ก่อนไปเซียงโจวท่านป๋อชี้แนะเขาหลายอย่างว่าควรจัดการกับนายท่านสี่อย่างไร หาได้คิดถึงนายหญิงสี่กับลูกๆ สักนิดไม่ กระนั้นพ่อบ้านหูก็ไม่กล้าเอ่ยความจริง ได้แต่หาเหตุผลปัดความรับผิดชอบ “คุณหนูสามอารมณ์รุนแรงมากขอรับ ยังพูดว่าสิ่งที่ชิงชังเคียดแค้นที่สุดคือคนในจวนป๋อ เมื่ออยู่ต่อหน้านาง แม้แต่นายหญิงสี่ยังไม่กล้าออกเสียงเลยขอรับ”
“นางหนูสาม?…” ฉู่เจาหมิงพยายามนึกย้อนความทรงจำ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็นึกเรื่องของคนผู้นี้ไม่ออก เห็นได้ชัดว่ายามที่นางอยู่ท่ามกลางเด็กในสกุลทั้งหลายแล้วไม่รู้สึกสะดุดตาเท่าใด
“ไฉนต้องเปลืองแรงเชิญพวกมันกลับมาด้วย ข้าว่าแค่บอกให้พวกมันส่งของออกมาตรงๆ ก็พอ” ฮูหยินจงอี้ป๋อเจียงซื่อ* เร่งรุดมาที่ห้องหนังสือนอก ได้ยินเสียงสนทนาของทั้งสองนางก็รีบสอดปาก
ครอบครัวนายท่านสี่ถูกขับออกจากจวนป๋อ คนแบ่งสมบัติน้อยลงครอบครัวหนึ่งย่อมเป็นที่พึงใจของนาง มาบัดนี้จะต้อนรับครอบครัวนายท่านสี่กลับมาอีก นางย่อมคัดค้าน แต่หยกมังกรครึ่งซีกในมือนายท่านสี่มีค่าเกินไป นางจึงต้องการรับประโยชน์จากสิ่งนี้ด้วยเช่นกัน
ฉู่เจาหมิงขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ หญิงผู้นี้ไยจึงลืมหลักนอกบ้านในบ้านอยู่เรื่อย ทว่ายามนี้เขาไม่มีจิตใจไปต่อความยาวกับเรื่องนี้ เพียงกล่าวว่า “หากเขายินดีให้พวกเรารู้ว่ามีของแทนใจสูงค่าเพียงนั้นอยู่ในมือ เจ้าสี่คงไม่พาภรรยากับลูกจากไปโดยไม่บอกกล่าวสักคำกระมัง”
เจียงซื่อมองผ่านพ่อบ้านหู ก่อนนั่งลงบนเตียงเตา อย่างวางท่ายโส แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงโมโห “ข้าว่าสมองนายท่านสี่ถูกลาเตะกระเด็นไปแล้ว ของแทนใจล้ำค่าเพียงนั้นกลับซุกซ่อนเงียบเชียบ ยังดีที่รู้จักวางตัว ไม่กล้าขอให้จวนอู่หยางโหวรับการแต่งงานครั้งนี้” แม้อยากจะชิงของแทนใจเพื่อให้การแต่งงานแสนเลิศเลอนี้มาตกอยู่กับบุตรสาวเพียงใด แต่นางรู้ว่าหากจวนอู่หยางโหวไม่แยแส เกรงว่าแม้แต่ผายลมจวนจงอี้ป๋อก็ยังไม่กล้า
ฉู่เจาหมิงเห็นตรงกัน เพียงแต่พอวาจาออกจากปากฮูหยินแล้ว น้ำเสียงของคำพูดก็ไม่ถูกต้องแล้ว เขาจึงอดเอ่ยอย่างเดือดดาลไม่ได้ “ข้าว่าเจ้าไปด้วยตนเองสักเที่ยวเถอะ”
“อะไรนะ!” เจียงซื่อเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง
พ่อบ้านหูถอยมาด้านข้างอย่างเงียบเชียบ เขาไม่ต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมในความขัดแย้งระหว่างสามีภรรยา ท่านป๋อเป็นหัวหน้าครอบครัว ในขณะที่ฮูหยินมาจากจวนอันหย่วนป๋อ บิดาคือรองเสนาบดีกรมอากร จึงไม่แปลกที่ท่านป๋อจะคุมฮูหยินไม่อยู่ ฮูหยินถึงได้กล้าเดินเข้าห้องหนังสือนอกตามอำเภอใจเช่นนี้
“ยามที่เจ้าสี่กับพี่น้องอยู่ต่อหน้าเจ้าก็มีแต่รับคำเท่านั้นมา เจ้าไปเชิญพวกเขากลับมาดีหรือไม่ ต่อให้พวกเขาไม่ยอม เจ้าเพียงพูดไม่กี่ประโยคก็ทำให้พวกเขาพูดไม่ออกจนยอมตามเจ้ากลับมาง่ายๆ” ฉู่เจาหมิงทนไม่ไหวกับปากคอเราะรายของเจียงซื่อแล้ว แต่ไม่อาจไม่ยอมรับว่าการมีปากเช่นนี้ก็เป็นประโยชน์ในบางโอกาส
“จากเมืองหลวงไปเซียงโจวต้องเดินทางไกล ข้าจะทนไหวได้อย่างไร” เจียงซื่อไหนเลยจะยอมทนลำบากได้
“ฮูหยินวาดหวังให้เยี่ยนเอ๋อร์แต่งเข้าจวนอู่หยางโหวมิใช่หรือ”