“มานี่”
เสียงแผ่วอ่อนพลันดังขึ้นในจังหวะนั้น
ซางหรงเงยหน้าพรวดมองตามเสียง…ตรงลูกกรงระเบียงด้านขวามือของบานประตู เด็กหนุ่มยังคงผุดผ่องงดงามดุจเขาหิมะ ทว่าใบหน้าครึ่งหนึ่งเปื้อนเลือด ผมสีดำสนิทหลุดร่วงลงมาปรกเคลียข้างใบหูหลายปอย นิ้วเรียวยาวเห็นข้อกระดูกชัดเจนถือกระบี่อ่อนคู่ใจ โลหิตหยดลงมาจากพู่ห้อยกระบี่สีแดงที่เปียกชุ่มหยดแล้วหยดเล่า แล้วไหลลงไปตามขั้นบันได
เขาเองก็ยืนนิ่งไม่ขยับ แม้จะถูกลมภูเขาพัดปอยผมและมีเกล็ดหิมะเกาะเต็มเสื้อผ้า
ท่ามกลางแสงสลัวรางยามรุ่งสาง เขามองจ้องเข้ามาในดวงตานางราวกับปีศาจ จนนางสั่นสะท้านอย่างห้ามไม่อยู่
“เมื่อคืนเจ้าเห็นหรือไม่ว่าข้าเอายาวางไว้ที่ใด”
ความอ่อนระโหยแฝงอยู่ในเสียงแผ่วเนิบของเด็กหนุ่มที่บัดนี้ยืนพิงราวระเบียงนิ่งไม่ขยับเขยื้อน
เมื่อคืนหลังทำแผลใหม่เสร็จแล้วเขาวางขวดยาไว้ข้างหมอน พอได้ยินคำถามนั้นซางหรงก็นึกออกแทบจะทันที ทว่ายังไม่ทันขยับก็พบว่าสีหน้าของเด็กหนุ่มยิ่งเย็นชาขึ้น นางเลยเหมือนนกตื่นลูกธนูมากกว่าเดิม “เห็น”
นางเกาะเสาพยุงตัวขึ้นยืน แล้วเบือนหน้าไปทางอื่น ไม่กล้ามองศพบนพื้น คิ้วทั้งสองข้างขมวดมุ่นขณะขยับขาเดินทีละก้าวสั้นๆ ไม่ให้ถูกแอ่งเลือดที่ไหลคดเคี้ยวอยู่บนพื้น ค่อยๆ พาตัวเองไปที่ตั่งไม้ไผ่
ราวกับหอยทากตัวน้อยก็ไม่ปาน
เจ๋อจู๋รู้สึกเหมือนเลือดใกล้ไหลหมดตัวเต็มที ขณะทอดตามองนางอย่างใจเย็น ขาเดินออกมานางก็ยังพยายามเลี่ยงศพกำยำบนพื้น ไม่ยอมให้เท้าเปื้อนเลือดแม้แต่นิดเดียว กว่าจะออกจากห้องได้จึงกินเวลาพักใหญ่ นางทิ้งตัวลงนั่งยองๆ ตรงหน้าเขา เปิดจุกขวดยามือไม้สั่น แล้วเทผงยาลงบนตัวเขาสะเปะสะปะ ผงยาขมเฝื่อนกระจายฟุ้ง ทำเอานางจามออกมาทีหนึ่งอย่างห้ามไม่อยู่
แผลบนท่อนแขนเหวอะหวะอาบเลือดแดงฉาน ซางหรงตั้งหน้าตั้งตาโรยยาลงไปจนผงยาสีขาวกลบปิดปากแผลเป็นชั้นหนาเตอะ นางถึงค่อยกล้ามองรอยแผลเต็มตา แล้วแอบพรูลมหายใจอย่างโล่งอก
พอกระชับขวดยาแน่น ฝ่ามือที่ถลอกปอกเปิกเพราะหกล้มก็โดนผงยาที่ติดอยู่บนขวดเข้า เจ็บแสบเสียจนนางต้องร้อง ‘ซี้ด’
เวลายาโดนแผลเจ็บถึงเพียงนี้เชียวหรือ
ซางหรงเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย ทว่าสันคิ้วนูนเด่นของเขาคลายออกจากกัน ขาดแต่ไม่ได้อมยิ้มเท่านั้น ดวงตาหลุบต่ำ แพขนตาหนายาวกระเพื่อมน้อยๆ ตามแรงลม คราบเลือดบนแก้มทำให้ใบหน้าของเขาดูเย็นชาถึงขีดสุด
แผลลึกออกอย่างนั้น ไม่เจ็บหรือไรนะ
นางอดคิดไม่ได้
เขานิ่งเงียบ ดูสันโดษอย่างบอกไม่ถูก ซางหรงไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ เห็นเพียงเขาผินหน้าไปมองศพที่นอนเกลื่อนพื้นหิมะ
ความว่างเปล่าไร้อารมณ์ค่อยๆ สะท้อนออกมาบนใบหน้าดวงนั้น
“ซางหรง”
เสียงของเด็กหนุ่มกังวานน่าฟัง
สายลมเสียดสีกิ่งไม้แห้งโกร๋นดังแซ่กๆ ริ้วหมอกหนาวเหน็บแผ่กำจาย หิมะกำลังตกลงมา
ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็โค้งขึ้น แววตาเป็นประกายพราวระยับ
“เจ้าอยากจะ…ไปเที่ยวเล่นกับข้าหรือไม่”
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 1 มิ.ย. 68