ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย บทที่ 108 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย บทที่ 108

หน้าที่แล้ว1 of 6

บทที่ 108

วันนี้เฉิงเซ่าซางไม่กลับบ้านแล้ว นางส่งเฉี่ยวกั่วกลับไปแจ้งที่จวนสกุลเฉิงว่านางจะค้างแรมในตำหนักฉางชิว ให้คนทางบ้านไม่ต้องเป็นห่วง อย่างไรก็มีเครื่องนอนเบาะผ้าห่มครบครัน ทั้งมีไจ๋เอ่าคนช่างคุยเป็นเพื่อนอีกทั้งคน ตกค่ำแสงเทียนส่องโต๊ะหนังสือ นางเขียนข้อสงสัยทีละข้อลงบนแผ่นไม้อันเกลี้ยงเกลาแผ่นหนึ่ง เช้าวันรุ่งขึ้นเพิ่งกินอาหารเช้าเสร็จ ขันทีคนสนิทของรัชทายาทก็มาหานาง เชิญนางไปตำหนักบูรพาสักเที่ยว

เมื่อเดินไปถึงตำหนักบูรพา รัชทายาทกำลังสนทนาเสียงเบาอยู่ในลานกับหลิงปู้อี๋ เหลียงชิวฉี่ทางหนึ่งสั่งให้นางกำนัลพาเฉิงเซ่าซางไปยังโถงปีก อีกทางหนึ่งเบาเสียงเอ่ยกับเฉิงเซ่าซาง “นายน้อยบอกว่าพ่อบ้านคฤหาสน์ดอกกุ้ยม่วงมาถึงแล้ว คิดว่านายหญิงน้อยคงอยากพบสักหน่อย ต้องการสืบถามอันใดก็ถามได้อย่างเต็มที่ ประเดี๋ยวนายน้อยจะพาท่านออกจากวังไปสืบคดีขอรับ”

เฉิงเซ่าซางผงกศีรษะรับ ครั้นติดตามนางกำนัลเดินเข้าสู่โถงปีก ก็เห็นชายารัชทายาทกำลังโอดครวญกับเจ้าหน้าที่สวมชุดแพรวัยสามสิบกว่าปีผู้หนึ่ง

“…ชวีหลิงจวินหญิงแพศยาที่สมควรตายนั่น ตนเองรนหาเรื่องตายก็ยังจะทำให้รัชทายาทพลอยเดือดร้อน ตอนนี้ข้างนอกโจษกันเซ็งแซ่ ข้าไม่มีหน้าจะออกไปพบผู้คนแล้ว! เถือเนื้อนางเป็นพันหมื่นชิ้นก็ยังไม่พอจะระบายแค้นในใจข้าเลยจริงๆ!”

เฉิงเซ่าซางไม่อาจทนฟังต่อ หนึ่งเท้าก้าวขวับเข้าไป แล้วเอ่ยเสียงดังทันที “สองวันไม่พบกัน พระชายาทรงสบายดีหรือไม่”

ตอนนี้ชายารัชทายาทหวาดกลัวเฉิงเซ่าซางอยู่บ้าง พอได้ยินเสียงนางจึงหดร่างอย่างห้ามไม่อยู่ ผิดกับบุรุษชุดแพรผู้นั้นที่โผงผางตะเบ็งเสียง “เจ้าเป็นเด็กไร้มารยาทจากที่ใด พบชายารัชทายาทแล้วไม่โขกศีรษะถวายคำนับ?!”

เฉิงเซ่าซางคารวะชายารัชทายาทอย่างลวกๆ ก่อนมองพิจารณาบุรุษผู้นี้ขึ้นลงรอบหนึ่ง “ท่านก็คือซุนเซิ่ง ญาติผู้พี่ของพระชายา และเป็นพ่อบ้านของคฤหาสน์ดอกกุ้ยม่วง?”

ซุนเซิ่งมองเฉิงเซ่าซางด้วยแววตาอันขุ่นเข้มพลางตอบอย่างลำพอง “ถูกต้อง! แม่นางน้อยหน้าตาไม่เลวเลยนี่…”

“พี่ชาย!” ชายารัชทายาทปรามอย่างเคร่งเครียด “ห้ามเสียมารยาท!” ญาติผู้พี่ของตนยังไม่เคยลิ้มรสขมจากเฉิงเซ่าซางผู้นี้

“เสียมารยาทอะไรกัน ก็เพราะปกติพระชายาใจดีเกินไป ผู้อื่นจึงรังแกได้ ทำให้พวกเราสกุลซุนต้องเก็บกลั้นอยู่เยี่ยงนี้! เป็นสกุลเดิมของชายารัชทายาทผู้สูงส่งแท้ๆ จนบัดนี้นอกจากบรรดาศักดิ์ลอยๆ สองตำแหน่งก็ควานหาอะไรไม่ได้สักอย่าง น่าอับอายขายหน้าสิ้นดี!” ซุนเซิ่งเอ่ยอย่างฉุนเฉียว

เฉิงเซ่าซางหัวเราะเยาะเบาๆ หนึ่งที “เคราะห์ดีไม่ได้แต่งตั้งตำแหน่งขุนนางอันใดให้คนสกุลซุนของท่าน คฤหาสน์แค่หลังเดียวยังดูแลให้ดีไม่ได้ ขืนแต่งตั้งตำแหน่งขุนนางให้จริงๆ ไม่ก่อหายนะใหญ่โต เป็นภัยต่อชาวบ้านในพื้นที่ เดือดร้อนถึงชื่อเสียงขององค์รัชทายาทหรือไร!”

“เด็กต่ำช้าพูดว่าอะไรนะ!” ซุนเซิ่งหน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง

“ข้าพูดว่าเคราะห์มาถึงศีรษะท่านแล้ว ยังไม่รู้จักความเป็นความตายอีก!”

ชายารัชทายาทรีบเอ่ย “คฤหาสน์ดอกกุ้ยม่วงแม้ญาติผู้พี่ข้าเป็นผู้ดูแล ทว่าในจรดนอกมีบ่าวมากปานนั้น พี่ข้ารอบคอบร้อยครั้งจะพลาดพลั้งสักคราก็มีกันได้ ทุกวันดอกกุ้ยม่วงหลายต้นนั้นมีดอกหล่นกระจายบนพื้นเยอะแยะ ไม่แน่ว่าบ่าวระดับล่างคนใดอาจขโมยเก็บไปกำหนึ่ง นี่สุดจะป้องกันได้”

เฉิงเซ่าซางเอ่ยกลั้วหัวเราะหยัน “ในคฤหาสน์ใช่ว่ามีดอกกุ้ยม่วงอยู่ทุกแห่งสักหน่อย! ไจ๋เอ่าเคยเล่าว่าเดิมที่นั่นชื่อคฤหาสน์จื่อกุย* ต่อมาริมทะเลสาบฝั่งตะวันออกมีต้นดอกกุ้ยม่วงซึ่งหาได้ยากยิ่งยวดเติบโตขึ้นมาเจ็ดแปดต้นจึงได้เปลี่ยนชื่อใหม่ ว่ากันถึงที่สุดแล้ว ความจริงทั่วคฤหาสน์มีเพียงบริเวณเดียวที่มีดอกกุ้ยม่วง อีกทั้งทุกวันมีผู้ได้รับมอบหมายไปดูแลโดยเฉพาะ เอาเถิด ต่อให้ใต้เท้าซุนรอบคอบร้อยครั้งก็มีพลาดพลั้งไปหนึ่งครา บัดนี้เรื่องเกิดขึ้นแล้ว ขอเรียนถามใต้เท้าซุน ท่านสืบพบหรือยังว่าผู้ใดขโมยดอกกุ้ยม่วงไป”

ซุนเซิ่งหน้าถมึงทึงขบกรามกรอด “เวลาฉุกละหุก ยังสืบไม่พบ”

“เช่นนั้นพักนี้ในคฤหาสน์มีบ่าวคนใดพลันร่ำรวยขึ้นมาหรือไม่”

“บ่าวในคฤหาสน์มีตั้งมากมาย ยังไม่ทันได้สอบสวนทีละคน”

“คฤหาสน์ดอกกุ้ยม่วงจัดเป็นเรือนสวนของราชวงศ์ บ่าวในนั้นปกครองแบบเดียวกับนางกำนัลขันที ไม่อาจออกไปข้างนอกโดยง่าย ช่วงไม่กี่วันนี้มีคนใดเคยไปจากคฤหาสน์บ้าง” ลักลอบเก็บดอกกุ้ยม่วง อย่างไรเสียก็ต้องส่งมอบของกระมัง

“ยังไม่อาจรู้ได้”

“ข้อนี้ไม่จำเป็นต้องสอบสวนทีละคนสักหน่อย พลิกดูบันทึกการเข้าออกคฤหาสน์ก็ได้แล้วมิใช่หรือไร เหตุใดจึงยังไม่รู้!”

ซุนเซิ่งถูกซักถามจนอับอายกลายเป็นโกรธ จึงตะคอกกลับไปว่า “เจ้าเลิกกดดันคุกคามกันเสียที! ข้าดูแลคฤหาสน์ดอกกุ้ยม่วงทั้งหมด ย่อมรู้จักขอบเขตอันควร เด็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเยี่ยงเจ้าจะรู้อะไร! เรื่องนี้ต้องสืบอย่างค่อยเป็นค่อยไป…”

“เกรงว่าคงไม่ทันแล้ว” เสียงของหลิงปู้อี๋ดังมา จากนั้นเขากับรัชทายาทก็ก้าวตามกันเข้ามาในโถงปีก

คนทั้งหมดรีบถวายคำนับต่อรัชทายาท ซุนเซิ่งเผยสีหน้าร้อนตัว เอ่ยปนยิ้มประจบ “คือว่า…รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ ทรงเห็นว่าเรื่องนี้…”

รัชทายาทหน้าขรึม ไม่ยินดีจะแยแสอีกฝ่าย ซุนเซิ่งหันไปมองญาติผู้น้องเพื่อขอความช่วยเหลือ ชายารัชทายาทกลับมีสีหน้ากระอักกระอ่วน

หน้าที่แล้ว1 of 6

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com