คนที่กลับมาถึงจวนจิ้งอันโหวก่อนเผยซื่อกับหมิงถิงหย่วนหนึ่งก้าวคือสาวใช้ตัวน้อยที่หมิงถานส่งให้ไปสืบสถานการณ์
สาวใช้ตัวน้อยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหน้าประตูจวนลิ่งกั๋วกงให้หมิงถานฟังอย่างละเอียดยิบ
หมิงถานฟังจบก็ตะลึงนิ่งอึ้งไป โจ๊กรังนกที่อยู่ในมือจืดชืดไร้รสชาติไปในชั่วพริบตา “เจ้าบอกว่าฮูหยินลิ่งกั๋วกงยกสตรีผู้นั้นให้แต่งเป็นภรรยาใหม่ของพ่อบ้านเรือนพักตากอากาศหรือ สตรีผู้นั้นหนีออกมาได้ อุ้มลูกมาร้องห่มร้องไห้ขอความเมตตาหน้าประตูจวนลิ่งกั๋วกง?”
“ใช่เจ้าค่ะ คุณหนู เรื่องนี้… รู้กันไปทั่วแล้วเจ้าค่ะ…”
หมิงถาน “…”
จริงอยู่ที่นางอยากถอนหมั้น แต่นางหวังให้ผู้ใหญ่ของทั้งสองตระกูลนั่งลงเจรจา หาข้ออ้างที่ไม่เสื่อมเสียถอนหมั้นไปอย่างเงียบๆ มากกว่า หากสถานการณ์กลายเป็นเช่นนี้ ชื่อเสียงของนางก็จะถูกทำลายจนย่อยยับป่นปี้ รอให้เรื่องวุ่นวายผ่านพ้นไปเมื่อใด นางค่อยหาวิธีจัดการจวนลิ่งกั๋วกงทีหลังก็แล้วกัน
ก่อนหน้านี้นางกลัวว่าบิดาจะไม่ยอมแตกหักกับจวนลิ่งกั๋วกงเพื่อนาง จึงจงใจแสดงละครฉากนั้นออกมา ทำให้บิดาของนางโกรธแค้นจวนลิ่งกั๋วกงจนถึงขีดสุด และเป็นฝ่ายยื่นขอถอนหมั้นเอง
ประกอบกับนางรู้จักเผยซื่อดี ด้วยนิสัยละเอียดรอบคอบของเผยซื่อในยามปกติแล้ว คงไม่มีทางยอมให้บิดาทำอันใดหุนหันพลันแล่นแน่นอน และมีโอกาสมากที่พวกเขาจะไปปรึกษาหารือกับท่านลุงและท่านป้าสะใภ้ ขอแค่พวกเขาคิดใคร่ครวญเพื่อนางจากใจจริงแม้เพียงน้อยนิด เช่นนั้นผลลัพธ์จากการปรึกษาหารือก็จะต้องเป็นไปตามที่นางต้องการ
ก็จริงที่เรื่องราวดำเนินไปตามที่นางคาดการณ์ไว้ แต่นางคาดไม่ถึงว่าฮูหยินลิ่งกั๋วกงจะโหดเหี้ยมอำมหิตกับหลานสาวแท้ๆ ของตนเองถึงเพียงนี้ บีบคั้นให้อีกฝ่ายต้องหนีออกมา แล้วก็โวยวายให้เรื่องมันใหญ่โตลุกลามออกไปโดยไม่สนใจสิ่งใดทั้งสิ้น!
ตอนนี้ทุกคนในเมืองหลวงต่างก็รู้เรื่องฉาวโฉ่นี้กันหมดแล้ว อาถานแห่งสกุลหมิงอย่างนางจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด!
หมิงถานถูกข่าวคราวนี้ถาโถมใส่จนวิงเวียนตาลาย ประจวบเหมาะกับเผยซื่อแวะมาหานางพอดิบพอดี
เผยซื่อเห็นนางสีหน้าไม่สู้ดีก็เข้าใจกระจ่างขึ้นมาในใจ นางเดินเข้าไปด้านในพลางเอ่ยถามว่า “อาถานรู้เรื่องที่จวนลิ่งกั๋วกงแล้วหรือ”
นางสั่งให้บรรดาสาวใช้ออกไปด้านนอก จากนั้นก็นั่งลง เอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบาว่า “ถึงแม้เรื่องนี้จะอยู่เหนือความคาดหมาย แต่ว่าเจ้าเองก็อยากจะถอนหมั้นอยู่แล้ว ตอนนี้นับว่าได้สมดั่งปรารถนาแล้ว”
หมิงถานนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ “ท่านรู้อยู่แล้วหรือเจ้าคะ”
“จดหมายจากจวนสกุลไป๋ถูกส่งมาตั้งแต่ตอนเช้าตรู่เมื่อวานนี้แล้ว จะรอมามอบให้เจ้าตอนอาหารกลางวันได้อย่างไร”
พูดกันตามจริงแล้ว เผยซื่อเป็นผู้ควบคุมดูแลจวนจิ้งอันโหวแห่งนี้ จะมีความเคลื่อนไหวเล็ดลอดสายตาของนางไปได้อย่างไร อีกทั้งหมิงถานก็เป็นเด็กสาวที่นางอบรมเลี้ยงดูมากับมือ นางรู้ดีว่าหมิงถานไม่ใช่คนที่เจอปัญหาแล้วจะร้องไห้สะอึกสะอื้นแน่นอน
หมิงถานหลุบตาลง นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ “ท่านแม่ อาถานผิดไปแล้วเจ้าค่ะ ที่อาถานไม่ได้บอกท่านเพราะไม่รู้จะเริ่มเล่าจากตรงไหน อีกอย่าง การแต่งงานนี้มารดาบังเกิดเกล้ายังเป็นผู้กำหนดให้…”
“ไม่ต้องกล่าวให้มากความหรอก ข้าเข้าใจ”
นางมีหรือจะไม่เข้าใจ แต่ไรมาคุณหนูตระกูลใหญ่โตสูงศักดิ์ไม่เคยตัดสินใจเรื่องการแต่งงานด้วยตนเองได้ ขนาดกับบิดาแท้ๆ นางยังไม่มีความมั่นใจเลย แล้วจะมาฝากความหวังกับตนได้อย่างไร
เมื่อแรกเผยซื่อยังคิดจะคุยเรื่องบิดาของหมิงถานกับนางอย่างเปิดอกจริงใจ จะได้เป็นการช่วยเพิ่มพูนความผูกพันของสองพ่อลูก แต่ว่าตอนนี้บิดาของนางเพิ่งจะกลับมาเมืองหลวง ต่อให้พูดออกไปมากเพียงใดก็ไม่สู้ให้หมิงถานสัมผัสด้วยตนเองจะจริงแท้แน่นอนมากกว่า อีกอย่างเรื่องการแต่งงานก็จบไม่ดีถึงเพียงนี้ ดูท่าทางหมิงถานเองก็คงไม่มีแก่ใจมาคิดเรื่องอื่นในเวลาเยี่ยงนี้
“เอาล่ะ ไม่ต้องพูดเรื่องพวกนี้แล้ว” เผยซื่อกุมมือนางเอาไว้ แล้วช่วยนางทัดผมให้เรียบร้อย “ข้ารู้ถึงความคับอกคับใจของเจ้าดี แตกหักกันไปวันนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องเลวร้าย ถ้าหากหาข้ออ้างที่ไม่น่าเกลียดมาถอนหมั้นได้จริงๆ เจ้าก็คงตะขิดตะขวงใจอยู่ดี ไม่ว่าทางใดก็รู้สึกย่ำแย่”
หมิงถาน “…”
รู้สึกเหมือนได้รับการปลอบใจขึ้นมานิดๆ เหมือนกันนะเนี่ย
เชิงอรรถ
* แตงที่ฝืนเด็ดมักไม่หวาน หมายถึงหากฝืนทำในสภาวะหรืออยู่ในเงื่อนไขที่ไม่พร้อม ผลลัพธ์ที่ออกมามักไม่เป็นที่น่าพอใจ
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 19 มี.ค. 66 เวลา 12.00 น.