บทที่ 2
หนังสือปกสีหวานภาพวาดสีน้ำที่อยู่บนสุดของหนังสือตั้งใหญ่ซึ่งถูกรื้อออกจากถุงที่ลูกชายถือกลับมาบ้านทำให้หญิงวัยกลางคนรามือจากแจกันกุหลาบสีขาว เลิกคิ้วน้อยๆ มองพลางนึกประหลาดใจ โดยเฉพาะเมื่อไล่สายตาดูชื่อนามปากกาผู้เขียนและชื่อสำนักพิมพ์ที่แม้จะครองอันดับทางการตลาดเป็นสำนักพิมพ์ขายดีลำดับต้นๆ แต่ก็ไม่ใช่สำนักพิมพ์ที่ท่านขอให้เขาช่วยเป็นธุระแวะไปหาที่งานสัปดาห์หนังสือ
“ซื้อมาเหรอตาณ”
คุณบุหลันหันไปหาพ่อตัวดีที่กำลังนั่งพับเพียบกินกระท้อนลอยแก้วตรงหน้า ท่าทางสบายอารมณ์เป็นที่สุด
“เค้าไม่ยอมแจกฟรี ตาณก็ต้องซื้อสิแม่” คำตอบที่ได้รับทำให้คนเป็นแม่แทบจะค้อนเข้าให้
“แน่ล่ะสิ ไม่ใช่สำนักพิมพ์ของก้องนี่ เราจะได้ไปทำตาหวานขอฟรีมาได้ ว่าแต่นึกยังไงซื้อนิยาย นักเขียนใหม่ด้วยหรือเปล่า แม่ไม่เคยได้ยินชื่อ…ลตางค์”
“คนเขียนเค้าบอกว่าแรงบันดาลใจให้เริ่มเขียน…มาจากตัวหนังสือของ ‘แววบุหลัน’ ตาณเลยอยากรู้ว่าบันดาลใจแบบไหน” ชายหนุ่มตอบทั้งที่ตาจ้องมองโทรทัศน์ซึ่งกำลังฉายภาพยนตร์โฆษณาที่แสดงโดยนักแสดงหญิงที่เขารักมากที่สุด และกำลังนั่งอยู่ข้างๆ เขาตอนนี้
ดวงตาคุณบุหลันอ่อนแสง นึกเข้าใจเหตุผลของลูกชายที่ยอมควักกระเป๋าซื้อหนังสือนิยายเรื่องนี้มากขึ้น แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะถามต่อ
“สวยไหม”
คำถามใหม่ของแม่ทำเอาตาณหัวเราะเสียงดัง แต่ยังไม่วางมือจากช้อนของหวานที่กำลังเพลิดเพลิน
“คนในโฆษณาน่ะเหรอ สวยสิ แม่ตาณนี่นา” เสียงของตาณติดแววล้อเลียน
“คนเขียนหนังสือเล่มนี้ต่างหาก สวยไหม” คุณบุหลันชูหนังสือในมือทวนคำถาม
“แม่กล่าวหาตาณนะนั่น เห็นตาณเป็นผู้ชายยังไงกัน”
“ก็เพราะเห็น…รู้ว่าเป็นยังไงน่ะสิถึงถาม อย่างตาณน่ะ ถ้าไม่ใช่พวกเท็กซ์บุ๊ก…สารคดี หรือหนังสือท่องเที่ยว ก็แทบจะไม่ปรายตามอง ขนาดหนังสือของแม่กว่าจะยอมอ่านยังต้องบังคับยากเย็น แล้วนี่ถึงขั้นยอมเสียทรัพย์ควักกระเป๋าซื้อ…จะไม่ให้แม่สงสัยได้ยังไง”
“แหม…แต่ตาณก็อ่านหนังสือของ ‘แววบุหลัน’ ทุกเรื่องนะแม่ อ่านไปก็คิดถึงเงินไป ค่าต้นฉบับจงลอยมา…ค่าเล่นหนังเล่นโฆษณาจงกลายมาเป็นเงินทุนของตาณ เพี้ยง!”
ท่าทางทะเล้นของลูกชายทำให้คุณบุหลันอดไม่ได้ที่จะตีเพียะเข้าให้ที่ท่อนแขนแข็งแรง หลายปีแล้วที่คุณบุหลันเลี้ยงดูลูกชายคนเดียวด้วยน้ำพักน้ำแรงในวงการบันเทิงควบคู่ไปกับงานเขียนในวงการวรรณกรรม สำหรับวงการหลังอาจจะพิเศษอยู่สักหน่อยตรงที่ท่านไม่เคยเปิดเผยตัว แม้จะใช้ชื่อนามปากกาใกล้เคียงกับชื่อจริงของตัวเอง แต่คุณบุหลันไม่เคยออกตัวเลยสักครั้งว่าคือ ‘แววบุหลัน’
‘ไม่อยากให้คนอ่านซื้อหนังสือเราเพราะติดภาพจากทีวี ให้เขาซื้อเพราะชอบตัวหนังสือของเราดีกว่า’
คุณบุหลันเคยให้เหตุผลอย่างนั้นเมื่อลูกชายหรือก้องภพ ผู้รับหน้าที่เป็นบรรณาธิการดูแลงานเขียนที่ท่านจับพลัดจับผลูเข้าไปมีโอกาสทำถาม ซึ่งนั่นก็คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ‘แววบุหลัน’ ไม่เคยปรากฏตัวที่ไหนเลย กลายเป็นนักเขียนที่ไม่เคยมีใครได้พบเห็นตัวตน ทั้งที่ใบหน้าออกสื่อต่างๆ อยู่แทบจะทุกวัน