บทที่ 10
ไม่ว่าอย่างไร สุดท้ายหมิงถานก็สามารถถอนหมั้นได้ในที่สุด
เพียงแต่ยังผ่านไปไม่ถึงหนึ่งวันเรื่องเหม็นคาวของจวนลิ่งกั๋วกงก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวง หากมีคนไม่ว่าจะนอกจวนหรือในจวนเอ่ยถึงคุณหนูสี่สกุลหมิงอย่างนางยามนี้ บ้างก็มีคนสงสารเวทนา บ้างก็มีคนแอบแฝงความสมน้ำหน้าสะใจไว้ในความสงสารเห็นใจอย่างยากจะปิดบัง
หมิงถานกลับหาได้ยินคำติฉินนินทาเหล่านั้นไม่ เพราะนางไม่ได้ออกจากเรือนเลยแม้แต่ก้าวเดียว ตั้งแต่ที่เผยซื่อกลับออกไป นางก็นั่งลงข้างโต๊ะพลางสั่งการให้พวกสาวใช้จัดเก็บสัมภาระ
อย่างไรนางก็ไม่อยากหั่นผมประชดคนสารเลวอย่างเหลียงจื่อเซวียน ยิ่งไม่อยากแขวนคอฆ่าตัวตายทิ้งชีวิตไปเปล่าๆ ดังนั้นนางจึงจำต้องปรึกษากับเผยซื่อว่าจะหาอารามสักแห่งเพื่อไปสวดมนต์ขอพร นอกจากนั้นการไปพำนักอยู่ข้างนอกหลบเลี่ยงความวุ่นวายชั่วคราวก็จะยิ่งแสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ไร้มลทินของนาง
“ไอหนาวเหน็บของฤดูใบไม้ผลิยังไม่ผ่านพ้น ชุดคลุมขนจิ้งจอกสีขาวปักลายเต็มผืนตัวนั้นยังต้องเอาไปด้วย ยามราตรีอากาศเย็นจะได้นำมาคลุมใส่”
“ตัวนี้ไม่เอา เป็นเนื้อผ้าที่นิยมไปเมื่อปีก่อนแล้ว…”
“นี่ก็ชุดใหม่เหมือนกันหรือ ไฉนลวดลายถึงดูคุ้นตาเหลือเกินเล่า ช่างเถิด ไม่ค่อยเข้ากับรองเท้าผ้าปักที่จะเอาไปด้วยสักเท่าไร เอาวางไว้ที่นี่ก็แล้วกัน”
ลวี่เอ้อจัดเก็บสัมภาระอย่างขยันขันแข็งยิ่ง ทว่าซู่ซินกลับอดเอ่ยเตือนมิได้ “คุณหนู พวกเราจะไปขอพรที่อารามนะเจ้าคะ แต่งตัวเช่นนี้จะไม่เกินไปหน่อยหรือ”
“เกินไปหรือ ข้าอุตส่าห์เลือกเสื้อผ้าที่สีเรียบๆ แล้วนะ” หมิงถานมองดูหีบที่จัดเตรียมเอาไว้แวบหนึ่ง เอ่ยด้วยความไม่แน่ใจว่า “ในเมื่อมากเกินไป เช่นนั้นก็ลดลงสักหน่อยแล้วกัน”
ตกดึก ณ ห้องหนังสือฝั่งทิศใต้ของจวนติ้งเป่ยอ๋อง องครักษ์ลับกำลังรายงานข่าวสารด้วยเสียงต่ำเบา
“…หลายตระกูลที่มีส่วนเกี่ยวพันกับเรื่องของจวนเฉิงเอินโหวแต่ไม่ได้ลึกซึ้งมากต่างก็กำลังหาหนทางดึงตนเองออกมา วิธีที่ใช้เหมือนกับที่ท่านอ๋องคาดการณ์ไว้ขอรับ นอกจากนั้น วันนี้จวนลิ่งกั๋วกงเกิดเรื่องขึ้น ไทเฮาเองก็ทรงเรียกคนเข้าวังก่อนที่ประตูวังจะลงกลอนเหมือนอย่างที่ท่านอ๋องคาดการณ์ไว้เช่นกัน ส่วนทางจวนจิ้งอันโหวนั้นได้ตระเตรียมรถม้าไว้ห้าคัน เตรียมจะส่งคุณหนูสี่ผู้นั้นออกจากจวนไปไหว้พระขอพรเพื่อหลบหลีกเรื่องวุ่นวายชั่วคราวขอรับ”
พอได้ยินถึงตรงนี้เจียงซวี่ที่ไม่ได้เงยหน้ามองมาโดยตลอดกลับวางตำราพิชัยสงครามในมือลงทันใด “ห้าคัน? บรรทุกสิ่งใดเอาไว้กัน”
องครักษ์ลับชะงักนิ่งไปเล็กน้อย แล้วถึงเพิ่งรู้ตัวว่าการที่ตนเองรายงานรายละเอียดยิบย่อยเช่นนี้ดูเหมือนจะทำให้ท่านอ๋องเข้าใจผิดเข้า เขาจึงก้มหน้าลงเอ่ยด้วยความกระดากใจ “ไม่มีอันใดขอรับ มีแต่เสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ของคุณหนูสี่ผู้นั้นทั้งสิ้น”
ทีแรกเขาเองก็คิดว่าจวนจิ้งอันโหวคิดจะฉวยโอกาสนี้ขนส่งของอันใดบางอย่างเหมือนกัน จึงอุตส่าห์ลักลอบเข้าไปตรวจสอบที่คอกม้ารอบหนึ่ง สุดท้ายกลับมีแต่เสื้อผ้า รองเท้า ถุงเท้า ปิ่นปักผม เครื่องประดับของสตรี รวมไปถึงม่านมุ้ง เตากำยาน เครื่องชงชาครบชุด เป็นต้น
เจียงซวี่ “…”
คิดว่าตนเองไปเข้าร่วมการคัดเลือกสนมชายาหรืออย่างไร
ช่างไม่รู้อันใดบ้างเสียเลย