ฉู่อวิ๋นจิ้งกระโดดลงจากรถม้า นางโค้งคำนับขออภัยอย่างจริงใจ จากนั้นจึงยื่นมือไปอุ้มฉู่เหยียนลงมา
“คารวะท่านลุงจางขอรับ” ฉู่เหยียนคำนับเถ้าแก่ด้วยท่าทีจริงจัง ทว่าเพียงชั่วครู่ก็กลับคืนท่าทางของเด็กน้อย เขากระตุกเสื้อฉู่อวิ๋นจิ้งไม่หยุด “พี่สาว วันนี้ข้าจะกินหัวปลาหม้อดิน”
“ได้สิ นานๆ เจ้าจะอยากกินปลาสักทีหนึ่ง แต่เจ้าต้องตกปลาลิ่นให้ได้ก่อน” ถึงนางไม่คิดอยากตกปลาและเรื่องนี้ก็สามารถใช้เงินแก้ปัญหาได้ ทว่าฉู่อวิ๋นจิ้งยังชอบการสอนด้วยสถานการณ์จริงมากกว่า นางอยากใช้โอกาสนี้ทำให้ฉู่เหยียนรู้จักความสนุกของ ‘การกินอาหารจากฝีมือตนเอง’
ฉู่เหยียนแววตาเป็นประกาย “นั่งเรือตกปลาหรือ!”
ฉู่อวิ๋นจิ้งส่ายหน้า “เจ้ายังว่ายน้ำไม่เป็น พวกเราตกปลาที่ริมตลิ่งก็พอ”
ฉู่เหยียนห่อไหล่ด้วยความผิดหวัง เขาเอ่ยอย่างยังไม่ยอมถอดใจ “ข้าจะเชื่อฟัง ไม่ขยับตามใจชอบ”
“ไม่ได้ เจ้าไม่ขยับตามใจไม่ได้หมายความว่าจะไม่เกิดเรื่องนี่”
“พี่สาว ไม่ได้จริงๆ หรือ”
“ไม่ได้ แต่ข้ารับปากเจ้า วันนี้ข้าอนุญาตให้เจ้าเลือกกับข้าวได้”
“ข้าอยากกินหัวปลาหม้อดินที่พี่สาวทำ” ถึงพี่สาวจะบอกว่ากินปลาแล้วทำให้ฉลาด แต่นอกจากปลาที่พี่สาวทำให้เขากินแล้ว ปลาที่คนอื่นทำล้วนมีกลิ่นคาว เขาจึงไม่ชอบกิน
“ถ้าอยากกินหัวปลาหม้อดินของข้า เจ้าต้องตกปลาลิ่นให้ได้มากหน่อย”
เถ้าแก่ที่ยกของลงจากรถหมดแล้วได้ยินก็รีบร้องบอกว่า “หากแม่นางฉู่ไม่รังเกียจ แม่นางฉู่สามารถใช้ปลาลิ่นที่อยู่ในครัวได้ตามสบาย ขอแค่แม่นางฉู่แบ่งให้พวกเราสักหม้อสองหม้อก็พอ”
เดิมทีฉู่อวิ๋นจิ้งไม่มีความคิดที่จะทำให้คนนอกได้กิน แต่เมื่อเห็นใบหน้ารอคอยเต็มเปี่ยมของทุกคนแล้ว สุดท้ายก็ต้องกลืนคำปฏิเสธลงไป หากไม่ได้เถ้าแก่สนับสนุนอย่างเต็มที่ สุราผลไม้ของนางก็คงไม่ขายดีจนมีชื่อเสียงรวดเร็วเช่นนี้ นางใช้หัวปลาหม้อดินเป็นการขอบคุณไม่นับว่ามากไป ถือเสียว่าทำหัวปลาหม้อดินเพิ่มสักหม้อสองหม้อก็แล้วกัน
ฉู่อวิ๋นจิ้งขอให้เด็กหนุ่มคนหนึ่งในร้านพาฉู่เหยียนไปตกปลาที่ริมทะเลสาบ ส่วนนางก็เดินตามเถ้าแก่ไปยังห้องครัว
หัวปลาหม้อดินยังเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าน้ำแกงข้นหัวปลา ที่มาที่ไปเล่าขานต่อกันหลายรูปแบบ ที่น่าเชื่อถือหน่อยจะเกี่ยวข้องกับการมาเยือนเจียงหนานของฮ่องเต้เฉียนหลง ทว่าที่นางทำวันนี้นั้นเป็นหัวปลาหม้อดินแบบไต้หวัน
สำหรับหัวปลาหม้อดินแบบไต้หวันจะใช้กระดูกหมูต้มน้ำแกง นำหัวปลาลิ่นมาทาเกลือก่อนจากนั้นค่อยนำไปชุบแป้งมันเทศทอด เต้าหู้กับกระเทียมก็ต้องนำไปผัดก่อนเช่นกัน โดยใช้ต้นหอม ขิง และพวกเครื่องเทศเผ็ดร้อนทำให้มีกลิ่นหอมหวน ในหม้อใส่ผักกาดขาว อาหารทะเล หมูสามชั้น กึ๋นไก่ และต้นกระเทียม สำหรับน้ำแกงสูตรเข้มข้นพิเศษนี้ยังใส่ปลาแห้งและฟองไข่กรอบ นอกจากนี้ยังใส่น้ำปรุงรสซาฉา* เพื่อเพิ่มกลิ่นหอม ทั้งยังใส่น้ำปรุงรสเต้าเจี้ยวหมักพริกแห้งเพิ่มรสชาติอีกด้วย
นางไม่ได้ทำตามแบบน้ำแกงเข้มข้นพิเศษเสียทีเดียว เนื่องจากไม่มีแป้งมันเทศ นางจึงใช้แป้งหมี่ใส่ไข่แทน ส่วนที่ใส่ในหม้อก็มีเพียงผักกาดขาว หอยตลับ หมูสามชั้น และต้นกระเทียม