่สำคัญที่สุด และได้รู้ว่าคนที่ไว้ใจที่สุดโกหกและหักหลัง ฟั่นจยาหลัวจะช่วยเขาคลี่คลายความคดีนี้อย่างไร

      ในเล่มที่สองฟั่นจยาหลัวพบกับ ‘ดร. ซ่งรุ่ย’ อีกครั้งในการถ่ายรายการเกี่ยวกับคนมหัศจรรย์ชื่อ ‘โลกของผู้วิเศษ’ รายการได้เชิญผู้วิเศษที่มีชื่อเสียงด้านต่างๆ มาร่วมการคัดเลือก ผู้วิเศษที่ชนะในรอบสุดท้ายจะได้เงินรางวัลหนึ่งล้าน ซึ่งเป็นรายการที่ ‘ซ่งเวินหน่วน’ ญาติผู้น้องของซ่งรุ่ยเป็นโปรดิวเซอร์ ซ่งรุ่ยจึงถูกขอร้องให้มาช่วยเป็นกรรมการ เพราะความสามารถทางจิตวิทยาของเขานั่นเอง และเป็นอีกครั้งที่ซ่งรุ่ยปฏิเสธ แต่เมื่อรู้ว่าหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันคือฟั่นจยาหลัว ชายหนุ่มก็เปลี่ยนใจมาร่วมรายการทันทีราวกับว่าเป็นคนละคนกับที่ปฏิเสธน้องสาวอย่างเย็นชาก่อนหน้านี้

     แท้จริงแล้วซ่งเวินหน่วนไม่เชื่อในเรื่องราวลี้ลับ และรายการโลกของผู้วิเศษถูกจัดขึ้นเพื่อความสนุกเท่านั้น ทว่าในแต่ละด่านฟั่นจยาหลัวสามารถผ่านมาได้และสามารถสแกนจิตใจของคนและพูดถึงเรื่องราวในใจที่เก็บซ่อนเอาไว้ ซ่งเวินหน่วนค่อยๆ ยอมรับในความสามารถของฟั่นจยาหลัวเพราะคนใกล้ชิดที่เธอรับรู้เรื่องราวในชีวิตมาตลอดนั้นถูกฟั่นจยาหลัวสแกนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง จนทุกคนที่ได้ร่วมชมการอัดรายการทึ่งไปตามๆ กัน

     ฟั่นจยาหลัวยังคงเอ่ยเตือนเรื่องราวที่เกิดขึ้นอีกหลายคดีซึ่งมีทั้งความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงและเด็ก เรื่องราวทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นจากจิตใจที่ผิดเพี้ยนของคน ทำให้ผู้ที่อ่อนแอกว่าต้องตกเป็นเหยื่อ

      ในระหว่างที่เขาถ่ายรายการโลกของผู้วิเศษเขายังพักอยู่ที่คอนโดมูนไลต์เบย์การ์เด้น เขายังคงสังเกตความเป็นอยู่ของเพื่อนบ้านในตึกเดียวกันอย่างเงียบๆ ในชั้นชั้นหนึ่งนั้นมีพ่อแม่และลูกชายอายุประมาณเก้าขวบอาศัยอยู่ ฟั่นจยาหลัวมักจะพบเด็กน้อยนั่งซุกตัวอยู่ตรงบันได เนื้อตัวมีรอยฟกช้ำ เด็กชายหน้าตาน่ารักชื่อว่า 'สวี่อี้หยาง' ดวงตาของเขามักจะแห้งผากไร้ซึ่งแววของพลังชีวิต ฟั่นจยาหลัวให้แซนด์วิชกับเด็กชายบ่อยๆ เพราะดูจากสภาพร่างกายแล้วก็รู้ว่าความเป็นอยู่ของเขาไม่ได้ดีนัก แรกๆ เด็กน้อยก็กลัวฟั่นจยาหลัว แต่นานวันเข้าก็สนิทใจและดวงตาจะเปล่งประกายสดใสสมวัยขึ้นมาได้บ้างเมื่อได้เจอกับฟั่นจยาหลัว

     วันหนึ่งเมื่อฟั่นจยาหลัวกลับมาถึงคอนโดเขาได้พบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกี่ยวพันกับเด็กน้อยที่เขามักให้แซนด์วิชบ่อยๆ จะเกิดเรื่องราวอะไรขึ้น ติดตามต่อในเล่มที่สองกันนะคะ รับรองว่าความรู้สึกต่างๆ อัดแน่นอยู่เต็มหัวใจอย่างแน่นอน

     Psychic ปริศนาลับ สัมผัสวิญญาณ นิยายวายแปลจีนเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ everY ภูมิใจนำเสนอเป็นอย่างยิ่ง หากเพื่อนๆ ยังลังเลอาจจะลองเปิดใจด้วยการ ทดลองอ่าน แจ่มเชื่อว่าหนังสือเรื่องนี้ไม่ได้มีเฉพาะความสนุก น่าค้นหา ตื่นเต้น เรื่องราวลึกลับ ซึ้ง และอื่นๆ เท่านั้น แต่ยังสอดแทรกแง่คิดไว้อย่างแยบยล รวมถึงเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวน เชื่อว่าเพื่อนๆ จะได้มากกว่ากว่าความสนุกอย่างแน่นอน

Psychic ปริศนาลับ สัมผัสวิญญาณ เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ทั้งฉบับเล่มและอีบุ๊ก
ช้อปนิยายฉบับเล่มผ่านช่องทางต่างๆ
• ช้อปออนไลน์กับ Jamsai Store : คลิกที่นี่
• ช้อปที่ Jamclub (ซอยแซมมี่ อยู่ในซอยด้านข้างเมเจอร์ สาขาปิ่นเกล้า) หรือช้อปออนไลน์กับ Jamclub คลิกที่นี่
• ช้อปที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ

หรือดาวน์โหลดอีบุ๊กได้ที่แอพพลิเคชั่น OOKBEE / Meb / Fictionlog / Naiinpann / SE-ED / Hytexts /comico

Comments

comments

Jamsai: