ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

คืนลมพัดต้องเหมยงาม

ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

เซี่ยจิ่นหัวเราะออกมา จับคำพูดนางแล้วรุกไล่ตามต่อ “เมื่อคืนเจ้าไม่ใช่บอกว่าจะไม่ให้ข้าลำบากใจหรือ เจ้าคิดก่อคลื่นลมอะไร”

ดวงตาทั้งคู่ของเสิ่นเฉียนแวววาม ยิ้มหวานเอ่ย “เจ้าเดาสิ”

คิ้วของเซี่ยจิ่นขมวดเข้าหากันอีกครั้ง เขาใช้ปลายนิ้วนวดเบาๆ เติมน้ำชาให้ตนเองถ้วยหนึ่งถึงค่อยกล่าว “เช่นนั้นพวกเราตกลงกันแล้ว บาดแผลที่ขาเจ้าหายก็ไปสนามฝึก แล้วข้าจะให้หนึ่งพันแปดร้อยคนนั้นกับเจ้า นอกจากกู้ฉางซือยังมีรองผู้บังคับกองด้วยอีกสองคน แต่คนที่มีตำแหน่งทางทหารแล้วย่อมมีความทะเยอทะยานหรือความเห็นของตน จะยินยอมติดตามเจ้าหรือไม่ข้าก็พูดไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะกู้ฉางซือ หากเจ้าสามารถทำให้เขาหวั่นไหวได้ข้าก็ไม่มีความเห็นอื่น”

“รู้แล้ว” เสิ่นเฉียนเก็บแววยั่วเย้าบนใบหน้า เอ่ยอย่างจริงจัง “ถ้าเขาไม่ยอม ข้าย่อมไม่ฝืนบังคับ”

เซี่ยจิ่นพยักหน้าจากนั้นมองดูสีท้องฟ้า “ดึกมากแล้ว แม่ทัพเสิ่นเข้านอนได้แล้วกระมัง”

เสิ่นเฉียนหลุดหัวเราะ มองดูมือที่เขายื่นออกมาเล็กน้อยก่อนยื่นมือออกไป เซี่ยจิ่นกุมมือนั้น เป่าเทียนห้องด้านนอกแล้วจูงนางเข้าไปห้องด้านใน

คืนนี้ไม่มีเทียนมงคล เทียนในห้องล้วนดับไปแล้ว มีเพียงแสงจันทร์ส่องผ่านกระดาษหน้าต่างและตกต้องบนพื้นไม้สนที่ขัดเงา เกิดเป็นรัศมีแสงคลุมเครือวงหนึ่ง

ในม่านเตียงเห็นเพียงเค้าโครงตู้ไม้มะเกลือที่ตั้งเป็นผนัง เตากำยานป๋อซานบนโต๊ะเตี้ยข้างหน้าต่างส่องแสงเล็กน้อยภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องเข้ามาจากห้องอาบน้ำ เพียงแต่ตอนนี้กำยานในเตาดับไปหมดแล้ว ขาดความงดงามไป เหลือไว้เพียงความเคร่งขรึมเงียบเหงา

เสิ่นเฉียนลืมตามองนอกม่าน รู้สึกเพียงใจอันหนักอึ้งถูกความเงียบอันมืดสลัวนี้กดทับจนรู้สึกหายใจไม่ออกอยู่บ้าง คิดอยากทำอะไรบางอย่างมาต่อต้านความกดดันนี้

ลมหายใจของเซี่ยจิ่นที่อยู่เบื้องหลังราบเรียบแผ่วเบา เมื่อคืนเขาแทบไม่ได้นอน กลางวันยังยุ่งอยู่ในสนามฝึกทั้งวัน เมื่อขึ้นเตียงแล้วก็ผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว

เตียงกว้างมาก ระหว่างร่างทั้งสองใต้ผ้าห่มแพรยังมีช่องว่างอีกช่วงหนึ่ง แต่ความร้อนบนร่างเขากลับรุกล้ำเข้ามาไม่หยุด ปกคลุมตัวนางไว้จนไม่อาจหลีกหนีได้

ทุกการเคลื่อนไหวเล็กๆ ของเขานางล้วนสัมผัสได้ บางคราวยังทำให้นางใจเต้นไม่เป็นส่ำ สงสัยว่าอีกเดี๋ยวแขนของเขา ขาของเขา หรือร่างกายของเขาจะมาสัมผัสถูกตัวนาง

มีบางครั้งนางรู้สึกว่าบนเอวตนเองมีความร้อนระลอกหนึ่งแผ่มา เมื่อแยกแยะอย่างละเอียดกลับเหมือนปกติทุกอย่าง

เสิ่นเฉียนก็ไม่รู้เช่นกันว่าตนกำลังประชันขันแข่งอะไรอยู่ นางรู้ชัดว่าอาการกระสับกระส่ายในร่างมีสาเหตุมาจากอะไร ในเวลาเช่นนี้ขอเพียงหันตัวไปปลุกเขา บางทีความทรมานทั้งกายใจที่แสนละเอียดอ่อนและยืดยาวนี้ก็จะดับสลายไปอย่างเป็นธรรมชาติ แต่นางกัดริมฝีปากระงับความคิดที่โผล่ขึ้นมาเป็นระยะๆ ในสมองลงไป แล้วหลับตาลงไปทั้งอย่างนั้น

นางรู้สึกว่าตนควรรักษาศักดิ์ศรีและขีดเส้นแบ่งเอาไว้ ไม่ใช่มอบให้ทั้งกายใจเช่นนั้น ซึ่งนางไม่ต้องการ

เซี่ยจิ่นพลิกกายมา ยังคงหายใจเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่ลมหายใจที่พ่นออกมาจากจมูกกลับหลั่งรดแผ่นหลังและช่วงคอของนาง ทำเอานางขนลุกชัน ในใจเหมือนถูกขนนกปัดผ่านเบาๆ ทั้งคันและชา ทำให้นางหวนนึกถึงความรู้สึกที่ฝ่ามือเขาลูบไล้บนเอวนางก่อนหน้านี้

ตอนกลางวันไม่ควรนอนกลางวันเลย มิเช่นนั้นคงไม่ถึงขั้นนอนไม่หลับเยี่ยงตอนนี้

เสิ่นเฉียนกำลังคิดในใจก็พลันรู้สึกเจ็บที่ขา ครั้งนี้กลับเป็นเซี่ยจิ่นขยับขาจริงๆ แล้ว เขาไม่ระวังเตะโดนบาดแผลบนน่องนาง

นางยื่นเท้าออกไปถีบขาเขาหนหนึ่ง

เซี่ยจิ่นตื่นขึ้นมาทันที

เสิ่นเฉียนพลิกตัวมาก็เห็นเซี่ยจิ่นกำลังมองนางในความมืด

“เป็นอะไรไป” เขางุนงง เสียงเจือความแหบพร่าของคนเพิ่งตื่นจากฝันเล็กน้อย

“เจ้าเตะโดนแผลที่ขาข้าแล้ว” เสิ่นเฉียนดึงผ้าห่มมาแล้วเอ่ยอย่างขุ่นเคือง

เซี่ยจิ่นไม่ส่งเสียง เขานวดขมับเล็กน้อยพลางลุกขึ้นนั่ง อ้อมตัวนางไปเลิกม่านเตียง

“ขออภัยด้วย ให้ข้าดูหน่อย”

“ดูอะไร” เสิ่นเฉียนเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้านอนสงบๆ หน่อยก็พอแล้ว”

เซี่ยจิ่นไม่สนใจนาง ลงจากเตียงไปจุดเทียนเอง ทั้งกลับมานั่งและดึงขานางออกมาจากผ้าห่ม

แสงเทียนไหวระริกส่องสว่างทั่วห้อง เสิ่นเฉียนยันตัวขึ้นมากึ่งนั่งกึ่งนอน เพียงกำมุมผ้าห่มไว้ไม่ส่งเสียง

เซี่ยจิ่นแก้ผ้าพันแผลออกอย่างระมัดระวัง มองดูโดยละเอียด

“ยังดี ไม่หนักมาก” เขาพูดจบแต่ยังคงก้มหน้าอยู่ดังเดิม พันผ้าพันแผลใหม่อีกครั้ง

เสิ่นเฉียนเอนตัวมองดูเขา

เซี่ยจิ่นไหล่เรียบกระดูกตรง ร่างกายผอมบาง สวมชุดกับไม่สวมชุดความรู้สึกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ยามถอดชุดออก กล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งมีพลังปรากฏแนบแนวกระดูก ร่องนูนชัดเจน บนร่างยังมีรอยแผลดุดันอยู่สองสามรอย สมชายชาตรียิ่ง ยามสวมเสื้อผ้าปิดบังร่างกายแข็งแกร่งนั้นกลับดูสูงโปร่งโดดเด่น ท่วงท่าสง่างดงาม แน่นอน ถ้าสวมเกราะจะถือเป็นความองอาจอย่างหนึ่ง

ยามนี้เขาขมวดคิ้วน้อยๆ ขนตายาวหลุบลงปกคลุมดวงตา คอเสื้อชุดนอนเปิดออกเล็กน้อย เผยผิวใต้กระดูกไหปลาร้า เนื่องจากเอียงตัวลง ผมดำที่แผ่ลงมามีบางส่วนตกเข้าไปในสาบเสื้อพอดี คลอเคลียอยู่บริเวณกลางอก ยิ่งดูล่อลวง…งดงามชวนหลงใหลโดยแท้

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in คืนลมพัดต้องเหมยงาม

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

คืนลมพัดต้องเหมยงาม

ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จ...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 5-6

บทที่ 5 สังหารภูต   หลี่เจาเกอกลั้นหายใจเพ่งสมาธิ นิ้วมือวางบนด้ามกระบี่ ท่ามกลางหมู่ใบไม้แว่วเสียงความเคลื่อนไหวดังแซกซ...

คืนลมพัดต้องเหมยงาม

ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟัง...

community.jamsai.com