(4)
เสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะดังขึ้นในเช้าวันทำงานกลางสัปดาห์ ฉันเอื้อมมือไปรับอย่างเกียจคร้าน
“ฮัลโหล”
“บัว มาหาพี่ที่ห้องหน่อย เรื่องตารางนัดคุยกับลูกค้ารายใหญ่ออกมาแล้วนะ” เสียงพี่อี๊ดเรียกพบ
“ให้บัวตามน้ำด้วยไหมพี่” ฉันคิดว่าเราต้องเข้าพบพี่อี๊ดทั้งคู่เพื่อรับทราบข้อมูลการทำงานร่วมกัน
“พี่คุยกับน้ำแล้ว เรานั่นแหละเข้ามาคนเดียว”
เอ มันออกจะแปลกๆ นะที่เราเข้าพบหัวหน้าไม่พร้อมกัน ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่เคยคุยงานกับพี่อี๊ดตามลำพัง แต่เรื่องโปรเจ็กต์นี้พี่อี๊ดเป็นคนบอกเองว่าเราต้องรวมหัวกัน…
ช่างเถอะ มัวแต่กังวลก็ไม่มีประโยชน์ เพราะในช่วงแรกฉันก็ต้องรับงานเข้ามาดูแลก่อนยายน้ำอยู่แล้ว
ฉันเคาะประตูเพื่อขออนุญาตเข้าไปในห้องทำงานของพี่อี๊ด
“เชิญ” เสียงอนุญาตเบาๆ พี่อี๊ดให้ฉันนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามโต๊ะทำงานตัวใหญ่แล้วยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลมาวางไว้ที่หน้าโต๊ะ “นี่เป็นข้อมูลทั้งหมดของกินรีที่พี่ได้มาจากบิ๊กบอส บัวเอาไปอ่านก่อน”
ฉันเปิดซองเอกสารที่มีกระดาษไม่กี่แผ่นอยู่ในนั้นออกมาดู
“กินรี…นี่เป็นชื่อตราสินค้าเหรอคะ” ฉันเห็นสัญลักษณ์ของกินรีที่มีปีกสวยงามอยู่บนหัวกระดาษ
“ใช่ สำหรับวัยรุ่นอาจจะบอกว่ามันเชยไปหน่อย แต่ถ้าต่อไปคิดจะเอาไปขายในตลาดเมืองนอก ฝรั่งเขาก็รู้จักกินรีของไทยเรามากอยู่เหมือนกัน”
ฉันดูรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ต่างๆ แล้วเห็นว่ามีพวกเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หมวกสำหรับใส่เล่นกีฬาเป็นหลัก
“เอาล่ะ พี่จะตีกรอบงานของเราให้เห็นชัดขึ้นนะ ‘กินรี’ จะเปิดตัวในแนวความคิดที่ว่าเขาจะเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าจำพวกดูแลและบำรุงสุขภาพ อย่างการดูแลสุขภาพก็ตีความว่าเป็นพวกที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรืออุปกรณ์กีฬา ส่วนการบำรุงสุขภาพก็จะเป็นพวกอาหารเสริมต่างๆ โดยเน้นสมุนไพรไทยที่เอามาทำเป็นเม็ดให้กินง่าย มันก็เลยกลายเป็นว่าครอบคลุมความรับผิดชอบของทั้งน้ำและบัวไปด้วย”
ฉันพอจะมองเห็นภาพรวมของงานได้ง่ายขึ้น เพราะตัวสินค้าค่อนข้างจำเพาะเจาะจงมากกว่าที่คิดไว้ในตอนแรก
“แล้วต้องการเปิดตลาดที่ไหนคะ”