กระวานน้อยแรกรัก
ทดลองอ่าน กระวานน้อยแรกรัก บทที่ 10
ก็ได้ ข้าเองก็กลัวว่าพระพุทธองค์จะลงทัณฑ์ที่ข้ากินอาหารเหลือทิ้งเหลือขว้างอยู่เหมือนกัน
ด้วยเหตุนี้นางจึงก้าวออกประตูไปภายใต้สายตาจับจ้องและการชี้บอกเส้นทางของเณรน้อย
แต่ว่าประตูที่เณรน้อยบอกหาใช่ประตูใหญ่ของโรงอาหารเจไม่ นางเดินออกไปข้างนอกอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายกลับเดินอ้อมไปมาจนหลงทาง ยิ่งเดินยิ่งสับสนงุนงง รอบด้านมีแต่วิหารสำหรับสักการะพระพุทธรูป ไม่รู้ว่าห้องใดคือห้องพระเล็กที่เณรน้อยบอกกันแน่
ไม่สนแล้ว การสำนึกตนนั้นสำคัญที่ความจริงใจ
พอคิดถึงตรงนี้นางก็เดินเข้าไปในวิหารที่ไร้ผู้คนตรงหน้า แล้วคุกเข่าลงบนเบาะรองอย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อย
วิหารแห่งนี้กว้างขวางโอ่อ่าเป็นอย่างยิ่ง ทั้งสองฝั่งมีวิหารปีกข้าง หมิงถานไม่รู้เลยแม้แต่นิดเดียวว่าข้างหอเก็บตำราของวิหารปีกซ้ายยังมีห้องบำเพ็ญสมาธิอยู่อีกห้องหนึ่ง
ภายในห้องบำเพ็ญสมาธิเวลานี้ ติ้งเป่ยอ๋องเทพแห่งสงครามผู้มีชื่อเสียงเลื่องระบือกำลังจิบชาพลางเดินหมากกับพระอาจารย์ฮุ่ยหยวนผู้เดินทางรอนแรมไปทั่วทุกสารทิศยากจะหาร่องรอยเจอ
“พระพุทธองค์เจ้าขา ศิษย์คืออาถานแห่งสกุลหมิง ยามปกติกินอยู่อย่างพิถีพิถัน กินได้ค่อนข้างน้อย วันนี้บังเอิญได้กินอาหารเจของอารามพระพุทธองค์ แต่ศิษย์กินไม่หมดจริงๆ กินอาหารเหลือทิ้งเหลือขว้าง ในใจรู้สึกผิดบาปยิ่งนัก ขอพระพุทธองค์โปรดเมตตาปรานี อย่าลงโทษศิษย์เลยนะเจ้าคะ”
จู่ๆ คนในห้องบำเพ็ญสมาธิก็ได้ยินเสียงนี้ เณรน้อยที่กำลังจะลุกออกไปรีบกล่าวว่า “คงจะมีสีกาที่กินอาหารเจไม่หมดหลงเข้ามานั่งสำนึกผิด ข้าจะรีบพานางไปห้องพระเล็กเดี๋ยวนี้ขอรับ”
เสียงนี้ช่างคุ้นหูยิ่ง ซ้ำยังบอกว่าตนเองคือ ‘อาถานแห่งสกุลหมิง’
เจียงซวี่นึกอันใดบางอย่างขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เขาเพียงแค่หลุบตาลงจดจ่อกับกระดานหมาก ยกมือบอกเป็นนัยว่าไม่ต้องไปไล่นาง
ส่วนหมิงถานนั้นก็นั่งอยู่ด้านนอก พอสำนึกตนเสร็จนางก็เงียบเสียงไปสักพัก แล้วก็นึกถึงการหาสามีผู้เพียบพร้อมคนใหม่ที่ลวี่เอ้อพูดก่อนหน้านี้ขึ้นมา จึงคิดในใจว่า ในเมื่อมาแล้วก็ขอพรไปด้วยเลยแล้วกัน
ดังนั้นนางจึงพนมมือทั้งสองข้าง เอ่ยเจื้อยแจ้วว่า “พระพุทธองค์เจ้าขา นอกจากสำนึกผิดที่กินอาหารไม่หมดแล้ว ศิษย์ยังมีคำขออีกเรื่องหนึ่งเจ้าค่ะ ครั้งนี้ที่ถอนหมั้นล้วนเป็นเพราะคู่หมั้นมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไม่ควรค่าแก่การเป็นคู่ครอง แต่ศิษย์กลับถูกคนรอบข้างหัวเราะเยาะหยันเพราะเหตุนี้ พอกลับเมืองหลวงไปคราวนี้ ขอให้พระพุทธองค์ช่วยปกป้องคุ้มครองศิษย์ให้หาสามีที่ตรงดังใจหมายด้วยเถิดนะเจ้าคะ
สามีขอให้มีฐานะชาติกำเนิดเหมาะสมคู่ควรกันก็พอ ไม่จำกัดว่าต้องเป็นเชื้อพระวงศ์ ตระกูลกงหรือโหว หรือครอบครัวบัณฑิต สิ่งที่ศิษย์ให้ความสำคัญมากกว่าคือความรู้และรูปลักษณ์ ในด้านความรู้ ขอแค่สอบติดสามอันดับแรกในการสอบขุนนางฤดูใบไม้ผลิก็เป็นพอ รูปโฉมก็ต้องหล่อเหลางดงาม เช่นนี้ถึงจะคู่ควรเหมาะสมกับศิษย์ แน่นอนว่าทรัพย์สมบัติก็ต้องล้นเหลือหน่อย ชีวิตยิ่งต้องอยู่อย่างสุขสบาย หากไม่มีทรัพย์สินมากมายเท่าจวนโหวก็ไม่เป็นไร ขอแค่รับรองว่าศิษย์จะสามารถกินโจ๊กรังนกได้ทุกเมื่อ ทุกฤดูกาลสามารถเชิญร้านจิ่นซิ่วมาตัดชุดตามที่ผู้คนนิยมได้สักสองสามหีบ มีเครื่องประดับใหม่ๆ อันใดก็สามารถครอบครองเป็นเจ้าของได้ทันที ปวดหัวตัวร้อนก็สามารถเชิญหมอฝีมือสูงส่งจากหอเหลียงชุนมาดูอาการได้ทันใด…”
เสียงของสตรีที่ถูกกรอกเข้าหูไม่หยุดรบกวนเจียงซวี่จนวางหมากไม่ได้อยู่ครู่ใหญ่ พระอาจารย์ฮุ่ยหยวนใบหน้าประดับรอยยิ้ม ส่วนเณรน้อยกลับก้มหน้างุด ท่องอมิตาภพุทธอยู่ในใจเงียบๆ
ครึ่งก้านธูปผ่านไป
“…รูปร่างถ้าหากสูงเจ็ดฉื่อ* ได้ก็จะดีที่สุด แม่สามีที่บ้านก็ต้องเป็นคนนิสัยเข้ากันง่าย จะเอาแต่ตั้งกฎระเบียบกลั่นแกล้งสะใภ้คนใหม่ไม่ได้เด็ดขาด ถ้าไม่มีแม่สามีก็จะดียิ่ง ญาติพี่น้องน้อยๆ ไม่ซับซ้อนหน่อยจะดีที่สุด ห้ามมีญาติผู้พี่ญาติผู้น้องที่ผูกพันแน่นแฟ้นกันมาตั้งแต่เด็กๆ อันใดนั่นเด็ดขาด ศิษย์มิใช่คนขี้อิจฉาริษยา แต่ว่ารับอนุภรรยาภายในสามปีหลังจากแต่งเข้าจวนมาก็ออกจะเร็วไปสักหน่อย ไม่เป็นประโยชน์ต่อการบ่มเพาะความรักความผูกพันฉันสามีภรรยาระหว่างศิษย์กับสามี สามปีให้หลังหากรับอนุภรรยาก็ไม่ควรจะมากกว่าสองคน เพราะในบ้านมีคนเยอะแยะวุ่นวายจะเกิดปัญหายุ่งยากได้ง่าย อย่าเป็นพวกที่ชอบเที่ยวเตร่ตามสถานเริงรมย์…”
หนึ่งก้านธูปผ่านไป
“…ร่างกายก็แข็งแรงกำยำหน่อย แต่แข็งแรงกำยำก็ไม่ได้หมายความว่าทั้งตัวจะมีแต่เนื้อหนัง ถ้าหากเจอเหตุไม่คาดฝันสามารถต้านได้สักสองสามคนก็จะดี หากฝึกวรยุทธ์ก็ควรจะฝึกกระบี่ ท่วงท่าสง่างาม เช่นนี้แล้วยามร่ายรำเพลงกระบี่ศิษย์จะได้บรรเลงฉินเพิ่มความสุนทรีย์ สามีภรรยาสามัคคีกลมเกลียวย่อมเป็นเรื่องดีงาม อืม… คร่าวๆ ก็ประมาณนี้ล่ะเจ้าค่ะ ขอพระพุทธองค์โปรดช่วยปกปักคุ้มครองด้วยเถิด หากศิษย์หาสามีที่สมดังใจปรารถนาเช่นนี้ได้ จะต้องกลับมาหล่อพระพุทธรูปทองคำ บริจาคค่าธูปเทียนให้พระพุทธองค์แน่นอนเจ้าค่ะ”
พูดจบหมิงถานก็โขกศีรษะสามครั้งด้วยความเคารพนับถือจากใจจริง
หลังจากเสียงสะท้อนเบาๆ จากการโขกศีรษะสิ้นสุดลง เณรน้อยก็ระบายลมหายใจออกมาในที่สุด
…เงื่อนไขในการเลือกสามีของแม่นางน้อยผู้นี้สูงมากเกินไปจริงๆ
เชิงอรรถ
* ปลาจิ่นหลี หมายถึงปลาแฟนซีคาร์พ
* อักษรเสี่ยวข่ายจันฮวา เป็นอักษรบรรจงขนาดเล็กรูปแบบหนึ่ง มีความนุ่มนวลสวยงาม ว่ากันว่าเว่ยฮูหยินในสมัยราชวงศ์จิ้นเป็นผู้คิดค้นอักษรรูปแบบนี้ขึ้นมา
* คานบนไม่ตรง คานล่างย่อมเบี้ยว เป็นการชี้ถึงพฤติกรรมว่าหากคนรุ่นก่อนประพฤติไม่ดี คนรุ่นหลังก็จะทำเรื่องไม่ถูกไม่ควรตามไปด้วย
* หนึ่งก้านธูป เป็นคำเรียกเวลาโดยประมาณของจีนโบราณ บางตำราประมาณว่าครึ่งชั่วโมง บางตำราว่าหนึ่งชั่วโมง ‘ครึ่งก้านธูป’ จึงหมายถึงเวลาประมาณ 15-30 นาที
* ฉื่อ หน่วยวัดความยาวของจีน เทียบได้ประมาณ 1 ฟุต
(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็มเดือนมีนาคม 66)