ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2 – หน้า 7 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

คืนลมพัดต้องเหมยงาม

ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

บทที่ 2 หลงคืนนิรันดร์

เสิ่นเฉียนไปที่กระโจมพักแล้วเรียกเจียงหมิง ก่อนทั้งสองจะกลับจวนสกุลเสิ่นไปด้วยกัน

เพราะเสิ่นฮ่วนสองสามีภรรยาไร้บุตรชาย ดังนั้นหลังเสิ่นฮ่วนตายในสนามรบ เสิ่นชื่อน้องชายของเสิ่นฮ่วนจึงสืบทอดบรรดาศักดิ์ติ้งหย่วนโหวและย้ายเข้าจวนติ้งหย่วนโหว ขณะเดียวกันอดีตฮ่องเต้ก็พระราชทานคฤหาสน์หลังหนึ่งทางตะวันออกของเมืองให้เสิ่นเฉียนใช้เป็นจวนแม่ทัพ

ว่ากันตามหลัก ปู่และย่าของเสิ่นเฉียนควรอยู่จวนเดียวกับเสิ่นชื่อติ้งหย่วนโหวคนปัจจุบัน ทว่าจนใจที่นายท่านผู้เฒ่าเสิ่นยิ่งแก่อารมณ์ยิ่งประหลาด ทั้งเสิ่นชื่อเข้มงวดยิ่ง ท่านผู้เฒ่ารู้สึกว่าอาหารการกินล้วนไม่ถูกใจ รวมกับชื่นชอบหลานสาวคนโตอย่างเสิ่นเฉียนเป็นพิเศษ จึงพาฮูหยินผู้เฒ่าเสิ่นย้ายมาจวนแม่ทัพของเสิ่นเฉียนด้วยเสียเลย

เสิ่นเฉียนย่อมยินดีต้อนรับผู้อาวุโสทั้งสอง เพียงแต่ตลอดปีนางล้วนไม่ได้อยู่เมืองหลวง บางคราวถึงจะกลับมาสักครั้ง จึงได้แต่ฝากให้อารองมาคอยดูแลบ่อยๆ

ยามนางเข้าเรือนหลักไปเยี่ยมท่านปู่ท่านย่า ได้ยินนายท่านผู้เฒ่าเสิ่นกำลังบันดาลโทสะใส่เสิ่นชื่อพอดี คิดดูแล้วคงเป็นเพราะเสิ่นชื่อเกลี้ยกล่อมปากเปียกปากแฉะว่าบิดาควรลดการกินเนื้อสัตว์ ดื่มสุราให้น้อยลงอีกแล้ว ทำเอานายท่านผู้เฒ่าเสิ่นหงุดหงิด

เสิ่นเฉียนยกเท้าเตรียมจะหนี เลี่ยงไม่ให้โดนลูกหลงโทสะของท่านปู่ไปด้วย แต่เสิ่นชื่อได้ยินเสียงเคลื่อนไหวอยู่ก่อนแล้ว จึงไม่มัวแต่เอ่ยปลอบนายท่านผู้เฒ่าเสิ่น เลิกม่านออกมาเรียกเสิ่นเฉียน

ทั้งสองยืนสนทนาอยู่ตรงระเบียงสองสามประโยค

“อาเฉียน พระดำริของไทเฮา เจ้ารู้แล้วหรือ” เสิ่นชื่อถามนาง

ดวงตาเสิ่นเฉียนมองไปยังยอดต้นอวี๋ ที่อยู่นอกเรือนแล้วเอ่ยรับคำหนึ่ง “เจ้าค่ะ”

“เรื่องนี้เป็นไทเฮาทรงแนะนำขึ้นมา” เสิ่นชื่อสังเกตสีหน้านางแล้วเอ่ยอย่างลังเล “ถ้าเจ้าไม่ยินยอม พวกเราสามารถปรึกษากันอีก…”

เสิ่นเฉียนหันหน้ามาตัดบทเขา “ข้าตอบรับไทเฮาแล้ว อารอง ข้าเหนื่อยมาก อีกเดี๋ยวยังต้องเข้าวัง”

เสิ่นชื่อเงียบไปครู่หนึ่งถึงเอ่ยว่า “ไปเถอะ”

 

เสิ่นเฉียนบอกลาอารองแล้วกลับเรือนพักของตน

จูเฉินกำลังรอนางอยู่ในห้อง เอ่ยถามนางว่า “วันนี้จะแต่งตัวอย่างไรไปหรือเจ้าคะ”

มารดาเสิ่นเฉียนจากไปเร็ว ท่านย่าอายุมาก ในค่ายทหารก็ไม่มีสาวใช้ช่วยนางจัดการเรื่องเสื้อผ้าอาภรณ์ ตัวนางเองเป็นคนไม่พิถีพิถัน ที่สวมบ่อยที่สุดยังเป็นชุดเกราะ ดังนั้นจูเฉินในฐานะองครักษ์คนสนิทของนาง บางคราวจึงควบหน้าที่ดูแลเสื้อผ้าอาภรณ์ของนางด้วยอยู่บ่อยๆ

“มีอะไรก็ใส่อย่างนั้นเถอะ” เสิ่นเฉียนกล่าว “ครั้งก่อนที่กลับมาไม่ใช่ตัดชุดมาหนึ่งหีบหรือ”

จูเฉินคิดทบทวนตามแล้วรีบไปหากุญแจ “จริงสิ ข้าก็ลืมไปเลย ดูเหมือนจะวางไว้ในห้องปีกตะวันตก”

เสิ่นเฉียนกลัวนางวุ่นวายจึงเอ่ยหยุดไว้ “ช่างเถอะ ไม่ต้องไปหาแล้ว ข้าจำได้ว่ามีกระโปรงสีเขียวปักดิ้นเงินอยู่ตัวหนึ่ง ไม่กี่ปีก่อนใส่ไปในวังไทเฮายังเคยตรัสชม ภายหลังเปื้อนสุรานิดหน่อยจึงเอากลับมาทำความสะอาด ไม่ได้ใส่อีกเลย นับว่ายังใหม่อยู่”

“อ้อ” จูเฉินร้องรับคำหนึ่ง จากนั้นนำกระโปรงสีเขียวปักดิ้นตัวนั้นออกมาตามที่อีกฝ่ายกล่าว ทั้งพลิกดูกล่องเครื่องประดับผมของนาง

ผ่านไปครู่หนึ่งนางเงยหน้าขึ้น ในมือหยิบต่างหูมรกตชิ้นหนึ่งมาถือไว้ เอ่ยถามว่า “เหตุใดมีแค่ข้างเดียวเล่า”

เสิ่นเฉียนมองดูต่างหูทรงหยดน้ำข้างนั้นในมือนางแล้วอึ้งไปเล็กน้อย ครู่ใหญ่ถึงเอ่ยว่า “ในเมื่อเหลืออยู่ข้างเดียว ภายหน้าไม่อาจใส่ได้อีก เช่นนั้นก็ทิ้งไปเถอะ”

จูเฉินเบะปากน้อยๆ กล่าว “ต่างหูที่ด้านบนเป็นแบบหนีบเดิมก็มีไม่มาก ทุกครั้งท่านล้วนใส่หนึ่งครั้งทำหายหนึ่งครั้ง ตอนนี้ที่เหลือล้วนเป็นต่างหูแบบเจาะ ท่านก็ไม่ได้เจาะหูอีก”

ตั้งแต่เด็กเสิ่นเฉียนก็เจาะหูแล้ว เพียงแต่นางสวมชุดทหารตลอดปี หลังอายุสิบกว่าปีก็ไม่ได้สวมต่างหู นานวันเข้ารูจึงตัน นางไม่อยากวุ่นวายเจาะหูใหม่อีก ดังนั้นจึงให้ร้านเครื่องประดับทำต่างหูแบบหนีบมาให้สองสามคู่แทน เวลาที่ต้องแต่งตัวก็หนีบจี้ต่างหูที่ใบหูแทนเป็นอันจบเรื่อง

“ถ้าสวมกระโปรงคงต้องใส่ต่างหูด้วยถึงจะเข้ากัน” เสิ่นเฉียนคิดเล็กน้อย “ครั้งนี้ก็ช่างเถอะ อย่างไรในวังคืนนี้ก็นับเป็นงานเลี้ยงที่มีแต่คนในครอบครัว ไม่มีคนนอกอะไร ไม่จำเป็นต้องโอ่อ่านัก ข้าใส่ชุดคลุมก็แล้วกัน เจ้าค่อยให้คนทำต่างหูหนีบมาสักสองสามคู่”

จูเฉินเอ่ยรับคำ

ทางเสิ่นเฉียนพอเข้าไปในห้องแล้วก็เปลี่ยนเป็นชุดคลุมยาวแขนสอบสีฟ้าอ่อนออกมา ช่วงเอวรัดด้วยแถบรัด เท้าสวมรองเท้าหนังกวาง เดินไปพลางสวมสนับศอกไปด้วย

จูเฉินทำผมให้นางใหม่ โดยนำเกี้ยวประดับหยกขาวออกมาสวมลงไป

นางเป็นแม่ทัพฝ่ายทหาร แม้จะแต่งกายเช่นนี้ในงานทางการก็ไม่มีคนเอ่ยวิพากษ์วิจารณ์ กลับเป็นเวลานางสวมกระโปรงเป็นครั้งคราวต่างหากที่ทำให้ทุกคนรู้สึกไม่ชิน ซึ่งนางเองก็ชอบแต่งกายเรียบง่ายเช่นนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเสิ่นไทเฮาชอบให้นางแต่งเนื้อแต่งตัวเสียหน่อย เกรงว่ากระทั่งกระโปรงสักตัวนางก็คงไม่ตัด

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in คืนลมพัดต้องเหมยงาม

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com