ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 6 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 6

4 of 4หน้าถัดไป

ซูเสวี่ยจื้อไม่ได้หยุดฝีเท้าและเดินต่อไปทางห้องครัว คุณชายหวังพลันมองเห็นเธอแล้วชะงักกึก “รอเดี๋ยว”

หญิงสาวได้แต่หยุดยืนนิ่ง คุณชายหวังสาวเท้าตรงมาหาแล้วเดินวนรอบหนึ่ง ดวงตาทั้งคู่จับอยู่ตัวเธอมองสำรวจขึ้นๆ ลงๆ ไม่หยุด

เธอชักใจคอไม่ดีอย่างช่วยไม่ได้ นึกว่าตนเองถูกเขาจับพิรุธได้จึงรีบก้มหน้าลงพยายามให้คอเสื้อบังลำคอที่ไม่มีลูกกระเดือกไว้ให้มิดชิด ขณะกำลังใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ คุณชายหวังก็ตบมือทีหนึ่ง “ดีเลย ดีจริงๆ! รูปร่างอย่างนี้ หน้าตาอย่างนี้ ไม่เล่นเป็นตัวนาง ออกจะน่าเสียดายเกินไปแล้ว”

เขาพูดแล้วถามขึ้นอีก “ร้องเป็นไหม ร้องให้ฟังสักสองท่อนซิ”

ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง ซูเสวี่ยจื้อระบายลมหายใจเบาๆ

เธอยังไม่ทันอ้าปากพูด เยี่ยเสียนฉีญาติผู้พี่ก็ตัดหน้าพูดปฏิเสธให้เธอ “คุณชายหวัง น้องผมร้องไม่เป็นหรอก เขาไม่ไหวจริงๆ ยิ่งแบบที่คุณพูดถึงนี่ เขาเล่นไม่ได้เลย ถ้าคุณเล่นคนเดียวรู้สึกเบื่อล่ะก็ มา…ผมเอง! คุณจะให้ผมเป็นตัวนางก็เป็นตัวนาง ให้เป็นนางรองก็เป็นนางรอง! ผมจะเล่นเป็นเพื่อนคุณ”

คุณชายหวังเดาะลิ้นทีหนึ่ง “คุณน่ะนะ? ไม่ส่องกระจกบ้างเลย คุณนึกว่าใครๆ ก็ร้องได้หรือ” ว่าแล้วก็หันไปหาซูเสวี่ยจื้ออีก “ไม่เป็นก็ไม่เป็นไร ผมฟังเสียงคุณแล้วไม่เลวเลย กังวานใสนุ่มหู เชื่อมือผม”

ซูเสวี่ยจื้อพูดขึ้น “คุณชายหวัง ขอบคุณครับที่เห็นผมมีแววดีอยากสนับสนุน แต่ผมไม่ไหวจริงๆ ไม่มีหัวทางนี้เลย”

สีหน้าของคุณชายหวังเปลี่ยนไปทันควัน “เฮอะ ท่ามากจริงนะ หยิ่งเอาเรื่องนักนี่ ถือตัวขนาดนี้ก็อย่าขึ้นมาอยู่บนนี้สิ มาทางไหนก็ไสหัวกลับไปทางนั้นเลยไป”

เยี่ยเสียนฉีฟังแล้วหน้าเสียไปเหมือนกัน “ขอบคุณคุณชายหวังมากที่ให้การต้อนรับตลอดสองวันนี้ คงไม่รบกวนแล้ว ผมจะพาน้องผมลงไปเดี๋ยวนี้เลยครับ” พูดจบเขาก็จับมือซูเสวี่ยจื้อไว้แล้วก้าวขาเดินจูงเธอออกไป แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวกลับได้ยินเสียงเยาะหยันดังขึ้นด้านหลัง

“พวกแกเห็นที่นี่เป็นบ้านตนเองอย่างนั้นเหรอ ถึงอยากมาก็มา อยากไปก็ไป”

เยี่ยเสียนฉีเบือนหน้าไปเห็นคุณชายหวังเอาสองมือล้วงกระเป๋ากางเกงยืนพิงราวรั้ว หรี่ตามองด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร

บรรยากาศตึงเครียดในพริบตา

ซูเสวี่ยจื้อรับรู้ได้ว่าญาติผู้พี่กุมมือเธอแน่นขึ้นทุกที กลางฝ่ามือชุ่มเหงื่อเล็กน้อย

เธอดูออกว่าคุณชายหวังรู้สึกอับอายที่โดนหักหน้าก็เลยพาลหาเรื่อง

นี่เข้าตำราที่ว่าขี่หลังเสือแล้วลงยาก

ขณะเธอกำลังลังเลใจ จู่ๆ คุณชายหวังก็หัวร่อออกมาเสียเอง “ล้อกันเล่นน่ะน้องชาย! ไม่ต้องกลัว” ว่าแล้วก็เดินมาหาเธอ พูดพร้อมยิ้มตาหยี “น้องชายมีคุณสมบัติไม่เลวจริงๆ ข้อสำคัญคือยังสมองดีด้วย อย่านึกว่าการร้องอุปรากรไม่ต้องใช้สมองนะ คนโง่จะร้องได้ดีเหรอ เอาอย่างนี้แล้วกัน ผมรับคุณเป็นลูกศิษย์ สอนวิชาให้เต็มที่ วันหน้าผมคอยส่งเสริมคุณเอง รับรองว่าโด่งดังคับฟ้า ไม่น้อยหน้าพวกนักแสดงชื่อดังตอนนี้แน่นอน”

การแสดงอุปรากรอย่างจริงจังต่างจากคุณชายหวังที่ร้องเล่นๆ เป็นงานอดิเรก เพราะมันเป็นหนึ่งในอาชีพชั้นต่ำเก้าประเภท*

ซูเสวี่ยจื้อเห็นหน้าเยี่ยเสียนฉีมีรอยโทสะปรากฏขึ้น คล้ายคิดจะพูดอะไรอีก เธอจึงลุกลนดึงแขนเขาพร้อมส่งสายตาบอกไม่ให้เขาปริปาก และคิดจะรับหน้าพวกคุ้มดีคุ้มร้ายอย่างคุณชายหวังที่นึกครึ้มใจพูดเองเออเองคนนี้พอให้พ้นตัวไปก่อน ทว่าเป้าจื่อก็เดินเข้ามากะทันหันพอดี

“คุณชายหวัง ท่านสี่มีเรื่องจะพูดกับคุณ รบกวนคุณไปพบท่านด้วยครับ” เขาชี้ไปทางท้ายเรือ

ซูเสวี่ยจื้อทอดสายตาไปถึงมองเห็นคนนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่งทางฟากโน้น เพียงแต่เขานั่งหันหน้าไปทางท้ายเรือเลยหันหลังให้ทางนี้ ประกอบกับเป็นมุมย้อนแสงเล็กน้อย เมื่อครู่เธอถึงไม่ทันสังเกต

ไม่ใช่แค่เธอคนเดียว ดูเหมือนคุณชายหวังก็ไม่รู้ว่าท่านสี่นั่งอยู่ทางนั้นตลอด เขามองไปแล้วอุทาน “เอ๊ะ! ทำไมพี่สี่อยู่ตรงนั้นคนเดียว” ว่าแล้วก็เดินไปหา

ซูเสวี่ยจื้อเห็นเขาไปถึงท้ายเรือแล้วสนทนากับคนผู้นั้นครู่หนึ่ง พอคุยกันจบ อีกฝ่ายตบแขนเขาเบาๆ เหมือนให้กำลังใจ จากนั้นลุกขึ้นเดินมาทางนี้

เธอจำแผ่นหลังนี้ได้ตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว

‘พี่สี่’ คนนี้คือคนสูบบุหรี่ที่เธอเจอคืนนั้นนั่นเอง

หนนี้ได้เห็นอย่างชัดเจนในที่สุด

ความจริงผู้ชายคนนี้ยังหนุ่มมาก ดูท่าทางอายุยี่สิบสี่ยี่สิบห้าปี เขาไม่ได้แต่งตัวแบบชาวตะวันตกเหมือนคุณชายหวังกับญาติผู้พี่ของเธอ

เขาสวมเสื้อคลุมป้ายข้างสีครามตัวยาวแบบธรรมดา หน้าตาคมเข้มมาก มองจากไกลๆ ตัวเขาก็เหมือนกระบี่สีครามบางเฉียบที่เปล่งประกายเย็นเยียบเล่มหนึ่ง ใบหน้าปราศจากรอยยิ้ม แววตาเฉยชาอย่างยิ่ง อีกฝ่ายเดินเข้ามาถึงเบื้องหน้าสองลูกพี่ลูกน้องอย่างว่องไว

“ทะ…ท่าน…สี่…”

เยี่ยเสียนฉีโดนคนผู้นี้ข่มจนดูหงออยู่สักนิด แม้แต่จะทักทายยังตะกุกตะกัก ไม่เหมือนยามปกติที่พูดคล่องเป็นล่องน้ำ

ท่านสี่เพียงพยักหน้าไม่ได้วางท่าใหญ่โต

สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ตัวเธอกับญาติผู้พี่อึดใจหนึ่ง ก่อนจะย่างเท้าหายลับเข้าไปด้านในของเรือ

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 13 .. 67 เวลา 12.00 .

4 of 4หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

คืนลมพัดต้องเหมยงาม

ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จ...

คืนลมพัดต้องเหมยงาม

ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟัง...

คืนลมพัดต้องเหมยงาม

ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแ...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 91-92

บทที่ 91 เอาคืน  ภายหลังหลี่เจาเกอกับโม่หลินหลางเดินจากมาไกล โม่หลินหลางก็ข่มใจไม่ไหว เอ่ยกับหลี่เจาเกอด้วยความรุ่มร้อน ...

community.jamsai.com